Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 486 ถ้าเก่าไม่ไป ใหม่จะไม่มา
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 486 ถ้าเก่าไม่ไป ใหม่จะไม่มา
“หยุดได้สักที”
เมื่อโทรศัพท์ของแผนกไม่กระหน่ำดัง และบรรณาธิการในสังกัดไม่มาเรียก ‘หัวหน้าๆๆ’ อย่างไม่หยุดหย่อน ในที่สุดเฉาเต๋อจื้อก็ผ่อนลมหายใจออกมา
เขาขบคิด พลิกเปิดนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ซึ่งอยู่ด้านข้าง มองไปยังย่อหน้าสุดท้าย
[ทันใดนั้นเฮสติงส์ก็มองเห็นคนคนหนึ่ง
คนคนนั้นสูงเกินกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร มือซ้ายจับหมวดทรงกลม กำลังโค้งคำนับป้ายหลุมศพของปัวโรต์
เฮสติงส์ไม่เคยพบหน้าบุคคลผู้นี้มาก่อน จึงอดไม่ได้ เดินเข้าไปหา
“ไม่ทราบว่าคุณคือ…”
เรือนผมของชายผู้นั้นหวีปาดไปด้านหลัง ใบหน้าได้รูปของเขาประหนึ่งเพชรซึ่งผ่านการเจียระไน จมูกทรงเรียวยาวทำให้เขาแลดูระแวดระวังและเด็ดขาด ไม่รู้ว่าทำไม เฮสติงส์จึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยจากชายผู้นี้
“เชอร์ล็อก โฮล์มส์”
ชายหนุ่มถอดหมวกทรงกลมออก พร้อมกับกล่าวแนะนำตัว
“คุณคือเพื่อนของคุณปัวโรต์หรือครับ”
“ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามามากมาย จึงเดินทางจากแดนไกล มาที่นี่เพื่อคำนับหลุมศพ”
ชายหนุ่มนามว่าโฮล์มส์กล่าว
หลังจากชายผู้นั้นเดินจากไป เฮสติงส์จึงมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย ในที่สุดเขาก็รู้ว่าความรู้สึกอันคุ้นเคยนี้มาจากที่ใด
แววตาของคนผู้นี้ เหมือนปัวโรต์]
นี่คือฉากสุดท้ายในนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ซึ่งฉู่ขวงเขียนไว้
เฉาเต๋อจื้อเคยขอคำยืนยันจากฉู่ขวงแล้ว นี่คือพระเอกในนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องต่อไปของฉู่ขวง
นั่นทำให้เฉาเต๋อจื้อตื่นเต้นมาก การตายของปัวโรต์ทำให้ผู้คนเสียใจก็จริง แต่ฉู่ขวงยังเต็มใจที่จะเขียนวรรณกรรมแนวสืบสวนสอบสวนต่อไป สำหรับหัวหน้าแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูแล้ว นับว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุด
“เพียงแต่ข้อมูลยังน้อยไปหน่อย มีแค่คำบรรยายรูปร่างหน้าตากับชื่อของตัวละครเท่านั้น”
เฉาเต๋อจื้อครุ่นคิด
ในความจริงแล้ว ไม่ได้มีเพียงเฉาเต๋อจื้อที่สังเกตเห็นข้อความนี้
บนโลกออนไลน์
หลังจากที่ทุกคนเริ่มยอมรับการตายของปัวโรต์ได้ ความสนใจของทุกคนจึงค่อยๆ โยกย้ายไปยังบุคคลซึ่งปรากฏตัวในฉากสุดท้าย จนก่อให้เกิดการคาดเดามากมาย
เห็นได้ชัด
ว่าการเสียชีวิตของปัวโรต์กระทบกระเทือนจิตใจทุกคน จนในช่วงแรก ทุกคนล้วนพูดแต่เรื่องของปัวโรต์
ไม่มีใครเอ่ยถึงตัวละครใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้คนคนนี้จะปรากฏตัวในตอนจบของนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ แต่ก็มีคำบรรยายเพียงน้อยนิดเท่านั้น
มีเพียงยามที่ทุกคนสงบลงแล้วเท่านั้น จึงจะค้นพบความผิดปกติในนั้น
‘ทำไมจู่ๆ ฉากจบก็มีตัวละครแบบนี้โผล่มาล่ะ’
‘คนคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับปัวโรต์เลยจริงเหรอ?’
‘งั้นความรู้สึกของเฮสติงส์ล่ะ? ต้องเข้าใจก่อนว่าจู่ๆ บทบรรยายก็เปลี่ยนจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งของเฮสติงส์ไปเป็นมุมมองบุคคลที่สาม ถ้าจากเนื้อเรื่องต้นฉบับก็คือ เชอร์ล็อกคนนี้มีแววตาเหมือนกับปัวโรต์’
‘หรือฉู่ขวงกำลังบอกใบ้ว่าปัวโรต์ไม่ตาย?’
‘ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ถึงแม้จะเป็นแค่คำใบ้ แต่ผมก็ขอชมว่าเจ้าแก่นี่มีจิตสำนึกกับเขาอยู่บ้าง’
‘เดี๋ยวนะ’
‘ฉันนึกถึงอีกความเป็นไปได้หนึ่งที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นมาพอดี คนคนนี้คงไม่ใช่ตัวเอกในนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง?’
‘คงไม่มั้ง?’
‘เรื่องที่สองที่คล้ายคลึงกับนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ ฉู่ขวงจะใช้ตัวละครใหม่มาแทนที่ปัวโรต์?’
‘เป็นไปไม่ได้’
‘ฉันยอมรับแค่ปัวโรต์ ไม่ยอมรับคนอื่น ไม่มีใครมาแทนปัวโรต์ได้!’
‘+1’
‘หัวใจผมตายไปพร้อมกับปัวโรต์แล้ว ฉู่ขวงอย่าได้คิดจะหาตัวละครใหม่มาแทนปัวโรต์’
‘…’
มีการพูดคุยกันเล็กน้อยบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้
เนื่องจากสัญญาณยังไม่ชัดเจน ดังนั้นหลายคนจึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าการปรากฏตัวของผู้ชายที่ชื่อโฮล์มส์คนนี้หมายความว่าอย่างไร
เพราะลำพังการปรากฏตัวของตัวละครนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร
เว้นแต่ว่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้การปรากฏตัวนี้มีความหมายขึ้นมา งั้นสรุปว่ามีเหตุผลอะไรกันล่ะ
……
คำถามเดียวกันนี้มาจากปากของจินมู่เช่นกัน “เชอร์ล็อกนี่คือใครเหรอครับ”
“ตัวเอกของหนังสือเรื่องใหม่ครับ”
หลินเยวียนไม่ได้ปิดบัง ก่อนหน้านี้เขาก็บอกเฉาเต๋อจื้อไปแล้ว
จินมู่ตกตะลึง ทันในนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว “คุณวางแผนจะเขียนตัวละครนักสืบที่เหมือนปัวโรต์เหรอครับ”
“พูดถูกแค่ครึ่งเดียวครับ”
หลินเยวียนเอ่ย “โฮล์มส์กับปัวโรต์เป็นนักสืบเหมือนกัน แต่นิสัยกับวิธีไขคดีของพวกเขามีหลายจุดที่ต่างกันราวฟ้ากับดิน สิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกันก็คือการแสวงหาความจริงอย่างไม่หยุดยั้ง”
“อย่างนี้นี่เอง”
จินมู่ยิ้มขมขื่น “แสดงว่าคุณไม่ได้เบื่อที่จะเขียนเรื่องของปัวโรต์ ถึงได้ตัดจบ?”
“ไม่ใช่ครับ”
เรื่องนี้เขียนจบแล้วจริงๆ
นอกจากนั้นหลินเยวียนเองก็รู้ว่าความตายของปัวโรต์จะนำมาซึ่งความโกลาหลในหมู่ผู้อ่าน
แต่เห็นได้ชัดว่าหลินเยวียนประเมินขนาดของความโกลาหลและความรู้สึกที่ทุกคนมีต่อปัวโรต์ต่ำเกินไป
โชคดีก็ตรงที่ทุกคนยังมีสติ
เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องก่อนหน้านี้ ทุกคนยอมรับการเสียชีวิตของปัวโรต์ได้แล้ว
เพราะปัวโรต์ถึงวัยโรยรา
สำหรับตัวละครที่กล้าหาญอย่างปัวโรต์ เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงความร่วงโรยของเขา ดังนั้นการทำให้เขาอยู่ในใจผู้ชมด้วยวิธีการนี้จึงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
“ไม่ใช่ก็ดีแล้วครับ”
จินมู่เอ่ยด้วยความหวั่นใจ “หลังจากนี้คุณต้องเบาหน่อย อย่าทิ้งระเบิดกะทันหัน ตอนอ่านนิยายจบ แม้แต่ผมยังอยากทุบกระจกบ้านคุณเลยครับ”
“หนานจี๋เฝ้าบ้านอยู่ครับ”
หลินเยวียนแลดูคล้ายกับคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะตอบอย่างจริงใจ
จินมู่ “…”
เขาย่อมรู้ว่าหลินเยวียนเลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่ง หนานจี๋ตัวนี้ยังเคยแสดงภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูด้วย
เรียกได้ว่าเป็นดาราของโลกน้องหมาเชียวละ
เขาไม่ได้คาดคั้นหลินเยวียนในประเด็นนี้ต่อ แต่กลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ตัวเอกในนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องถัดไปจะไม่ตายใช่ไหมครับ?”
หลินเยวียนชะงักไปหลายวินาที ก่อนจะตอบ “ไม่ครับ”
ถึงแม้ในเรื่องจะเขียนว่าโฮล์มส์เสียชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
จินมู่ผงะถอยไปหนึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้ “หัวหน้า ที่คุณลังเลเมื่อกี้จริงจังหรือเปล่าครับ?”
“แล้วที่อาจินถอยไปครึ่งก้าวเมื่อกี้จริงจังหรือเปล่าครับ?”
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงครับ ผมจะโน้มน้าวคุณอย่างจริงจังและหนักแน่นนะครับ ขอให้คุณแสดงน้ำใจจากก้นบึ้งของจิตใจนะครับ!”
“…”
ฟื้นคืนจากความตายไม่นับว่าตาย
จินมู่ถอนหายใจ “ถึงอย่างไรคุณก็ตัดสินใจเองได้ว่าจะทำอย่างไร แต่ทางคนอ่าน ทุกคนต้องการความอบอุ่นและปลอบประโลมจิตใจ คุณว่ายังไงครับ”
“ได้ครับ”
หลินเยวียนเองก็รู้สึกว่าผู้อ่านต้องการปลอบประโลมสักหน่อย
เขาล็อกอินเข้าบัญชีปู้ลั่ว เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่ได้ล็อกอินผิดบัญชี จึงโพสต์ข้อความ
‘หนังสือเรื่องใหม่ ยังคงเป็นนิยายสืบสวนสอบสวน ยอดนักสืบโฮล์มส์’
เรื่องที่ทำให้ผู้อ่านมีความสุข น่าจะเป็นการที่เขาออกหนังสือเรื่องใหม่
หลินเยวียนสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าทุกครั้งที่ตนออกหนังสือเรื่องใหม่ ผู้อ่านจะอารมณ์ดีขึ้นมา
นี่คือการปลอบโยนที่ดีที่สุดที่เขานึกออก
จะทำตามอุโรบุชิ เก็น และบอกว่าที่จริงแล้วฉู่ขวงคือ ‘อัศวินแห่งความรัก’ หรือ ‘จุดประสงค์ที่แท้จริงในการสร้างสรรค์ผลงานของผมคือการนำเรื่องราวอันอบอุ่นเยียวยาจิตใจมามอบให้ทุกคน’ ก็คงไม่ได้ล่ะมั้ง?
อย่างไรก็ตาม
หลังจากหลินเยวียนโพสต์ข้อความ สีหน้าของจินมู่กลับเปลี่ยนไป “หัวหน้าทำไมคุณทำแบบนี้ล่ะครับ คุณรู้ไหมว่าการกระทำของคุณตอนนี้เหมือนอะไร”
“เหมือนอะไรครับ”
“เหมือนท้าทายไงครับ”
ที่หลานหลิงอ๋องถูกคนเกลียดไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียวหรอก!
คุณเพิ่งเขียนให้ปัวโรต์ตาย ประเดี๋ยวเดียวก็คิดจะใช้ตัวละครใหม่มาแทนที่ปัวโรต์ในใจของผู้คน?
คุณจะบอกว่า ถ้าเก่าไม่ไป ใหม่จะไม่มา?
แล้วคนอ่านเขาจะรับได้ไหมฮะ!?
…………………………………………………..