Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 1093
GGS:บทที่ 1093 หน่วยดับเพลิงก็ยัง…
“ปีนึง อาจิ้ง นี่เป็นเรื่องตลกระดับประเทศรึไงกัน” หลินฮ่าวถามออกมาด้วยท่าทีฉงนสนเท่ห์แบบสุดๆ ถึงแม้ว่าไฟในตะเกียงนี้จะสุดยอดมากพอที่จะต้านทานวิธีการมากมายจนไม่ได้ดับก็ตาม
แต่ตอนนี้ทั้งเหล่านักผจญเพลิงและนักวิทยาศาสตร์ต่างก็สนใจแล้วนะ ตะเกียงนี่จะทำได้อักสักเท่าไหร่กัน ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งมีโอกาสจะขายหน้านา….แค่วันเดียวนี่ฉันก็ว่านานพอแล้วล่ะ
อีกอย่าง น้ำมันในตะเกียงนั่นก็ช่างน้อยนิดนัก มองยังไงก็ไม่น่าจะพ้นวันเลยนะ แต่ปีนึงนี่ฉันว่าไม่ไหวหรอก
“พี่สาม ตอนพูดลิ้นพี่พันกันใช่รึเปล่าอ่ะ” เสี่ยวรุยเองอดไม่ได้ที่จะถามย้ำออกมาอีกครั้ง
“ไม่ได้พันหรอกน่า ฉันบอกว่าปีนึงจริงๆ” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“นี่แฟนของเธอเอาจริงเหรอเนี่ย” แทนที่จะถามซูจิ้ง เฉียนหยินหนิงเลือกที่จะถามฉือชิงแทน
“เขาจริงจังในคำพูดเสมอแหล่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตะเกียงนั่นเลยนะ” ฉือชิงพูดออกมาในขณะที่มองไปยังซูจิ้งด้วยรอยยิ้ม
จากความเข้าใจของเธอที่มีต่อซูจิ้งนั้น เมื่อเห็นท่าทีของเขาแล้วบอกได้เลยว่าเขานั้นพูดจริงอย่างจริงจังทุกประการ เพียงแต่ว่ามันดูน่าเหลือเชื่อเกินไปก็เท่านั้นเอง
“ถ้าอยู่ได้ถึงปีก็ดีเลยนะสิ ลานกิจกรรมของที่นี่จะได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวระดับโลกได้แน่ๆ” เจียงหวางพูดออกมา
เพื่อนร่วมรุ่นของซูจิ้งเองในตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นหันไปคุยกันกินอาหารเที่ยงกันไปจนในที่สุดมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นแต่ลานกิจกรรมก็ยังคงมีผู้คนคับคั่งกันอยู่และยังคงพยายามท้าทายดวงไฟในตะเกียงน้อยๆอยู่เนืองๆ
แต่ซูจิ้งนั้นไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้นอีกต่อไป ต่อกลับเชิญชวนทุกคนให้ไปยังชายหาดของเมืองฉิงหยุนกันจะสนุกกว่า
ถึงแม้พวกเพื่อนร่วมรุ่นของซูจิ้งจะตัดจากการดับไฟนี้แล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรก็ตาม แต่เขาเองก็ยังอยากเห็นว่าใครมีความสามารถพอที่จะดับไฟในตะเกียงนี้ลงได้เช่นเดียวกัน
แต่ด้วยการที่ครั้งนี้ หัวเรือได้กลายเป็นหน้าที่ของซูจิ้งไปแล้ว พวกเขาจึงเลือกที่จะตามไปแต่โดยดี อีกอย่าง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะรู้ผล
แต่ในตอนนั้นเอง ในขณะที่ทุกคนกำลังจะลงบันไดเพื่อเตรียมตัวที่จะออกไป ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้เห็นนักผจญเพลิงสามคนได้ขอทางเข้ามา
เมื่อมองไปยังต้นทางที่ทั้งสามเข้ามาก็ได้เห็นรถดับเพลิงจอดอยู่ที่เกือบสุดสายตา โดยทั้งสามเดินมาเพื่อขอให้เปิดทางให้ และเหล่าผู้ชมในงานแถลงก็ได้เปิดทางให้แต่โดยดี และในตอนนั้นเองก็ได้มีนักผจญเพลิงถือสายดับเพลิงเข้ามากลางงาน
“แม่จ้าววววว นักดับเพลิงมาจริงๆด้วย”
“รอเดี๋ยวก่อนได้รึเปล่า ขอแค่ตอนที่นักดับเพลิงดับไฟในตะเกียงนั่นแล้วก็ได้”
“ใช่แล้วล่ะ ฉากนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆหรอกนะ”
เสี่ยวรุย ฉือเล่ย หลินฮ่าว และเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆเองในตอนนี้ต่างก็ยื้อซูจิ้งไว้พร้อมๆกันในทันที เพราะว่าเขาอยากรู้จริงๆว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก่อนที่จะจากไป แม้แต่เหล่าคนที่มาร่วมงานแถลงเองในตอนนี้ก็ดูตื่นเต้นกันไปหมด
“น่าสนุกจริงๆ ไหนดูสิว่าแค่ไฟในตะเกียงดวงน้อยๆนี่จะสู้กับน้ำจากสายดับเพลิงได้รึเปล่า”
“นี่มันก็มากเกินไปจริงๆนะเนี่ย พวกเขาใช้สายดับเพลิงตั้งสามสายเลยนะ”
“โฮ่ ฉันก็นึกว่านักผจญเพลิงจะต้องคอยเฝ้าระวังเพื่อเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะออกมาร่วมสนุกแบบนี้ได้”
ในตอนนี้เอง นักผจญเพลิงเจ็ดถึงแปดคนในชุดผจญเพลิงเต็มพิกัดได้เดินเข้ามา ตามมาด้วยชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มาในชุดกึ่งเครื่องแบบ เพราะว่าเขานั้นอยากให้คนที่เห็นจดจำเขาได้ว่าเขาคือใคร
เขาได้เดินไปยังพิธีกรสาวก่อนที่จะชกไมค์จากมีเธอพร้อมพูดอธิบายสถานการณ์ออกมา
กลายเป็นว่านักผจญเพลิงชุดนี้ไม่ได้โดดงานมาร่วมสนุกแต่อย่างใด พวกเขานั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในระหว่างการฝึก และพวกเขาในตอนนี้กำลังตระเวนฝึกลงภาคสนามจริงเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าเครื่องฉีดน้ำทั้งสามเครื่องนี้เองก็เป็นตัวสำรองที่มีแรงน้ำต่ำและเหมาะสมกับการฝึกซ้อมเท่านั้น และที่มาในวันนี้นั่นก็เพราะพวกเขานั้นเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ฝึกซ้อมในสนามจริงๆและได้ฉีดน้ำจริงๆโดยไม่มีคนที่เดือดร้อนอะไรมาก
นั่นก็เพราะว่าหากเป็นฝึกซ้อมปกตินั้น พวกเขาจะไม่มีทางได้รับความรู้สึกจริงๆที่ว่าต้องเจอเพลิงที่ไม่มีทางดับได้แม้แต่น้อย ไหนจะผู้คนที่พลุกพล่านประดุจดั่งเมื่อต้องผจญเพลิงในสถานการณ์จริงแบบนี้ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่าที่นี่อีกแล้ว
เมื่อพูดจบ นักผจญเพลิงในชุดเต็มเครื่องแบบก็ได้เคลื่อนไหวในทันที โดยพวกเขาได้เริ่มกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งนำม้วนสายฉีดน้ำดับเพลิงออกมาวาง หลังจากนั้นก็ได้ประกอบหัวสายเข้าไปแล้วช่วยกันลากสายดับเพลิงไปยังที่หน้าตะเกียงในทันที ก่อนที่พวกเขาจะลากสายมาไว้เพื่ออีกหน่อยแล้วนำหัวฉีดน้ำดับเพลิงมาวางไว้ในตำแหน่งที่พอเหมาะ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่ค่อนข้างห่าง แต่แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือตะเกียงน้ำมันนั่น
“ขอลองดูหน่อยแล้วกันว่าเจอน้ำแล้วไม่ดับจริงรึเปล่า”
“แรงดันน้ำจากหัวฉีดน้ำดับเพลิงนี่มันแรงมากเลยนะ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เทน้ำลงไปหนึ่งถังแล้วยังไม่ดับก็จริง แต่ด้วยแรงดันน้ำขนาดนี้ อย่าว่าแต่ไฟเลย แม้แต่ตะเกียงก็ไม่เหลือแน่ๆ”
ทุกคนในตอนนี้ต่างก็พูดคุยเรื่องนี้กันไปทั่ว ในขณะเดียวกัน นักผจญเพลิงในตอนนี้พวกเขาได้ทำการดึงคันโยกที่หัวสายเรียบร้อยแล้ว
น้ำแรงดันสูง ได้ถูกฉีดตรงไปยังไส้ตะเกียงโดยตรง และด้วยการที่พวกเขานั้นได้ยืนอยู่ระยะที่ค่อนข้างห่าง(ตามหลักการฝึกซ้อม) ทำให้ผู้คนโดยรอบสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่สิต้องบอกว่าโดนฉีดไปด้วยถึงจะถูก
ฉากนี้เองก็ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจจนเหวอออกมาในทันที แม้แต่ซูจิ้งเองก็ไม่เว้น เขานั้นคิดเพียงว่าจะมีคนมาสาดน้ำใส่ตะเกียงนี่ก็เท่านั้น ไม่คิดว่าพวกนักผจญเพลิงจะบ้าจี้กับเขาไปด้วยขนาดนี้
ถึงแม้ว่าตะเกียงนี้จะค่อนข้างมีความพิเศษในตัวครงที่ก้นของมันนั้นติดหนึบเหนี่ยวแน่นแบบสุดๆก็ตาม
แต่เมื่อต้องเจอกับปืนฉีดน้ำแรงดันสูงขนาดนี้เขาก็หวั่นใจว่าต่อให้หนึบยังไงก็มีแต่พื้นผิวที่มันเกาะด้วยมีหวังต้องโดนดึงหลุดออกไปทั้งยวงแหงๆ
หากว่านำมันในตะเกียงนั้นหกออกไปล่ะก็ต้องกลายเป็นปัญหาแน่ๆ เพราะว่ามันมีโอกาสที่จะโดนไฟจากไส้ตะเกียงและลุกลามแบบไม่มีวันจบสิ้นอย่างแน่นอน
ด้วยการที่น้ำนั้นถูกฉีดด้วยแรงดันสูงทำให้มันท่วมไส้ตะเกียงจนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสายน้ำ ขนาดที่ว่าทุกคนนั้นถ่างตามองจนไม่อยากจะกระพริมด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไม่ออกว่าไส้ตะเกียงอยู่ตรงไหนกันแน่
“จบแล้วล่ะ ไฟบนตะเกียงน่าจะดับเรียบร้อยแล้ว”
“หืม โดนน้ำพัดขนาดนี้นายเห็นด้วยเหรอว่ามันดับไปแล้วจริงๆ”
“ต่อให้ไม่เห็นแต่มันก็ควรไปอย่างนั้นนี่นา ด้วยน้ำแรงดันสูงขนาดนั้นฉันไม่เชื่อหรอกว่าไฟในตะเกียงน้ำมันนั่นจะลุกต่อไปได้น่ะ”
หลังจากฉีดน้ำไปสักพักใหญ่ เมื่อนักผจญเพลิงผู้มีหน้าที่คุมหัวดับเพลิงมั่นใจแล้วว่าไฟดับดีแล้ว เขาก็ได้ดันคันโยกหัวน้ำในทันที
ความจริงแล้วการที่พวกเขาต้องมาที่นี่นั้นค่อนข้างรู้สึกกดดันเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่าพวกเขานั้นล้วนแล้วแต่จะอยู่ในขั้นฝึกงานทุกคนไป ถึงจะบอกว่านี่เป็นการฝึกซ้อม
แต่ด้วยการที่พวกเขาต้องมาเล่นใหญ่จัดเต็มเพียงเพื่อดับไฟในตะเกียงแบบนี้ก็ทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกสาบแช่งออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อน้ำจากหัวฉีดน้ำดับเพลิงค่อยๆอ่อยลงจนหยุดไปนั้น ในตอนนี้ทุกคนสามารถที่จะเห็นได้แล้วว่าไฟของตะเกียงน้ำมันนี้ดับลงแล้วหรือไม่
แต่ตามสามัญสำนึกทั่วๆไปแล้ว ไม่ว่าใครที่เห็นต่างก็ต้องคิดว่าไฟจากตะเกียงยังไงก็ดับไปแล้วแน่ๆ
แต่อย่างไม่คาดคิด ถึงแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะเห็นเพียงสีส้มดวงน้อยๆที่อยู่ในน้ำก็ตาม เพียงไม่นานสีส้มดวงน้อยๆก็ค่อยกลับลุกโชนจนเห็นเป็นเปลวเพลิงอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังมีน้ำท่วมไส้ตะเกียงอยู่
“โอ้…มาย…โก๊ชชชชชชช มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ”
“มันต้องพลาดเป้าแน่ๆ ทำไมพวกเขาไม่เข้าไปฉีดใกล้ๆกันล่ะ”
“ทำไมยังไม่ดับอีกล่ะ ไฟผีงั้นเหรอ”
เหนือกว่าผู้ชมเหล่านี้ก็ยังมีนักผจญเพลิงที่ต่างนิ่งอึ้งไปตามๆกัน พร้อมทั้งที่เริ่มรู้สึกว่าความคิดของพวกเขานั้นช่างอ่อนด้อยไปเลยจริงๆ และบทเรียนจากการที่ได้ดูถูกดวงไฟน้อยๆดวงนี้ ได้เป็นบทเรียนสอนใจพวกเขาไปจนวันตาย
ซูจิ้งเองในตอนนี้ที่เห็นก็อดจะใจชื้นขึ้นมาไม่ได้ นั่นก็เพราะไฟตะเกียงนี้นั้นยังคงลุกโชนอยู่เช่นเดิม และที่ดีที่สุดก็คือ น้ำมันในตะเกียงยังคงอยู่เท่าเดิมไม่หายไปไหน
ในขณะที่ทุกคนกำลังอึ้งๆกันนั้น นักผจญเพลิงเองก็ดูเหมือนจะยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาได้ลองฉีดน้ำต่ออีกสามสิบวินาที แต่ผลนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม จนในที่สุด คนที่มีหน้าที่ถือสายนั้น ก็ได้ทำการวอร์ไปหารถดับเพลิง รายงานสถานการณ์ พร้อมทั้งแจ้งให้เตรียมน้ำยาดับเพลิงอีกสองชุดในทันที
เอาจริงๆพวกเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะต้องใช้น้ำยาพิเศษอีกสองชุดนี้มาดับเพลิงจริงๆนอกจากการทดลองฉีดเพราะหมดอายุเลยสักนิด
ไม่นานถังน้ำยาพิเศษก็ได้ถูกติดตั้งไปยังรถดับเพลิง ถังหนึ่งคือโฟมดับเพลิง และอีกถังหนึ่งก็คือผงดับเพลิง
ในการใช้โฟมดับเพลิงนั้นปกติแล้วรถดับเพลิงที่จะฉีดโฟมดับเพลิงนี้จำเป็นต้องติดอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำ ถังน้ำ ถังโฟม เครื่องตีโฟม หัวฉีดโฟม และอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนั้นโฟมนี้สามารถดับเพลิงได้แม้จะเป็นการโรยลงมาจากอากาศก็ตาม
โฟมเหล่านี้จะมีหน้าที่ในการดึงดูดออกซิเจนออกมาจากอากาศและช่วยในการลดอุณหภูมิ นอกจากนั้นยังไร้ควัน จึงเหมาะที่สุดในการดับไฟที่เกิดจากน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ประเภทปิโตรเคมี
และด้วยการที่โฟมนี้สามารถผสมน้ำได้จึงเป็นปกติที่รถดับเพลิงที่อยู่ใจเขตนิคมอุตสาหกรรมนั้นต้องมีทุกคัน
สำหรับผงดับเพลิงนั้น ก็คือผงที่ถูกอัดลงไปในถังพิเศษพร้อมทั้งมีอุปกรณ์จำเพาะในการใช้งาน
ผงดับเพลิงนี้โดยส่วนใหญ่แล้วใช้ในการป้องกันการลุกลามของไฟและใช้ดับไฟในบริเวณที่เข้าไปไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่นท่อลำเลียงสารเคมีที่มีไฟลุกไหม้อยู่ภายในท่อ แน่นอนว่านี่เองก็เป็นอีกหนึ่งสารดับเพลิงที่รถดับเพลิงในเขตโรงงานอุตสาหกรรมต้องมี
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่น้ำยาทั้งสองชนิด ได้ฉีดไปยังเปลวไฟในตะเกียงแล้วก็ตาม แต่ยังไงซะ เปลวไฟน้อยๆก็ยังลุกไหม้ และเผาไหม้ทุกสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการลุกไหม้ของมันให้มอดไหม้จนหมดอยู่ดี