Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 531 ฮีโร่พลเรือน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเข้าสู่ตอนจบแล้ว
สไปเดอร์แมนไม่ได้ไปเดตกับเกว็น
เขาห้อยหัวลงมาราวกับแมงมุม บนร่างสวมชุดสไปเดอร์แมน ในมือถือดอกไม้ดอกหนึ่ง ในคืนอันน่าประทับใจ เขาปรากฏตัวต่อหน้าเกว็น
“เพื่อนผมคนหนึ่ง อยากขอโทษคุณ…”
เกว็นผงะถอย จากนั้นจึงเอ่ยถามหยั่งเชิง
“ปีเตอร์”
“ปีเตอร์…เป็นเพื่อนของผมน่ะ”
“ทำไมเขาไม่มาด้วยตัวเอง”
สไปเดอร์แมนมีท่าทีละอายใจ “บางทีเขาควรมาขอโทษคุณต่อหน้า ถึงแม้เขาจะมีเหตุผลที่พลาดการเดตวันนี้ที่ฟังขึ้นมากพอก็ตาม…”
เกว็นคล้ายกับฉุกคิดถึงบางอย่าง สีหน้าตกตะลึง
“นายนี่เอง!”
“ไม่ใช่ฉัน…”
“นายนั่นแหละ!”
เกว็นพูดอย่างหัวเสีย “แม่ฉันอยู่บนรถไฟขบวนนั้นที่นายช่วย เธอจำนายได้!”
สไปเดอร์แมนเงียบไป
ทันใดนั้นเกว็นจึงเอ่ยขึ้นอย่างตลกขบขัน “ล้อเล่นน่า ฉันแค่เห็นในข่าว แต่ฉันจำนายได้”
สไปเดอร์แมนเงียบยิ่งกว่าเดิม
เกว็นก้าวขึ้นไปด้านหน้า เพื่อถอดหน้ากากของสไปเดอร์แมน ทว่าเมื่อดึงหน้ากากลงมาถึงปาก สไปเดอร์แมนก็จับมือของเกว็นไว้
เกว็นออกแรงมากขึ้น
สไปเดอร์แมนออกแรงเช่นกัน
เขาไม่อยากถอดหน้ากากสไปเดอร์แมน
ท้ายที่สุดเกว็นก็ไม่ได้บีบบังคับให้ถอดหน้ากากออก เธอจุมพิตเขาอย่างแผ่วเขา
ผู้ชมผู้หญิงบางคนดวงตาเป็นประกาย
สไปเดอร์แมนห้อยหัวลงมา หญิงสาวแสนสวยจุมพิตเขาใต้แสงจันทร์!
พระเจ้าช่วย!
ประทับใจเหลือเกิน!
จะมีฉากไหนที่โรแมนติกไปกว่านี้บ้าง?
คู่รักหนุ่มสาวจับมือกันอย่างเงียบเชียบ
เบื้องหน้าจอภาพยนตร์
ความรู้สึกไม่ชอบใจของหลงหยางหมักบ่มอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขมขื่นที่มุมปาก
เซี่ยนอวี๋คนนี้รู้ดีว่าผู้ชมอยากเห็นอะไร!
การออกแบบพล็อตเรื่องทั้งหมดมีทั้งรูปแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่!
หลังจากการต่อสู้ครั้งสำคัญ วีรบุรุษและโฉมงามจุมพิตฉลองชัยชนะ แต่เขากลับคิดได้ว่าจะให้สไปเดอร์แมนจุมพิตเกว็นด้วยวิธีใช้ใยแมงมุมห้อยศีรษะลงมา!
ฉากนี้โรแมนติกสุดๆ !
เป็นความหวานระดับอ้อยเชื่อม!
ไม่ว่าจะเป็นการตายของลุงก่อนหน้านี้ การใช้ร่างขวางรถไฟ หรือแม้แต่เด็กสวมชุดสไปเดอร์แมนเข้าไปเผชิญหน้ากับหุ่นเกราะ ฉากเหล่านี้ล้วนสร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้ชม!
มีร้องไห้
มีหัวเราะ
มีตื่นเต้น
มีตื้นตัน
มีการกอบกู้ความรักในครอบครัว
มีกลิ่นอายของความรัก
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ แต่กลับถูกนำเสนอออกมาอย่างกำลังลงตัวและมีจังหวะที่ชัดเจน ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่ชวนดื่มด่ำครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากนั้น
ปีเตอร์ก็เล่าความจริงเกี่ยวกับการตายของลุงให้ป้าฟัง ปฏิกิริยาของป้านั้นควรค่าแก่การขบคิดเป็นอย่างยิ่ง
เธอตบปีเตอร์เต็มแรง ก่อนจะสวมกอดเขาแน่น
สุดท้ายแล้ว
ฉากก็ตัดไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน
สไปเดอร์แมนสวมชุดสีแดง นอนอยู่ในใจกลางใยแมงมุมรูปแปดเหลี่ยม
ชุดของเขาคล้ายกับมีการเปลี่ยนแปลง
เท่กว่าเดิม!
หรูหรากว่าเดิม!
สะดุดตากว่าเดิม!
รูปแบบแตกต่างอย่างมากจากชุดแรกที่เขาออกแบบซึ่งแลดูเรียบง่าย
ในขณะนั้น
มีเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นจากวิทยุสื่อสารของตำรวจซึ่งไม่รู้ว่าเขาไปหามาจากไหน “มีคนก่อเหตุฆาตกรรม กำลังหนีไปยังถนนหมายเลขหนึ่ง…”
พรึบ!
ภายใต้แสงจันทร์ส่อง ร่างสีแสดงกระโดดออกไป สองขากางออก ทว่าปลายเท่าชิดกัน ใยแมงมุมสีขาวพุ่งเข้าหากล้อง ก้อนใยแมงมุมซึ่งแลดูราวกับนิ้วห้านิ้วคว้าเข้าที่กล้อง!
นี่คือประสบการณ์ของภาพยนตร์สามมิติ
ผู้ชมรู้สึกประหนึ่งใยแมงมุมนี้พุ่งเข้าหาตนเอง บางคนเบี่ยงกายหลบอย่างห้ามไม่อยู่ด้วยซ้ำไป ทว่าหลังจากนั้นทุกคนก็พลันหัวเราะออกมา…
การโจมตีที่งดงาม!
ร่างนั้นราวกับถูกร่ายเวทย์ให้กลายเป็นท่าโจมตีอันเป็นนิรันดร์ ภายใต้แสงนวลของดวงจันทร์!
เท่สุดยอด!
ภาพยนตร์จบลงแล้ว!
มีคนลุกขึ้นปรบมือ และสุดท้ายก็มีคนลุกขึ้นปรบมือมากขึ้นเรื่อยๆ
“พ่อฮะ ผมอยากเป็นสไปเดอร์แมน!”
เสี่ยวหู่เงยหน้ามองหลงหยาง ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความหวัง
หลงหยางรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง จึงตอบไปอย่างจนปัญญา “ได้ ได้ ได้…”
ความจริงประการหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าอย่างจนใจ
ในแง่เสน่ห์ของตัวละคร สไปเดอร์แมนนั้นน่ารักจริงๆ การสร้างภาพลักษณ์ของฮีโร่พลเรือนประสบความสำเร็จ เซี่ยนอวี๋ทำในส่ิงที่ตรงกันข้าม และได้รับผลสัมฤทธิ์อย่างงดงาม
ขณะเดียวกัน
ผู้ช่วยของหลงหยางก็ลุกขึ้นปรบมือเช่นกัน
เสียงของภรรยาดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “มารอดูกันว่าอีกสักพักจะมีหน้ากากสไปเดอร์แมนขายไหม…”
แปะ
เสียงปรบมือหยุดลงกะทันหัน
ผู้ช่วยทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ มองภรรยาของเขาอย่างโกรธเคือง
หน้ากากของหลานหลิงอ๋องยังไม่พออีกหรือ!
……
มีคนไม่มากที่สังเกตเห็นฉากนี้
เสียงปรบมือยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับการถกเถียงซึ่งเกิดขึ้นเรื่อยๆ
“สไปเดอร์แมนเท่มากเลย!”
“ผมชอบเขามาก!”
“ฉากที่ขวางรถไฟน่าตื่นเต้นจริงๆ !”
“ตอนที่ลุงตายนี่ทำร้ายจิตใจกันเกินไป”
“พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง เห็นชัดๆ ว่าหนังตลกมาก แต่พอดูถึงฉากนี้แล้วน้ำตาไหลเลย หนังเรื่องนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก”
“นี่คือหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุด!”
“รู้สึกว่าสไปเดอร์แมนต่างจากซูเปอร์ฮีโร่ในภาพจำของผม ซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ มีเป้าหมายคือมวลมนุษยชาติ ส่วนสไปเดอร์แมนเหมือนอยู่รอบตัวเรามากกว่า”
“ฉากเรียกน้ำตาของจริงคือสไปเดอร์แมนตัวจิ๋วต่างหาก”
“สมแล้วที่เป็นเซี่ยนอวี๋!”
“เซี่ยนอวี๋ต่อให้สร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ ก็ยังทำออกมาได้แตกต่างจากคนอื่น!”
“พระเอกก็เล่นได้ไม่เลวเลย เป็นนักแสดงหน้าใหม่เหรอ?”
“แสดงได้ดีเลยละ ฉันชักจะชอบเขาแล้ว”
“…”
ผู้ชมเดินออกจากโรงฉาย พลางสนทนากันไป
บางคนท้องเริ่มหิว จึงไปหาร้านอาหาร
ในขณะนั้น
จู่ๆ ก็มีคนชี้ไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง “ดูนั่น นั่นมันสไปเดอร์แมนใช่ไหม?”
ไกลออกไป
ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า ‘เยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟ’ มีสแตนดีสไปเดอร์แมนตั้งอยู่หน้าร้าน
ถ้าหากไม่เคยดูสไปเดอร์แมนมาก่อน เมื่อเห็นสแตนดีนี้ คงต้องสับสนกันบ้าง
ทว่าผู้ชมซึ่งเคยดูสไปเดอร์แมน ก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาทันทีที่เห็นธีมของร้าน!
“กินร้านนี้แหละ!”
ทุกคนเดินเข้าไปในร้านอย่างอดใจไม่ไหว
และในร้านอาหารแห่งนี้ ก็เป็นธีมสไปเดอร์แมนทั้งร้าน
มีการติดโปสเตอร์บนผนัง ทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ และเข้าสู่บรรยากาศของภาพยนตร์อีกครั้ง…
ภาพเช่นนี้เกิดขึ้นในสถานที่หลายแห่ง
ขณะนั้นเอง
ซุนเย่าหั่วก็เดินออกจากโรงภาพยนตร์เช่นกัน
หนังของรุ่นน้องสนุกจริงๆ !
เขาพยักหน้า ก่อนจะก้มมองโทรศัพท์ และพบว่ากลุ่มของร้านกำลังคึกครื้นเป็นพิเศษ
‘วันนี้ขายดีสุดๆ !’
‘มีลูกค้าหลายคนสั่งหม้อไฟรูปสไปเดอร์แมน!’
‘สาขาคุณมีด้วยเหรอ?’
‘แน่นอน สั่งทำไว้ล่วงหน้า ยากมากหรือ?’
‘อย่าเลียนแบบคำพูดของโฮล์มส์ ขอร้อง!’
‘ลูกค้าสาขาฉันกินเสร็จก็ไปถ่ายรูปหมู่กับโปสเตอร์หนึ่งกรุบ!’
‘หัวหน้าเจ๋งมากเลย!’
‘หัวหน้ามีแนวคิดทางการตลาด มองการณ์ไกลอยู่เสมอ!’
‘เป็นอัจฉริยะทางธุรกิจโดยแท้!’
‘เมื่อพูดถึงการใช้ประโยชน์จากกระแสตลาด หัวหน้ายอดเยี่ยมตลอดกาล!’
‘…’
ซุนเย่าหั่วสีหน้าสับสน
การตลาดอะไร?
อัจฉริยะทางธุรกิจอะไร?
ซับซ้อนขนาดนั้นซะที่ไหน ฉันก็แค่อยากสนับสนุนหนังของรุ่นร้องเท่านั้นเอง