Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 468 ตอนที่สองออนแอร์
ในโทรทัศน์
เปิดรายการ
ฉากสำคัญฉากแรก ก็คือหลานหลิงอ๋องกำลังรับชมวิดีโอไลฟ์สด หลังจากนั้นภาพของเหลิ่งเฉวียนก็ขยายใหญ่ขึ้นให้ผู้ชมได้เห็นพร้อมกัน
“หลานหลิงอ๋องไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่พวกคุณคิด”
เหลิ่งเฉวียนวิเคราะห์สถานการณ์ของหลานหลิงอ๋องอย่างเอาจริงเอาจัง สุดท้ายก็ทำนายอันดับที่เป็นไปได้ของการแข่งขันในรอบสอง
คอมเมนต์กระสุนเต็มหน้าจอ ล้วนมีแต่เสียงเห็นด้วย
โต๊ะทำงานหน้าทีวี
หลินเซวียนเอ่ย “หลานหลินอ๋องกระอักกระอ่วนน่าดู กำลังดูไลฟ์อยู่พอดี ยังถูกรายการถ่ายมาอีก”
หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร
คาดว่าหลังจากดูการแข่งขันแล้ว ทุกคนจะเห็นด้วยกับเหลิ่งเฉวียน
นักพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ แม่นราวกับตาเห็น!
หลังจากใส่ฉากของนักร้องคนอื่นๆ เข้าไป การแสดงก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
“นักร้องเสริมคนนี้ร้องได้ปังปุริเย่มาก!”
นักร้องคนแรกซึ่งขึ้นบนเวทีกลายเป็นที่ชื่นชอบของพี่สาว!
แม่จ้องมอง “พูดว่าอะไรนะ!”
หลินเซวียนรีบเปลี่ยนคำ “นักร้องที่มาเสริมคนนี้ เสียงมีเสน่ห์มาก เพลงนี้ให้ความรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความรักในชีวิตและการดิ้นรนต่อต้านความมืดมิด ราวกับเสียงร้องของนกกระเรียนดังก้องกลางหุบเขา ราวกับเสียงร้องอันเปล่าเปลี่ยวของพญาอินทรี”
หลินเยวียนฟังไปอึ้งไป
พี่สาวของเขาควรไปนั่งในหมู่คณะกรรมการประเมินไหมนะ?
เหยาเหยาฉวยโอกาสที่หลินเยวียนไม่ทันสังเกต คีบผักให้หลินเยวียน
ในตอนนั้น
ฉากตัดไปยังหลังเวที
หลานหลิงอ๋องกำลังวิจารณ์นักร้องคนหนึ่ง “จ้าวอิ๋งเก้อชอบโชว์เทคนิค เสียงสูงและการระเบิดพลังคือข้อได้เปรียบของเธอ แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมา…”
สัปดาห์ที่สองก็ยังมิวาย?
หลินเซวียนตกใจ “หลานหลิงอ๋องคนนี้กล้าจริงๆ!”
แม่ซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าว “แม่ว่าเด็กคนนี้คงจะซื่อตรงมาก ดูแล้วรู้สึกคุ้นเคย”
“ซื่อตรง?”
หลินเซวียนหัวเราะฮ่าๆ “แม่ลืมไปหรือเปล่าคะว่าตอนที่หนึ่งหลานหลิงอ๋องก็บอกว่าหยวนซีร้องเพลงไม่ดี แถมยังล่วงเกินหงส์ขาว ด้วยนิสัยหยิ่งทะนงของหงส์ขาว อีกเดี๋ยวเจอหลานหลิงอ๋องคงไม่รู้จะเผชิญหน้ายังไง! อีกอย่างคนเขาสวมหน้ากาก แม่รู้สึกว่าคุ้นเคย?”
ขณะที่พูดคุยกัน วณิพกพเนจรก็ขึ้นเวที
แต่ขณะที่วณิพกพเนจรกำลังร้องเพลง ทุกคนล้วนก้มหน้าก้มตากินข้าว
ส่วนหลินเยวียนมองดูผักสีเขียวซึ่งอยู่ในชามพลางจมอยู่ในห้วงความคิด…
เมื่อกี้ยังมีสองชิ้นอยู่เลย?
ทำไมเหมือนเพิ่มมาอีกชิ้นแล้วล่ะ
เขาทิ้งผักลงด้านล่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หนานจี๋งับได้ทันใด การเคลื่อนไหวแคล่วคล่องชวนเอ็นดู
นักร้องคนที่สามคือหงส์ขาว
จู่ๆ เหยาเหยาก็เอ่ยขึ้น “หงส์ขาวร้องได้ดีขนาดนี้เชียว”
หลินเหยาชื่นชอบหงส์ขาวมาก
หลินเซวียนส่ายหน้า “เพลงน่ะดี แต่รู้สึกว่าถ้าเทียบกับเพลงปลายักษ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
หลินเยวียนพูด “ดีกว่าสัปดาห์ที่แล้ว การเชื่อมโน้ตในเพลงนี้ยากมาก”
หลินเซวียนเบ้ปาก “เรื่องนั้นพวกเราฟังไม่ออก”
หลินเยวียนรู้สึกว่าสมเหตุสมผล
ความชื่นชอบของผู้ชมจึงจะเป็นเหตุผลสำคัญ
เป็นดังคาด
เมื่อหุ่นยนต์ขึ้นเวที มือหนึ่งวางบนเปียโน อีกมือหนึ่งบรรเลงทำนองเร่งเร็ว ร้องแร็ปออกมาอย่างคล่องแคล่ว กอปรกับการเรียบเรียงเพลงที่โดดเด่นโดยใส่เสียงกลองเข้าไปเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชม ชั่วขณะนั้นก็ทำให้หลินเซวียนตื่นเต้นขึ้นมา!
“แบบนี้ฟินสุดๆ มีเปียโนแล้วเข้าถึงอารมณ์!”
แม้แต่แม่ยังพยักหน้าอย่างจริงจัง “ร้องเพลงได้ดีจริงๆ ”
นี่คือบทเพลงสุดคลาสสิกของบลูสตาร์ ถูกหุ่นยนต์เรียบเรียงใหม่ สนุกสุดมันกว่าเวอร์ชันดั้งเดิม
และเมื่อถึงคราวของหมูน้อยฉีฉี…
“พลาดแล้วละ!” แม้แต่หลินเซวียนยังฟังออกว่าการแสดงของหมูน้อยฉีฉีมีปัญหา
หลินเหยาเอ่ย “น่าเสียดายหลูอวี่เหมิง”
หลินเยวียนประหลาดใจ “รู้ได้ไงว่าเป็นหลูอวี่เหมิง?”
หลินเหยาตอบ “เมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนที่มีคนเดาชื่อหลูอวี่เหมิง หมูน้อยฉีฉีกำมือ ถึงภาพจะไกล แต่หนูก็สังเกตเห็น นี่คือการตอบสนองของร่างกายเวลาวิตกกังวล ตอนที่พูดชื่อหลูอวี่เหมิง น้ำเสียงของเธอแปลกไป ถึงจะพูดผ่านเครื่องเปลี่ยนเสียง แต่ก็พอฟังออก คนธรรมดาอย่างเราเวลาพูดชื่อตัวเองกับเวลาพูดชื่อคนอื่นก็จะไม่เหมือนกันจริงๆ”
หลินเยวียนมองน้องสาวด้วยความประหลาดใจ
ขอแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับยอดนักสืบหญิงหลินเหยาปัวโรต์!
ในที่สุด
หลานหลิงอ๋องก็ขึ้นเวที
หลินเซวียนกล่าวกลั้วหัวเราะ “เหลิ่งเฉวียนบอกว่าหลานหลิงอ๋องได้ที่สามไม่ก็ที่สี่ เดี๋ยวก็ได้รู้ผลแล้ว”
หลานหลิงอ๋องแสดงเพลง ‘เด็กชาย’
หลินเยวียนเห็นตนเองในโทรทัศน์ ก็รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ครั้งก่อนเขาดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ แถมยังเปิดโหมดเร่งความเร็ว ถึงขั้นกดข้ามส่วนของตนเองด้วยซ้ำไป ส่วนมากดูปฏิกิริยาต่อรายการเป็นหลัก
“หลานหลิงอ๋องเล่นเปียโนเหมือนกัน เล่นได้ดีจริงๆ”
หลินเซวียนในฐานะผู้ชมซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับดนตรี ถึงกับฟังออกว่าหลานหลิงอ๋องเล่นเปียโนได้ไม่เลว
“แค่เพลงธรรมดา ร้องก็ธรรมดา”
เหยาเหยาซึ่งอยู่ด้านข้างบอก “ฟังดูก็โอเคนี่นา”
แม่เห็นด้วย “ตอนนี้ยังอายุน้อย ไม่ค่อยรู้เรื่องเพลงร็อก เพลงร็อกก็ร้องแบบนี้แหละ แถมเพลงนี้ยังไม่นับว่าเป็นเพลงร็อกพิเศษ หลานหลิงอ๋องจัดการได้ดี”
หลินเยวียนสะท้อนใจ มีแต่แม่ที่แคร์ฉัน
หลินเซวียนประหลาดใจ “แม่รู้เกี่ยวกับเพลงร็อกด้วย?”
แม่ตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่ของลูกเคยเป็นครูสอนดนตรีมาก่อน ได้ชื่อว่าเป็นสาวขาร็อกของโรงเรียนประถมซีวั่งหมู่บ้านหย่งหนิงเชียวนะ!”
หลินเซวียนตกตะลึง!
ยอดฝีมืออยู่ข้างกายฉันนี่เอง!
เกือบลืมไปแล้วว่าแม่คนนี้คือผู้ที่บ่มเพาะพ่อเพลงตัวน้อยยอดอัจฉริยะอย่างเซี่ยนอวี๋!
ในโทรทัศน์
พิธีกรรายการเอ่ยถามหลานหลิงอ๋องว่าเป็นเพลงของนักประพันธ์เพลงท่านใด
หลานหลิงอ๋องตอบ “เพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ ‘เด็กชาย’”
หลินเซวียน “…”
หลินเหยา “…”
หลินเซวียนเม้มปาก “ไม่เอาน่า ตอนนี้ฉันมาคิดๆ ดู เพลงนี้น่าสนใจมาก เหยาเหยาทำไมถึงบอกว่าเพลงนี้ธรรมดาล่ะ ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์”
เหยาเหยาตะลึงงัน
พี่เป็นคนพูดเองไม่ใช่เรอะ
หลินเซวียนตบไหล่หลินเยวียน “เพลงดีมากเลย รอบนี้ไม่ใช่ปัญหาของพี่แล้ว เป็นเพราะหลานหลิงอ๋องร้องไม่ดีเอง พี่ไปล้างจานแล้วนะ”
พูดจบ เธอก็รีบวิ่งออกไป
นินทาผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลงต่อหน้าเจ้าตัว ต่อให้เป็นน้องชายก็ยังทนไม่ไหว เลือดของพี่น้องย่อมข้นกว่าน้ำคือแบบนี้สินะ
ถ้าเกิดน้องชายไม่ให้เงินค่าขนมขึ้นมาล่ะ?
หลินเยวียนเพิกเฉยต่อความตื่นตระหนกของพี่สาว การได้ฟังคำวิจารณ์จากผู้ชมทั่วไปนั้นนับเป็นเรื่องที่ดีมาก
ในที่สุด
รายการประกาศอันดับแล้ว
หลินเซวียนล้างชามพลางเอ่ยถาม “หลานหลิงอ๋องได้อันดับที่เท่าไหร่”
น้องสาวตอบ “อันดับสาม…แต่หงส์ขาวไม่ได้โกรธหลานหลิงอ๋อง ยังบอกอีกว่าการแสดงของหลานหลิงอ๋องยอดเยี่ยมที่สุด!”
หลินเซวียนหัวเราะลั่น “เอาเถอะ ทีมงานใส่คำทำนายของเหลิ่งเฉวียนลงไป ฉันเลยคิดว่าจะมีพลิกโผซะอีก ปรากฏว่าเหลิ่งเฉวียนทำนายอันดับของหลานหลิงอ๋องถูก?”
น้องสาว “แต่เขาทำนายของหงส์ขาวผิด”
หลินเซวียน “ไม่สำคัญ คำทำนายมักจะเป็นความจริงครึ่งความเท็จครึ่งเสมอ ไม่งั้นพี่ทำนายบ้าง สัปดาห์หน้าหลานหลิงอ๋องเป็นอันดับห้า…นอกซะจากว่าจะร้องเพลงของน้องชายฉัน แล้วเขาจะได้ที่หนึ่งทันที!”
“จริงจังนะ”
หลินเหยาครุ่นคิด “หนูว่าน่าจะได้สักอันดับสี่ ถ้าเพลงของพี่ดี จะได้ที่สามต่อ? เวทีต่อไปหงส์ขาวจะต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ หุ่นยนต์แข็งแกร่งขนาดนั้น ราชาราชินีเพลงควบสองอันดับแรกก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปลาปักเป้าเพิ่งร้องเวทีแรก น่าจะเป็นตัวแปรที่ค่อนข้างใหญ่”
แม่ส่ายหน้า “ถ้าเพลงดี บวกกับเสียงที่พิเศษของเขา อาจมีโอกาสได้สามอันดับแรก…”
แม่คล้ายกับจะชอบหลานหลิงอ๋องมากทีเดียว
“ที่หนึ่ง”
หลินเยวียนพูดอย่างเคร่งขรึม
สมาชิกในครอบครัวมองไปยังหลินเยวียนพร้อมกัน
หลินเยวียนเองก็ไม่ได้อธิบาย ลุกขึ้นและเดินขึ้นชั้นบนไป
ขณะเดียวกัน
หลังจากรายการออกอากาศ
สารพัดหัวข้อซึ่งเกิดจากการแสดงในรายการราชาหน้ากากนักร้องสัปดาห์ที่สองก็ทะยานขึ้นครองฮ็อตเสิร์ชอีกครั้ง!
……………………………………………………