Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 542 พวกคุณติดค้างคำขอโทษกับเฟ่ยหยาง
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 542 พวกคุณติดค้างคำขอโทษกับเฟ่ยหยาง
‘ขำปอดโยกแล้ว!’
‘เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนฟังออกไหม เพลงนี้เป็นเสียงกู่ร้องจากลูกคนรองตลอดกาลรุ่นแรก!’
‘เพลงสารภาพรักเซี่ยนอวี๋ปะเนี่ย?’
‘ประจบเต็มที่!’
‘นักร้องคนอื่นดูแล้วจำค่ะ หาโอกาสแอบเปลี่ยนเนื้อเพลง ประจบแบบเนียนๆ !’
‘ฟังถึงตอนจบแล้วซึ้งอยู่นะ’
‘เนื้อเพลงเป็นทั้งความรู้สึกของเซี่ยนอวี๋ และเป็นความรู้สึกของเฉินจื้ออวี่ด้วย ทั้งสองคนถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาผ่านบทเพลง’
‘เพลงก็ดีนะ’
‘จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บใจแทนอาจารย์อิ่นตง หลังจากเพลงเปลี่ยนตัวเองได้รับการโปรโมตจากทางการ ก็แซงหน้าผลงานของอาจารย์อิ่นตงขึ้นไปคว้าอันดับหนึ่งในฤดูกาลเพลง ผลปรากฏว่าเพลงนี้ถูกยกมาพูดถึงบนการแข่งขันเวทีนี้อีก’
‘อิ่นตง: เซี่ยนอวี๋คนนี้เล่นกับใจผมอีกแล้ว!’
‘เฉินจื้ออวี่: เล่นตัวเองให้เต็มที่ อย่าเหลือให้คนอื่นเล่น’
‘เฟ่ยหยาง: แล้วผมล่ะ’
‘…’
กล้องตัดไปยังใบหน้าของเฟ่ยหยาง
เฟ่ยหยางซึ่งในตอนนี้ไม่มีการแข่งขันมีสีหน้าจนใจ
จนใจจริงๆ
ร้องเพลงก็ร้องเพลงไปสิ ทำไมต้องทำร้ายคนอื่นด้วย…
แน่นอนว่าคุณไม่ใช่ลูกคนรองตลอดกาล
เพราะลูกคนรองตลอดกาลในตอนนี้คือผมนี่ไง!
บัดซบ!
เฟ่ยหยางพยายามข่มกลั้นความรู้สึก
และหลังจากนั้นคือช่วงเวลาของการโหวต
นักประพันธ์เพลงกำลังครุ่นคิด
ในแง่ของการประพันธ์ทำนองเพลง ระดับของทำนองเพลงเพลงของเรานั้นเทียบเท่ากับสามเพลงก่อนหน้า นับว่าเป็นการแสดงศักยภาพตามปกติของนักประพันธ์เพลงชั้นนำ
ทว่าความยอดเยี่ยมของเพลงนี้อยู่ที่ มีพื้นที่สำหรับให้ผู้ชมจินตนาการ!
ให้ความเพลิดเพลิน
มีท่วงทำนองที่ไพเราะ
มีแม้แต่เรื่องราว!
ในสถานการณ์เช่นนี้ ยังต้องสงสัยเรื่องผลการแข่งขันอีกหรือ?
คำตอบคือ
ไม่ต้องสงสัยเลย
คะแนนโหวตของซุนเหมิงเหมิงในเวทีนี้คือ: 40.13 ล้านโหวต
คะแนนโหวตของเฉินจื้ออวี่ในเวทีนี้คือ : 41.11 ล้านโหวต
คะแนนโหวตรวมในเวทีนี้ก็ทะลุ 80 ล้านโหวตแล้ว
ความแตกต่างของทั้งสองฝั่งไม่ได้เกินจริงมากนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อระดับของบทเพลงและการร้องไม่ต่างกันมากนัก เรื่องราวในเนื้อเพลงเพลงของเรากลายเป็นตุ้มถ่วงน้ำหนักสุดท้ายที่กำหนดชะตา!
เวทีนี้!
เซี่ยนอวี๋และเฉินจื้ออวี่ชนะ!
เมื่ออันหงประกาศผล เฉินจื้ออวี่มือขึ้นต่อยอากาศ ตะโดนว่า “ขอบคุณอาจารย์เซี่ยนอวี๋ที่มอบโอกาสในการร้องเพลงนี้ให้ผม ทำให้ผมได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้งครับ!”
ทั้งห้องส่งหลุดหัวเราะ!
ลูกคนรองตลอดกาลรุ่นแรก!
ได้ปลดปล่อยตัวเองแล้ว!
หูกระต่ายของซุนเหมิงเหมิงไม่ตั้งขึ้นอีกต่อไป หันไปมองอิ่นตงด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย อิ่นตงยังคงใบหน้าเป็นอัมพาตดังเคย ทว่าคอมเมนต์กระสุนบนหน้าจอกลับทะลักทลาย!
หลายคนพิมพ์มาว่า ‘2222222222’ !
รายการ ‘ปณิธานอันดับสองถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง’
ขณะเดียวกัน!
เว็บบอร์ดใหญ่แต่ละแห่งถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกัน
ทันใดนั้น
มีคนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น ‘ไขคดีได้แล้ว ไขคดีได้แล้ว ตัวการที่ทำให้เฟ่ยหยางได้อันดับสองคืออิ่นตง!’
ชั่วพริบตาเดียว
ชาวเน็ตกระจ่างขึ้นมาทันที
‘ฮ่าๆๆๆ แรงอยู่นะ!’
‘ที่แท้เฟ่ยหยางก็รับผลแทนอิ่นตง!’
‘ต้นตอที่แท้จริงของอันดับสองที่แท้ก็คืออิ่นตง!’
‘เราทุกคนติดคำขอโทษกับราชาเพลงเฟ่ย!’
‘ราชาเพลงเฟ่ย: คิดอยู่แล้วเชียวว่าผมจะได้ที่สองไปได้ยังไง อาจารย์อิ่นตง ที่แท้ก็คุณนั่นเอง!’
‘อิ่นตง: แย่แล้ว ความแตกซะแล้ว!’
‘…’
ในมหาสงครามเทพเซียนทั้งสองครั้ง เฟ่ยหยางล้วนคว้าอันดับที่สอง ทว่าจุดหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามไปคือ
อันดับที่สองทั้งสองครั้งของเฟ่ยหยาง นักประพันธ์เพลงที่เขาร่วมงานด้วยคืออิ่นตง!
แต่ในการแข่งขันครั้งนี้
หลังจากอิ่นตงร่วมงานกับซุนเหมิงเหมิง และพ่ายแพ้ต่อเซี่ยนอวี๋อีกครั้ง อิ่นตงก็ถูก ‘ปณิธานอันดับสอง’ ครอบงำ
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า
ผู้ที่เจอปลาแล้วคว้าอันดับสอง อาจไม่ใช่เฟ่ยหยาง แต่น่าจะเป็นอิ่นตง
ไม่เช่นนั้นจะอธิบายเรื่องที่อิ่นตงเปลี่ยนนักร้องที่ร่วมงานแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋ก็ยังคว้าอันดับสองว่าอย่างไรล่ะ
‘แต่ในรอบตัดสินของราชาหน้ากากนักร้อง ทำไมเฟ่ยหยางถึงยังได้ที่สองล่ะ?’
‘ดังนั้งจึงสรุปได้ว่า ในแวดวงนักร้อง เฟ่ยหยางยังคนเป็นลูกคนรองตลอดกาล ส่วนในแวดวงนักประพันธ์เพลง ยังมีลูกคนรองตลอดกาลอย่างอาจารย์อินตงแฝงกายอยู่’
ทุกคนรู้สึกว่ามีเหตุผล
อาจารย์อิ่นตง ได้เริ่มต้นเดินบนเส้นทางซึ่งไม่อาจย้อนกลับแล้ว
……
มีการแข่งขันห้าคู่ ปัจจุบันนี้ผ่านไปเพียงสองคู่
การแข่งขันอีกสามคู่ที่เหลือ ยังคงเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน
บนเวทีแห่งนี้ ได้รวมบทเพลงไว้ทุกประเภททุกสไตล์!
อิ่นตงถึงกับเขียนเพลงติดหูอย่างเพลงของกระต่ายออกมาได้ ณ จุดนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้
พ็อป…
ร็อก…
บัลลาด…
โบราณ…
อิเล็กทรอนิกส์…
ทิศทางที่สร้างสรรค์ในจินตนาการของผู้แต่งและการตีความของนักร้องทำให้ผู้ชมได้รับงานภาพและเสียงซึ่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
ในนั้น
การแข่งขันรอบที่ห้า
บทเพลงของพ่อเพลง หรืออาจเรียกว่า ‘แม่เพลง’ อย่างเจิ้งจิงก็ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในการแข่งขันรอบนี้
52.33 ล้านโหวต!
นี่คือบทเพลงสบายๆ มีชื่อเพลงว่า ‘ดอกท้อเหมันต์’
มุมมองของเนื้อเพลง เริ่มต้นจาก ‘ดอกท้อเหมันต์’
บทเพลงบรรยายถึงดอกท้อซึ่งไม่ยอมจำนนต่อความเหน็บหนาว ยืนหยัดเผชิญกับการทดสอบของธรรมชาติอันรุนแรง ตั้งแต่ต้นจนจบของเพลงเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณอันดื้อดึงไม่ยอมจำนน
อย่างไรก็ตาม…
เจิ้งจิงก็มึนงงไปเช่นกันเมื่อเห็นผลลัพธ์นี้
เธอส่ายหน้า “ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าทุกคนจะชอบเพลงนี้กันขนาดนี้ ในบรรดาเพลงของฉัน เพลงนี้คือเพลงที่ฉันใช้วิธีการสร้างสรรค์ที่ค่อนข้างเสี่ยง ทำนองมีหลายจุดที่ไม่ได้ใช้รูปแบบปกติ พลิกไปผันมา เป็นการทดลอง…”
ของอย่างบทเพลงในบางครั้งมักเปี่ยมไปด้วยเรื่องเหนือความคาดหมาย
เพลงที่นักประพันธ์เพลงและนักร้องบางคนคิดว่าต้องโด่งดังอย่างแน่นอน ปรากฏว่าปฏิกิริยาจากทุกคนนั้นธรรมดา
เพลงที่นักประพันธ์เพลงและนักร้องบางคนไม่ได้ให้ความสำคัญ กลับโด่งดังจนเหนือความคาดหมาย
ต่อให้เป็นนักประพันธ์เพลงระดับพ่อเพลง ก็ไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ จบลงด้วยการที่เจิ้งจิงบดขยี้คู่ต่อสู้ของเธอ
ด้านหลังเวที
ผู้กำกับถงซูเหวินเดินออกมา กล่าวกับผู้ชมอย่างยิ้มแย้ม “ขอขอบคุณสำหรับการแสดงอันยอดเยี่ยมของอาจารย์ทุกท่าน พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เราจะเริ่มถ่ายทอดสดกันอีกรอบ ดูจากสถิติหลังบ้านของรายการแล้ว เหมือนพวกเรากำลังจำลองความสำเร็จของรายการราชาหน้ากากนักร้องอยู่เลยนะครับเนี่ย!”
ผู้ชมปรบมือ
ถงซูเหวินพูดต่อ “หลังจากการถ่ายทอดสดในวันพรุ่งนี้จบลง เราจะประกาศกฎการแข่งขันในรอบต่อไป สิ่งที่รอทุกท่านอยู่คือความเซอร์ไพรส์นับไม่ถ้วน ขอให้นักประพันธ์เพลงและนักร้องทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจ”
ผู้ชมชะงัก
ทุกคนรู้ว่าทีมงานรายการสร้างเรื่องเก่ง
ถ้าหากถงซูเหวินบอกว่าการแข่งขันในอนาคตเต็มไปด้วยเรื่องเหนือความ เช่นนั้นคงจะมีเรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นจริงๆ …
คืออะไรกันนะ
ไม่มีใครรู้
การถ่ายทอดสดในครั้งนี้จบลงพร้อมกับความอาลัยอาวรณ์ของผู้ชม
และบนโลกออนไลน์
การสนทนาเกี่ยวกับการแข่งขันในรอบนี้กลับคึกคักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อกลับถึงบ้าน
อิ่นตงเห็นฮ็อตเสิร์ช หลังจากนั้นก็เห็นถ้อยคำที่บีบหัวใจอยู่ในอันดับที่สอง
#ลูกคนรองตลอดกาลอิ่นตง
อันดับที่หนึ่งบนฮ็อตเสิร์ชกลับเป็น #พวกเราติดค้างคำขอโทษกับเฟ่ยหยาง
“…”
ทันใดนั้นอิ่นตงก็สัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายของชาวเน็ตจอมกวน ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเฟ่ยหยางแล้ว ชาวเน็ตจอมกวนพวกนี้ปั่นประสาทคนอื่นเก่งนัก
จะบล็อกก็บล็อกไม่ไหว โคตรน่ารำคาญ!