Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 93 พ่อเพลงหรือพ่อบังเกิดเกล้า
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 93 พ่อเพลงหรือพ่อบังเกิดเกล้า
ตอนที่ 93 พ่อเพลงหรือพ่อบังเกิดเกล้า
เป็นอีกหนึ่งวันทำงาน
ระหว่างทางไปยังบริษัท หลินเยวียนก็โทรศัพท์หาซุนเย่าหัว “รุ่นพี่ครับ อีกเดี๋ยวผมจะเข้าบริษัท พี่ไปรอผมที่ห้องอัดเสียง หรือจะไปที่แผนกประพันธ์เพลงชั้นสิบก็ได้ครับ”
“ได้”
ซุนเย่าหั่วตอบ
หลังจากวางสาย หลินเยวียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกชอบกล คนที่ก่อนหน้านี้เคยช่างจำนรรจา วันนี้กลับพูดน้อยกว่าปกติมาก
ผ่านไปสิบนาที
หลินเยวียนมายังแผนกประพันธ์เพลง ทันใดนั้นก็เห็นซุนเย่าหั่วนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวเล็กหน้าประตู จึงเอ่ยถาม “ซ้อมเพลงไปเป็นยังไงบ้างครับ”
“ฉัน…”
ซุนเย่าหั่วคล้ายกับมีเรื่องอยากพูดแต่ก็ไม่พูดออกมา
หลินเยวียนคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ซ้อมมา ขณะที่กำลังจะเอ่ยปลอบ จู่ๆ หน้าประตูก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา “อาจารย์เซี่ยนอวี๋อยู่หรือเปล่าครับ”
“มีอะไรเหรอครับ”
หลินเยวียนมองไปยังคนที่ถาม
เขาเป็นผู้ชายสวมแว่นตาท่าทางสุขุม เขายิ้มบางให้กับหลินเยวียน “ผมชื่อเถาหราน คุณคงเป็นอาจารย์เซี่ยนอวี๋ใช่มั้ยครับ ดูอายุน้อยกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ที่นี่ไม่เหมาะจะพูดคุย พวกเราไปคุยกันที่ร้านกาแฟชั้นบนได้มั้ยครับ”
“แป๊บนึงนะครับ”
หลินเยวียนบอกกับซุนเย่าหั่ว “เดี๋ยวผมมาหานะครับ”
“อืม นายไปทำธุระก่อนเถอะ”
ซุนเย่าหั่วเงยหน้าขึ้น ฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา
เถาหรานกวาดตามองซุนเย่าหั่วด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะยิ้มให้หลินเยวียนอีกครั้ง “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ เชิญทางนี้”
หลินเยวียนพยักหน้า
อีกฝ่ายพาหลินเยวียนไปยังร้านกาแฟชั้นบน เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่ายว่าจะเลี้ยงเครื่องดื่ม ก็พลอยให้หลินเยวียนพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ผมแนะนำตัวอีกครั้งก็แล้วกัน”
ผู้ชายท่าทางสง่างามออกตัวพูด “ผมชื่อเถาหราน เป็นผู้จัดการของจินซูอวี่นักร้องในบริษัท ที่มาวันนี้ก็เพราะอยากขอเพลงจากคุณ เพลงกุหลาบแดงที่คุณเขียนช่วงนี้ ซูอวี่ชอบมากครับ”
หลินเยวียนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ย “ผมยังไม่ได้ปล่อยเพลง”
เถาหรานยิ้ม “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าพวกผมรู้เรื่องเพลงนี้ได้ยังไง ประเด็นสำคัญคือซูอวี่ของเราอยากร่วมงานกับคุณมาก เขายังแอบเป็นแฟนคลับของคุณด้วยนะครับ มักพูดถึงชื่อเสียงของคุณกับผมอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ได้ร่วมงานกับคุณ เขาตั้งหน้าตั้งตารอมากเลยครับ”
“ขอโทษครับ”
หลินเยวียนพูด “เพลงนี้ผมให้คนอื่นไปแล้ว”
ใบหน้าของเถาหรานยังคงประทับรอยยิ้มดังเดิม “เท่าที่ผมรู้ นักร้องที่คุณเลือกในครั้งนี้คือซุนเย่าหั่วใช่มั้ยครับ ซุนเย่าหั่วเพิ่งเดบิวต์ ฐานแฟนคลับไม่ได้ดีมาก พูดตามตรงก็คือทำให้ผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างกุหลาบแดงเสียเปล่า แน่นอนว่าผมได้ถามความเห็นเขาแล้ว เขาบอกว่าพวกคุณยังไม่ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ เพราะงั้นเรื่องนี้มาคุยกับคุณก็ได้แล้ว…และจินซูอวี่ก็เป็นเป็นนักร้องแถวหน้าที่บริษัทอุ้มชูมาเป็นอย่างดี เพลงเดียวกันให้คนละคนร้อง ผลลัพธ์อาจไม่เหมือนกันเลยนะ เชื่อว่าคุณเข้าใจจุดนี้เป็นอย่างดี”
“นักร้องแถวหน้า?”
หลินเยวียนส่ายหน้า ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป
อะไรฟระเนี่ย นักร้องแถวหน้าร้องแล้วไม่ดีหรือไง
เถาหรานคิดว่าหลินเยวียนปฏิเสธทันควันเช่นนี้ ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ คุณมีความต้องการยังไงเสนอมาได้เลยครับ ขอแค่ผมจัดการได้ผมจะตกลงทุกเรื่อง…”
หลินเยวียนยืนกรานหนักแน่น “นักร้องแถวหน้าไม่ได้ครับ”
เถาหรานไม่เข้าใจสารบบความคิดของหลินเยวียน นักประพันธ์เพลงทุกคนชอบร่วมงานกับนักร้องแนวหน้า ทำไมพอเป็นคุณแล้วถึงบอกว่านักร้องแถวหน้าไม่ได้ซะล่ะ
หรือว่าอยากได้ระดับราชาเพลง?
งั้นทำไมยังเลือกซุนเย่าหั่วอยู่อีกล่ะ
เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “พวกผมสามารถลดรายได้ส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดได้ ตามหลักแล้วไม่มีขั้นตอนนี้ แต่เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของคุณไว้ พวกผมยินดีถอยให้ อีกอย่างทางพวกเราก็จะโอนเงินให้พวกคุณเป็นการส่วนตัว คุณเรียกราคามาได้ สักสองล้านเป็นไงครับ นี่เป็นการตกลงกันส่วนตัว ไม่ผ่านช่องทางบริษัท!”
พูดง่ายๆ ก็คือ
พวกเขาจะเพิ่มเงินให้!
หลินเยวียนชะงักฝีเท้าลง
อีกฝ่ายผ่อนลมหายใจลง เป็นเพราะราคาจริงด้วย!
ต้องจดเอาไว้ หลังจากนี้ยังมีประโยชน์มากโข
จุดอ่อนของเซี่ยนอวี๋…ความโลภ!
เขาผุดยิ้มอีกครั้ง พูดอย่างได้ใจเต็มเปี่ยม “ตอนนี้พวกเรามาเจรจากันเรื่องรายละเอียดราคากันเถอะครับ อาจารย์เซี่ยนอวี๋เชิญนั่ง”
“ไม่ใช่ครับ”
หลินเยวียนหันไปพูดกับเถาหราน “ผมแค่อยากถามว่า ทางแผนกตรวจสอบ ใครเป็นคนปล่อยเพลงหลุดออกมา บอกชื่อผมได้มั้ยครับ”
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋”
สีหน้าของเถาหรานเคร่งขรึมขึ้นมา
สีหน้าของหลินเยวียนก็ขึงขังเช่นกัน “คุณอาจคิดว่านี่บริษัทของตัวเองไม่เป็นไร แต่ถ้าวันนี้เขาปล่อยเพลงหลุดไปให้พวกคุณได้ วันข้างหน้าก็อาจปล่อยเพลงหลุดออกไปข้างนอกได้เหมือนกัน ให้คนแบบนี้มาตรวจสอบเพลงของผม ผมไม่ไว้ใจ”
“พวกเราคิดซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน”
เถาหรานลุกขึ้นยืน สีหน้าออกจะย่ำแย่อยู่สักหน่อย
“ถ้าคุณไม่บอกผม ผมก็จะไปถามเอง”
หลินเยวียนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ต่อสายหาเหล่าโจวต่อหน้าเถาหราน “แผนกตรวจสอบมีคนแอบปล่อยเพลงผมให้นักร้องในบริษัทครับ”
เหล่าโจวงงงันไปชั่วครู่ “ฮะ?”
หลินเยวียนพูดสั้นๆ “ตรวจสอบมั้ยครับ”
เหล่าโจวกล่าวกลั้วหัวเราะ “คนที่มีอิทธิพลกับแผนกตรวจสอบแบบนี้ อย่างน้อยต้องเป็นนักร้องแถวหน้าของบริษัทขึ้นไป เบื้องหลังอาจมีการอนุมัติจากคนระดับสูงบางคน เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับนาย ไม่จำเป็นต้องไปสนใจอะไรพวกเขามาก เดี๋ยวฉันไปโวยก็เรียบร้อยแล้ว จัดการเรื่องนี้ให้นายได้แน่”
หลินเยวียนยังคงพูดสั้นๆ “ตรวจสอบมั้ยครับ”
ทันใดนั้นเหล่าโจวก็พูดขึ้นมาอย่างดุดัน “ตรวจสอบสิ! ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว! ตรวจสอบให้ถึงที่สุด! เอาน้ำพักน้ำแรงของแผนกประพันธ์มาล้อเล่นแบบนี้! ไม่ว่าจะเป็นใครฉันจะเอามันออกให้ได้!”
“โอเคครับ”
หลินเยวียนวางสาย
เหล่าโจววางโทรศัพท์ พูดขึ้นอย่างหัวเสีย “ไอ้บ้าที่ไหนมันมาหาเรื่องกับเซี่ยนอวี๋วะเนี่ย ฉันต้องไปคุยกับเบื้องบนสักยกแล้ว”
ผู้ช่วยตกอกตกใจ “ล่วงเกินเซี่ยนอวี๋?”
เหล่าโจวพยักหน้า “เซี่ยนอวี๋มีผลงานใหม่ใช่มั้ยล่ะ ปล่อยเพลงก็ไม่บอกฉันก่อน แถมท่าทีตอนที่แจ้งฉันเมื่อกี้นี่มันยิ่งกว่าพ่อเพลงซะอีก เด็กคนนี้นี่มันเอาใจยากเหมือนพ่อเพลงขึ้นทุกวัน”
ผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง “คุณโกรธเหรอครับ”
เหล่าโจวหัวเราะลั่น “ฉันจะไปโกรธอะไรล่ะ ฉันไม่ได้ไปล่วงเกินเขาสักหน่อย อีกอย่างเซี่ยนอวี๋ก็วัยรุ่นคนหนึ่ง ไม่เหมือนคนแก่อย่างพวกเรา ยังหนุ่มยังแน่นก็ไฟแรงเลือดร้อนไม่ใช่หรือไง!”
“…”
ในร้านกาแฟ
เมื่อได้ยินหลินเยวียนคุยโทรศัพท์ เถาหรานก็หน้าถอดสีทันที
แต่หลินเยวียนกลับยังไม่หยุด ไม่ได้ปรายตามองเถาหรานด้วยซ้ำ แล้วโทรศัพท์หาจ้าวเจวี๋ย พูดประโยคเดิม “แผนกตรวจสอบมีคนแอบปล่อยเพลงผมให้นักร้องในบริษัทครับ”
จ้าวเจวี๋ยตอบ “ฉันจัดการเอง”
หลินเยวียนวางสาย ก่อนจะเดินไปยังแคชเชียร์
พนักงานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบหยวนค่ะ”
หลินเยวียนพูด “แค่แก้วของผมครับ”
พนักงานเหลือบมองเถาหรานซึ่งแววตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล กระแอมครั้งหนึ่ง “หกสิบหยวน…”
‘โหดร้ายมาก’
หลินเยวียนกลอกตาขณะจ่ายเงิน พลางลอบพึมพำในใจ
แต่เขากลับไม่รู้ว่า เพื่อที่จะประจบประแจงเขา เถาหรานได้สั่งกาแฟที่แพงที่สุดของที่นี่
เมื่อกลับไปถึงแผนกประพันธ์เพลง หลินเยวียนก็เห็นซุนเย่าหั่วนั่งอยู่หน้าประตู สีหน้าเศร้าสร้อยคอตก ท่าทางน่า สงสารจับใจ
เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ซ้อมเพลงได้แล้วใช่มั้ยครับ”
ซุนเย่าหั่วเงยหน้าขึ้นมองหลินเยวียน ขอบตาแดงระเรื่อ “หา?”
หลินเยวียนพูด “พรุ่งนี้อัดเพลง”
พูดจบ หลินเยวียนก็กลับไปยังที่นั่งของตน
ซุนเย่าหั่วซึ่งนั่งอยู่หน้าประตูตะลึงงันไปหลายวินาที อยู่ๆ น้ำตาก็หลั่งรินออกมา โค้งคำนับต่ำให้แผนกประพันธ์เพลง ก่อนจะเข้าไปหลบในห้องน้ำ
ซุนเย่าหั่วโทรศัพท์หาผู้จัดการ ปาดน้ำตาเอ่ยว่า “เพลงกุหลาบแดง ยังให้ผมร้อง”
“เซี่ยนอวี๋ไม่ได้ตอบตกลงเถาหรานเหรอ?”
“อื้ม”
ผู้จัดการเงียบงันไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า “นี่มันพ่อเพลงที่ไหน พ่อบังเกิดเกล้าชัดๆ เลย…”
…………………………………………………….