Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 464 ประกาศอันดับแล้ว
คณะกรรมการมีหนึ่งร้อยคะแนนซึ่งสามารถแจกจ่ายได้อย่างอิสระ ปกติแล้วกรรมการจะจัดสรรคะแนนเสียงให้กับนักร้องแต่ละคนตามสัดส่วนที่กำหนดตามคุณภาพการแสดงของนักร้อง
ทว่า…
หากคณะกรรมการตัดสินคนใดชื่นชอบสักการแสดงหนึ่งเป็นพิเศษ ก็สามารถให้คะแนนโหวตทั้งหมดของตนแก่นักร้องคนนั้นได้!
นี่คืออิสระของคณะกรรมการตัดสิน
ถ้าหากคณะกรรมการตัดสินโหวตให้นักร้องคนเดียวกันทั้งหมด นักร้องคนนั้นจะได้สี่ร้อยคะแนนในทันที!
แต่เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้…
เหมาเสวี่ยวั่งมองไปยังหลินเยวียน “อาจารย์อู่หลงร้ายกาจมาก ผมไม่มีพลังมากพอ ไม่สามารถมอบคะแนนโหวตทั้งหมดให้คุณได้ แต่วันนี้การแสดงของคุณทำให้ผมทึ่งจริงๆ คุณมีเสียงของมนุษย์จริงๆ ใช่ไหม?”
หลินเยวียนเงียบ
จะนับว่างั้นก็ได้?
เหมาเสวี่ยวั่งไม่สามารถคาดเดาข้อเท็จจริงอันน่าเหลือเชื่อจากความเงียบงันของอีกฝ่าย เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจ “ผมคิดว่าคุณฝึกฝนฟอลเซตโตจนแตะถึงขีดจำกัด ซึ่งก็คือมีสองเสียงที่แตกต่างกัน นึกไม่ถึงว่าจะมีเสียงที่สามด้วย!”
“แถมยังมีเปียโนอีก!”
หลิ่วซวี่ซึ่งอยู่ด้านข้างพูดต่อ “ถ้าเวทีนี้วัดกันจากเปียโน คุณคืออันดับหนึ่งอย่างแน่นอน นี่คือทักษะเปียโนระดับมืออาชีพ!”
“เห็นด้วย!”
อู่หลงเอ่ยแทรกอย่างอดไม่ได้ “ฝีมือระดับมืออาชีพไม่หนีไปไหน สูงกว่าฝีมือการเล่นเปียโนของหุ่นยนต์อยู่หนึ่งระดับ ผู้ชมหลายคนอาจไม่รู้สึก แต่ผมอยากบอกกับผู้ชมว่า ทักษะด้านเปียโนของหลานหลินอ๋องคือคะแนนพิเศษ แน่นอนว่าบทเพลงเองก็ยอดเยี่ยม แต่เลือกเพลงนี้มานับว่าน่าเสียดาย ผู้ชมบางคนซาบซึ้งกับเพลงสไตล์นี้น้อยมาก อันที่จริงนี่คือสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในวงการเพลง ซึ่งก็คือสรุปแล้วเราควรประเมินคุณภาพของเพลง จากความนิยมของสาธารณชนหรือไม่…”
มาถึงคราวของหยางจงหมิง
หยางจงหมิงมองไปยังหลานหลิงอ๋องด้วยแววแปลกประหลาด ส่ายหน้าพลางกล่าว “น่าเสียดาย เพลงนี้ดีมาก เปียโนก็ยอดเยี่ยม แต่ไม่ควรร้องเพลงนี้บนเวทีนี้ ผู้ชมอาจไม่ชอบ”
หลินเยวียนเอ่ย “เรื่องนี้เข้าใจดี”
หยางจงหมิงกล่าว “แต่คุณก็ยังเลือกเพลงนี้?”
หลินเยวียนครุ่นคิด “อื้ม”
หยางจงหมิงหัวเราะ “ดี”
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
อู่หลงซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างจริงจัง “เวทีนี้ หลานหลิงอ๋องยอดเยี่ยมที่สุดในสายตาผม”
หลิ่วซวี่หัวเราะ “สำหรับฉัน หลานหลิงอ๋องตีคู่มากับหุ่นยนต์”
เหมาเสวี่ยวั่งลังเลสักพัก กล่าวว่า “เวทีนี้ผมแอบลังเล ไม่รู้ว่าควรใช้มาตรฐานไหนในการตัดสิน”
ใช่แล้ว
หามาตรฐานมาใช้ได้ยากยิ่ง
เสียงทั้งสามและเปียโนของหลานหลิงอ๋องล้วนเป็นคะแนนพิเศษ ทว่าคำถามในตอนนี้คือ ควรให้เขาเพิ่มกี่คะแนน
สับสนจริงๆ
คนที่สับสนไม่ต่างกันก็คือคณะกรรมการประเมิน
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของหลินเยวียนอีกต่อไป
เขาโค้งคำนับและลงจากเวทีไป
พิธีกรอันหงเตือนให้ผู้ชมเริ่มลงคะแนน
สิบห้านาทีผ่านไป
ในห้องโถงด้านหลังเวที
บรรดานักร้องมารวมตัวกัน
หงส์ขาวเข้ามาบอกกับหลินเยวียน “คุณคืออันดับหนึ่งสำหรับฉัน”
“ขอบคุณ”
หลินเยวียนรู้สึกประหลาดใจ
เวทีนี้เขาไม่ได้มาเพื่อชิงอันดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางเลือกเพลงเด็กชาย ในเวทีการแข่งขันสดเช่นนี้ ควรเลือกเพลงที่เหมาะกับการแข่งขัน
อันที่จริง
เหลียงปั๋วก็ตกรอบหลังจากเข้าร่วมรายการนักร้องเช่นกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเหลียงปั๋วได้อันดับหนึ่งในการโหวตกันเองระหว่างนักร้องที่เข้าแข่งขัน
“ร้องได้ไม่เลว”
หุ่นยนต์ยกนิ้วโป้งให้หลินเยวียน “โดยเฉพาะเปียโน ผมยอมแล้ว!”
หลินเยวียนยิ้ม
หน้าประตู
ผู้กำกับถงซูเหวินเดินเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกพิลึก “ทุกท่าน ผลของรอบนี้ออกมาแล้ว ผลของวันนี้ต่างจากผลของสัปดาห์ที่แล้วมาก มากจนผมสงสัยในสายตาของตัวเอง”
ผู้ชมต่างตกตะลึง
ต่างจากผลของสัปดาห์ที่แล้วมาก?
นั่นไม่ได้หมายความว่าการจัดอันดับเปลี่ยนแปลงไปมากหรอกหรือ?
“อย่างที่ทราบกันดีว่าในตอนนี้อันดับนักร้องทุกคนมีการเปลี่ยนแปลง ขอประกาศรายชื่อผู้ที่ตกรอบก่อนครับ”
สำหรับผู้ที่กำลังจะตกรอบ การรอคอยหมายถึงความทรมาน
วณิพกพเนจรเผยสายตาซาบซึ้งใจในทันที
ทุกคนต่างรู้ว่าวณิพกพเนจรจะตกรอบในสัปดาห์นี้
ไม่ว่าปฏิกิริยาของคณะกรรมการตัดสิน คณะกรรมการประเมิน หรือผู้ชม ก็ล้วนเป็นประจักษ์
“ผู้ที่ได้อันดับที่หกในการแข่งขันสัปดาห์นี้คือ…”
ถงซูเหวินไม่ได้คอยท่า รีบอ่านประกาศ “น่าเสียดายเหลือเกิน หมูน้อยฉีฉี ตกรอบ”
เดิมทีวณิพกพเนจรเตรียมตัวลุกขึ้น แต่กลับหยุดชะงักทันทีที่ได้ยิน
นึกไม่ถึงว่าหมูน้อยฉีฉีจะอันดับรั้งท้าย
หมูน้อยฉีฉีกล่าวกลั้วหัวเราะ “ทุกท่าน เดี๋ยวฉันจะถอดหน้ากากแล้ว ครั้งนี้ฉันจะไม่ร้องไห้แล้ว ยังไงคนเขาก็เป็นนักร้องแถวหน้า พวกคุณคงสงสัยว่าฉันเป็นใครใช่ไหมคะ?”
ผู้ชมยิ้ม ไม่ได้รู้สึกเศร้าอีกต่อไป
หมูน้อยฉีฉีตกรอบเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย และเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล
การแสดงของเธอมีปัญหาจริงๆ
หุ่นยนต์รู้สึกผิดเล็กน้อย จึงเข้าไปกอดหมูน้อยฉีฉี “สู้ๆ”
หมูน้อยฉีฉีหัวเราะ “ไม่เป็นไรค่ะ พวกคุณเป็นกำลังหลัก หลังจากนี้อย่าลืมช่วยชิงชัยแทนพวกเราด้วยนะคะ!”
“กำลังหลัก? ชิงชัย?”
หุ่นยนต์กะพริบตาปริบๆ
ถงซูเหวินกระแอม “ข้อมูลนี้ยังไม่ได้เปิดเผย อาจารย์หมูน้อยฉีฉีรู้ได้อย่างไรครับ”
หมูน้อยฉีฉีตอบอย่างยิ้มแย้ม “เดาเอาค่ะ แต่เหมือนว่าฉันจะเดาถูก”
ผู้ชมเริ่มใจสั่น
ถงซูเหวินกระแอม “งั้นเรามาประกาศอันดับต่อไปกันดีกว่าครับ วณิพกพเนจร เดิมทีคุณอยู่ในอันดับที่ห้า เนื่องจากคุณคือผู้เข้าแข่งขันที่ต้องรอ ฉะนั้นในสัปดาห์นี้จึงตกรอบเช่นกัน…”
“ในที่สุดก็ถอนหายใจได้สักที”
วณิพกพเนจรลุกขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “ผมได้อันดับห้ามาสองสัปดาห์ ฟังดูไม่ได้แย่ใช่ไหมล่ะครับ?”
ผู้ชมพยักหน้า รู้สึกปวดใจอยู่บ้าง
ถงซูเหวินชะงักไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยขึ้น “จากนี้จะประกาศอันดับต่อไปครับ อันดับที่สี่ในการแข่งขันสัปดาห์นี้ก็คือ…อาจารย์หงส์ขาว!”
นักร้องทุกคนตกตะลึง
หงส์ขาวก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
อันดับนี้ต่ำเกินไป!
บรรยากาศแลดูเบาบางลงในชั่วพริบตา
ทันใดนั้นหงส์ขาวก็เอ่ยขึ้น “ถึงแม้ว่าจะอยู่เหนือความคาดหมาย แต่เพราะแบบนี้ การแข่งขันถึงสนุก ฉันได้คะแนนโหวตเท่าไหร่”
ถงซูเหวินตอบ
“อาจารย์หงส์ขาวได้สามร้อยแปดสิบคะแนนจากผู้ชม สี่สิบคะแนนจากคณะกรรมการประเมิน และห้าสิบคะแนนจากคณะกรรมการตัดสิน รวมทั้งสิ้นเป็น 510 คะแนนพอดี…”
คะแนนจากผู้ชมไม่มาก คะแนนจากคณะกรรมการตัดสินก็น้อย คะแนนจากคณะกรรมการประเมินยังพอได้
หงส์ขาวยักไหล่ “ฉันยอมรับผล แต่เวทีหน้าฉันจะคว้าที่หนึ่งให้ได้”
หมูน้อยฉีฉีเอ่ยขึ้นทันควัน “พี่คะ ฉันเชื่อมั่นในตัวพี่!”
หุ่นยนต์หัวเราะ “เวทีหน้าผมก็จะคว้าอันดับหนึ่ง”
“รอดูแล้วกัน” หงส์ขาวพูด
ถงซูเหวินกล่าว “หลังจากนี้จะประกาศอันดับที่สามแล้ว คะแนนโหวตของคนคนนี้แปลกเหลือเกิน ในเวทีก่อนเขาคือนักร้องที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมมากที่สุด แต่สำหรับเวทีนี้ คะแนนโหวตจากผู้ชมกลับค่อนข้างน้อย…”
ผู้ชมหันไปมองหลานหลิงอ๋อง
เป็นดังคาด
ถงซูเหวินประกาศ “อันดับที่สามของเวทีนี้ หลานหลิงอ๋อง คะแนนโหวตจากผู้ชมสามร้อยแปดคะแนน คณะกรรมการประเมินสามสิบสามคะแนน และคะแนนจากกรรมการตัดสินสองร้อยคะแนน รวมเป็น 574 คะแนน!”
“อื้ม”
หลินเยวียนพยักหน้า ผลการแข่งขันอยู่ในความคาดหมายของเขา
คะแนนโหวตจากผู้ชมต่ำมาก คะแนนโหวตจากกรรมการประเมินพอใช้ได้ ส่วนคะแนนจากกรรมการตัดสินคิดเป็นครึ่งหนึ่งของคะแนนทั้งหมด
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
ระดับของการยอมรับจากคณะกรรมการตัดสินเป็นอันดับหนึ่งในสัปดาห์นี้
ในนั้นคงมีคะแนนพิเศษสำหรับเปียโนและเสียงแหบ
เพียงแต่ผู้ชมไม่ค่อย ‘เก็ต’
อันดับสามเชียวนะ เป็นไปตามที่นักพยากรณ์พูดจริงๆ แต่หลินเยวียนเองก็เดาออกเช่นกัน
“พูดตามตรง”
หงส์ขาวพูดกับหลินเยวียน “เวทีนี้ของคุณ ดีกว่าเวทีที่แล้ว”
“อื้ม”
หลินเยวียนก็รู้สึกว่าเวทีนี้ของตนดีกว่าเวทีที่แล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะในด้านระดับความยากหรือการแสดง
จะว่าไปแล้ว
หลินเยวียนเองก็เข้าใจความจริงบางอย่าง แต่เขาเองก็ยอมเสี่ยง อยากร้องเพลงที่ไม่ได้ให้บรรยากาศคึกคักมากนัก
ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงแหบ ตนอาจเป็นอันดับสี่ไปแล้ว?
แบบนั้นสุ่มเสี่ยงเกินไป
เวทีต่อไปจะเสี่ยงอีกไม่ได้ พยายามคว้าอันดับหนึ่งให้ได้ก็แล้วกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นรายการซึ่งแข่งขันด้วยการแสดงสด จำเป็นต้องสร้างบรรยากาศให้ได้
“หลังจากนี้ ผมจะประกาศอันดับที่หนึ่งในสัปดาห์นี้…”
สายตาของผู้ชมไปหยุดอยู่ที่หุ่นยนต์ ถึงแม้ปลาปักเป้าแสดงฝีมือได้ไม่เลว ขึ้นเวทีครั้งแรกก็โดดเด่นมาก ทว่าการแสดงของหุ่นยนต์กลับได้เสียงตอบรับอย่างร้อนแรงมากที่สุดจากผู้ชม
เป็นดังคาด
ถงซูเหวินอ่านชื่อของหุ่นยนต์ออกมา
“ในเวทีนี้อาจารย์หุ่นยนต์ได้คะแนนโหวตสี่ร้อยห้าสิบห้าคะแนนจากผู้ชม สี่สิบห้าคะแนนจากกรรมการประเมิน และหนึ่งร้อยสามสิบคะแนนจากกรรมการตัดสิน รวมเป็น 665 คะแนน…”
หุ่นยนต์ลุกขึ้น หมุนตัวด้วยท่าทางตลกขบขัน จนเกือบล้ม
ผู้ชมหัวเราะ หุ่นยนต์คนนี้น่ารักเสมอ ต่อให้หุ่นยนต์โอ้อวดหลังจากคว้าอันดับหนึ่ง ก็ไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกหมั่นไส้
ส่วนปลาปักเป้า ได้คะแนนโหวต 594 คะแนนในการแข่งขันเวทีแรก กลายเป็นอันดับสองของสัปดาห์นี้
“เพิ่งมาก็ได้อันดับสองแล้ว ยินดีด้วย” ผู้ชมต่างเอ่ยแสดงความยินดี
“ขอบคุณค่ะ”
ปลาปักเป้าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม เธอพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก
อันดับชัดเจนมาก
หุ่นยนต์ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่
นักร้องเสริมอย่างปลาปักเป้าก็สร้างความตกตะลึง
อันดับที่หนึ่งในสัปดาห์แรกอย่างหลานหลิงอ๋อง หล่นไปอยู่อันดับที่สาม
อันดับที่หนึ่งร่วมในสัปดาห์ที่หนึ่งอย่างหงส์ขาว ก็ร่วงลงไปอยู่ในอันดับที่สี่
นักร้องทั้งสองซึ่งขึ้นผงาดในสัปดาห์แรก นับว่าเข้าใจหัวอกกันและกัน
แต่ทุกคนล้วนสัมผัสได้ว่าการแข่งขันในสัปดาห์หน้า คลื่นลมจะต้องโหมซัดอย่างแน่นอน!
ขณะเดียวกัน
วณิพกพเนจรและหมูน้อยฉีฉีเดินตรงไปถอดหน้ากากด้านหน้าเวที
หมูน้อยฉีฉี ก็คือหลูอวี่เหมิ่งจริงด้วย!
ส่วนตัวจริงของวณิพกพเนจร กลับทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะเขาคือนักร้องแถวหน้าคนหนึ่งซึ่งปลดเกษียณจากวงการเพลงมานานหลายปีแล้ว ปีนี้อายุสี่สิบแปดปี มีชื่อว่าติงฉิน
คาดการณ์ได้ว่า
หลังจากที่รายการในตอนนี้ออกอากาศไป ความสนใจและประเด็นสนทนาจะระเบิดอย่างแน่นอน!
…………………………………………………………