Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 451 คำใบ้
แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจว่าสถานการณ์ด้านหลังเวทีจะเป็นอย่างไร
แม้แต่การแสดงของนักร้องสองคนแรกยังถูกเจือจางด้วยความตื่นตกใจซึ่งหลานหลิงอ๋องนำพามา ใครจะมีอารมณ์ไปสนใจนักร้องคนที่สี่?
บนเวที
พิธีกรอันหงเอ่ยขึ้น “จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการประเมินของเราตั้งตารอแล้ว อาจารย์ติงหมิงมีอะไรจะถามไหมครับ”
ติงหมิงคนนี้คือดาวเด่นรายการบันเทิง โดยพื้นฐานแล้ว ในรายการบันเทิงชื่อดังบนบลูสตาร์ล้วนมีเขาอยู่
เนื่องจากเขามีเซนส์ด้านวาไรตีที่ดี และพูดจาได้อย่างใจกล้า
เป็นดังคาด
ประโยคแรกของติงหมินเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย “ปกติแล้วอาจารย์หลานหลิงอ๋องเข้าห้องน้ำผู้หญิงหรือห้องน้ำผู้ชายครับ”
หลินเยวียนตอบ “เข้าห้องน้ำส่วนตัว”
ไม่ว่าจะในบริษัทหรือที่บ้าน เขาล้วนมีห้องน้ำส่วนตัว
อีกฝ่ายจนใจ “เห็นทีพวกเราไม่ต้องอยากรู้เพศของอาจารย์หลานหลิงอ๋องแล้วล่ะครับ เรามาถามอย่างอื่นดีกว่า อาจารย์หลานหลิงอ๋องจะได้อันดับสองอีกไหมครับเนี่ย?”
อุก!
ทั้งห้องส่งล้วน ‘เก็ต’ มุกนี้
ทุกคนหัวเราะครืน!
ตัวตนของหลานหลิงอ๋องใช่ว่าจะไร้ซึ่งเบาะแสเสียทีเดียว
เพราะเพลงเหน็บหนาวซึ่งเขาเพิ่งร้องเมื่อครู่เป็นเพลงของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ดังนั้นทุกคนจึงนึกสงสัยว่า
อาจารย์หลานหลิงอ๋องคือนักร้องสักคนหนึ่งที่เซี่ยนอวี๋เคยร่วมงานด้วยก่อนหน้านี้
และในบรรดานักร้องที่เคยร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ เพียงคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สอง’ มีเพียงลูกคนรองตลอดกาลรุ่นแรก นักร้องแถวหน้าเฉินจื้ออวี่!
“ไม่”
หลินเยวียนเอ่ยตอบ
น่าจะไม่ใช่แล้ว ทุกคนล้วนสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของหลานหลิงอ๋อง
หลังจากเหล่าดาราคณะกรรมการประเมินคนอื่นๆ ถามคำถาม และคาดเดาตัวตนของหลานหลิงอ๋อง
มีคนเดาว่าเขาคือซุนเย่าหั่วและเจียงขุยด้วยซ้ำไป…
ปรากฏว่าหลานหลิงอ๋องคนนี้ไม่ตอบ เพียงแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
ต่อให้มีเอ่ยปากพูดบ้างเป็นครั้งคราว เขาก็จบคำถามด้วยคำพูดเพียงคำสองคำ
เย็นชามาก
เหมือนกับท่าทีที่เขามีต่อคณะกรรมการตัดสินเมื่อครู่
มีคนเอ่ยว่า “อาจารย์หลานหลิงอ๋องชอบตอบคำถามแค่คำสองคำ…”
“ไม่เสมอไป”
ครั้งนี้สามคำ
ผู้ชมร่ำไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออก
นี่คือหลุมดำของบทสนทนา!
หลานหลิงอ๋องมีคาแรกเตอร์โดดเด่นจริงๆ!
ในแง่หนึ่ง ความเย็นชาเช่นนี้ ดันไปถูกจริตใครหลายคนเข้า
มีดาราคนหนึ่งซึ่งเป็นกรรมการตัดสินชื่อว่าหลิวอั้นถามขึ้น “ทำไมถึงชื่อหลานหลิงอ๋อง มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”
“เรื่องนั้น อยากแบ่งปันเรื่องราวของหลานหลิงอ๋องกับทุกคนสักหน่อย”
ครั้งนี้หลินเยวียนไม่กลัวดอกพิกุลร่วงอีกต่อไป เขาเล่าเรื่องของหลานหลิงอ๋องอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เขาเล่าให้กู้ตงฟังก่อนหน้านี้
ผู้ชมฟังอย่างสนุกสนาน
กรรมการตัดสินก็ฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน
ทว่าขณะที่หลานหลิงอ๋องเล่า หลิวอั้นกลับพบข้อมูลที่มีประโยชน์ในนั้น เขายกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“อาจารย์หลานหลิงอ๋องเผยไต๋แล้ว!”
“หืม?”
“คุณบอกว่าหลานหลิงอ๋องเป็นแม่ทัพ แม่ทัพที่ต่อสู้ในสนามรบต้องเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นถึงแม้คุณจะร้องเสียงผู้หญิงได้ แต่จะต้องเป็นนักร้องชายอย่างแน่นอน!”
หลิวอั้นชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของตน ถึงแม้ความเฉลียวฉลาดนี้ใครๆ ก็มี
หลินเยวียนเงียบ
หลิวอั้นเริ่มไม่มั่นใจ
สมัยโบราณเองก็มีแม่ทัพผู้หญิง ตรรกะของตนไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป
ติงหมิงซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าว “ดูจากเครื่องแต่งกายแล้ว หลานหลิงอ๋องต้องเป็นนักร้องชาย แต่ฟังเสียงบอกไม่ได้เสมอไป บางทีหลานหลิงอ๋องต้องการชี้ทางให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นนักร้องชาย จึงได้สวมชุดของผู้ชาย รวมไปถึงเรื่องราวเมื่อกี้ก็ทำให้ไขว้เขว”
หลิวอั้น “งั้นผมอยู่ชั้นที่หนึ่ง หลานหลิงอ๋องลึกซึ้งลงไปชั้นที่สอง?”
ด้านข้างมีคนเอ่ยว่า “ในฐานะดาราที่เรียกตัวเองว่าปัวโรต์น้อย ผมสงสัยว่าหลานหลิงอ๋องจะอยู่ในชั้นที่สาม เขาคิดว่าเราจะสงสัยว่าเขาจงใจทำให้ผู้ชมไขว้เขว เพราะฉะนั้นจึงใช้กับดักความคิดนี้ จงใจทำให้พวกเราคิดว่าเขาทำให้เราคิดว่าเขาทำให้ผู้ชมไขว้เขว!”
“อาจเป็นชั้นที่สี่!”
ผู้ชมได้ยินคำพูดลิ้นพันของกรรมการประเมินแล้ว หัวเราะจนกรามแทบค้าง
หลินเยวียนจนคำพูด…
นี่คือรายการราชาหน้าการนักร้องหรือรายการระดมสมอง
คนกลุ่มนี้ช่ำชองการสืบสวนสอบสวนยิ่งกว่าปัวโรต์เสียอีก
ตอนนั้นตนไม่ได้คิดมาถึงเพียงนี้ด้วยซ้ำ
โชคดีที่พิธีกรไม่อนุญาตให้ทุกคนสืบสวนสอบสวนต่อไป และควบคุมสถานการณ์ได้สำเร็จ หลินเยวียนจึงโค้งคำนับ ก่อนจะเดินลงจากเวทีไป
ขณะเดินผ่านนักร้องคนที่สี่ซึ่งกำลังจะขึ้นเวที หลินเยวียนจึงลอบถอนหายใจ
เขารู้ว่านักร้องคนที่สี่ยากที่จะรับเวทีต่อจากตน
นี่คือความพิเศษของการแสดงสด
ถ้าหากการแสดงก่อนหน้า ‘ปัง’ เกินไป ส่วนการแสดงถัดมาผ่อนคลายลง ย่อมจะทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกว่าการแสดงชุดหลังนั้นด้อยกว่า
ความด้อยกว่าในที่นี้ จะยิ่งกระตุ้นความรู้สึกของผู้ชม ทำให้ทุกคนคิดว่าความด้อยกว่านั้นคือด้อยกว่ามาก
เพราะผู้ชมจะเปรียบเทียบการแสดงนี้กับการแสดงก่อนหน้าโดยไม่รู้ตัว…
สิ่งที่น่ากลัวคือการเปรียบเทียบนี้
คุณให้เด็กหน้าห้องกับเด็กหลังห้องมาเรียนแข่งกัน เด็กหน้าห้องชนะแน่นอน
แต่ถ้าให้เด็กหน้าห้องมาแข่งกับเด็กเทพ คุณย่อมรู้สึกว่าเด็กหน้าห้องไม่ต่างอะไรกับเด็กหลังห้อง
หลินเยวียนไม่นับว่าเป็นเด็กเทพ แต่เขาทำให้เวทีร้อนระอุได้จริง
คนคนหนึ่งร้องได้ทั้งชายหญิง ผู้ชมอาจไม่ได้รู้สึกว่าเก่งการหนักหนาถ้าหากดูซ้ำๆ แต่ถ้าดูครั้งแรกจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน!
ไร้ซึ่งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่นี่คือความโหดร้ายของการแข่งขัน
เป็นไปไม่ได้ที่หลินเยวียนจะจงใจซ่อนความแข็งแกร่งของเขาเพื่อประโยชน์ของคู่ต่อสู้ นั่นถือเป็นการไม่เคารพคู่ต่อสู้ของเขา
ในความเป็นจริง
ถ้าราชาราชินีเพลงปรากฏตัวต่อหน้า หลินเยวียนก็รู้สึกกดดันเช่นกัน
ฝีมือในการจุดความร้อนแรงบนเวทีของการหงส์ขาวนั้นแข็งแกร่งมาก
ถ้าวันนี้หลินเยวียนไม่งัดเพลงใหม่ออกมา และใช้กลวิธีร้องเพลงชายหญิงด้วยตัวคนเดียว เวทีนี้คงควบคุมได้ไม่ง่าย
“อาจารย์หลานหลิงอ๋อง!”
ถงถงวิ่งมาหา พยุงหลินเยวียน ใบหน้าเล็กเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“คุณร้องได้ดีจริงๆ ค่ะ ร้องเสียงผู้ชายกับเสียงผู้หญิงได้แนบเนียนไร้รอยต่อ ฉันคิดมาตลอดว่าคุณเป็นนักร้องชาย แต่ตอนนี้ฉันชักจะสงสัยแล้วว่าไม่แน่คุณอาจเป็นนักร้องหญิง…”
หลินเยวียนไม่พูดจา
คล้ายกับว่าทุกคนจะแยกไม่ออกว่าตนเป็นนักร้องหญิงหรือนักร้องชาย
แบบนี้ก็ดี ให้ความรู้สึกลึกลับดี
ถ้าตนยอมรับไปตามตรงว่าเป็นนักร้องชาย จะทำให้ความสงสัยในรายการลดลงอีกหนึ่งประการ
ขณะเดียวกัน
ในห้องควบคุม
จู่ๆ มิวสิกไดเร็กเตอร์ก็ปรี่เข้ามา คว้ามือของถงซูเหวิน “ผู้กำกับ หลานหลิงอ๋องคนนี้มีพิรุธ!”
“ทำไมหรือ”
ถงซูเหวินอึ้งไป
มิวสิกไดเร็กเตอร์ขมวดคิ้ว “ก่อนหน้านี้ช่วงซ้อมหลานหลิงอ๋องบอกผมว่าเพลงเหน็บหนาวนี้เขาเป็นคนเขียนเนื้อร้องกับทำนองเอง แต่เมื่อกี้บนเวทีเขากลับบอกว่า เพลงนี้เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋!”
ถงซูเหวิน “…”
สีหน้าของมิวสิกไดเร็กเตอร์เคร่งขรึมมาก “ต้องสืบให้แน่ชัดนะครับว่าสรุปแล้วเซี่ยนอวี๋เขียนเพลงนี้หรือเปล่า ถ้าเซี่ยนอวี๋เป็นคนเขียน งั้นก่อนหน้านี้เขาก็หลอกผม!”
ถงซูเหวินจนใจ ทำได้เพียงเปิดเผยข้อมูลเล็กน้อย ไม่เช่นนั้น มิวสิกไดเร็กเตอร์คงคลางแคลงในตัวหลานหลิงอ๋อง
“เขาพูดความจริง”
มิวสิกไดเร็กเตอร์อึ้งไป “หมายความว่ายังไงครับ”
ถงซูเหวินยักไหล่
มิวสิกไดเร็กเตอร์ “คุณหมายถึงหลานหลิงอ๋องคือเซี่ยน…”
เขาไม่ใช่คนโง่เขลา!
ถงซูเหวินพูดเป็นนัยอย่างชัดเจน!
“ชู่ว!”
ถงซูเหวินตัดบทมิวสิกไดเร็กเตอร์ “เรื่องนี้ยังเป็นความลับ คุณห้ามไปป่าวประกาศเด็ดขาด เขายังไม่ได้ถอดหน้ากาก ห้ามเปิดเผยตัวตน”
“เข้าใจ!”
มิวสิกไดเร็กเตอร์สูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยด้วยสีหน้าซับซ้อน “นึกไม่ถึงเลย เขาน่ากลัวมาก…”
“ก็ใช่น่ะสิ”
ถงซูเหวินยกยิ้มมุมปาก เขาเข้าใจความรู้สึกของมิวสิกไดเร็กเตอร์ มีคนแบ่งปันความลับนี้กับเขาแล้ว รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเซี่ยนอวี๋ไม่มีทางถูกถอดหน้ากากในเวลาอันสั้น ฝีมือโดยภาพรวมนั้นแข็งแกร่งมาก!
จู่ๆ ถงซูเหวินพลันรู้สึกคาดหวังขึ้นมา ในการแข่งขันซึ่งเป็นของนักร้อง พ่อเพลงตัวน้อยคนนี้จะเดินไปได้ไกลแค่ไหน
………………………………………………………