Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 512 ลังเล
น่าตื่นเต้นมาก!
ตื่นตะลึงสุดๆ!
สำหรับผู้ชมแล้ว!
นี่คือฉากดังซึ่งควรค่าแก่การจารึก!
วังหลังของเซี่ยนอวี๋อาศัยความสามารถของตนเอง ก้าวขึ้นสู่สิบสองคนสุดท้ายในรายการราชาหน้ากากนักร้องได้จริงๆ!
หลังจากนั้น!
พวกเขาก็ประกาศก้องต่อหน้าผู้ชมนับไม่ถ้วนจากทั้งฉิน ฉี ฉู่ และเยี่ยนว่า
พวกเราคือแก๊งวังหลังของเซี่ยนอวี๋!
พวกเราจะเป็นราชวงศ์ปลาให้ได้!
ถ้าหากนักร้องเหล่านี้พูดเช่นนี้ในโอกาสอื่น ผู้ชมคงทำได้เพียงหัวเราะเยาะ
ถ้านักร้องกลุ่มนี้ตกรอบตั้งแต่เนิ่นๆ ผู้ชมคงรู้สึกเพียงน่าสนใจ
แต่พวกเขาสู้มาจนถึงรอบสิบสองคนสุดท้ายได้เกือบทั้งหมด…
ถึงรอบหกคนสุดท้าย!
ทุกคนสามารถพูดได้โดยไม่ต้องถ่อมตัว!
นักร้องทุกคนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบสิบสองคนและหกคนสุดท้ายในราชาหน้ากากนักร้องนับว่าน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งบนบลูสตาร์
แข่งขันบนเวทีเดียวกับราชาราชินีเพลง!
ถึงขั้นเอาชนะคู่ต่อสู้ได้!
จะมีโล่เกียรติยศใดที่เจิดจรัสไปกว่านี้อีก?
เพราะฉะนั้นในยามนี้ชาวเน็ตต่างตื่นเต้นและบ้าคลั่ง
‘พ่อเพลงอวี๋มาดูเร็ว นี่คือดินแดนที่คุณสร้างขึ้น!’
‘ราชวงศ์ปลา ซึ้งเหมือนกันนะเนี่ย’
‘ถ้าปลาเหล่านี้มีพ่อเพลงอวี๋คอยดูแล ต่อไปจะล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์ของราชาราชินีเพลง’
‘นางเงือกมีความสามารถมากพอที่จะเป็นราชินีเพลง เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเจียงขุย นักร้องหญิงคนไหนที่เคารพพ่อเพลงอวี๋ขนาดนี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว อาจารย์เซี่ยนอวี๋พาเจียงขุยบุกมหาสงครามเทพเซียนได้ด้วยซ้ำ!’
‘มิน่าล่ะนางเงือกถึงเข้ารอบหกคนสุดท้าย!’
‘นางเงือกเคยตามพ่อเพลงอวี๋จัดการราชาราชินีเพลงมาแล้วนะ!’
‘แก๊งวังหลังถอดหน้ากากแล้ว แย่งซีนพวกหุ่นยนต์ไปเต็มๆ’
‘ทำเอาผมชักสงสัยแล้วว่าหลานหลิงอ๋องคือใคร!’
‘คนคนนี้เหมือนปรากฏตัวขึ้นมาเฉยๆ ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋หรือเปล่านะ?’
‘…’
ไม่ใช่ว่าชาวเน็ตไม่เคยคาดเดาตัวตนของเซี่ยนอวี๋
ทว่าเดาได้ยากจริงๆ
นักร้องคนอื่นๆ ยังพอมีเบาะแส
มีเพียงหลานหลิงอ๋อง ที่เหมือนโผล่ออกมาจากก้อนหินอย่างไรอย่างนั้น!
ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวบนเวที จะต้องเกิดหัวข้อสนทนาไม่รู้จบ นอกจากนั้นเขายังเข้ารอบหกคนสุดท้าย แม้แต่รอบที่เขาเสียงแหบเสียงแห้งยังล้มเขาไม่ได้
พรึบๆ
การถ่ายทอดสดยังไม่ทันจบ
ชาวเน็ตก็เริ่มพูดคุยเรื่องนี้กันแล้ว
ฮ็อตเสิร์ชของทั้งปู้ลั่วและบล็อกล้วนถูกยึดครองโดยหัวข้อเกี่ยวกับรายการราชาหน้ากากนักร้อง
#วังหลังเซี่ยนอวี๋ถอดหน้ากาก
#พวกเราคือราชวงศ์ปลา
#ซุนเย่าหั่วและเพลงกุหลาบแดง
#นางเงือกเข้ารอบหกคน
#พ่อเพลงอวี๋
นอกจากนั้น ผู้คนมากมายยังพูดคุยเกี่ยวกับบทเพลงซึ่งปรากฏบนเวที
และเพลงที่หลานหลิงอ๋องขับร้องด้วยเสียงแหบ เป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนได้มากที่สุด
ไม่ใช่เวทีที่ดีที่สุดในบรรดาการแสดงทั้งหมด
แต่เป็นเวทีที่กลายเป็นที่พูดถึงมากที่สุด!
เพลง ‘เขาคงรักเธอมาก’ สไตล์การร้องอันเป็นเอกลักษณ์ได้รับคำชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์
เพลง ‘ไม่สนใจ’ ผู้คนมากมายตีความความหมายแฝงในเพลง บ้างก็มองว่าเพลงนี้คือการตอบโต้ของหลานหลิงอ๋องต่อประเด็นการถกเถียงภายนอก
และบนเวทีในขณะนี้
หลังจากหลินเยวียนตะโกนคำขวัญว่า ‘พวกเราคือราชวงศ์ปลา’ ความรู้สึกละเอียดอ่อนก็ผุดขึ้นในใจของหลินเยวียนในทันใด
บางที…
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
นี่เป็นถ้อยแถลงของพวกคุณ
แต่ผมเองก็พูดตามไปด้วย
งั้นทำไมไม่ลองทำให้ถ้อยแถลงนี้กลายเป็นจริงดูล่ะ
……
การแข่งขันจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือของผู้ชม
หลังเวที
ถงซูเหวินพานักร้องทั้งหกคนมารวมกัน กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “ขอแสดงความยินดีที่ผ่านเข้ารอบหกคนสุดท้ายนะครับ ในรอบต่อไปคือรอบรองชนะเลิศ หวังว่าทุกท่านจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี”
ทุกคนพยักหน้า
ถงซูเหวินพูดต่อ “หลังจากนี้จะเป็นกฎในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศนะครับ ยังคงใช้รูปแบบจับคู่ ครั้งนี้เราจะแจ้งคู่ต่อสู้ให้คุณทราบส่วงหน้า และจะเป็นผลจากการจับคู่แบบสุ่มด้วย”
ผู้ชมมองไปยังถงซูเหวิน
รู้ล่วงหน้าว่าคู่ต่อสู้เป็นใคร จะสามารถเลือกเพลงมารับมือได้ กฎใหม่นี้น่าสนใจมากทีเดียว
“ผมขอประกาศเลยแล้วกันครับ”
ถงซูเหวินหยิบบัตรใบหนึ่งออกมา “การแข่งขันในรอบต่อไป มหาราชาปะทะนางเงือก…”
มหาราชาเงียบ
นางเงือกก็เงียบเช่นกัน
ถงซูเหวินอ่านต่อ “และหงส์ขาวปะทะเอล์ฟ…”
หลังจากนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านแล้ว
หลานหลิงอ๋องปะทะเทพีแห่งการล้างแค้น
ทว่าถงซูเหวินยังคงอ่านออกมา
เทพีแห่งการล้างแค้นมองไปยังหลานหลิงอ๋อง แววตาของเธอราวกับมีเปลวไฟปะทุ
เอล์ฟจนใจ “พูดตามตรง ฉันอยากเจอหลานหลิงอ๋อง…”
“หลานหลิงอ๋องเป็นของฉัน/ผม”
เทพีแห่งการล้างแค้นและมหาราชาเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หงส์ขาวสับสน
นางเงือกงุนงง
เอล์ฟไม่พอใจหลานหลิงอ๋องเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเอล์ฟเคยถูกหลานหลิงอ๋องวิพากษ์วิจารณ์ และต้องการล้างแค้นให้กับทีมของตนมาโดยตลอด
แต่มหาราชามาประสมโรงทำไม?
หลานหลิงอ๋องเหมือนจะไม่ได้โจมตีมหาราชานี่นา?
นอกจากว่า…
สีหน้าภายใต้หน้ากากของนักร้องเหล่านี้น่าตื่นเต้นมากทีเดียว
มหาราชาก็ไม่ได้อธิบาย
หลินเยวียนกลับไม่คิดเช่นนั้น
ถงซูเหวินกล่าวกลั้วหัวเราะ “สามเวทีไม่พอนะครับ ในรอบต่อไปในบรรดานักร้องทั้งหกท่าน จะมีนักร้องหนึ่งท่านที่ทำผลงานได้ดีที่สุดได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตัดสินทั้งสี่ท่าน และเข้ารอบชิงไปทันที”
นักร้องทั้งหกคนมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป
ถงซูเหวินพูดต่อ “นักร้องสามท่านที่แพ้จะตกรอบในทันที การแข่งขันดำเนินมาถึงระดับนี้ไม่มีโอกาสคืนชีพแล้วครับ ส่วนนักร้องทั้งสามท่านที่ชนะ นอกจากท่านที่ได้รับเลือกให้เข้ารอบไปแล้ว อีกสองท่านจะต้องแข่งกัน จากนั้นนักร้องที่ชนะจะเข้าไปร้องในรอบชิงกับนักร้องซึ่งถูกเลือกให้เข้ารอบไปก่อนหน้า ผู้ชนะในตอนสุดท้ายจะได้เป็นแชมป์รายการราชาหน้ากากนักร้องซีซันหนึ่ง!”
ทุกคนพยักหน้า
วางแผนเช่นนี้สมเหตุสมผลมาก
กฎการแข่งขันในรายการนี้สมเหตุสมผลมาโดยตลอด ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ไม่ยุติธรรม
อันที่จริงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ยุติธรรม
ราชาราชินีเพลงตั้งมากมายมากองรวมกัน ต่อให้เป็นนักร้องแถวหน้าก็สร้างอิทธิพลได้อย่างน่าสะพรึงกลัว ทีมงานรายการกล้าตุกติกกับใครด้วยหรือ?
มิหนำซ้ำยังมีชื่อสมาคมวรรณศิลป์วางเด่นหราอีก
นักร้องต่างแยกย้ายกัน
ทุกคนต่างกลับบ้าน
ในเวลานั้นจู่ๆ หงส์ขาวก็ดึงหลินเยวียนไว้
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ไว้จบรายการแอดวีแช็ตกัน”
“ได้”
“แล้วก็…”
“เชิญพูดมาได้ตามตรง”
“ที่จริงฉันสงสัย…”
หงส์ขาวจ้องมองหลานหลิงอ๋องผู้ที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน “เพลงไม่สนใจที่คุณร้อง เป็นแค่เพลงรักธรรมดาหรือเปล่า?”
หลินเยวียนหัวเราะ ไม่ได้เอ่ยตอบ
หงส์ขาวราวกับพบคำตอบอย่างคลุมเครือจากปฏิกิริยาของหลานหลิงอ๋อง เธอถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
“ฉันก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน…”
หลินเยวียนไม่ได้ยิน
เขาเดินออกมาแล้ว
ในความเป็นจริง เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรขณะที่ร้องเพลง ‘ไม่สนใจ’
บางที…
บางทีเขาอาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในโลกภายนอกจริงๆ…
ว่ากันว่าผู้ที่สวมหน้ากากไม่สามารถพูดความจริงได้
แต่เมื่อหลินเยวียนสวมหน้ากาก กลับรู้สึกว่าตนได้ฟังความจริงมากมาย
นี่เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยินเมื่อไม่ได้สวมหน้ากาก และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัวในฐานะเซี่ยนอวี๋
เขาเพิ่งรู้
ว่าที่จริงแล้วมีคำพูดมากมาย ที่คนอื่นไม่อยากรับฟัง
ว่าที่จริงแล้วมีหลายเรื่อง ที่คนอื่นไม่สนใจ
ต่อให้สิ่งที่ตนพูดไปนั้นเป็นความจริง
แต่แล้วอย่างไร
คนเขาไม่สนใจ
งั้นฉันเองก็ควรจะ…
ไม่สนใจเหมือนกัน?
………………………………………………