Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 558 บทเพลงสำหรับเฟ่ยหยาง
“นายปลดล็อกตัวเองเต็มที่เลยนะเนี่ย…”
เมื่อไรก็ตามที่เพลงของเรามีการแสดงของเซี่ยนอวี๋ สมาชิกในครอบครัวจะติดตามรายการอย่างใจจดใจต่อ
ปรากฏว่าหลังจากดูมาหลายเวที หลินเซวียนเป็นต้องประหลาดใจ เช่นเดียวกับชาวเน็ตอีกหลายคน
ทำไมเพลงของน้องชายถึงครึกครื้นขึ้นทุกครั้ง
เริ่มจากเพลงลำนำพื้นเมืองสุดเจ๋ง ได้รับการขนานนามว่า ‘เพลงรบในการเต้นรำกลางจัตุรัส’!
จากนั้นเพลงโชคดีมาแล้ว ถูกทุกคนเรียกว่า ‘เพลงช็อปปิง’!
และเพลงต๋าลาเปิงปาก็ถูกชาวเน็ตเรียกขานกันว่า ‘เพลงเทพสองมิติ’ !
ทั้งสามเพลง ไม่มีเพลงใดที่เดินบนเส้นทางปกติ
ทั้งสามเพลง ล้วนเป็นบทเพลงซึ่งเปี่ยมไปด้วยเวทมนตร์ล้างสมอง
“ตอนที่ร่วมงานกับเฟ่ยหยาง นายคงไม่ได้เขียนเพลงแบบนี้หรอกใช่ไหม”
พี่สาวเอ่ยถามหลินเยวียนด้วยความสงสัย
ระยะนี้สไตล์ของน้องชายออกนอกเส้นทางอย่างรุนแรง
หลินเยวียนส่ายหน้า
เพลงของเขาในช่วงนี้เป็นเพลงสนุกสนานก็จริง แต่นั่นก็เพราะในรายการราชาหน้ากากนักร้องเจอกับความหนักหน่วงมามากแล้ว
ดังนั้นหลินเยวียนจึงไม่ต้องการความหนักหน่วงในรายการเพลงของเราอีก
แต่ว่า…
ทุกสิ่งล้วนมีขอบเขต
ในรอบตอบไปหลินเยวียนไม่คิดจะเล่นเพลงล้างสมองอีก ถึงแม้หลินเยวียนจะไม่คิดว่าเพลงเหล่านี้มีปัญหาอะไรก็เถอะ
เขาชอบทุกเพลงด้วยซ้ำไป
บนอินเทอร์เน็ตมีหลายคนสรุปไว้ ว่าหลังจากเซี่ยนอวี๋พบกับเว่ยห่าวอวิ้นก็ปลดล็อกตัวตน แต่กลับไม่มีใครบอกว่าดนตรีของเซี่ยนอวี๋มีปัญหา
。ทุกคนเพียงแค่หยอกล้อว่าเขาซุกซนขึ้นทุกวัน
อันที่จริงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรายการราชาหน้ากากนักร้อง
รายการนี้ทำให้หลินเยวียนเข้าใจความจริงบางอย่าง และทำให้เขาตระหนักได้ถึงปัญหาบางอย่าง
เพราะฉะนั้นเขาจึงเปลี่ยนไป
เขาเข้มงวดน้อยลง
เขามีจิตวิญญาณแห่งความสนุกสนานมากขึ้น
แม้โลกภายนอกจะมองว่าเซี่ยนอวี๋ยังคงพูดน้อยดังเคย หรือมีสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา
แต่เมื่อมองผ่านดนตรี
หลายคนสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดขึ้นกับเซี่ยนอวี๋
วันรุ่งขึ้น
การถ่ายทอดสดการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป
ทว่าการแข่งขันในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลินเยวียน
รวมไปถึงช่วงเวลาของการจับสลาก หลินเยวียนก็ไม่ได้ปรากฏตัวเช่นเดียวกัน ทีมของเขาและเฟ่ยหยางถูกกำหนดไว้แล้ว
เฟ่ยหยางกลับมาหลังจากผ่านไปสามวัน
เมื่อรู้ว่าเฟ่ยหยางกลับมาแล้ว หลินเยวียนจึงตรงไปยังกองถ่ายรายการ เพื่อเตรียมเพลงสำหรับรอบต่อไป
เวลาค่อนข้างกระชั้น
แต่เมื่อหลินเยวียนเห็นเฟ่ยหยาง เขากลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสภาพจิตใจของเฟ่ยหยาง
เฟ่ยหยางเป็นนักร้องชายคนหนึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
เขานับว่าเป็นราชาเพลงที่อายุค่อนข้างน้อย
คนคนนี้รางกายสูงใหญ่กำยำ แลดูทรงพลัง สภาพจิตใจเต็มร้อยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะพูดจาหรือร้องเพลงก็มักมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
ถึงอย่างไรก็เป็นมหาราชาจากราชาหน้ากากนักร้อง
ทว่าในเวลานี้
ใบหน้าของเฟ่ยหยางกลับแลดูซีดเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำ ให้ความรู้สึกราวกับกำลังช่วงนี้เป็นทุกข์ ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ
เมื่อเห็นหลินเยวียน
“ขอโทษครับอาจารย์เซี่ยนอวี๋ เมื่อรอบที่แล้วผมไม่ได้เข้าร่วม ที่บ้านเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ”
เฟ่ยหยางเคยพบกับหลินเยวียนมาก่อนในรายการ
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สนทนากันต่อหน้าเช่นนี้
หลินเยวียนพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ”
เขามองออกว่าสภาพจิตใจของเฟ่ยหยางนั้นไม่สู้ดีนัก
เฟ่ยหยางคล้ายกับกังวลว่าหลินเยวียนจะเข้าใจผิด เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอธิบายเสริม “พ่อผมไม่สบายเข้าโรงพยาบาล เข้ารับการรักษาฉุกเฉิน ผมเลยต้องรีบไปดูแลอยู่หนึ่งสัปดาห์…”
พูดถึงตรงนี้
เฟ่ยหยางฝืนยิ้ม “โชคดีที่การรักษาประสบความสำเร็จ อาการของพ่อคงที่แล้ว ช่วงนี้สภาพจิตใจผมค่อนข้างกดดัน เลยไม่ค่อยมีแรงน่ะครับ ผมจะพยายามปรับสภาพจิตใจก่อนการแข่งขัน”
หลินเยวียนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
ถ้าหากคนในครอบครัวเขามีปัญหาด้านสุขภาพ เขาเองก็คงละทิ้งการแข่งขันเช่นกัน นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
“ตามผมมาครับ”
หลินเยวีนเดินเข้าไปยังห้องสีชมพูของตน
เฟ่ยหยางชำเลืองมองผู้จัดการของตน
ผู้จัดการตบบ่าของเฟ่ยหยาง “อาจารย์เซี่ยนอวี๋คงไม่โกรธหรอก แต่คุณต้องจัดการตัวเอง อย่าถ่วงการแข่งขันของอาจารย์เซี่ยนอวี๋”
เฟ่ยหยางพยักหน้าอย่างเงียบงัน จากนั้นจึงเดินตามหลินเยวียนไป
เมื่อเข้าไปในห้องของเซี่ยนอวี๋
หลินเยวียนพลิกหาเนื้อเพลงในตู้ของเขา
เพลงที่เขาเตรียมไว้สำหรับรายการราชาหน้ากากนักร้องยังใช้ไม่หมด
นอกจากนั้น
เขายังเตรียมเพลงไว้อีกไม่น้อยสำหรับรายการเพลงของเรา
คุณภาพของเพลงเหล่านี้มากพอให้หลินเยวียนรับมือกับนักร้องซึ่งเป็นคู่ของเขาบนเวทีได้ทั้งหมด
ทว่าขณะนี้เขากำลังหาบทเพลงหนึ่งในนั้น
เขาคิดว่าเพลงนี้น่าจะเหมาะกับเฟ่ยหยางมากในเวลานี้
เฟ่ยหยางนั้งอยู่บนโซฟา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ความจริงเป็นสิ่งมหัศจรรย์
นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่งเขาจะได้มาอยู่ในห้องเดียวกับเซี่ยนอวี๋ซึ่งทำให้เขากลายเป็นลูกคนรองตลอดกาล
เช่นเดียวกับที่เขานึกไม่ถึงว่าวันหนึ่งพ่อซึ่งมีร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอดจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกะทันหันเนื่องจากความดันโลหิตสูง
“อยู่ไหนนะ…”
หลินเยวียนยังคงควานหาคลังเพลงของตน
เฟ่ยหยางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เป็นเพลงที่เตรียมไว้ให้ผมหรือครับ?”
หลินเยวียนค้นหาเพลงพลางเอ่ยตอบ “เป็นเพลงที่เหมาะกับคุณพอดีครับ จะพูดให้ชัดคือเพลงทั้งหมดในนี้คุณร้องได้เกือบครึ่งหนึ่ง เพราะแนวเพลงของคุณกว้างมาก”
เฟ่ยหยางยิ้ม จู่ๆ ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา
ที่จริงแล้วเฟ่ยหยางได้ยินคำชมที่คล้ายคลึงกันมานับครั้งไม่ถ้วนจนหูแทบชา
แต่คำชมเดียวกันซึ่งออกมาจากปากของเซี่ยนอวี๋กลับทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความสำเร็จอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเป็นการยอมรับที่เยี่ยมยอดมาก
ไม่ทันไร เฟ่ยหยางรีบตั้งสติ ลอบด่าตนเองในใจ
‘บ้าชะมัด!’
เซี่ยนอวี๋เพียงแค่เอ่ยชมอย่างไม่ใส่ใจ ตนต้องดีใจถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
เดี๋ยวนะ!
เซี่ยนอวี๋คงไม่ได้เตรียมเพลงที่คล้ายกับเพลงลำนำพื้นเมืองสุดเจ๋งให้ตนหรอกใช่ไหม?
ในรายการนี้ เซี่ยนอวี๋งัดเพลงประเภทนี้ออกมาหลายครั้ง!
รวมไปถึงเพลงต๋าลาเปิงปาซึ่งเซี่ยนอวี๋ขับร้องด้วยตัวเอง เฟ่ยหยางก็ได้ดูแล้ว
ในตอนนี้ จู่ๆ เฟ่ยหยางพลันรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
แน่นอนว่าเฟ่ยหยางร้องเพลงประเภทนี้ได้ แต่เฟ่ยหยางรู้สึกว่าเพลงประเภทนี้ไม่เหมาะกับตน ให้ความรู้สึกขัดแย้งที่รุนแรงเกินไป
หลินเยวียนย่อมไม่ล่วงรู้ถึงความคิดของเฟ่ยหยาง
เขาค้นไปค้นมาอยู่นานโข ในที่สุดก็พบเป้าหมาย “อันนี้แหละ!”
หลินเยวียนหยิบโน้ตเพลงออกมาส่งให้เฟ่ยหยาง “ถ้าไม่อยากร้องเพลงนี้ ผมจะหาเพลงใหม่ให้”
เพลงนี้มีความพิเศษ เดิมทีไม่ใช่เพลงที่หลินเยวียนเตรียมไว้สำหรับเฟ่ยหยาง
แต่เพราะได้ฟังคำพูดของเฟ่ยหยาง เขาจึงนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา
แต่หลินเยวียนไม่มั่นใจว่าเฟ่ยหยางคิดอย่างไร เขายังคงเคารพความคิดของนักร้อง
“ครับๆ …”
เฟ่ยหยางรับเพลงมาจากหลินเยวียนอย่างตกประหม่า
ยังไม่ทันได้ดูให้ละเอียด เฟ่ยหยางกลับตกตะลงเพียงเพราะชื่อเพลงซึ่งปรากฏตรงหน้าเขา
ผ่านไปหลายวินาที เขาจึงละสายตา และมองไปยังเนื้อเพลงด้านล่าง
เนื้อเพลงนั้นเรียบง่าย
เรียบง่ายถึงขั้นซื่อตรง
ทว่าแต่เนื้อเพลงที่เรียบง่ายและซื่อตรงเช่นนี้กลับทำให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ในหัวใจของเฟ่ยหยาง มากจนมือของเขาประคองแผ่นโน้ตเพลงได้ยากขึ้นเล็กน้อย!
“เพลงนี้แหละครับ!”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ลังเล ถึงขั้นไม่ได้สนใจทำนองด้วยซ้ำไป น้ำเสียงสั่นเทา เส้นเลือดในดวงตาแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘พ่อ[1]’
[1] พ่อ (Father) โดยไคว่จื่อซยงตี้ (Chopstick Brothers) คำร้อง-ทำนองโดยหวังไท่ลี่ เรียบเรียงโดยจ้าวจยาหลิน