Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 964
GGS:บทที่ 964 การแสดงสุดแสนจะมหัศจรรย์
เมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเสี่ยวรุย ทั้งเซียงหลงและคนอื่นๆที่อยู่ในที่นั้นเกือบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ นั่นก็เพราะสิ่งที่อยู่ในมือของเสี่ยวรุยก็คือเศษกระดาษสีแดงอยู่เต็มมือซ้าย แต่พอดีๆมันเหมือนจะเป็นกระดาษที่พับเอาไว้แบบง่ายๆ มายากลอะไรกันที่ใช้แค่กระดาษพับแบบนี้เนี่ย
เสี่ยวรุยเองในตอนนี้ก็รับรู้ถึงท่าทางเหยียดๆของทุกคนในงานแต่เขาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดเพราะเขาทำอะไรไม่ได้แล้ว
ในทันทีทันใดเขาก็ได้โยนกระดาษขึ้นไปให้กระจายไปโดยรอบ กระดาษที่ถูกโยนไว้ในตอนนี้ค่อยๆหมุนเคว้งคว้างอยู่กลางกระดาษระยิบระยับและค่อยๆลอยลงมาที่พื้นอย่างช้าๆ นี่ทำให้ทุกคนที่ดูนึกอายแทนและคิดเยาะเย้ยอยู่ในใจว่าแค่โปรยกระดาษนี่เขาก็เรียกว่ามายากลด้วยหรอ
เสี่ยวรุยเองในตอนนี้รู้สึกปวดใจขึ้นมาในทันทีราวกับว่าเขากำลังเป็นกระสอบทรายที่กำลังสายตาของผู้คนที่เปรียบได้ดั่งหมัดกระหน่ำต่อยเขาอย่างไม่ยั้ง พลางคิดอยู่ในใจว่านี่เขาทำอะไรพลาดไปรึเปล่าหรือว่าซูจิ้งจะแกล้งเขาจริงๆกันแน่
อย่างไรก็ตาม กระดาษที่กำลังปลิวไสวลอยลงต่ำอย่างสวยงามนั้น อยู่ๆพวกมันก็ลอยตัวขึ้นมาราวกับลูกบอลลูนเล็กๆค้างไว้อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะมีเสียงดังปังเล็กๆเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
กระดาษที่อยู่ตรงหน้าของเสี่ยวรุยชิ้นหนึ่งได้กลายสภาพป็นกระดาษรูปหัวใจสีแดงพองโตอยู่ข้างหน้า หลังจากที่ทุกคนทำการจ้องไปยังหัวใจอันนั้น
รอบตัวเสี่ยวรุยก็ค่อยมีเสียงดังปังๆๆเบาๆแบบถี่ยิบ และรอบตัวเขาในตอนนี้กระดาษที่กำลังปลิวไสวรอบตัวนั้นค่อยๆกลายเป็นกระดาษรูปหัวใจดวงน้อยๆที่พองโตสีแดงสดอยู่รอบตัวในทันทีก่อนที่จะค่อยๆลอยขึ้นอย่างช้าๆ
ทุกคนในงานตอนนี้นั้นนอกจากตกตะลึงแล้วพวกเขายังมีความรู้สึกประหลาดใจอยู่เต็มหัวใจ ฉากที่พึ่งจะเกิดต่อหน้าพวกเขานั้น
ถึงแม้จะไม่ได้ดีเด่มากนักแต่ก็ยังทำให้รู้สึกว่าเสี่ยวรุยนั้นมีฝีมืออยู่ดี ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับมืออาชีพแต่ก็ดีกว่าคนทั่วไปมากโขนัก
“โอ้ น่าสนใจ” ลูฉินหมิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“กลนี่น่าจะใช้เหล็กคืนรูปนะ” เซียงหลงได้พูดออกมาอย่างอวดภูมิ นี่ทำให้คนที่มากับเขาถึงกับยิ้มออกมาในความเก่งของลูกพี่ของพวกเขา
“อะไรคือเหล็กคืนรูปอ่ะ” สาวน้อยคนหนึ่งถามออกมา
“เอาง่ายๆก็คือเหล็กที่จะคืนสู่สภาพก่อนที่จะมีการบิดงอได้เองโดยแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยน่ะ เหล็กที่ว่าน่าจะถูกทำเป็นรูปหัวใจเอาไว้แล้วก่อนที่จะถูกสอดเข้าไปในกระดาษโปรย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะโยนขึ้นไปหรือเขวี้ยงไปตรงไหนก็ตาม ไม่นานมันก็จะไปดันให้กระดาษอยู่ในรูปหัวใจ” ชายหนุ่มพวกของเซียงหลงคนหนึ่งอธิบายออกมา
“แล้วทำไมมันลอยได้ล่ะ”
“น่าจะเติมไฮโดรเจนไว้นะ เรื่องแค่นี้เอง”
“อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง” แต่เดิมกลนี้ก็ไม่ได้ดูหวือหวาอะไรอยู่แล้ว แน่นอนว่าคำอธิบายง่ายๆพวกนี้ยิ่งทำให้กลของเสี่ยวรุยดูน่าเบื่อเข้าไปอีก นี่ทำให้สาวน้อยคนนี้เลิกสนใจไปในทันที
เสี่ยวรุยเองในตอนนี้ที่ได้เห็นกระดาษที่โปรยออกไปนั้นกลายเป็นหัวใจสีแดงสดลอยอยู่รอบตัวเข้าก็ทำได้เพียงทำตาปริบๆไปสองที
ตอนนี้เขารู้สึกตัวได้ในทันทีว่ากลที่เขาเล่นนั้นถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำได้ยังไงแต่มันก็ถือว่าสำเร็จแล้วตามที่ซูจิ้งได้บอกเอาไว้ แต่เมื่อได้เห็นเซียงหลงและเพื่อนของเขาทำอวดดีเปิดเผยกลของเขานี่ทำให้เขาเกลียดเซียงหลงและลูกน้องของหมอนี่เต็มหัวใจ
แต่ยังไงซะ กลของเขาก็พึ่งจะแสดงออกไปได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เขาจะยังถอดใจไม่ได้ในตอนนี้ เขายินดีที่จะเสี่ยงให้ถึงที่สุดดีกว่าปล่อยให้คนอื่นดูถูกเขาได้โดยไม่ได้ตอบโต้อะไร
คิดได้ดังนั้นเขาก็ไม่รอช้าได้ยื่นมือขวามาข้างหน้าก่อนที่จะโยนขึ้นไป ภาพที่ทุกคนเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือกระดาษได้ถูกเขวี้ยงออกมาจากมือขวาของเสี่ยวรุยและได้กระจายไปทั่วรอบตัวของเขาเล่นเดิม ทุกคนที่เริ่มจะคิดว่ากลนี้หน้าเบื่อ อยู่ๆก็ได้เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดคิดขึ้นมาตรงหน้า
สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ในตอนนี้ก็คือกระดาษที่เปลี่ยนรูปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกมันไม่ได้เปลี่ยนเป็นรูปหัวใจ พัด หรืออะไรที่มันดูง่ายๆอีกตัวไป กระดาษได้กลายเป็นเด็กทารกที่มีปีกสีขาวติดอยู่ที่หลัง พร้อมกับถือคันธนูและลูกศรอยู่ในมือ มันดูสมจริงมากจนทำให้ทุกคนคิดไปว่ามีเด็กที่มีปีกกำลังบินอยู่ตรงหน้าจริงๆ
และมีสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือปีกของเด็กน้อยกำลังกระพรือปีกโบกสะบัดไปมาอย่างสวยงามให้ตัวเองลอยยอยู่ ถึงแม้ตอนแรกจะพอดูออกว่าเป็นเพียงกระดาษพับ แต่ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนจริงอย่างมาก
นี่ทำให้หลายๆคนคิดอยู่ในใจว่าหากนี่ทำมาจากเหล็กคืนรูปจริงล่ะก็มันทำได้อย่างนี้ด้วยเหรอ ต่อให้ทุ่มเงินมากมายมหาศาลก็ตาม ไม่มีทางที่จะหาเทคนิคอะไรที่จะควบคุมพวกมันได้เสมือนจริงแบบนี้แน่นอน
ยิ่งเหล็กคืนรูปที่ว่ามายิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อให้ไฮโดรเจนสามารถทำให้มันบินได้จริง แต่มันก็ควรจะลอยขึ้นไปเลย แต่นี่กลับมีแรงลมออกมาจากการกระพือปีกแบบนี้ กระดาษนี่กำลังพยุงตัวเองอยู่บนอากาศชัดๆ
หลังจากที่ทุกคนกำลังตะลึงงันพลางคิดหาเคล็ดของกลที่ซ่อนอยู่นี้ เทวดาตัวน้อยที่กำลังลอยอยู่ในอากาศอยู่ๆก็ได้ทำการดึงธนูที่อยู่ในมือของตัวเอง ก่อนที่จะปล่อยลูกศรที่มีหัวเป็นรูปหัวใจให้บินออกไปอย่างช้าๆ และแน่นอนว่าเทวดาตัวน้อยที่มีลูกศรรูปหัวใจอยู่ในมือนั่นก็คือคิวปิด (กามเทพ) นั่นเอง
“ดึ๋ง ดึ๋ง” เสียงของคันธนูที่ได้ปล่อยลูกศรออกไปจำนวนศรดอกได้ดังชัดจนทุกคนได้ยินถึงแม้จะไม่ได้ดังนัก และตัวลูกศรนั่นเอง
ลูกหนึ่งก็ได้ค่อยๆลอยไปหาลูลู่ที่ในขณะนี้กำลังตกตะลึงเลยไม่ได้ขยับตัวไปไหน อีกลูกหนึ่งก็ได้ลอยไปยังเสี่ยวรุยที่กำลังยืนนิ่งเพราะตกตะลึงไม่ต่างกัน
และนั่นเองทำให้ลูกศรทั้งสองก็ได้ไปจิ้มอยู่ที่หน้าอกของคนทั้งคู่แทบจะพร้อมๆกันโดยไม่มีอะไรขวางกั้น เมื่อเป็นดังนั้น บรรดากระดาษที่ลอยอยู่ก็ได้มีเสียงดังฟึ่บไปแทบจะพร้อมกันก่อนที่จะกลับกลายเป็นกระดาษดังเดิม นี่เป็นการบ่งบอกว่ากลของเสี่ยวรุยนั้นเสร็จสิ้นแล้ว
“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ” ลูฉินหมิงได้พูดออกมาด้วยท่าทีสนุกสนาน
“นี่มัน…ใช้วิธีอะไรกันเนี่ย” ลูมู่เองที่พยายามจะจับผิดกลเช่นเดียวกันได้แต่พูดออกมาด้วยท่าทีตะลึงงัน
“ทำได้ยังไงอ่ะ” ลูลู่ มู่ติง และคนอื่นๆเองก็ได้แต่พูดออกมาอย่างตกตะลึงไม่ต่างกัน
“เหล็กคืนรูป เหล็กคืนรูปทำอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ” สาวน้อยที่เคยฟังคำอธิบายจากลูกน้องของเซียงหลงก่อนหน้านี้ได้ถามออกมาอย่างดูถูก
“นี่…” ชายหนุ่มลูกน้องของเซียงหลงที่ทำท่าอวดภูมิก่อนหน้านี้ถึงกับพูดไม่ออกและพยายามหาคำตอบไปในคราวเดียวกัน เขาเองก็คิดได้แล้วว่าไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่ใช่เหล็กคืนรูปอย่างแน่นอน
“พี่เซียง มันทำได้ยังไงกัน” ชายหนุ่มอีกคนได้แอบกระซิบถามเซียงหลง
“อย่าเพิ่งมาถาม ขอฉันคิดก่อน” เซียงหลงเองก็ได้หันไปกระซิบตอบแบบอารมณ์เสียไม่น้อย ตอนนี้หัวสมองของเขากำลังแล่นแบบสุดกำลังเพื่อจะหาคำตอบให้ได้ว่าเสี่ยวรุยใช้ทริคอะไรกับมายากลนี้
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็คิดไม่ออกเพราะมายากลเมื่อครู่ไม่ได้มีร่องรอยอะไรเลยแม้แต่น้อยแถมแม้แต่เขาเองก็ยังตะลึงไปไม่น้อยเหมือนกัน
เหตุผลนั่นก็ผลว่าหากว่าคนๆนั้นเมื่ออยู่ในวงการมายากลแล้วหากมองแวบแรกก็จะคิดเพียงว่านี่เป็นกลกระจอกที่ใช้เล่นเวลาเปิดงานทั่วไป
แต่เมื่อดูจนจบแล้วพวกเขาจะตระหนักได้ในทันทีว่ามายากลเมื่อครู่นี้สามารถเป็นดาวเด่นของงานเลี้ยงของคนรวยในฤดูใบไม้ผลได้เลย
แม้แต่เอาออกไปแสดงให้ชาวต่างชาติดูก็ยังได้ ต่อให้เอาไปประกวดแข่งขันที่ไหนก็ไม่มีทางแพ้ได้อย่างแน่นอน
แต่คำถามคือคนอย่างเสี่ยวรุยสามารถแสดงกลที่ทรงพลังแบบนี้ได้ยังไงกัน นี่ทำให้เซียงหลงนั้นว้าวุ่นใจอย่างมากในตอนนี้
อย่าว่าแต่เซียงหลงและคนอื่นๆเลย แม้แต่เสี่ยวรุยเองในตอนนี้ก็ยังยืนอึ้งนิ่งอยู่ที่เดิมเมื่อได้เห็นฉากการแสดงครึ่งหลังนี้ไป
เขาไม่คิดเลยจริงๆว่ากระดาษทีเขาเขวี้ยงออกไปนั้นจะกลายเป็นกามเทพและยิงลูกศรออกมา แน่นอนว่าเรื่องนี้เขารู้ดีว่าไม่ใช่ฝีมือเขาอย่างแน่นอน
ตอนนี้เขาไม่นึกแปลกใจอีกต่อไปว่าทำไมซูจิ้งถึงบอกว่าเขาสามารถจะแสดงกลได้ในทันที นั่นเป็นเพราะซูจิ้งจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้วนี่เอง
“คุณพี่รุยแสดงกลได้สุดยอดไปเลย” ลูลู่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจและสนุกออกมาอย่างน่าจับใจ
“คุณพี่รุยสุดยอดดดด” สาวๆคนอื่นเองก็อดที่จะพูดเยินยอเสี่ยวรุยไม่ได้เช่นเดียวกัน
“ไอ้หนุ่มนี่สุดยอดไปเลยแหะ” ลูฉินหมิงและลูมู่เองก็กล่าวชมเชยออกมา
“ฮี่ฮี่ฮี่ แค่พอใช้ได้แหล่ะครับ” เสี่ยวรุยได้หัวเราะออกมาเล็กน้อยอย่างเอียงอายออกมา พลางคิดไปว่ากลที่เขาพึ่งจะเล่นไปนั้นเป็นพี่สามของเขาเตรียมไว้เล่นให้พี่สะใภ้ดูจริงๆ ถึงว่าทำมันมันดูโรแมนติกขนาดนี้ การที่เขายอมปล่อยให้เขาเล่นแบบนี้ช่างเป็นพี่ที่ห่วงน้องเสียเหลือเกินเลยจริงๆ
เซียงหลงและลูกน้อง(เพื่อนๆ)ได้รีบพุ่งเข้าไปหยิบกระดาษที่ใช้ในการแสดงของเสี่ยวรุยขึ้นมาเพื่อทำการศึกษาหาเคล็ดลับ แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจนั่นก็เพราะว่าอย่าว่าแต่จะมีเหล็กคืนรูปอย่างที่เขาคาดไว้เลย กระดาษที่ใช้อยู่นี้เป็นเพียงกระดาษจริงๆเท่านั้น อย่างดีที่สุดที่พวกเขาพอจะสังเกตุได้คือพวกมันเป็นกระดาษที่มีการวาดอะไรบางอย่างลงไป
“ไหนบอกว่าเป็นเหล็กคืนรูปไม่ใช่เหรอ” สาวน้อยคนนั้นยังถามออกมาด้วยน้ำเสียงกระแซะ
“นี่…” ชายหนุ่มคนที่อวดภูมิถึงกับอายจนพูดอะไรไม่ออก
“คุณพี่รุยคะ พี่ใช้ทริคอะไรถึงได้แสดงกลระดับนี้ได้ยังไงอ่ะ” สาวน้อยอีกคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“ความลับสวรรค์ยังไม่อาจเปิดผลได้ หากมายากลเผยเคล็ดลับมันก็ไม่ใช่กลน่ะสิ” เสี่ยวรุยได้พูดออกมาอย่างได้ใจ แต่ในใจของเขานั้นอยากจะบอกออกไปอย่างสุดเสียงว่า “….ไม่รู้โว๊….ย….ดังๆ” สงสัยเขาคงต้องหาเวลาไปถามพี่สามของเขาทีหลังซะแล้วสิ
มู่ติงในตอนนี้ได้หันหน้าไปมองซูจิ้งในทันที เธอนั้นเป็นสาวที่ฉลาดและชอบสังเกต ก่อนหน้านี้เธอได้แอบเห็นเสี่ยวรุยได้ถูกผลักและถีบออกมาโดยซูจิ้ง
และก่อนที่จะเริ่มการแสดงเสี่ยวรุยยังหันไปมองซูจิ้งราวกับจะขอความกล้าก็ไม่ปานแบบนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าเป็นซูจิ้งที่เตรียมการแสดงไว้ให้เสี่ยวรุยอย่างแน่นอน
แต่ประเด็นคือเขาทำได้ยังไง เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสักนิดว่าซูจิ้งเล่นมายากลได้ด้วย แถมยังเป็นกลที่วิเศษขนาดนี้อีก นี่ยิ่งทำให้เพื่อนของอดีตแฟนของซูจิ้งคนนี้ยิ่งรู้สึกว่าซูจิ้งนั้นลึกลับมากยิ่งขึ้น