Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 1031
GGS:บทที่ 1031 ช็อคโลก(1)
ไม่กี่วันผ่านไป งานแสดงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนานาชาติแห่งเมืองปักกิ่งได้เริ่มขึ้น ในวันเดียวกันนั้นเอง สถาบันวิจัยห้วงเวลาและกาลอวกาศได้จัดงานแถลงเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่สถาบันได้วิจัยจนสำเร็จ
และในงานนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีเพียงหนึ่งแต่เปิดตัวทีเดียวถึงสามชิ้น นี่สร้างความสนใจให้ผู้คนได้พอสมควร
เหตุผลก็เพราะ โดยปกติการที่สถาบันวิจัยหนึ่งๆกว่าจะบรรลุในแต่ละเรื่องนั้น พวกเขาสามารถทำให้เป็นรูปเป็นร่างได้เพียงหนึ่งก็ถือว่าดีมากแล้ว
แต่กับสถาบันวิจัยห้วงเวลาฯ พวกเขาสามารถปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มาจากงานวิจัยของตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครั้งนี้ พวกเขายังเปิดตัวถึงสามชิ้น นี่เป็นอะไรที่สถาบันวิจัยอื่นยากจะรับได้ แม้แต่คนธรรมดายังต้องสนใจจับจ้องเป็นตาเดียว
“ทำไมกลุ่มทุนห้วงเวลาฯไม่ไปจัดงานที่งานแสดงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนานาชาติที่ปักกิ่งกันล่ะ ต่อให้พวกเขาอยากจะจัดงานของตัวเองก็ไม่ควรจะจัดงานพร้อมกันกับงานใหญ่แบบนั้นนะ มีหวังงานที่ปักกิ่งได้ดึงความสนใจไปหมดแน่ๆ”
“ฉันได้ยินมาว่าตระกูลฮัวและตระกูลฟูได้แทรกแทรงการดำเนินงานของงานนั่นนะ หากฮัวหยุนชูและฟูฮงซิ่วได้ร่วมมือกันล่ะก็ การที่จะกดดันไม่ให้ซูจิ้งไปจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่นั่นก็ไม่ได้ยากเย็นแต่อย่างใด”
“โห ขนาดโดนเล่นแบบนั้นแล้วเขานั้นยังกล้าที่จะจัดงานวันเดียวกันตอบโต้อีก นี่เขาคิดดีแล้วใช่ไหมเนี่ย”
“ก็ไม่รู้เหมือนนะว่าเขาคิดยังไง แต่ถ้าเป็นฉันล่ะก็ไม่ยอมเอากิจการของตัวเองไปเสี่ยงกับการท้าประลองกับงานใหญ่แบบนั้นแน่ๆ”
“แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ฉันว่าเขามั่นใจในตัวเองและเลือกที่จะไม่สนมากกว่า ในช่วงปีนี้สถาบันวิจัยห้วงเวลาฯ ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มาจากงานวิจัยของตัวมาหลายตัวแล้ว
และผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่มาจากเทคโนโลยีล้ำยุคที่พวกเขาวิจัยขึ้นมาเอง แต่ตอนนี้ฉันเองก็คิดว่างานแถลงเปิดตัวนี้จะเทียบกับงานใหญ่ที่ปักกิ่งนั่นได้จริงๆรึเปล่า”
“รู้สึกว่าซูจิ้งจะไม่ได้เข้าร่วมด้วยนี่ ฉันว่าเขาน่าจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองต้องขายหน้าแล้วล่ะ”
ท่ามกลางความเห็นของผู้คนที่หลากหลาย ในที่สุด กลุ่มทุนห้วงเวลาก็ได้เปิดงานแถลงข่าวของตัวเอง เป็นไปดังที่หลายๆคนคาดไว้ ซูจิ้งเหมือนจะไม่ได้มางานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
พวกเขานั้นเห็นเพียงเฉิงหนานและหวังจ้าวเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ยังมีผู้ชมสนใจจำนวนมากอยู่ดี
ตอนนี้ผู้ชมผ่านช่องสตรีมทางการของกลุ่มทุนได้พุ่งสูงถึงห้าแสนคนในชั่วพริบตา
โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่ประทับใจจากงานเปิดตัวระบบอัจฉริยะของซูจิ้งในครั้งก่อน
ผลิตภัณฑ์ที่สถาบันวิจัยห้วงเวลาฯได้เปิดตัวเป็นชิ้นแรกนั่นก็คือเครื่องตัดแต่งระบบเลเซอร์
เพียงทุกคนได้ยินคำพูดนี้ต่างก็รู้สึกนิ่งอึ้งกันไปหมด เหตุผลนั่นก็เพราะว่าเพียงได้ยินชื่อพวกเขานั้นรู้สึกผิดหวังพอสมควร
นั่นก็เพราะว่าเทคโนโลยีนี้สำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่อย่างใด มันเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้อย่างแพร่หลายอยู่แล้วด้วยซ้ำ
“เครื่องตัดแต่งระบบเลเซอร์เหรอ” ห้าตระกูลใหญ่แห่งเมืองจงหยุนที่กำลังจับตามองงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทุนกาลเวลาเองแทบจะสบถออกมาด้วยความตกใจว่าทำไมกระจอกนัก
พวกเขานั้นต่างก็ถือว่าซูจิ้งเป็นภัยคุกคามของพวกเขาแต่ในขณะเดียวกันก็อยากเป็นคู่ค้าในบางสิ่ง หากเป็นคนอื่นเขาจะไม่ใส่ใจเลยสักนิด แต่กับซูจิ้งที่มีฐานอำนาจอยู่ที่นี่ ตระกูลก่อตั้งอย่างพวกเขานั้นไม่สามารถปล่อยผ่านได้จริงๆ
ซงจุนยี่ผู้ที่เป็นนายน้อยของตระกูลซงเองที่ได้ยินคำว่าเครื่องตัดเลเซอร์ก็นิ่งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“เมื่อกี้ในงานพูดถึงเครื่องตัดเลเซอร์ใช่รึเปล่า ไม่ใช่ว่าเราสำรวจมาแล้วว่าเครื่องยี่ห้อที่พวกเราสั่งไปนั้นเป็นที่สุดของเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เหรอ” ซงเกาหยุนผู้ที่เป็นหัวหน้าตระกูลซงได้ถามออกมาด้วยท่าทีตกตะลึง
“มันยังไม่แน่นี่ครับว่าเทคโนโลยีของพวกนั้นจะดีกว่าของพวกเรา ถึงแม้ว่าซูจิ้งจะสร้างความสะเทือนทุกครั้งที่หมอนั่นเคลื่อนไหวอย่างโจ่งแจ้ง และนั่นมันทำให้เราเทียบเคียงกับเขายากขึ้นในอนาคต
แต่กับวงการเครื่องตัดเลเซอร์นี้ผมว่ามันเป็นอีกเรื่องนึงนะ หากว่าเทียบกันกับเทคโนโลยีที่บริษัทอื่นใช้กันในตอนนี้เครื่องที่เราสั่งไว้ถือได้ว่าเราล้ำกว่าอยู่ถึงแม้จะนิดหน่อยก็ตาม
ผมว่านี่จะเป็นโอกาสของเรามากกว่า แต่กับซูจิ้งผมว่าในเทคโนโลยีด้านนี้ เขาน่าจะต้องขายหน้าอย่างแน่นอน” ซงจุนยี่พูดความเห็นออกมาอย่างมั่นใจ
หากจะเทียบเคียงเทคโนโลยีด้านการตัดที่เป็นที่นิยมแล้ว เมื่อเทียบวิธีการตัดด้วยเลเซอร์กับการตัดด้วยแก๊สและพลาสม่าแล้ว
การตัดด้วยเลเซอร์นั้นถือได้ว่าเป็นการตัดที่ประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะมันเหนือกว่าทั้งเวลา ร่องรอยการตัด คราบการตัด ความคมชัด และความเรียบเนียน
นอกจากนั้นการตัดด้วยเลเซอร์นี้ยังสามารถใช้ได้กับงานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กคาร์บอน สแตนเลส อัลลอยด์(โลหะผสม) ไม้ พลาสติก ยาง เสื้อผ้า แร่ควอซ์ เซรามิต แก้ว โลหะสังเคราะห์ และวัตถุชนิดอื่นๆ
เทคโนโลยีการตัดด้วยเลเซอร์นี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรโรงงาน พลังงาน เฟอร์นิเจอ และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยังได้
ด้วยการที่เทคโนโลยีทางด้านนี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมได้หลากหลายวงการจึงถือได้ว่าเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
เมื่อปีก่อน ด้วยเทคโนโลยีในการตัดนี้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างน่าสนใจ เพราะว่ามูลค่าในตลาดของเทคโนโลยีนี้เติบโตขึ้นมากกว่า 15-20%
นับต้งแต่ปี 1985 ประเทศจีนได้มีส่วนแบ่งทางการตลาดในเทคโนโลยีด้านนี้ถึง25%ในระดับโลก และในปัจจุบันนี้ก็ยังคงครองตลอดในระดับโลกด้วย%ที่เรียกได้ว่าไม่ได้ลดทอนลงไปเลย
นี่แสดงให้เห็นว่าระดับเทคโนโลยีทางด้านการตัดด้วยเลเซอร์นี้ไม่ได้น้อยหน้ากว่าชาติใดในโลกเลยแม้แต่น้อย
จึงกล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการตัดด้วยเลเซอร์นี้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หน้าลงทุนและพัฒนาธุรกิจหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันจะน่าลงทุนขนาดไหนก็ตาม เมื่อเทียบเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ซูจิ้งเปิดตัวไว้ก่อนหน้านี้
ไม่ว่ามองยังไงก็ไม่ได้เด่นสะดุดตาเลยแม้แต่น้อย ถ้าให้บอกจริงๆก็คือไม่ได้น่าประทับใจเลยสักนิด
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ซูจิ้งน่าจะพึ่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้ไม่นาน หากต้องไปแข่งกับบางบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านนี้มากว่าเกือบๆสามสิบปี เขาจะไปสู้ได้อย่างไร
“เครื่องตัดเลเซอร์เนี่ยนะ” ใครบางคนที่อยู่ในวงการนี้เองก็ได้ดูงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของซูจิ้งอยู่ เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดนี้ต่างก็อึ้งและแทบจะปิดช่องสตรีมไปในทันทีเพราะรู้สึกรับไม่ได้นิดหน่อย นั่นก็เพราะมันไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากกลุ่มทุนห้วงเวลาฯได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องตัดเลเซอร์ของพวกเขาให้ดู เริ่มจากตัดชิ้นงานจากวัสดุต่างๆไม่ว่าจะเป็นแผ่นเหล็ก ไม้ เซรามิก และแก้ว เป็นรูปทรงต่างๆด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ และไม่ทิ้งร่องรอยอย่างน่าเหลือเชื่อ
พวกเขานั้นตัดทุกสิ่งทุกอย่างได้ราวกับใช้เส้นด้ายรูดผ่านเต้าหู้ นี่ทำให้เหล่าผู้รับชมต่างก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก แม้แต่ซงจุนยี่และคนในวงการถึงกับบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“พระเจ้า เร็วโคตร”
“การตัดด้วยเลเซอร์นี่ปกติเร็วอย่างนี้อยู่แล้วรึเปล่าน่ะ”
“ถึงแม้การตัดด้วยเลเซอร์จะเร็วก็จริงแต่มันไม่ได้เร็วขนาดนี้นะ หากจะใช้เกณฑ์ทั่วไปล่ะก็ปกติเลเซอร์สามารถเจาะผ่านวัตถุต่างๆด้วยความเร็วสิบห้าเซนติเมตรต่อนาที แต่เครื่องนี้สามารถทำได้ถึงเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรต่อนาทีเลยนะ”
“นั่นมันยังไม่ถูกซะทีเดียวนะ หากถ้าจะให้พูดเป๊ะๆล่ะก็เครื่องทั่วไปนั้นจะมีอำนาจเจาะทะลวงอยู่ที่ยี่สิบเซนติเมตรต่อนาทีแต่เครื่องของกลุ่มทุนห้วงเวลาฯสามารถเจาะทะลวงได้หนึ่งเมตรต่อนาทีน่ะ”
“แถมระบบทำซ้ำของเครื่องนี้ยังแม่นยำแบบสุดอีกต่างหาก หากเป็นเครื่องทั่วไปแล้วจะมีการขาดเคลื่อนอยู่ที่0.03มิลลิเทมตรในทุกๆสามสิบเซนติเมตร แต่เจ้าเครื่องนี้กับสูงกว่าอย่างน้อยๆก็ห้าเท่า”
“ลองดูที่จุดรวมแสงนั่นสิ นั่นมันเล็กมากเลยนะ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจาะอะไรเข้าได้เลยนะหากเป็นเครื่องทั่วไป นี่แสดงว่าคุณภาพของตัวจ่ายพลังงานต้องสูงล้ำอย่างแน่นอน”
“พระเจ้าเถอะ นี่มันเครื่องจักรในฝันชัดๆ”
“นี่พวกเขาสร้างเครื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“เดี๋ยวนะ นี่ไม่ใช่ว่าเครื่องตัดเลเซอร์เครื่องนี้ดีกว่าที่ใช้กันอยู่หรอกเหรอ”
“เหอะเหอะเหอะ อย่าว่าแต่จะดีกว่าเครื่องที่ดีที่สุดของต่างประเทศเลย มันเหนือล้ำกว่าหลายเท่าจริงๆ”
ซงจุนยี่และเหล่าผู้เกี่ยวข้องกับวงการการตัดด้วยเลเซอร์ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ต่างก็เกือบจะบ้าคลั่งทันทีที่เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตัดของซูจิ้ง
“เฮ้ออออ…ดูเหมือนว่าเครื่องที่เราสั่งไปนี่จะกลายเป็นขยะซะแล้วสิ” ซงกัวหยุนพูดออกมาด้วยท่าทีไม่สู้ดีนัก
“แต่ก็ถือว่ายังไม่เท่าไหร่นะครับ พวกเรายังไม่ได้ของที่สั่งเพราะว่าเราสั่งไม่มากเลยได้แค่จ่ายมัดจำไว้ หากเรายอมเสียมัดจำนั่นไปก็ถือได้ว่าไม่ได้เสียหายอะไรมาก ที่ดีที่สุดผมว่าเราควรใช้เงินที่กันเอาไว้ซื้อเครื่องตัดของกลุ่มทุนห้วงเวลาฯดีกว่า” ซงจุนยี่พูดออกมา
“อืม ก็เหลือแค่ทางนี้ทางเดียวแล้วล่ะนะ” ซงกัวหยุนเองก็เห็นด้วยที่จะใช้เครื่องตัดของกลุ่มทุนห้วงเวลาด้วยเช่นเดียวกัน เขานั้นพลางคิดในใจว่านับแต่นี้บริษัทอื่นๆนี่จะอยู่รอดกันได้สักแค่ไหนกันนะ
พวกเขานั้นยังดีที่มีช่องทางถายและได้เลือกในสิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าน่าจะต้องจ่ายแพงแต่น่าจะคืนทุนได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
….
“ตอนนี้ได้เวลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทุนห้วงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ” ฮัวหยุนชู ฟูฮงซิ่ว และเหล่าผุ้ติดตามที่กำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ในงานจัดแสดงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับนานาชาติที่เมืองปักกิ่ง
คนที่พูดขึ้นมานั้นเป็นชายหนุ่มที่ดูภูมิฐานและสวมแว่นตาและเดินอยู่ข้างๆกับฮัวหยุนชู
“ตอนนี้พวกมันน่าจะเริ่มการสตรีมแล้วนะ เราลองดูกันสักหน่อยไม๊ล่ะ ได้ข่าวว่าครั้งนี้พวกมันไม่ได้เปิดตัวแค่หนึ่งแต่เปิดตัวถึงสามเลยนา…” ฮัวหยุนชูพูดออกมา
“เหอะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าไอ้เวรนั่นมันจะทำได้สำเร็จจริงๆหรอก มันพึ่งจะดึงตัวหัวกะทิของฉันได้ยังไม่ข้ามอาทิตย์ดีเลยด้วยซ้ำแล้วมันจะไปทำอะไรได้
เปิดตัวผลิตภัณฑ์สามชิ้นเหรอ มันก็แค่เอาจำนวนมาชวนขู่ล่ะวะ” ฟูฮงซิ่วพูดออกมา
เหล่าชายหนุ่มที่เป็นคนระดับเดียวกันก็ได้แย้งขึ้นมาว่า
“ไปดูก็เท่านั้นแหล่ะน่า ยังไงซะทุกคนก็ต้องสนใจงานนี้มากกว่าอยู่แล้ว ใครจะไปสนใจดูงานเล็กๆแบบนั้นกัน”
“ถ้าไอ้บ้านั่นคิดจะจัดงานก็ควรจะเลือกเวลาหน่อยดีกว่านะ คิดจะเทียบกับงานจัดแสดงใหญ่ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆในทุกด้านแบบนี้งั้นเหรอ
ถ้าไม่บอกว่าลนหาที่ตายล่ะก็ ก็คงจะเรียกได้ว่าไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำชัดๆ”
แต่….เมื่อมีคนหนึ่งในกลุ่มได้เปิดช่องสตรีมทางการของงานแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มทุนห้วงเวลาฯขึ้นมา
พวกเขาก็ต้องอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าตอนนี้ยอดผู้ชมผ่านการสตรีมอยู่ที่เกือบหนึ่งล้านคนและพึ่งจะเหยียบหนึ่งล้านต่อหน้าพวกเขา
และที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากที่สุดคือ สิ่งแรกที่กลุ่มทุนห้วงเวลาเปิดตัวก็คือเครื่องตัดเลเซอร์ เจ้าเครื่องนี้มันน่าประหลาดใจจนเรียกผู้ชมมาดูมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน