Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 611 ก็ไม่เท่าไหร่
ขณะเดียวกัน
วงการนิทานในทวีปต่างๆ ก็สังเกตเห็นภาพประกอบตำนานแห่งท้องทะเลเช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกันจินมู่
ในขณะนั้นหลายคนล้วนตอบสนองได้ และมองออกถึงกลยุทธ์ซึ่งวางแผนไว้อย่างรอบคอบของเดวิด
‘เตรียมตัวมาดีนี่นา!’
‘พวกเราคิดว่าเดวิดจะถูกชาวเยี่ยนปลุกปั่นให้ประชันวรรณกรรมกับเดวิด แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเป้าหมายของเดวิดตั้งแต่ต้นจนจบคือฉู่ขวง ไม่ใช่ไป๋เจี๋ย!’
‘ชาวหานคนนี้ร้ายมาก!’
‘ไป๋เจี๋ยเป็นเพียงกระดานกระโดดของเดวิด!’
‘ใช้วิธีทำเอาชนะไป๋เจี๋ยเพื่อให้ตำนานแห่งท้องทะเลภาคแรกโด่งดังก่อน จากนั้นจึงใช้ภาคสองท้าทายเซี่ยนอวี๋!’
‘นิทานของฉู่ขวง มีข้อได้เปรียบหนึ่งก็คือภาพประกอบของอิ่งจือ’
‘เดวิดตั้งใจเตรียมภาพประกอบ แต่ไม่ได้ใช้ในภาคแรก แต่กลับตอนซ่อนคมมีดได้จนถึงเวลาวางแผงตำนานแห่งท้องทะเลกว่าจะเปิดเผย เพื่อให้ฉู่ขวงไม่ทันตั้งตัว!’
‘ถ้าไม่ได้รู้จักเซี่ยนอวี๋มาก่อน เดวิดไม่มีทางนึกถึงเรื่องภาพประกอบ!’
‘…’
ไป๋เจี๋ยเป็นเพียงกระดานกระโดดที่เดวิดใช้เพื่อข้ามมาท้าทายฉู่ขวง?
ไม่รู้ว่าไป๋เจี๋ยจะรู้สึกอย่างไรเมื่อรับรู้เรื่องนี้
แต่จำต้องยอมรับ ว่าแผนของเดวิดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จากรากฐานของของกระแสภาคแรก ตำนานแห่งท้องทะเลทำยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ!
และผู้อ่านก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าครึ่งหลังของเห็นตำนานแห่งท้องทะเลมีภาพประกอบสุดวิจิตร!
ไม่นาน ยอดขายตำนานแห่งท้องทะเลแตะสถิติที่สูงมาก!
และเมื่อเวลาสิบโมงเช้ามาถึง คำวิจารณ์ของตำนานแห่งท้องทะเลภาคต่อก็ปรากฏขึ้น!
‘นิทานของเดวิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก!’
‘เหมาะกับการใช้สอนเด็กมาก!’
‘สไตล์ภาพของภาคแรกยังคงมีอยู่ คุณภาพไม่เพียงไม่ลดลง แต่กลับสูงขึ้นด้วย’
‘อ่านพร้อมกับภาพประกอบแล้วสนุกมาก รู้สึกว่าสังเวียนนี้ยิ่งใหญ่กว่าที่คิดอีกแฮะ ชอบนิทานที่เกิดขึ้นในทะเลมากเลย’
‘ภาคสองของพี่น้องในตำนานได้ต่อสู้กับปลาฉลามด้วย ตื่นเต้นนนน!’
‘เดวิดสมแล้วที่เป็นนักเขียนนิทานที่เอาชนะไปเจี๋ยได้ ไม่มาแนวทางเด็กๆ อย่างเจ้าหญิงเจ้าชาย เด็กโตก็อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน’
‘เนื้อเรื่องช่วงที่พี่น้องในตำนานเผชิญกับพายุฝนในทะเลให้แง่คิดดีจริงๆ ’
‘ได้ยินว่าผลงานเรื่องนี้เปิดประชันวรรณกรรมกับฉู่ขวง บางทีเดวิดอาจกำลังเหยียบไหล่ฉู่ขวงและไป๋เจี๋ย ก้าวขึ้นเป็นเทพในวงการนิทานก็ได้’
‘เดวิดนอนรอมงเลย!’
‘ถ้าแข่งนิทานสั้น น่ากลัวว่าเดวิดสองคนก็สู้ฉู่ขวงไม่ไหว แต่ถ้าเป็นนิทานยาว ชัยชนะของเดวิดชัดเจนแล้ว ถึงยังไงฉู่ขวงขวงอาจสู้กับไป๋เจี๋ยไม่ได้ด้วยซ้ำ’
‘…’
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าตำนานแห่งท้องทะเลนั้นสนุกจริงๆ
ไม่เช่นนั้นเดวิดไม่มีทางเอาชนะไป๋เจี๋ยได้
นิทานบอกเล่าเรื่องราวของพี่น้องคู่หนึ่งซึ่งออกสำรวจทะเลบนเรือลำใหญ่
ในทะเลมีพายุ ความยากลำบาก และอุปสรรคต่างๆ
นอกจากนี้สองพี่น้องยังผูกมิตรกับสัตว์ทะเลอีกด้วย
พวกเขายังรวมมือกันเพื่อจัดการกับสัตว์ทะเลที่ทรงพลังและชั่วร้าย
เป็นนิทานซึ่งเปี่ยมไปด้วยแนวคิด
กอปรกับภาพประกอบของท้องทะเลในเรื่องราว ทั้งประณีตและสวยงาม จึงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม
‘โปรดชี้แนะด้วย!’
ในคืนนั้นเอง เดวิดเมนชันถึงฉู่ขวงอีกครั้งด้วยความมั่นใจเปี่ยมล้น!
ชาวเยี่ยนเงียบลงแล้ว
ฉู่ขวงจะทนต่อคลื่นลูกนี้ได้ไหมนะ?
กลับเป็นชาวเน็ตบางส่วนจากฉินโจวซึ่งยังคงมองโลกในแง่ดี
ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตจากฉินโจวเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอย่างติดตลก เพื่อปลอบใจชาวเยี่ยน
“ตอนนั้นเหลิ่งกวงกับฉู่ขวงประชันนิยายสืบสวนสอบสวน เหลิ่งกวงลงมือก่อน บอกว่าโปรดชี้แนะด้วย เรื่องราวหลังจากนั้นถ้าใครไม่รู้ก็ลองเสิร์ชดูได้ บนอินเทอร์เน็ตมีบันทึกไว้”
แน่นอน
ถึงแม้ปากจะบอกว่ามองโลกในแง่ดี ทว่าในใจของชาวฉินหลายคนก็แอบปาดเหงื่ออยู่เช่นกัน
เดวิดแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้
ส่วนฉู่ขวง ทุกคนต่างรู้ดีว่านิทานยาวไม่ใช่แนวที่ฉู่ขวงถนัดที่สุด
นิทานที่ฉู่ขวงเขียนได้ดีที่สุดคือนิทานสั้น
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเมื่อเดวิดมีมีฐานผู้อ่านจากตำนานแห่งท้องทะเลภาคแรกมาเป็นทุนเดิม
เพียงแต่ภาพเหตุการณ์นี้น่าสนใจจริงๆ
ชาวเยี่ยนซึ่งครั้งหนึ่งเคยมองว่าฉู่ขวงเป็นหอกข้างแคร่ ปัจจุบันนี้เริ่มเป็นห่วงเป็นใยฉู่ขวง?
และผู้ที่ปลอบใจชาวเยี่ยน ก็คือชาวฉิน?
ทำไมถึงรู้สึกว่ามันแปลกๆ
……
ในที่สุดหลินเยวียนก็เขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์เสร็จ
เวลาที่ใช้จนกระทั่งผลงานเสร็จสมบูรณ์นั้นเใกล้เคียงกับที่เขาประเมินไว้ล่วงหน้า
เขาไม่ได้เข้าไปติดตามกระแสบนอินเทอร์เน็ต ทว่าให้จินมู่ติดต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูในทันที
เพราะฉะนั้น
ในเย็นวันเดียวกัน
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูโพสต์ประกาศ ใจความว่า
‘นิยายยาวเรื่องที่สองจากจักรวาลแดนนิทานของฉู่ขวง อลิซในแดนมหัศจรรย์ จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งสัปดาห์ ได้ยินว่าแมดแฮตเตอร์หลงรักอลิซ ซูเค่อเป้ยถ่าเป็นหนูที่พูดได้ นิทานอันเหลือเชื่อเหนือจินตนาการเรื่องแรกในประวัติศาสตร์บลูสตาร์ เปิดให้พรีเซลออนไลน์แล้วบนเว็บไซต์แอมะแซน[1] !’
เบื้องหลังการโปรโมต
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากเหล่าบรรณาธิการคลังหนังสือซิลเวอร์บลูอ่านอลิซในแดนมหัศจรรย์จบแล้วมีความคิดว่าอย่างไร
และข้อความประเมินว่า ‘นิทานอันเหลือเชื่อเหนือจินตนาการเรื่องแรกในประวัติศาสตร์บลูสตาร์’ ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ชมมากนัก
จากการถกเถียงกันของชาวเน็ต ดูเหมือนว่าหลายคนจะรู้สึกว่าตำนานแห่งท้องทะเลคว้าชัยชนะได้อย่างแน่นอน
เดวิดจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายในการประชันวรรณกรรมในครั้งนี้
รวมไปถึงหนิงอี้ซึ่งคิดเช่นนี้เหมือนกัน
หนิงอี้เป็นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของเว็บไซต์จำหน่ายหนังสือออนไลน์ชื่อดังขบนบลูสตาร์ ‘แอมะแซน’
ร้านหนังสือแบ่งเป็นออนไลน์และออฟไลน์
ตลาดออฟไลน์มีร้านหนังสือรายใหญ่แต่ละแห่งเป็นผู้ควบคุม
ส่วนตลาดออนไลน์กลับไม่มีร้านค้า และมีการขายหนังสือออนไลน์โดยตรง
บางคนชอบไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือ ทว่าคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านมักสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ จากนั้นเว็บไซต์ขายหนังสือจะมีบริการจัดส่งถึงบ้าน
ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขายแอมะแซน หนิงอี้ได้ตัดสินใจสั่งซื้ออลิซในแดนมหัศจรรย์จำนวนหนึ่งล้านเล่มจากคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
ใช่แล้ว
ถึงแม้หนิงอี้จะคิดว่าฉู่ขวงอาจพ่ายแพ้ต่อเดวิดในการประชันวรรณกรรม
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนังสือของฉู่ขวงจะขายไม่ดี
ผลงานของฉู่ขวงติดในการจัดอันดับยอดขายประจำปีบนแอมะแซนทุกปี
นี่คือพลังของฉู่ขวงในตลาดหนังสือ
ต่อให้พ่ายแพ้ต่อเดวิด เขาก็เชื่อว่าสต็อกหนังสืออลิซในแดนมหัศจรรย์หนึ่งล้านเล่มจะขายหมด
ส่วนสิ่งที่เรียกว่าพรีเซล…
นี่เป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ ซึ่งหนิงอี้คิดขึ้นมาเอง
ภาพยนตร์ในปัจจุบันชอบเล่นการพรีเซลไม่ใช่หรือ เขาก็อยากลองดูบ้างว่านิทานพรีเซลได้ไหม
เมื่อก่อนมีนิยายเคยเปิดพรีเซล แต่ผลลัพธ์กลับธรรมดามาก
การพรีเซลภาพยนตร์นั้นอาศัยที่ตัวอย่างภาพยนตร์และโฆษณาที่น่าสนใจสารพัดรูปแบบ รวมไปถึงแรงดึงดูดจากผู้กำกับและนักแสดงอีกด้วย
ถ้าเป็นนิยาย คงจะโปรโมตตัวอย่างพล็อตเรื่องล่วงหน้าไม่ได้ล่ะมั้ง?
เพราะนั่นไม่ได้เรียกว่าโปรโมตล่วงหน้า แต่เรียกว่าสปอยล์ต่างหาก
ถึงกระนั้น ผลงานของฉู่ขวงเปิดพรีเซลย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านักเขียนทั่วไป อย่างไรเสียฉู่ขวงก็ไม่ใช่คนธรรมดา
ถึงอย่างไรต่อให้กิจกรรมนี้จะล้มเหลว เว็บไซต์แอมะแซนก็ไม่นับว่าเสียหาย
หากกล่าวถึงแรงดึงดูด ฉู่ขวงย่อมมีแรงดึงดูดในระดับหนึ่ง
แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีใครรู้ว่านิทานเรื่องนี้ของฉู่ขวงจะเป็นอย่างไร จะมีใครยอมซื้อทันทีไหมนะ?
หนิงอี้ประเมินว่าเป็นไปไม่ได้สักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้มากที่แฟนคลับตัวยงจำนวนหนึ่งของฉู่ขวงจะสั่งจองในทันทีโดยไม่ต้องยั้งคิด เพื่อสนับสนุนฉู่ขวง
เงินที่หนิงอี้จะได้รับ คือเงินจากแฟนคลับตัวยงของฉู่ขวงเหล่านี้เอง
เพราะฉะนั้นพรีเซลที่ว่านี้ จะบอกว่าไร้ความหมายก็คงไม่ได้ อย่างน้อยก็เป็นรายรับ
ยุงต่อให้เล็ก ก็ยังเป็นเนื้อใช่ไหมล่ะ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชำระมัดจำและสั่งซื้อออนไลน์เสมอ
หนิงอี้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพราะแนวคิดเช่นนี้
ปรากฏว่า
หลังจากกิจกรรมเริ่มต้นขึ้นสิบห้านาที โทรศัพท์มือถือของหนิงอี้ก็ดังขึ้น เป็นสายจากเลขาสุดเซ็กซี่
“หัวหน้า[2] …”
เสียงของเลขาสุดเซ็กซี่สั่นเครือเล็กน้อย
หนิงอี้กล่าว “พรีเซลเป็นยังไงบ้าง”
“สถานการณ์ไม่ค่อยดีค่ะ…”
เลขาสุดเซ็กซี่แลดูร้อนรน และน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“คนซื้อน้อยหรือ?”
หนิงอี้ตกใจ สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ฉู่ขวงไม่มีแฟนคลับตัวยงที่พร้อมสนับสนุนโดยที่ไม่ต้องคิดเลยหรือไง?
หรือเป็นคลังหนังสือซิลเวอร์บลูที่ทุ่มกำลังโปรโมตไม่มากพอ
“ไม่ใช่ค่ะ!”
เสียงของเลขาสุดเซ็กซี่สั่นเครือยิ่งกว่าเดิม
“ชาวเน็ตสั่งจองอลิซในแดนมหัศจรรย์หนึ่งล้านเล่มหมดภายในเวลาสั้นๆ แค่สิบห้านาที ตอนนี้เว็บไซต์เริ่มค้าง ผู้อ่านที่ยังกดจองหนังสือไม่ได้กำลังถล่มพื้นที่แสดงความคิดเห็น คุณควรติดต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูโดยด่วน เราต้องการหนังสือเพิ่ม แล้วก็อย่าลืมเรียกโปรแกรมเมอร์มาทำหน้าที่ด้วยนะคะ!”
เลขาสุดเซ็กซี่กำลังตะโกนลั่น!
ฮะ?
หนิงอี้สับสน!
สมองของเขาหยุดทำงาน!
ชั่วขณะนั้น หนิงอี้ก็ตระหนักได้ว่า ที่แท้สิ่งที่เรียกว่ารากฐานซึ่งตำนานแห่งท้องทะเลภาคหนึ่งได้วางไว้ เมื่อมาอยู่ต่อหน้าคำว่า ‘ฉู่ขวง’…
ก็ไม่เท่าไหร่