Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 1036
GGS:บทที่ 1036 ก็แค่กลางๆ
หลายวันถัดมา ซูจิ้งได้วุ่นวายกับการจัดการขยะห้วงเวลาและกาลอวกาศพร้อมๆกับการศึกษาคู่มือนักล่า ถึงแม้ว่าเขานั้นจะยังไม่ได้อะไรที่มีค่าเพิ่มเติมสักเท่าไหร่นัก
แต่อย่างน้อยๆเขาก็ยังได้โลหะไปเป็นวัตถุดิบส่งไปให้สถาบันวิจัยวัตถุศึกษาจำนวนหนึ่งซึ่งมีค่าพอต่อการพัฒนาด้านวัตถุดิบโลหะของกลุ่มทุนห้วงเวลาฯ ไม่น้อยเลยทีเดียว
ระหว่างนี้การศึกษาด้านต่างๆที่ยึดเอาความรู้จักคู่มือนักล่าระดับต้นมาใช้เป็นไปได้ด้วยดี จนเรียกได้ว่าเขานั้นประสบความสำเร็จด้วยดีกันเลยทีเดียว
และนี่ก็ไม่ผิดพลาดแต่อย่างใด
“เอนไซม์ สารอาหาร ความชื้น และปัจจัยอื่นๆ อยุ่ในสภาวะที่พร้อมแล้ว”
“ถ้าดูจากสี ความหนืด และคุณลักษณะอื่นๆแล้ว ก็อยู่ในสภาวะที่พร้อมแล้วเช่นเดียวกัน”
“ว่าแต่….ไอ้อาหารเลี้ยงเชื้อตามที่บันทึกไว้นี่มันจะใช้ได้จริงๆรึเปล่าหว่า”
หลังจากที่ซูจิ้งเตรียมการมาหลายวัน ในที่สุด เขาก็สามารถปรับแต่งสูตรอาหารเพาะเลี้ยงที่น่าจะใกล้เคียงกับที่บันทึกเอาไว้ในคู่มือนักล่าได้สำเร็จ แต่ซูจิ้งก็ยังไม่น่าใจว่ามันจะได้ผลที่เวอร์วังตามที่คู่มือบันทึกไว้รึเปล่าแค่นั้นเอง
“คงได้แต่ลองดูล่ะนะ” ซูจิ้งพูดในขณะที่ถือขวดที่มีของเหลวสีฟ้าเอาไว้ในมือ เขาได้นำเมล็ดพันธุ์ออกมาจำนวนหนึ่ง และได้หย่อนมันลงไปในขวด
“หืม? หัวหน้าเอาเมล็ดอะไรใส่ไปล่ะนั่น” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นซูจิ้งหย่อนเมล็ดพันธุ์อะไรบางอย่างลงในขวด
“แคคตัสพันธุ์กระดองเต่าน่ะ(Tortoise shell peony)” ซูจิ้งพูดออกมา
“ห้ะ เปลือกมันหนามากจนไม่น่าจะได้ผลไม่ใช่เหรอครับ” ชายวัยกลางคนถามออกมาอย่างประหลาดใจ
“อะไรคือแคคตัสกระดองเต่า” คนอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้จึงได้ถามออกมา
“ถึงแม้ฉันจะไม่ได้อยู่ในวงการจนรู้จักพวกไม้อวบน้ำจนรู้ทุกสายพันธุ์ แต่กับเจ้านี่ฉันรู้จักนะ แคคตัสกระดองเต่าเป็นพืชชนิดแพโอเนียในตระกูลแคคตัส
ด้วยการทีรูปร่างของต้นมันนั้นคลายกับกระดองเต่าและแข็งราวกับงานหินแกะสลักจึงได้รับฉายาว่า “หินมีชีวิต” เมล็ดของมันนั้นมีอัตราการงอกที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และอัตราการเจริญเติบโตที่เรียกได้ว่าช้าเสียยิ่งกว่าช้า
จนเรียกได้ว่าช้าที่สุดในวงตระกูลก็ว่าได้ หากว่าพวกมันเติบโตด้วยตัวเองล่ะก็ ช่วงชีวิตหนึ่งของมันนั้นอย่างมากสุดก็มีเส้นรอบวงอยู่ที่สิบเซนติเมตรเท่านั้นเอง” ชายวัยกลางคนได้อธิบายออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้นเหล่านักวิจัยทุกคนก็เงียบนิ่งไปแล้วเข้าใจในทันที การที่ต้นไม้ต้นหนึ่งในช่วงชีวิตหนึ่งจะเติบโตได้เพียงเส้นรอบวงสิบเซนติเมตรแสดงว่ามันต้องโตได้ช้ามากแน่ๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าต้นไม้นี่ไม่เหมาะกับการทดลองอย่างยิ่ง
“ก็เพราะมันโตช้าไงมันถึงเหมาะกับการทดลองนี้ที่สุด เจ้าต้นนี้แหล่ะเหมาะกับการทดสอบอาหารเพาะเลี้ยงนี่แล้ว” ซูจิ้งพูดออกมา นี่ทำให้เหล่านักวิจัยต่างก็คิดไปว่า ซูจิ้งจะไม่ตั้งความหวังไว้กับอาหารเพาะเลี้ยงนี่เกินไปหน่อยรึเปล่า
“แน่นอนว่าพวกนายสามารถลองกับเมล็ดอย่างอื่นด้วยได้นะ” ซูจิ้งพูดออกมาพร้อมนำของเหลวอีกสองขวดออกจากกระเป๋าแล้วใส่เมล็ดอีกสองชนิดเข้าไป
ผ่านไปเพียงเวลาไม่นานนัก ตอนแรกเหล่านักวิจัยคิดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆก็เจ็ดวันที่จะได้เห็นผลลัพธ์ของอาหารเลี้ยงเชื้อนี้ แต่นี่เพียงแค่ห้านาที พวกเขาก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
ทุกคนในตอนนี้ได้เห็นเมล็ดพันธุ์ทั้งสามงอกออกมาเป็นตัวอ่อนอย่างสวยงาม ต้นพันธุ์สองในสามนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนจับสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ต้นหนึ่งคือต้นข้าว อีกหนึ่งคือต้นใบยาสูบ
“พระเจ้า เป็นไปได้ยังไง”
“นี่ฉันตาฝาดไปรึเปล่า”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง พวกเขานั้นไม่เคยคิดมาก่อนจนกระทั่งเห็นกับตาตัวเองในตอนนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อทั้งๆที่เห็นอยู่กับตาของตัวเองว่าอาหารเพาะเลี้ยงนี้สุดยอดแค่ไหน
แต่กับซูจิ้งนั้นเขาได้บังเกิดรอยยิ้มบนใบหน้าในทันที ถึงจะมีคนไม่อยากจะเชื่อขนาดไหนก็ตามแต่ว่ากับซูจิ้งนั้นไม่ได้ถือว่าเกินเลยจากที่คาดแม้แต่น้อย
นั่นก็เพราะอาหารเพาะเลี้ยงชนิดนี้เป็นหนึ่งในสิบห้าอาหารเพาะเลี้ยงที่มีบันทึกในคู่มือนักล่าที่ซูจิ้งได้มาจากขยะห้วงเวลาฯยอดทหารจ้าวนักรบ
ความสามารถของมันคือก็เร่งอัตราการเจริญเติบโตของพืชพรรณและเพิ่มสารอาหารในลำต้น
หรือจะให้พูดอีกอย่างคือซูจิ้งสามารถทำให้พืชพรรณเติบโตขึ้นได้เท่าที่ต้องการโดยใช้การควบคุมสารอาหาร เอ็นไซม์ สารเคมี และสิ่งต่างๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกสะดิ้งหู นี่คือแก่นสำคัญของการเป็นนักล่าอย่างแท้จริง
ในห้วงเวลาฯสุดยอดทหารจ้าวนักรบมีการใช้อาหารเพาะเลี้ยงเหล่านี้ในการเร่งต้นไม้ที่มีรอบชีวิตสิบห้าปีให้โตเต็มวงรอบโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
สำหรับอาหารเพาะเลี้ยงที่ซูจิ้งได้ทดลองทำนั้นที่ได้ว่าเป็นระดับกลางๆเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการเร่งการเจริญเติบโตของต้นข้าวสีเงินและใบยาสูบแห่งไชร์ได้ก็ถือว่าดีแล้ว
หากว่าอาหารเพาะเลี้ยงนี้ผิดพลาดล่ะก็ แน่นอนว่าเส้นทางของเขาในการเป็นนักล่าก็คงจะถึงทางตันอย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง นักวิจัยทั้งหลายก็ยิ่งตกตะลึงไปตามระดับ
เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ต้นข้าวได้เติบโตโดยมีความสูงกว่าสามสิบเซนติเมตร ส่วนต้นยาสูบนั้นเติบโตมากกว่าเดิมเป็นสิบเซนติเมตรเข้าไปแล้ว
แม้แต่ต้นแคคตัสกระดองเต่าเองก็เริ่มงอกขึ้นมาแล้ว และไม่มีเมล็ดไหนเลยที่ไม่งอกออกมา
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เมล็ดข้าวก่อนหน้านี้ได้โตกว่าครึ่งเมตรเห็นจะได้ และก็เริ่มที่จะตั้งท้องแล้วด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับต้นใบยาสูบนั้น ในตอนนี้มันสูงเกือบๆจะหนึ่งเมตรเห็นจะได้ ส่วนแคคตัสกระดองเต่านั้นพึ่งจะโตได้เพียงนิดหน่อย
หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ต้นข้าวในตอนนี้รวงข้าวใกล้จะสุกดีแล้ว ใบยาสูบที่สูงเกือบเมตรก่อนหน้านี้ก็จากใบที่เคยเขียวชะอุ่มก็เริ่มจะปลิดใบทิ้ง ส่วนแคคตัสกระดองเต่าก็เริ่มมีใบงอกออกมานิดหน่อย
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดรวงข้าวก็สุกงอมจนเป็นสีเหลืองทองพร้อมเมล็ดข้าวที่ใหญ่โตเห็นได้ชัด ต้นยาสูบในตอนนี้ออกดอกบานสะพรั่ง ส่วนแคคตัสกระดองเต่าเองก็มีใบเพิ่มมากขึ้นอีกสองสามใบ ถึงแม้มันจะยังต้นเล็กอยู่แต่ใบของมันก็ขึ้นมาจนครบรอบต้นมันแล้ว
หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมงเท่านั้น พืชพันธุ์ทั้งหมดที่ทดลอง ก็เหมือนกับว่าพวกมันได้ใช้เวลาบนโลกนี้มากว่าสี่เดือนแล้ว
เหล่านักวิจัยที่เห็นต่างก็อึ้งกันจนพูดอะไรไม่ออก แต่กับซูจิ้งนั้น เขามีความสุขแบบสุดๆ ดูเหมือนว่าอาหารเพาะเลี้ยงแกโลแลนนี้จะสำเร็จได้จริงๆทั้งๆที่มีการปรับเปลี่ยนสูตร ไม่สิ ต้องบอกว่ามันใช้ได้จริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงแม้ซูจิ้งนั้นจะมีของหลายๆอย่างที่ช่วยในการเร่งการเจริญเติบโตได้ก็จริง อย่างเช่นหัวกะโหลกเร่งเวลา ดินจอมเขมือบ แม้แต่อาหารที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตก็ตาม
แต่ของเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีขีดจำกัดไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมสภาพ หรือไม่ก็จำนวนที่น้อยมาก ต่อให้เทียบอาหารเพาะเลี้ยงนี้กับกะโหลกเร่งเวลาก็ตามเขายังถือว่าอาหารเพาะเลี้ยงนี้ดีกว่าอยู่ดี นั่นก็เพราะเขานั้นสามารถผลิตอาหารเพาะเลี้ยงได้เป็นจำนวนมาก และนั่นหมายความว่าเขาสามารถเร่งเวลาพืชพันธุ์ได้จำนวนคราวละมากๆได้อีกด้วย
ถึงแม้นี่จะเป็นเพียงการทดลองแต่ก็ถือได้ว่าเป็นการทดลองที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะว่าถ้าไม่นับแคคตัสกระดองเต่านี้แล้ว
ใบยาสูบและเมล็ดข้าวนี้ก็คือใบยาสูบแห่งไชร์และเมล็ดข้าวสีน้ำเงินที่เป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ของเขานั่นเอง
ถึงแม้ว่าพืชทั้งสองนี้จะมีการจัดการที่ดีจนสร้างรายได้ให้กับเขาจนคนรวยๆในโลกต้องอิจฉาและไม่จำเป็นต้องเร่งการเจริญเติบโตก็ตาม
แต่ในเมื่อสามารถเร่งการเจริญเติบโตของพวกมันได้อย่างดีล่ะก็ แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้เขาเร่งให้มันออกดอกออกผลเป็นเงินให้เขาล่ะ
“หัวหน้า อาหารเพาะเลี้ยงนี้ดีมากๆเลย”
“พระเจ้าเถอะ นี่ฉันได้กลิ่นของรางวัลโนเบิลมารางๆแล้วนะ”
“โนเบิลน่าโคตรไร้ค่าไปเลยหากเทียบกับการที่มันสามารถเบิกม่านการทำกสิกรรมแบบใหม่ของโลกได้แบบนี้ นี่ถือว่าท้าทายสวรรค์เลยล่ะ”
“ก่อนหน้าจะดีใจกันก็ลองดูหน่อยว่ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับต้นไม้ทดลองรึเปล่า” ซูจิ้งพูดออกมาแล้วทำการตรวจสอบต้นยาสูบและต้นข้าวสีเงินในทันที
ผลการตรวจสอบ เขาไม่พบสิ่งปกติอะไรเลยแม้แต่น้อย และต้นข้าวก็สมบูรณ์ดีทุกประการ ถึงแม้จะเป็นอย่างที่คาดหวังแต่ก็ยังถือว่าเป็นระดับทดลองเท่านั้น
หลังจากที่เขามั่นใจแล้วว่าต้นไม้ที่เพาะจากอาหารเพาะเลี้ยงนี้ไม่มีผลกระทบอะไร นี่เทียบกับว่าเขาได้ทำเรื่องท้าทายสวรรค์บนโลกนี้อีกครั้ง แต่ยังไงซะเมื่อเทียบกับห้วงเวลายอดทหารจ้าวนักรบแล้วนี่ถือได้ว่าเป็นของพื้นๆแบบสุดๆ