Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 1142
GGS:บทที่ 1142 เริ่มเกม
งานกีฬาโอลิมปิคที่เมืองโตเกียว สนามบาสเก็ตบอล
ทีมประเทศจีนและทีมประเทศออสเตรเลียได้ทำการจับมือกัน นอกจากผู้ชมชาวญี่ปุ่นแล้วนั้น ในการแข่งขันนี้มีผู้ชมจากนานาประเทศทั่วโลกได้เข้าชม โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวจีนที่มาดูทำให้บรรยากาศในการแข่งนี้ร้านระอุเล็กน้อย
“นี่หมายความว่าพี่จิ้งเขาเล่นบาสด้วยสินะ”
“ไม่รู้เหมือนกันแหะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”
“ฉันไปตรวจสอบมาแล้วนะ พี่จิ้งเคยเล่นบาสเมื่อตอนม.ปลายแต่ก็แค่ระดับธรรมดาเท่านั้น เขาไม่ได้ติดตัวจริงแต่อย่างใด เขาติดแค่ตัวสำรองเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่ค่อยได้เล่นสักเท่าไหร่นัก”
“เอาจริงดิ แล้วพี่จิ้งไปติดตัวจริงทีมชาติได้ไงเนี่ย”
“ฉันว่าเป็นเพราะความแข็งแกร่งของร่างกายนะ ต่อให้เล่นบาสไม่เป็นแต่ด้วยความแข็งแกร่งนั้นไม่มากก็น้อยต้องช่วยทีมได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบล็อค รีบาวน์ และอย่างอื่น ทุกอย่างล้วนแล้วต้องการคนที่มีสมรรถนะร่างกายดีเยี่ยมทั้งสิ้น กับคนอื่นเวลาเล่นเกมอาจจะคุมได้แค่ครึ่งสนาม แต่เมื่อมีพี่จิ้งอยู่ เขาสามารถทำเองได้ด้วยตัวคนเดียวทั้งสนามเป็นแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกคนแล้ว ซูเซินเย่วและเย่ฉิงก็รู้สึกประหม่าในทันที เย่ฉิงอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “อาจิ้งนี่จริงๆเล้ย เขานั้นก็ไม่ได้แตกฉานในกีฬานี้สักเท่าไหร่แล้วทำไมเขาถึงได้เข้าร่วมได้กัน หากเขาทำผลงานออกมาไม่ดีล่ะก็นี่ไม่ทำให้เขาเสียชื่อหรอกเหรอ”
“ในเมื่อเขากล้าที่จะลงเล่นแน่นอนว่าเขาต้องเตรียมพร้อมไว้แล้ว” ซูเจิ้งฮงพูดออกมาด้วยเสียอันหนักแน่ แต่ใจเขานั้นก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็นในประเทศจีนหรือนอกประเทศจีนนั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยนักเลงคีย์บอร์ด ซูจิ้งเองก่อนหน้านี้ได้เอาชนะคำปรามาศจากคนพวกนี้มามากมายหลายครั้งหลายหน
หากมาในคราวนี้เขาเกิดพลาดท่าขึ้นมานั้นมีหวังคนพวกนี้ได้ออกมาถล่มเขายับเป็นว่าเล่นเป็นแน่ ดีไม่ดีอาจจะโดนกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้ประเทศต้องเสียชื่อเสียงด้วยซ้ำ
“พ่อคะแม่คะ อย่าเป็นกังวลไปเลยค่ะ พี่เขาเก่งมากเลยนะ ในเมื่อพี่เขาตั้งใจร่วมแล้วแน่นอนว่าเขาต้องทำได้ไม่อย่างนั้นเขาไม่ลงเล่นหรอก” ซูหยาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อ เธอเองนั้นมั่นใจในซูจิ้งอย่างมาก เธอได้หันไปหาฉือชิงและพูดออกมาว่า “พี่สะใภ้พี่ก็พูดอะไรออกมาสักหน่อยจิ”
“คะ หนูคิดว่าเขานั้นต้องมั่นใจสุดกู่ว่าตัวเองทำได้อยู่แล้วไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ลงเล่นหรอก” ฉือชิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้มในทันทีที่เธอถูกเรียกว่าพี่สะใภ้
“มั่นใจสุดกู่อะไรกัน เขานั้นไม่รู้จักฟ้าดินจะมากกว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาถูกน็อคไม่ก็ทำให้ผู้เล่นอีกทีมทำให้บาดเจ็บล่ะในเกมแบบนี้แม่เห็นเกิดเรื่องแบบนั้นออกจะบ่อย” เย่ฉิงพูดออกมา ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมานี้ซูจิ้งจะสูงขึ้นไปเป็นกว่า 1.83 เมตรแล้วก็ตาม แต่ในการแข่งขันแบบนี้แน่นอนว่าคนที่สูงกว่าซูจิ้งแม้แต่คนที่สูงเกินสองเมตรก็ยังดี นี่ทำให้แม่ของซูจิ้งค่อนข้างห่วงในเรื่องนี้
“เอาน่า ยังไงซะในการแข่งแบบนี้เขาก็ไม่อนุญาตให้เล่นงานกันแบบตั้งใจอยู่แล้ว” ซูเซินเย่วพูดออกมาในทันทีที่ได้ยินความกังวลของภรรยา
ซูหยาและฉือชิงเองที่ได้ยินออกมาแบบนี้ก็อดที่จะหัวเราะออกมากันไม่ได้ ถึงแม่ทั้งสองคนจะไม่รู้ว่าฝีมือการเล่นบาสของซูจิ้งนั้นเป็นยังไง แต่เธอทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีความกังวลเรื่องนี้แม้แต่น้อย
นั่นก็เพราะว่าทั้งสองนั้นรู้ดีว่าซูจิ้งโค่นล้มเหล่านักศิลปการต่อสู้มามากมาย ทั้งสองเคยเห็นแม้แต่การที่ซูจิ้งได้ใช้มือป่าวผ่าหินก้อนโต แล้วจะต้องมากังวลเรื่องนี้ไปทำไม
ก็คงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับพ่อแม่ล่ะมั้งที่ไม่ว่าลูกจะเติบโตขนาดไหนแต่ทุกครั้งที่ต้องแข่งแบบนี้ก็อดเป็นกังวลไม่ได้ นี่ขนาดทั้งสองรู้ว่าลูกตัวเองแข็งแกร่งมากมายก็ยังกลัวลูกเป็นหวัดอยู่ดีสินะ
ในตอนนี้ผู้ชมมากมาย แม้แต่ผู้เล่นประเทศออสเตรเรียต่างก็สังเกตุซูจิ้งกัน ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่พวกเขาก็ยังรู้อีกว่าซูจิ้งคนนี้ได้รับความนิยมเล็กน้อยและสร้างเรื่องราวออกมาให้โลกต้องตกตะลึงได้หลายครั้งหลายครา
“ซุยจิ้งคนนั้นคือคนที่ก่อตั้งกลุ่มทุนห้วงเวลา รักษาฮอว์กิ้น ขี่อินทรีย์ทองคำ และทำลายสถิติของกีฬาเอ็กซตรีมมากมายสินะ”
“ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เล่นบาสให้เห็นเลยนี่นา แล้วทำไมเขาถึงมาลงเล่นทีมชาติแบบนี้ได้ล่ะ”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ประเทศจีนอาจไม่เหลือใครแล้วก็ได้นะ”
ไม่เพียงแต่ผู้ชมในสนามเท่านั้น ในตอนนี้แม้แต่ผู้ชมที่ดูผ่านการถ่ายทอดสดจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กันไปทั่ว
บ้างก็ว่าดีแล้วที่ส่งซูจิ้งมาจะได้ปิดเกมง่ายหน่อย บ้างก็สงสัยว่าเขาจะทำแต้มได้สักกี่แต้ม บ้างก็ว่าเขานั้นจะรีบาวน์ได้กี่ลูก บ้างก็ว่าเขานั้นจะไปแย่งลูกได้สักเท่าไหร่กันเชียว
ณ กลุ่มทุนห้วงเวลา หวังจ้าว เฉิงหนาน และผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคนพึ่งจะประชุมกันเสร็จ ทุกคนก็ได้อยู่เพื่อดูการถ่ายทอดสดในครั้งนี้กันทุกคน
ถึงแม้ในระหว่างเวลางานนั้นมาดูการแข่งกีฬาแบบนี้ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อคนเริ่มดูไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหวังจ้าวและเฉิงหนาน อีกทั้งผู้ที่หุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัทของพวกเขานั้นลงแข่งเองซะขนาดนี้มีหรือจะพลาด
“”อาจิ้งเล่นบาสไม่เป็นไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เคยเห็นเขาเล่นเลยนะ” หวังจ้าวอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความกังวล
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เฉิงหนานเองก็ไม่รู้จะตอบออกมายังไงดีเหมือนกัน เธอเองนั้นรู้สึกว่าในคราวนี้ซูจิ้งกำลังบ้าคลั่งด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง แต่เธอเองก็อดที่จะหวังให้ซูจิ้งสร้างผลงานดีๆไม่ได้เหมือนกัน นั่นก็เพราะว่านอกจากบาสแล้ว ซูจิ้งยังตั้งลงแข่งอีกนับสิบยี่สิบเกมเห็นจะได้
“คุณซูนี่น้า….ช่างว่างดีจริงๆ” ผู้บริหารส่วนใหญ่ที่เห็นก็อดที่จะลอบถอดถอนหายใจไม่ได้ในทันที ต่อให้เป็นซูจิ้งแต่นี่คือการแข่งโอลิมปิดเลยนะ หากไม่มีเวลานานพอไปร่วมแข่งแน่นอนว่าย่อมไม่มีทางติดตัวจริง
ณ สำนักงานของซือหยา หวังซือหยา เชิงซิเหยา หยินหนิงหนิง โจวเย่ว และคนอื่นๆต่างก็ขมการถ่ายทอดโอลิมปิคเกมในครั้งนี้
“เย่วน้อย อาจิ้งเล่นบาสเป็นด้วยเหรอ” หวังซือหยาถามออกมา
“ถ้าจำไม่ผิดเขานั้นก็เคยเล่นอยู่บ้างช่วงมหาวิทยาลัยนะ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้เก่งอะไรแม้แต่ทีมมหาวิทยาลัยยังไม่มองเขาด้วยซ้ำ” โจวเย่วพูดออกมา
“แล้วเขาไปติดทีมาติได้ยังไงกันเนี่ย” หวังซือหยาพูดออกมาด้วยสายตาที่เลื่อนลอยมองไปไกล
เชิงชิเหยาและหยินหนิงหนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาในทันทีที่เห็นท่าทางของหวังซือหยา ทุกคนนั้นล้วนรักใคร่ซูจิ้งจนอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้เหมือนกัน
ณ ตระกูลหวัง หวังหยานที่ดูการสตรีมอยู่บ้าน ข้างๆเธอนั้นมีผู้ช่วยของเธอที่มองด้วยหน้าตาแบบยากจะบรรยายและอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “คุณหวัง ซูจิ้งนี่เล่นบาสเก่งเหรอคะ”
หวังหยานสายหน้าไปมาและไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ เธอเองรู้ดีว่าฝีมือเล่นบาสของซูจิ้งในช่วงมหาวิทยาลัยนั้นเป็นยังไง แต่ด้วยการที่ก่อนหน้านี้ซูจิ้งได้ทำเรื่องไว้มากมายที่เกินกว่าความเข้าใจของเธอที่มีต่อซูจิ้งทั้งสิ้น ทำให้เธอนั้นยากที่จะพูดออกมาได้อย่างเต็มปาก
“อ้อ ฉันลืมบอกไปค่ะว่าท่านอาจารย์ส่งข้อความมาบอกฉันว่าให้บอกคุณด้วยว่าซงจูนฮ่าวหนีออกมาจากคุกแล้ว” ผู้ช่วยหญิงพูดออกมา
“ซงจุนฮ่าวหนีออกมาจากคุกงั้นเหรอ” หวังหยานเมื่อได้ยินก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปในทันที ถึงเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับซงจุนฮ่าวเลยก็ตาม ด้วยการที่หมอนั้นทำอะไรตั้งมากมายไว้กับเธอนี่จึงเป็นธรรมดาที่เธอต้องจดจำหมอนั่นได้ แต่ไม่ใช่ว่าหมอนั่นสติแตกจนถูกขังไว้ในคุกจิตเวชไม่ใช่เหรอ แล้วหมอนั่นจะออกมาได้ยังไงกัน
แต่ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่ด้วยการที่เธอนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับซงจุนฮ่าว เธอจึงเรียกที่จะไม่สนใจและรับชมการสตรีมกีฬาโอลิมปิดต่อไป
เธอไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่ว่าโอฉิงซงที่เคยไล่ตามเธอและไปมีเรื่องกับซูจิ้งได้หายตัวไปอย่างปริศนาด้วยเหมือนกัน
นอกจากหวังหยานแล้ว มู่หรงเซียนเอ๋อ นาหลันเฟย จูเจียนฮัว เป็งหมิง หลินฮ่าว เสี่ยวรุย ฉือเล่ย ฉินซูหลัน หลิวฉิง และคนอื่นๆที่คุ้นเคยกับซูจิ้งต่างก็หาโอกาสดูการถ่ายทอดโอลิมปิคในครั้งนี้ รวมถึงเหล่าแฟนคลับของซูจิ้งด้วยเช่นเดียวกัน
ในสายตาของผู้คนนั้น ในตอนนี้ต่างก็ตกตะลึง นั่นก็เพราะว่าในการแข่งขันบาสเก็ตบอลชายกลุ่มเอในครั้งนี้ ซูจิ้งไม่ได้นั่งอยู่ในที่นั่งตัวสำรอง แต่เขาลงเล่นในฐานะตัวจริง