Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 500 มหาราชาและเทพีแห่งการล้างแค้น
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 500 มหาราชาและเทพีแห่งการล้างแค้น
หลินเยวียนนั่งรถกลับบ้านทันทีหลังจากบันทึกเทปรายการเสร็จ เรื่องอื่นๆ จำพวกการประกาศอันดับไม่เกี่ยวข้องกับเขา ส่วนเรื่องที่นักร้องในทีมที่สามท้าทายตน หลินเยวียนไม่ได้ปฏิเสธ เพราะไม่ช้าก็เร็ว ทุกคนจะต้องเจอกันอยู่ดี
เป็นเช่นนี้
จนหลายวันผ่านไป
รายการซึ่งมีหลานหลิงอ๋องรับหน้าที่เป็นกรรมการพิเศษในการแสดงของทีมที่สามก็ออกอากาศ และผลลัพธ์นั้นเป็นไปตามที่ผู้กำกับถงซูเหวินคาดการณ์ไว้ ทั้งเรตติงและประเด็นสนทนาบนโลกออนไลน์ระเบิดเป็นที่เรียบร้อย!
‘ขำขิตเลย!’
‘หลานหลิงอ๋องมาแล้ว!’
‘ฮ่าๆๆๆๆๆ ทีมงานรายการรู้งานจริงๆ นักร้องทีมที่สามคงแทบอกแตก ไปเชิญให้หลานหลิงอ๋องมาวิจารณ์ซะขนาดนี้ แน่ใจใช่ไหมว่าทีมงานรายการไม่ได้จงใจสร้างเรื่อง’
‘แรงอยู่นะ!’
‘ทันทีที่หลานหลิงอ๋องไปนั่งตรงนั้น ฉันก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา เขาไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ฝีปากสับยิ่งกว่ามีดสับหมู ราชาราชินีเพลงอย่าคิดว่าจะรอด!’
‘ยอมใจความกล้าของเขาเลย!’
‘ทั้งหยวนซี มู่สือ จ้าวอิ๋งเก้อ เฟ่ยหยาง เป้าหมายของหลานหลิงอ๋องคือแขวะนักร้องให้ครบทุกคน รายการทำแบบนี้ต่อไปนะ ผมชอบตอนที่หลานหลิงอ๋องวิจารณ์ที่สุดแล้ว!’
‘…’
ผู้ชมครึกครื้นกันยกใหญ่!
แน่นอนว่ามีผู้ชมบางส่วนตำหนิติเตียน ผู้เข้าแข่งขันหลายคนในทีมที่สามได้รับความนิยมสูงมาก เมื่อเห็นหลานหลิงอ๋องโจมตีนักร้องที่ตนชอบ ผู้ชมหลายคนจึงเดือดดาลเป็นธรรมดา และคนกลุ่มนี้ก็มีไม่น้อย
‘หลานหลิงอ๋องรนหาที่ตาย!’
‘รอหลังจากนี้เถอะ!’
‘ราชาราชินีเพลงประกาศสงครามกับเขาซะขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะรับมือกับการแข่งขันต่อจากนี้ไหว ราชาราชินีเพลงเหล่านี้ยังไม่ได้งัดฝีมือที่แท้จริงออกมา พอถึงตอนนั้นหลานหลิงอ๋องนี่แหละที่จะเข่าทรุด!’
‘รอถอดหน้ากากเลย!’
‘อย่าว่าแต่ราชาราชินีเพลงเลย ต่อให้เป็นนักร้องแถวหน้า หลานหลิงอ๋องก็อาจรับมือไม่ไหว การแข่งขันแบบทีมหลังจากนี้ดุเดือดแน่นอน ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะไปต่อได้อีกสักกี่เวที’
‘…’
การถกเถียงเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน!
แน่นอนว่าแฟนคลับหลายคนของนักร้องอย่างเฟ่ยหยางและหยวนซีซึ่งเคยถูกหลานหลิงอ๋องวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้ก็คอยมาเติมเชื้อไฟ คนกลุ่มนี้เป็นกำลังหลักในการล้อมโจมตีหลานหลิงอ๋องเสมอมา ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาหลานหลิงอ๋องมาหลายสัปดาห์ พวกเขาไม่มีที่ระบายโทสะ เวลานี้หลานหลิงอ๋องกลับมาเป็นสนามอารมณ์ยืนเด่นหราให้กับทุกคนแล้ว!
พรึบๆๆ!
ด้านหนึ่งผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังครื้นเครง อีกด้านหนึ่งผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังโจมตี บนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับหลานหลิงอ๋อง ในแง่ของความสนใจที่ผู้ชมมีต่อหลานหลิงอ๋องนั้นมากกว่าหมู่ปลาทีมที่สองซะแล้ว!
จนเรื่องนี้แทบกลายเป็นเรื่องปกติ
เพราะการถกเถียงสารพัดรูปแบบนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การแสดงเวทีแรกของหลานหลิงอ๋อง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีประเด็นถกเถียงเกิดขึ้นมากเพียงใดก็ไม่อาจหยุดยั้งปณิธานในการวิจารณ์ของหลานหลิงอ๋องได้ การแข่งขันรอบนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น…
อีกสองสัปดาห์ต่อจากนั้น!
หลานหลิงอ๋องยังอยู่!
ใช้คำพูดของชาวเน็ตคือ หลานหลิงอ๋องคนนี้ไม่ได้กำลังวิจารณ์นักร้อง แต่วิจารณ์นักร้องแบบไม่พักเลยต่างหาก มิหนำซ้ำสไตล์วาทะเชือดเฉือนคมกริบไม่เปลี่ยนแปลง ดวงตาคู่นั้นกำลังปะทุประกายไฟ!
‘มีจิตสังหาร!’
‘ฉันว่าแววตาของหน้ากากนักรบเหมือนอยากจะกินหัวหลานหลิงอ๋องให้รู้แล้วรู้รอด แม้แต่พ่อเพลงอิ่นตงยังรู้จัดใช้ไหวพริบบ้างบางครั้ง ไม่ได้พูดจาขวานผ่าซากแบบหลานหลิงอ๋อง’
‘กระต่ายก็ด้วย’
‘ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ราชินีเพลงเอล์ฟของทีมที่สามหรอกหรือ อย่าเห็นว่าในรายการเอล์ฟดูเฮฮาร่าเริงอยู่ตลอด ในใจอาจคิดแก้แค้นหลานหลิงอ๋องอยู่ก็ได้’
ทุกคนคุยกันเมามันขึ้นเรื่อยๆ!
ปริมาณหัวข้อสนทนาของทีมที่สามในสัปดาห์แรกค่อนข้างซบเซา หลังจากการปรากฏตัวของหลานหลิงอ๋องในสัปดาห์ที่สองสถานการณ์ก็พลิกผัน ความกระตือรือร้นของผู้ชมถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง!
……
อาจเป็นเพราะเรตติงรายการนั้นดีขึ้นมากจากช่วงวิพากษ์วิจารณ์ของหลานหลิงอ๋อง ถงซูเหวินจึงหวังว่าหลินเยวียนจะยังคงขึ้นเวทีวิจารณ์ทีมที่สี่ต่อไป แต่หลินเยวียนปฏิเสธ “ผมต้องไปเตรียมการแข่งขันหลังจากนี้ครับ”
“ได้ครับ”
ถงซูเหวินตอบ
เมื่อการแข่งขันของทีมที่สี่จบลง จะเข้าสู่บรรยากาศของการแข่งขันแบบทีม ตอนนั้นการแข่งขันจะดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน เป็นเรื่องปกติที่เซี่ยนอวี๋ต้องเตรียมตัวล่วงหน้า “การแข่งขันแบบทีมจะใช้รูปแบบถ่ายทอดสด ดังนั้นทางคุณควรเตรียมซ้อมเพลงไว้ก่อน”
‘ครับ’
หลินเยวียนหมายความเช่นนั้น
เขาไม่มั่นใจว่าเกมการแข่งขันหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร คู่ต่อสู้ที่เขาจะเจอคือใคร เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องเตรียมเพลงมากเข้าไว้ย่อมดีกว่า เพื่อที่เขาจะได้มีตัวเลือกมากขึ้นในการแข่งขัน
หลังจากวางสาย
หลินเยวียนเรียกระบบออกมา
เขาต้องการเข้าไปในคลังเพลงเพื่อค้นหาเพลง
กระบวนการในการค้นหาเพลงกินเวลาพอสมควร “เพลงเสียงสูงจำเป็นต้องเตรียมไว้บ้าง ต้องเลือกเพลงไว้เผื่ออีกสามสี่เพลงด้วย เพราะเพลงเสียงสูงปรากฏบ่อยที่สุดในการแข่งขัน แต่เพลงประเภทและแนวอื่นก็ต้องมี”
“เพลงนี้ดี”
“เพลงนี้ทดสอบการหายใจ”
“เพลงภาษาฉีเหมือนว่าจะปรากฏบนเวทีสองสามครั้ง ผู้ชมตอบรับดีมาก งั้นเตรียมสองเพลงนี้ไว้ดีกว่า ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าจะได้ใช้หรือเปล่าก็เถอะ”
“…”
หลังจากเล่นเพลงวนไปพอประมาณแล้ว หลินเยวียนครุ่นคิด ตัดสินใจแลกซื้อคุกกี้ภาษาจากระบบ นี่คือคุกกี้ซึ่งจะช่วยให้หลินเยวียนเชี่ยวชาญภาษาอื่นได้อย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่มีไอเทมประเภทนี้ละก็ หลินเยวียนจะไม่สามารถขับร้องผลงานเพลงภาษาอื่นนอกจากภาษากลางได้
ยกตัวอย่างเช่นภาษาฉี
ถึงแม้หลินเยวียนจะเคยอยู่ที่ฉีโจว และพูดภาษาฉีพื้นฐานได้บ้าง แต่ถ้าเขาร้องเพลงภาษาฉี คนอื่นจะฟังออกว่าการออกเสียงของเขามีปัญหา เมื่อเป็นเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อการแสดงศักยภาพในการแข่งขัน เพราะฉะนั้นไอเทมจากระบบจะช่วยหลินเยวียนแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
วันเวลาต่อจากนั้น
หลินเยวียนไม่ได้ทำเรื่องอื่น เพียงแค่เลือกเพลงหรือไม่ก็เขียนนิยาย บางครั้งก็ไปยืดเส้นยืดสายที่สตูดิโอการ์ตูนเพื่อปรับอารมณ์ของตน คนอื่นมองว่าเรื่องเหล่านี้คืองาน แต่หลินเยวียนกลับคิดว่านี่คือการพักผ่อน ทักษะการวาดภาพระดับปรมาจารย์ทำให้หลินเยวียนมองว่าการวาดภาพคือความผ่อนคลายและความบันเทิง
สิ่งที่น่าสนใจคือ…
หลินเยวียนไม่ได้ไปเป็นกรรมการพิเศษในรายการอีก ส่วนหลัวเวยและผู้ช่วยคนอื่นๆ ทางสตูดิโอกลับใช้เวลาว่างไปกับการรับชมรายการราชาหน้ากากนักร้อง เมื่อไม่มีอะไรทำก็ดูรายการพลางสนทนากัน
“มหาราชาแข็งแกร่งมาก!”
“ผลงานของมหาราชาทรงพลังมาก วันนี้คือสัปดาห์ที่สี่ของทีมที่สี่ มหาราชาได้ที่หนึ่งอีกแล้ว เขาเป็นผู้เข้าแข่งขันคนเดียวในสี่ทีมที่ได้ที่หนึ่งติดต่อกัน แม้แต่คณะกรรมการตัดสินระดับพ่อเพลงยังบอกว่าเขามีแววได้แชมป์!”
“ที่สองก็โหดอยู่นะ!”
“เทพีแห่งการล้างแค้นที่ได้อันดับสองฝีมือน่ากลัวมาก แต่โดนมหาราชาเหยียบทุกครั้ง ได้อันดับสองติดต่อกันทั้งสี่สัปดาห์ ตอนนี้ในเน็ตล้อกันว่าเทพีแห่งการล้างแค้นเป็นลูกคนรองตลอดกาลรุ่นที่สาม”
“โคตรตลก”
“ในที่สุดก็มีลูกคนรองตลอดกาลที่เป็นผู้หญิงบ้าง ชาวเน็ตกวนประสาทพวกนี้สรรหามุกมาได้ตลอด แต่ฉันสงสัยว่าเทพีแห่งการล้างแค้นคือหยวนซี เสียงของเธอมีพรสวรรค์มาก มีความเป็นหยวนซีสุดๆ”
“มีเหตุผล!”
“ถ้าเป็นหยวนซีจริงๆ ก็น่าสนุก เพราะเธอใช้ชื่อว่าเทพีแห่งการล้างแค้น สวมชุดสีดำลึกลับไปทั้งตัว คนที่เธอจะมาล้างแค้นต้องไม่ใช่คณะกรรมการ แต่น่าจะเป็นหงส์ขาวกับ…”
“หลานหลิงอ๋อง!!”
ขณะนี้ก็ปลายเดือนเมษายนแล้ว
การแข่งขันของทีมที่สี่สิ้นสุดลง และการแข่งขันแบบทีมกำลังจะมาถึง แต่กระแสการติดตามจากสาธารณชนของทีมที่สี่นั้นสูงมาโดยตลอด แม้จะไม่มีหลานหลิงอ๋องเป็นกรรมการ เพราะในการแข่งขันในรอบนี้มีนักร้องเบอร์ใหญ่ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ชม
มหาราชา!
เทพีแห่งการล้างแค้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาราชา ซึ่งกวาดอันดับหนึ่งตลอดสี่สัปดาห์ เป็นนักร้องเพียงคนเดียวจากทั้งสี่ทีมที่ทำผลงานชนะรวดได้ ในมุมหนึ่ง มหาราชามีกลิ่นอายของแชมป์รายการราชาหน้ากากนักร้องจริงๆ!
นอกจากนี้…
เมื่อตอนที่สี่ออกอากาศไป จึงมีรายงานข่าวมากมายเกี่ยวกับมหาราชาและเทพีแห่งการล้างแค้น คนนับไม่ถ้วนกำลังคาดเดาตัวจริงของทั้งสองคน ทว่ามหาราชาปกปิดได้ค่อนข้างดี สไตล์ของเขาเปลี่ยนไปในทุกเวที
เมื่อเทียบกันแล้ว
หลายคนเดาได้ว่าเทพีแห่งการล้างแค้นคือราชินีเพลงหยวนซีซึ่งเคยถูกหลานหลิงอ๋องและหงส์ขาวโจมตี ทั้งยังมีสื่อระบุอย่างชัดเจนว่าหยวนซีมาในชุดเทพีแห่งการล้างแค้นเพื่อจัดการกับหลานหลิงอ๋องและหงส์ขาว!
โดยเฉพาะหลานหลิงอ๋อง!
ในขณะนั้นแม้แต่จินมู่ก็ยังเป็นกังวล รีบเข้าไปคุยกับหลินเยวียน “เรื่องมหาราชาเอาไว้ก่อนครับ เทพีแห่งการล้างแค้นคนนี้เหมือนจะเป็นหยวนซีจริงๆ และเธอน่าจะมาเพราะคุณกับหงส์ขาวโดยเฉพาะ ถ้าคุณแพ้หยวนซีขึ้นมา หลังจากนั้นจะบันเทิงเลยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
หลินเยวียนตอบอย่างไม่คิดมาก
จินมู่ได้ยินดังนั้นจู่ๆ ก็โล่งใจขึ้นมา “ก็จริง คุณไม่กลัวแพ้อยู่แล้ว เพราะคุณไม่กลัวถอดหน้ากาก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่แค้นคุณไม่ได้มีแค่หยวนซี ความแค้นที่หน้ากากนักรบกับเอล์ฟจากทีมสามมีต่อคุณไม่ได้น้อยไปกว่าหยวนซีเลย”
หลินเยวียน “…”
แรงแค้นที่เขาได้รับนั้นมากมายจริงๆ
ในเวลานี้จินมู่พูดต่อ “คุณน่าจะรู้ระบบการแข่งขันแล้ว ทุกเวทีจะมีการแข่งขันรายบุคคล นอกจากนั้นตั้งแต่เวทีหน้าเป็นต้นไปจะใช้รูปแบบถ่ายทอดสด ซึ่งน่าจะยิ่งเพิ่มความกดดันให้กับนักร้อง”
หลินเยวียนพยักหน้า
ผู้กำกับถงซูเหวินแจ้งเรื่องนี้กับเขาแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นการแข่งขันรูปแบบทีม คู่ต่อสู้ของทีมที่หนึ่งคือทีมที่สาม เมื่อถึงตอนนั้นรายการจะออกอากาศโดยใช้รูปแบบถ่ายทอดสด
“เตรียมตัวพร้อมหรือยังครับ”
“น่าจะนับว่าเพียงพอแล้วครับ”
แววตาของหลินเยวียนพราวประกายวาบ ลำพังแค่วิจารณ์คนอื่นไม่ได้น่าสนใจอะไร เขาอยากร้องเพลงแล้ว…
……………………………………………………..