Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 521 ปิดเกม
ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ใกล้ตัวฉันนี่เอง!
นี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นในวิทยาลัยศิลปะฉินโจวคิด!
ในสตูดิโอของอิ่งจือก็เช่นกัน
ในฐานะแฟนตัวยงของรายการนี้ แน่นอนว่าหลัวเวยและผู้ช่วยคนอื่นๆ ย่อมไม่พลาดช่วงถอดหน้ากากของหลานหลิงอ๋อง
จากนั้นพวกเขาเป็นต้องอึ้งไป!
“นี่มันอาจารย์อิ่งจือไม่ใช่เหรอ?”
“อาจารย์อิ่งจือคือเซี่ยนอวี๋?”
“พระเจ้าช่วย!”
“อิ่งจือฉู่ขวงเซี่ยนอวี๋ ที่จริงแล้วไม่ใช่คนสามคน แต่มีแค่สองคน!”
“…”
อาจารย์อิ่งจือไม่ใช่แค่วาดรูปได้!
แต่ยังประพันธ์เพลงได้ด้วย!
ขณะเดียวกันก็ยังร้องเพลงได้อีก!
นี่มันอะไรกันเนี่ย
อึ้งเลย!
ที่จริงกลุ่มคนที่อึ้งมากที่สุดคือสตูดิโอของอิ่งจือ เพราะคนอื่นเห็นเพียงว่าอิ่งจือคือหลานหลิงอ๋อง แต่คนที่นี่รับรู้ข้อเท็จจริงมากกว่านั้น
หลานหลิงอ๋องไม่ใช่เพียงพ่อเพลงตัวน้อยเซี่ยนอวี๋!
ขณะเดียวกันยังเป็นอาจารย์อิ่งจือผู้ซึ่งมีฝีมือในการวาดภาพบรรลุถึงขีดสุดด้วย!
ตัวตนนี้ของเขา!
โลกภายนอกยังไม่รู้!
หลัวเวยเหลือบไปเห็นจินมู่ซึ่งนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ที่โซฟา จึงร้องออกไป
“อาจินรู้แต่แรกแล้ว!”
“ใช่ ผมรู้แต่แรกแล้ว”
จินมู่รู้ว่าตนควรออกโรงสักที “แต่ตัวตนนี้ของอาจารย์อิ่งจือจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ผมได้เพิ่มสัญญารักษาความลับชั่วคราวไว้ให้แต่ละคนแล้ว เดี๋ยวรวบกวนทุกคนช่วยเซ็นด้วย แน่นอนว่าเรื่องนี้มีข้อดี นับตั้งแต่เดือนนี้เงินเดื อนของทุกคนจะเพิ่มขึ้นเดือนละหนึ่งพันหยวน นี้คือผลประโยชน์ที่ผมได้รับมาให้พวกคุณ”
“อาจินจงเจริญ!”
ทุกคนตื่นเต้นดีใจกันสักพัก
หลานหลิงอ๋องคือเซี่ยนอวี๋ ขณะเดียวกันก็คืออิ่งจือ สำหรับคนในสตูดิโอแล้ว นี่เป็นเพียงเรื่องซุบซิบซึ่งห่างไกลจากชีวิตจริงของพวกเขาเหลือเกิน แต่ผลประโยชน์จากการรักษาความลับกลับเต็มเม็ดเต็มหน่วย!
“ไม่เพิ่มเงินก็ไม่เป็นไร ผมเซ็นสัญญาอยู่แล้ว!”
ผู้ช่วยคนหนึ่งเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “ผมเป็นแฟนคลับตัวยงของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ เพลงทุกเพลงของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ผมโหลดเก็บไว้ในเพลย์ลิสต์แล้ว ผมยินดีเก็บความลับให้อาจารย์เซี่ยนอวี๋ และผมยินดีทำงานให้อาจารย์อิ่งจือ…”
คนอื่นๆ ตวัดสายตามองผู้ช่วยคนนี้
ผู้ช่วยคนนี้ยกมือขึ้นปิดปาก
จินมู่ยิ้มกว้าง ดูเหมือนว่าการรักษาความลับจะไม่ใช่เรื่องยาก
หลัวเวยซึ่งอยู่ด้านข้างสูดหายใจเข้าลึก พยายามสงบความตกตะลึงของตน
ทันใดนั้นเธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ อาจารย์อิ่งจือเคยบอกไว้ ว่าถึงแม้ตนจะเป็นลูกศิษย์ของตน แต่เธอไม่ใช่ศิษย์พี่หญิงใหญ่
ตอนนี้เห็นที คงเป็นเพราะตัวตนในฐานะอาจารย์เซี่ยนอวี๋รับลูกศิษย์มาก่อนแล้ว?
แต่ในส่วนของจิตรกรรม เธอน่าจะยังเป็นศิษย์พี่ใหญ่สินะ!
จู่ๆ เธอก็หัวเราะออกมา
อาจารย์คนนี้ของเธอ น่ากลัวจริงๆ !
หัวเราะอยู่สักพัก สายตาของหลัวเวยจึงเบนไปยังหน้าจอโทรทัศน์ในสตูดิโอ
ขณะนั้น
การถ่ายทอดสดยังไม่สิ้นสุดลง
หลังจากเซี่ยนอวี๋ถอดหน้ากาก ทั้งห้องส่งก็โกลาหลอยู่นาน
และทีมงานรายการไม่ได้ตั้งใจจะควบคุมสถานการณ์แต่อย่างใด
แม้แต่ผู้กำกับรายการซึ่งประจำการอยู่ด้านหลังเวทีอย่างถงซูเหวิน ในเวลานี้ก็ยิ้มกว้างถึงหูแล้วเช่นกัน
ในที่สุดก็ถอดหน้ากากสักที!
นี่ไม่ใช่เพียงช่วงเวลาที่คนอื่นเฝ้ารอ!
ถงซูเหวินซึ่งรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลานหลิงอ๋องมาโดยตลอดก็เฝ้ารอเวลานี้มาเนิ่นนานเช่นเดียวกัน!
เขาเก็บอยู่นานหลายเดือน ในที่สุดก็ไม่ต้องเก็บอีกต่อไป!
อึดอัดสุดๆ ไปเลย!
ทว่ารอบตัวเขา
ทั้งผู้ช่วยผู้กำกับ และทีมงานรายการคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงไปตั้งแต่แรก
แววตาเหล่านี้ทำให้ถงซูเหวินรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
สบายใจเหลือเกิน!
จนกระทั้งทุกคนสงบสติอารมณ์ได้แล้ว อันหงพิธีกรจึงกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง
ในตอนนี้
ซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ กลับไปยังตำแหน่งเดิมของตนเองแล้ว
บนเวทีจึงเหลือเพียงอันหงและหลินเยวียน
……
บนเวทีเงียบลง
ในเวลานั้นทุกคนกำลังตั้งตารอ!
อาจารย์เซี่ยนอวี๋จะพูดอะไรต่อไป!
แน่นอนว่าพิธีกรอย่างอันหงย่อมรับรู้ถึงความคาดหวังนี้ของผู้ชม!
เขายิ้มขื่น กล่าวว่า “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ เป็นคุณเองนี่เอง ทำไมถึงเข้าร่วมรายการในฐานะนักร้องล่ะครับ ก่อนหน้านี้ทีมงานรายการเคยเชิญคุณมาในฐานะกรรมการตัดสิน…”
หลินเยวียนตอบ “แต่เดิมผมเป็นนักร้อง”
เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นถ่อมตัว และไม่ได้จงใจเย็นชา ท่าทีของเขายังคงปกติเหมือนเช่นเคย
ไม่รู้ว่าความรู้สึกอึดอัดจากกล้องหายไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาสามารถผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองได้
“แต่เดิมคุณเป็นนักร้องหมายความว่า…”
“ตอนที่เซ็นสัญญาเข้าสตาร์ไลท์ ผมเตรียมจะเดบิวต์ในฐานะศิลปิน แต่เพราะปัญหาด้านสุขภาพ…”
หลินเยวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วย แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าความลังเลของเขาทำให้ผู้ชมมีพื้นที่เพียงพอที่จะจินตนาการและค้นคว้าต่อไป
เขาพูดต่อ
“สุขภาพของผมแย่ลงจนส่งผลให้เสียงของผมเกิดปัญหา หมอบอกว่าผมจะร้องเพลงไม่ได้อีก ผมจึงมาเป็นนักประพันธ์เพลง และย้ายไปเรียนที่สาขาการประพันธ์เพลงตอนปีสอง”
เฮือก!
ทุกคนต่างตกตะลึง!
เซี่ยนอวี๋กลายเป็นนักประพันธ์เพลง เพียงเพราะเขาร้องเพลงไม่ได้ก็เท่านั้น เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะเรียนประพันธ์เพลงด้วยซ้ำไป
เป็นเทพเซียนจากไหนกัน!
นักแต่งเพลงซึ่งมาจากการเบนสายระหว่างทาง ถึงกลับกลายเป็นพ่อเพลงตัวน้อยในวงการการประพันธ์เพลง!?
นี่คือพรสวรรค์?
นี่คือพลังของปีศาจสินะ!
อันหงตกตะลึง พูดพึมพำ “เช่นนั้นที่เบนสายมาประพันธ์เพลง ที่จริงเพราะไม่มีทางเลือก ผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ขนาดนี้ และตอนนี้…”
“สุขภาพกำลังฟื้นตัว เสียงจึงกลับมาแล้วครับ”
หลินเยวียนไม่ได้อธิบายมากนัก ต่อจากนั้นเขาเพียงแค่อธิบายเหตุผลที่ตนเข้าร่วมการแข่งขัน “พอดีมีรายการนี้ เลยอยากเติมเต็มความฝันในการเป็นนักร้อง”
“เพราะฉะนั้น…”
อันหงเอ่ยอย่างสะท้อนใจ “เซี่ยนอวี๋ไม่เคยเขียนเพลงให้หลานหลิงอ๋อง เพลงทั้งหมดที่คุณร้องในรายการนี้ เป็นเพลงที่คุณเขียนเอง!”
“ไม่ใช่ครับ”
หลินเยวียนสามารถยอมรับได้เพียงว่าเพลงที่ระบบมอบให้คือเพลงที่ตนเขียน แต่มีเพลงหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงแยกกัน “ผมร้องเพลง ‘จากไป’ ของอาจารย์หยางจงหมิง เพื่อแสดงความเคารพต่ออาจารย์หยางจงหมิง เขานับว่าเป็นครูของผม…”
กล้องฉายไปยังใบหน้าของหยางจงหมิง
หยางจงหมิงมองหลินเยวียนด้วยรอยยิ้ม แววตาของเขาอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อได้ยินหลินเยวียนบอกว่าตนนับว่าเป็นครูของเขา รอยยิ้มมุมปากจึงไม่อาจเก็บซ่อนได้อีกต่อไป
เด็กคนนี้จริงๆ เลย
เห็นได้ชัดว่าตนไม่เคยสอนเขามาก่อน…
หน้าจอ
คอมเมนต์ยังคงแน่นขนัดตั้งแต่ต้นจนจบ
‘ประทับใจ!!’
‘แววตาที่พ่อเพลงหยางมองเซี่ยนอวี๋คืออะไร คือเอ็นดู คือเปี่ยมไปด้วยความรัก!’
‘ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมอาจารย์หยางจงหมิงถึงแอบปกป้องเซี่ยนอวี๋มาตลอดทั้งรายการ เขาต้องจำเซี่ยนอวี๋ได้แต่แรกแน่เลย!’
‘นี่คือการปกป้องกันและกันของพ่อเพลงสินะ’
‘แววตานี้ ฉันเคลิ้มเลย!’
‘รอยยิ้มแบบป้าข้างบ้าน’
‘…’
ผู้ชมก็คลี่ยิ้มแบบป้าข้างบ้านตามไปด้วย
แววตาที่หยางจงหมิงมองไปยังหลินเยวียนนั้นเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู!
อันหงมองไปยังหยางจงหมิง ‘เหมือนว่าอาจารย์หยางจงหมิงจะรู้แต่แรกแล้ว…’
‘เปล่าเลย’
หยางจงหมิงครุ่นคิด ก่อนจะตอบ “เวทีแรก ผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แต่ผมไม่ได้คิดไปทางนั้น จนกระทั่งเขาเริ่มเล่นเปียโนในเวทีที่สอง เพราะผมรู้ว่าเซี่ยนอวี๋เล่นเปียโนเก่งขนาดไหน และเมื่อเวทีที่สามจบลง ผมรีบกลับบริษัททันที และให้คนช่วยหาเพลงออดิชันตอนเซี่ยนอวี๋เซ็นสัญญา เสียงนั้นเหมือนกับเสียงของหลานหลิงอ๋องไม่มีผิดเพี้ยน ตอนนั้นผมถึงได้มั่นใจ”
หลินเยวียน “…”
ที่แท้เขาก็ให้คนหาวิดีโอตอนที่ตนออดิชันเซ็นสัญญาเข้าบริษัท ถ้าหากเปรียบเทียบเช่นนี้ ด้วยโสตประสาทอันอ่อนไหวของหยางจงหมิงละก็ จะสามารถยืนยันตัวตนของเขาได้อย่างแน่นอน
“ปิดบังฉันได้ลงคอ!”
เจิ้งจิงซึ่งอยู่ด้านข้างไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เธอจะกล่าวกลั้วหัวเราะอย่างจนใจ “เซี่ยนอวี๋ เด็กคนนี้คือลูกรักของสตาร์ไลท์เรา ถึงฉันจะติดต่อกับเขาเพียงเล็กน้อย แต่เด็กคนนี้มีพลังวิเศษที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรักเขาได้ทันที”
อันหงยิ้ม “เพราะเขาหล่อใช่ไหมครับ”
เจิ้งจิงหัวเราะ ผู้ชมด้านล่างเวทีและผู้ชมหน้าจอพากันหัวเราะตามไปด้วย
“พิธีมอบรางวัลต่อจากนี้ทางเราควรเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ผมคิดว่า ให้อาจารย์หยางจงหมิงขึ้นมามอบรางวัลดีไหมครับ?”
อันหงรู้วิธีสร้างบรรยากาศ
ทันใดนั้นทั้งห้องส่งเต็มไปด้วยเสียงเชียร์
“หยางจงหมิง!”
และแน่นอนว่าหยางจงหมิงไม่ปฏิเสธ
ท่ามกลางเสียงดนตรี เขามอบถ้วยรางวัลถ้วยแรกให้กับมือหลินเยวียน
เพลงซึ่งถูกเลือกนำมาทำเป็นบรรเลงประกอบคือเพลงผืนน้ำเย้ยเยาะ นี่คือบทเพลงซึ่งหลินเยวียนนำมาขับร้องในรอบที่สาม
ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ ไม่มีใครล่วงรู้ถึงตัวตนของหลานหลิงอ๋อง
เมื่อได้ฟังเพลงนี้อีกครั้งในวันนี้ ในใจของทุกคนจึงเกิดความรู้สึกอันแปลกประหลาด
ที่จริงแล้ว
ในขณะนี้ เมื่อนึกย้อนไปถึงเพลงของหลานหลิงอ๋องบนเวที กอปรกับการแนะนำตัวอย่างเรียบง่ายของเซี่ยนอวี๋ ทุกคนจึงเกิดความรู้สึกลึกซึ้งขึ้นมา หลายคนตัดสินใจกลับไปชมการแสดงทั้งหมดของเซี่ยนอวี๋อีกครั้ง
“เจิ้งจิง”
หยางจงหมิงมองไปยังเจิ้งเจิง แววตาของผู้หญิงคนนี้แลดูคล้ายกับกำลังอิจฉา จึงเอ่ยชักชวน
“มาร้องเพลงด้วยกัน?”
เพลงนี้ทุกคนล้วนร้องได้
เจิ้งจิงตรงไปยังเวทีอย่างอดใจไม่ไหว ทว่าจู่ๆ ก็หันหลังกลับไปดึงอิ่งตงและเยี่ยจือชิวขึ้นมาด้วย
และแล้ว
บนเวทีจึงกลายเป็นภาพของการร้องประสานเสียงอันยิ่งใหญ่โดยบุคลากรระดับพ่อเพลงอย่างเซี่ยนอวี๋ หยางจงหมิง เจิ้งจิง อิ่นตง และเยี่ยจือชิว
“ผืนน้ำเย้ยเยาะ!
เกลียวคลื่นสาดสองฝั่ง
ลอยตามแรงคลื่น จดจำเพียงวันนี้
ผืนฟ้าเย้ยเยาะ คลื่นมนุษย์โหมคลั่ง
ใครชนะใครแพ้มีแต่สวรรค์รู้…”
ราชาหน้ากากนักร้องซีซันแรก จึงเป็นอันจบลงด้วยเพลงผืนน้ำเย้ยเยาะซึ่งขับร้องโดยเซี่ยนอวี๋และพ่อเพลงทั้งสี่
เมื่อร้องจนจบ
ทุกคนต่างยิ้มอย่างเปี่ยมอย่างเปี่ยมความสุขและความฮึกเหิม
และในเวลานี้
สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์
เพลงเดียวกันดังขึ้น แผนกต่างๆ รวมไปถึงในห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูงในบริษัทต่างได้รับชมรายการนี้ และร่วมกันเป็นสักขีพยานในการถอดหน้ากากของเซี่ยนอวี๋…