Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 1155
GGS:บทที่ 1155 ตัวตนของอีกคน(2)
“นี่แกจะทำอะไรเนี่ย” พิธีการสาวสวยที่เห็นการกระทำของวูจู่ก็อดที่จะกรีดร้องโวยวายออกมาไม่ได้ เธอใช้มือปิดตาราวกับไม่อยากจะเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วโว้ย อย่ามาทำอะไรบ้าๆให้เห็นอย่างนี้นะ”
“เรียกตำรวจ พวกเราเรียกตำรวจไปแล้ว แกหนีไม่พ้นหรอก”
“ใครก็ได้หยุดหมอนั่นที”
เหล่าผู้ชมที่กำลังดูการสตรีมในครั้งนี้ต่างแสดงท่าทีกังวลออกมาอย่างสุดกู่
หลังจากได้ฟังทั้งสองคนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องบอกความจริงและตอบแทนแล้วแต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าทั้งสองคนพูดเรื่องอะไรกันแน่ เอาจริงๆไม่มีใครใส่ใจเลยด้วยซ้ำไป
“หึหึหึ” วูจู่หัวเราะออกมาเบาๆอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้สนใจพิธีกรสาวสวยและผู้ชมเลยแม้แต่น้อย นิ้วของเขาค่อยกรีดลงไปบนใบหน้าของลูจิงยี่ด้วยนิ้วมือที่อาบไว้ด้วยไอปีศาจ
มันค่อยๆดึงผิวหนังแปลงโฉมที่ซูจิ้งได้มาจากขยะห้วงเวลาฯสุสานไร้ค่าฯออกมาอย่างช้าๆ
“อึ่กก…” ลูจิงยี่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อ๋า…..”พิธีการสาวสวยที่เห็นฉากนี้เองก็อดที่จะร้องตามไม่ได้ แต่กับผู้ชมนั้น พวกเขาร้องดังลั่นยิ่งกว่าใครราวกับรู้สึกเจ็บแทน
อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่เห็นต่างก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง นั่นก็เพราะภาพฉากที่พวกเขาคิดไปไกลว่าเป็นฉากของเลือดและเนื้อที่ทะลักคลั่งนั้นกลับกลายเป็นผิวหนังหนึ่งที่อยู่ข้างใต้ผิวหนังอีกที ถึงจะบอกว่ามันเป็นผิวหนังแต่มันก็ยังดูสีแดงกว่าผิวหนังปกติอยู่
ความจริง วูจู่เองก็ไม่ได้แน่ใจในเรื่องนี้นัก มันเพียงแค่ทดลองดูเพราะต่อให้ลูจิงยี่ตายไปมันก็ไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว แต่ด้วยการที่มันนั้นไม่ได้มีฝีมือทางด้านการแพทย์เทียบเท่าซูจิ้ง แน่นอนว่าไม่มีทางเลยที่จะลอกโฉมของลูจิงยี่ได้อย่างไม่เจ็บปวด แต่ก็อย่างที่กล่าวมาคือมันไม่ได้สนใจว่าลูจิงยี่จะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็ตาม
ไม่นาน ผิวหนังที่อยู่บนใบหน้าทั้งหมดก็ลอกออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของลูจิงยี่ออกมา พิธีกรสาวสวยและเหล่าผู้ชมต่างก็ตกอยู่ในสภาพอึ้งกิมกี่
“เกิดอะไรขึ้น”
“ใครกันน่ะ”
“ฉันรู้จักนะ เขาเป็นดาราระดับสามดาว ชื่อของเขาเหมือนจะชื่อลูจิงยี่…พระเจ้าเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย”
ในประเทศจีนนั้นการที่มีคนที่มีชื่อเดียวกัน นามสกุลเดียวกันนั้นที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ง่ายเลย แต่ดาราที่มีชื่อเดียวกันก็ยังน้อยครั้งมากที่จะเกิดขึ้น ที่จะมีก็คงเป็น ลี่เชิน เท่านั้นในตอนนี้
กับดาราระดับสามดาวอย่างลูจิงยี่นนั้นยิ่งแล้วใหญ่ มีคนไม่มากนักที่รู้จักเขา ด้วยเหตุผลทางอุบัติเหตุทำให้เขานั้นต้องออกจากวงการไป นี่ยิ่งทำให้ผู้คนแทบจะจำเขาไม่ได้อีกต่อไป
และตรงหน้าของผู้คน ในตอนนี้ คนที่ปรากฎอยู่ภายใต้ผิวหนังที่ลอกออกก็คือลูจิงยี่คนนั้น
ถึงในตอนแรกผิวของเขาจะแดงจนดูม่วงไปก็ตาม แต่หลังจากผิวหนังของเขาปรับสภาพจนกลายเป็นสีแดงแล้วทำให้ทุกคนที่รู้จักจะได้ในทันทีว่าเขาคือลูจิงยี่คนที่ออกจากวงการไปนั่นเอง
แต่ยังไงซะการที่ลูจิงยี่ปรากฎตัวในฉากนี้มานั้นก็ช่างน่าแปลกประหลาดอยู่ดี
“พวกแกเห็นรึยัง นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของลูจิงยี่ ฉันรู้ว่าพวกแกอยากที่จะทำใจยอมรับได้ แต่หากพวกแกรู้ว่านี่คือหนึ่งในวิธีการศัลยกรรมรูปแบบใหม่ของซูจิ้งพวกแกจะเข้าใจได้ทันที มันคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทุนห้วงเวลา เข้าใจรึเปล่า หึหึหึ” วูจู่พูดออกมาอย่างผู้ชนะ
“ไม่จริงใช่รึเปล่า”
“จิงยี่ของเราคือคนดีเกี่ยวกับดาราระดับสามที่ชื่อจิงยี่นั่น…”
“ไม่มีทาง ฉันไม่เชื่อหรอก”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นจริงแต่พึ่งจะมาเปิดโปงเนี่ยนะ”
หัวใจสีดำถูกส่งหนึ่งดวง
หัวใจสีดำถูกส่งสองดวง
ในตอนนี้ผู้ชมทั้งหลายต่างก็ได้เห็นใบหน้าเกือบทั้งหมดของลูจิงยี่แล้ว จากใบหน้าที่หล่อระเบิดระเบ้อเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าธรรมดาทั่วไป เรื่องแบบนี้ใครจะไปรับได้กัน
“โอโอ้ จริงสิฉันจะมีเพื่อนเก่าอยู่ที่นี่ด้วยนี่นา คนที่เคยสนับสนุนช่องของกวนจูจิ่วน่ะ ตอนที่พวกแกสนับสนุนไอ้เวรนี่ในตอนนั้นความจริงไม่ใช่ไอ้นี่หรอกนะ บอกไว้ก่อน” วูจู่พูดออกมา
“…แกหมายความว่ายังไง” บรรดาอดีตแฟนคลับของกวนจูจิวสงสัยจนต้องพิมถามออกมา
“เดี๋ยวพวกแกก็รู้” วูจู่ได้นำหนังที่ลอกออกจากใบหน้าของลูจิงยี่มาวางทาบไว้ที่หน้าถึงแม้ว่าแผ่นหนังนี้จะได้รับความเสียหายไปบ้างแต่มันก็ยังทำหน้าที่ของมันได้อยู่ดี และนี่ทำให้เกือบทั้งใบหน้าของวูจู่กลายเป็นใบหน้าของชายที่หล่อระเบิดแทน
“พระเจ้าเถอะ นี่มันยังกับแค่วาดรูปทับไปเฉยๆเลย”
“มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว”
“อดีตแฟนคลับที่เหนียวแน่นของฉัน ถ้าจะไม่ผิดจะเป็น เหวินโป ไปฉิง เหลียงไป่ กูกู ซิวเย่ว เสี่ยวเย่ว เสี่ยวนู ไจเป่า เหล่าเซิน เหล่าชิ เหล่าไท… จำฉันได้รึยังล่ะ” วูจู่ได้ส่งเสียงที่ผู้คนที่เขาเรียกรู้สึกได้ว่าคุ้นเคน หลังจากนั้น มัน ก็ได้ร้องเพลงหนึ่งออกมา
เหล่าอดีตแฟนคลับของกวนจู่จิวในตอนนี้ต่างนิ่งอึ่งไปในทันทีที่ได้ยินเพลงที่วูจูกำลังร้องอยู่ นี่ทำให้ขนหัวของพวกเขาลุกขึ้นตั้งชันในทันที
“ฉันจำได้แล้ว ไอ้หมอนี่คือคนอ้วนๆที่เคยอ้างตัวว่าเป็นกวนจูจิวนี่นา แต่ตอนนี้มันผอมกว่าตอนนั้นเท่านั้น”
“ตอนนั้นฉันจำได้ว่าเขาทำทุกอย่างได้เหมือนกับกวนจูจิวเลย แต่ที่ต่างกันเพียงอย่างเดียวคือเขาอ้วนและน่าเกลียดเท่านั้น”
“พระเจ้าเถอะ เขาไม่ได้โกหก เขาคือกวนจูจิวจริงๆ”
ความจริงๆแล้วในตอนที่ลูจิงยี่แปลงโฉมเป็นกวนจูจิวใหม่ๆนั้น เหล่าแฟนคลับก็แปลกใจไม่น้อยเหมือนกันเพราะหลายๆอย่างมันไม่เหมือนกับกวนจูจิวที่พวกเขารู้จัก
แต่พวกเขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะในตอนนั้นกวนจูจิวได้มีอะไรใหม่ๆที่มากกว่าเดิมหลังจากห่างหายไปทำให้พวกเขานั้นคิดว่าคงมีเหตุผลที่ทำให้เสียงของเขาหายไปเลยไปซุ่มซ้อมทำอย่างอื่นเพื่อมาแสดงแทน แต่หากเทียบกันในตอนนี้แล้ว นี่ คือกวนจูจิวที่พวกเขาเคยรู้จักอย่างแท้จริง
ในตอนนี้ผู้คนบังเกิดความรู้สึกที่หลากหลาย หลังจากได้พบว่าสุดยอดดวงดาราที่พวกเขาติดตามมานานนั้นกลับกลายเป็นตัวปลอมด้วยวิธีการแปลงโฉม
อีกทั้งยังได้รับรู้ว่าชายอ้วนที่พวกเขาเคยขับไล่ไสส่งไม่เชื่อถือในคราวนั้นกลับกลายเป็นกวนจูจิวที่แท้จริงกลับกลายเป็นตัวจริงที่เขาเคยหลงรัก
อย่างไรก็ตาม ที่ทุกคนนั้นตกตะลึงมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นผิวหนังที่สามารถแปลงโฉมผู้คนได้อย่างง่ายดายที่สามารถเปลี่ยนคนที่สุดแสนจะน่าเกลียดให้กลายเป็นหนุ่มหล่อระเบิดเถิดเถิงได้
ความรู้สึกน่าตกตะลึงมากมายได้หลั่งไหลตามหัวสมองจนทำให้พวกเขาไม่สามารถจะทำอะไรได้อีก สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็คงเป็นเพียงสาปส่งพระเจ้าที่เล่นตลกกับพวกเขา
ผู้คนจำนวนมากต่างก็ยอมรับไม่ได้จนออกจากการดูช่องนี้ไปในทันที แต่ก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงอยู่ดูต่อด้วยความรู้สึกราวกับได้เห็นแสงสว่างบางอย่าง
ข่าวนี้แพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วจนก่อเกิดแรงกระเพื่อมในวงการบันเทิงไปทั่ว แน่นอนว่าหัวข้อหลักก็คือตัวจริงของสุดยอดดาราลูจิ้งยี่คือลูจิงยี่ที่เป็นอดีตดาราระดับสาม อีกหนึ่งคือเทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมใบหน้าของกลุ่มทุนห้วงเวลา
หลังจากนั้นไม่นานก็มีใครบางคนนึกถึงเรื่องใบหน้าที่แท้จริงของมนุษย์แมงมุมที่เคนปรากฎออกมา
ในตอนนั้น มนุษย์แมงมุมได้เปิดเผยใบหน้าของตัวเองออกมาอย่างจงใจและเปิดเผยราวกับไม่แยแสว่าจะมีคนพบตัวจริงของเขาซึ่งนั่นทำให้ทุกคนที่เห็นต่างก็รู้สึกว่ามันผิดปกติจนน่าสงสัยเหมือนกัน
แต่ในภายหลัง ตำรวจและผู้คนมากมายต่างตามหาตัวจริงของเจ้าของใบหน้านั้นกับไม่พบอะไรเลยราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งนั่นยิ่งน่าแปลกประหลาดมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ในตอนนี้ ซูจิ้ง ได้แสดงความสามารถต่างๆที่ดีเยี่ยมราวกับเป็นมนุษย์แมงมุมออก เรียกได้ว่าหากปิดใบหน้าของซูจิ้งไว้ มองยังไงก็เห็นเป็นมนุษย์แมงมุมแน่ๆ
ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีคนนึกถึงเรื่องนี้เพราะไม่มีสิ่งใดเชื่อมโยงระหว่างคนทั้งสอง
แต่ในตอนนี้เมื่อได้เห็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมใบหน้านี้แล้วเรียกได้ว่านี่คือจุดเชื่อมโยงสำคัญ
ถ้าซูจิ้งคือมนุษย์แมงมุมจริงล่ะก็ เขาเองก็ไม่ได้มีเหตุผลที่ต้องปิดบังสถานะของตัวเองอีกต่อไปเพราะตอนนี้เขาทำอะไรได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องสนใจภัยอันตรายใดๆ
แต่คำถามคือทำไมในตอนนั้นเขาต้องแปลงโฉมและเผยใบหน้านั้นออกมาล่ะ
เมื่อมาคิดดูดีๆแล้วในตอนนั้นมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้มนุษย์แมงมุมต้องเปิดเผยตัวเองเพื่อจะได้จบเรื่องราว
ในเมื่อซูจิ้งนั้นมีวิธีการเปลี่ยนโฉมใบหน้าจริงจนไม่สามารถติดตามร่องรอยได้ว่าตัวตนของมนุษย์แมงมุมคือใครโดยไม่ต้องเผยตัวจริงแล้วทำไมเขาจะไม่เลือกวิธีการหยุดปัญหาด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดกันล่ะ
เมื่อคิดแบบนี้ออกมา ทุกอย่างกลับกลายเป็นเหตุเป็นผลต่อกันอย่างลงตัว