Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 904
GGS:บทที่ 904 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตำนาน
หลังจากซูจิ้งใช้พลังจิตของเขาบังคับให้กะโหลกเวลาแตะไปที่รากของดอกบานเช้า ทั้งหมูป่าและปลาทั้งหลายที่สัตว์เลี้ยงของเขาหามาให้นั้นได้ถึกกลืนกินโดยดินจอมเขมือบอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัดต่อหน้าต่อตา ตอนนี้อัตราเร่งเวลาโดยประมาณคือหนึ่งวิต่อหกวัน
ซูจิ้งยังคงโยนบรรดาอาหารต่างๆของดินจอมเขมือบที่สัตว์เลี้ยงของเขาหามาให้อย่างต่อเนื่องไปยังรากของดอกบานเช้า หลังจากผ่านไปสองนาที อาหารของจอมเขมือบที่หามานั้นได้หายวับไปกับตา
หลายวินาทีต่อมากิ่งก้านสาขาของดอกบานเช้าก็เริ่มเหี่ยวแห้งลง ตอนนี้ซูจิ้งได้หยุดมือในทันที เขาให้สัตว์เลี้ยงของเขารีบไปจับหมูป่าและปลาต่างๆมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาให้นกนางนวลที่เขาฝึกไว้เข้าร่วมด้วย
หลังจากผ่านการดูดกลืนอาหารอย่างเร่งรีบแบบนี้ไปอีกห้านาทีซึ่งเทียบเวลาโดยประมาณแล้วน่าจะผ่านไปห้าปีน่าจะได้
รากของดอกบานเช้าได้โตใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด เพียงผ่านไปห้านาทีเท่านั้นรากดอกบานเช้าในตอนนี้มีขนาดประมาณสิบเซนติเมตรไปแล้ว
หลังจากซูจิ้งเร่งเวลาจนผ่านไปอีกห้านาที ใจตอนนี้รากของดอกบานเช้าเริ่มก่อรูปออกมาเป็นร่างมนุษย์ พอมองๆดูแล้วลักษณะคล้ายหนุ่มที่ดูหล่อเหลาเลยทีเดียว
หลังจากผ่านไปอีกหลายนาที ร่างที่ก่อรูปขึ้นมานี้ก็เริ่มดูดีมีชีวิตมากขึ้น จนในที่สุดมันก็มีชีวิตขึ้นมาจริงๆจนสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว
ในตอนนี้เอง เหมือนกับคนทั่วไป ดอกบานเช้าร่างมนุษย์ได้เดินไปยังกองรากดอกบานเช้าแล้วทำการโกยขึ้นมาปิดบังเรือนร่างของตัวเองราวกับมนุษย์ทั่วไปที่รู้สึกอายเวลาตัวเองต้องเปลือยเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ทำการขยับตัวอีกครั้ง
“เฟิงเย่เหม่ยเอ๊ย ฉันอยากรู้จริงๆว่าเธอนั้นจะรู้สึกยังไงกับดอกบานเช้าตนนี้จริงๆ” ซูจิ้งหัวเราะออกมา
ถึงแม้เขาจะยังไม่แน่ใจนักต่อถ้าเขาจำไม่ผิด ร่างที่ก่อมาจากดอกบานเช้านี้สำควรจะเป็นผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็ดี แล้วแต่มันจะต้องการ แต่ที่แน่นอนนั้นเขามีคนที่จะรับทดลองเรื่องนี้อยู่แล้วนั่นก็คือเฟิงเย่เหม่ยนั่นเอง
อย่างน้อยๆเขาก็รู้สึกโชคดีอยู่เหมือนกันทั้งๆที่ไม่ได้บังคับให้ดอกบานเช้าโตมาดูเป็นผู้ชาย แต่ร่างที่ก่อขึ้นมากลับเป็นดูผู้ชายโดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลย ตอนแรกเขาก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าออกมาเป็นผู้หญิงคงต้องเสียเวลาอีกอย่างแน่นอน
เช้าวันถัดมามีรถคันหนึ่งได้เข้ามาจอดที่หน้าบ้านของซูจิ้ง ทันทีที่จอด ชายหนุ่มหล่อหน้าตาดีคนหนึ่งก้าวเดินลงมาจากรถ เขาได้แนะนำตัวเองกับนกแก้วทั้งสอง หลังจากนกแก้วทั้งสองบินหายเข้าไปในบ้าน สักพักซูจิ้งก็ได้เดินออกมา
“คุณซูครับ หัวหน้าของผมให้ผมมาจัดการเรื่องให้คุณครับ” หนุ่มหล่อพูดออกมาทันที่ที่เห็นซูจิ้ง หนุ่มหล่อคนนี้คือคนที่เตียนจงยี่พาไปด้วยเมื่อวันก่อน ชื่อของเขาคือฟูหมิงและเป็นมือขวาของเตียนจงยี่ก็ว่าได้
“ขอบคุณมาก” ซูจิ้งพูดออกมา
“พวกนี้ข้อมูลของเฟิงเย่เหม่ยที่หัวหน้าบอกว่าคุณควรรู้เอาไว้ครับ” ฟูหมิงพูดออกมาพลางยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้ซูจิ้ง
ซูจิ้งหนังตากระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะรับเอกสารดังกล่าวมาแล้วรีบเปิดดูแบบผ่านๆ หลังจากดูจบเขาก็ย้อนดูอีกรอบหนึ่งด้วยสายตาแปลกๆ
ก่อนหน้านี้เขานั้นเพียงคิดว่าเธอผู้นี้มีผู้ชายมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตนับร้อนนับพันอย่างแน่นอน กลายเป็นว่าเขานั้นเข้าใจผิดไปเต็มๆ เขายังถือได้ว่าประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำเกินไป
กลายเป็นว่าเฟิงเย่วเมยนั้นไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าธรรมดา แต่เธอนั้นได้สร้างฮาเล็มของตัวเองโดยมีชายหนุ่มหน้าตาดีล้อมรอบตัวเธอตลอดเวลา แน่นอนว่าด้วยการที่เธอนั้นมีเงินและยังคงมีความงามอยู่ทำให้เธอนั้นไม่เคยขาดผู้ชายได้เลย
การที่เตียนจงยี่นั้นมอบข้อมูลนี้มานั้นแน่นอนว่าเขาเองก็ต้องการให้ซูจิ้งเตรียมพร้อมเอาไว้เผื่อต้องเล่นตามเกมของผู้หญิงคนนี้ ฟูหมิงก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน แต่เมื่อมองซูจิ้งในตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าซูจิ้งนั้นมองข้อมูลพวกนี้ไปในอีกความหมายหนึ่งยังไงก็ไม่รู้
ซูจิ้งได้หายเข้าไปในบ้านก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกล่องขนาดใหญ่และยาวประมาณ 1.8 เมตรเห็นจะได้ เขามอบกล่องให้ฟูหมิงก่อนที่จะพูดออกมาว่า “นำกล่องนี่ไปให้เฟิงเย่เหม่ย ฉันขี้เกียจไปเองน่ะ ถ้ายังไงนายก็รอดูแล้วรายงานฉันกลับมาด้วยแล้วกันว่าเธอใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง”
“อะไรอยู่ในนี้กันหรือครับ” สายตาของฟูหมิงเบิกกว้างในทันทีเมื่อเห็นกล่อง เขาสงสัยอย่างแท้จริงว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของซูจิ้งนั้นเป็นตุ๊กตายางจริงๆรึเปล่า แต่ตุ๊กตายางจะไปสู้คนจริงๆได้ยังไงกัน
“น่าๆ นายก็แค่นำไปให้เฟิงเย่เหม่ยอย่างเดียวก็พอ จะให้ดีก็มอบให้ตอนเธออยู่คนเดียวก็ดีนะ พยายามอย่าให้คนอื่นได้เห็นของข้างในล่ะ” ซูจิ้งพูดออกมา
“ได้ครับ” ฟูหมิงนั้นตัดสินใจว่าจะทำตามคำสั่งอย่างที่สุดอยู่แล้วฉะนั้นเขาไม่คิดอะไรมากเลยอย่างแน่นอน ตอนแรกเองนั้นเขาก็อยากจะขอให้ซูจิ้งช่วยนำกล่องไปไว้ในรถเหมือนกัน แต่พอเขาลองยกดูก็พบว่ากล่องนี้ไม่ได้หนักอย่างที่คิด
ฟูหมิงได้ขับรถตรงไปยังโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีหนุ่มหล่อสองคนออกมาต้อนรับเขาก่อนที่จะช่วยเขาขนกล่องนั่นขึ้นบันได้ไป
เมื่อไปถึงห้องสูทห้องหนึ่ง เฟิงเย่เหม่ยที่อยู่ในชุดนอนสุดเย้ายวนได้เดินออกมาจากห้อง
สายตาของเฟิงเย่เหม่ยจับจ้องไปที่กล่องที่ฟูหมิงขนมาจนเขม่นตาแทบจะปิด ตอนนี้เธอโกรธมากจนหัวเราะออกมาและพูดว่า “ซูจิ้ง นายส่งไอ้ของที่เรียกว่าผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ฉันจริงๆสินะ นี่คงไม่ใช่ตุ๊กตาเป่าลมหรอกนะ ดี ดี ดีจริง นำมันเข้าไปแล้วเรามาลองดูกัน”
ชายหนุ่มสองคนในชุดสูทเองเตรียมที่จะเปิดกล่องที่ขนมาตามคำสั่ง ทันใดนั้นฟูหมิงได้พูดขึ้นมาว่า “คุณซูสั่งไว้ว่าของชิ้นนี้ไม่ควรให้คนอื่นเห็นครับ เขามอบให้คุณคนเดียวเท่านั้น”
เฟิงเย่เหม่ยขมวดคิ้วในทันที เธอไม่เข้าใจว่าซูจิ้งที่ทำเรื่องน่าละอายอย่างการส่งตุ๊กตายางมาให้ผู้หญิงแบบนี้ยังจะมากลัวอะไรอีก
อย่างไรก็ตามเธอเองก็ยินดีที่จะทำตามที่ซูจิ้งพูดเพื่อที่เจอกันครั้งหน้าเธอจะได้เล่นงานซูจิ้งได้เต็มที่ อีกอย่างหนึ่งเธอนั้นก็เชื่อในชื่อเสียงของซูจิ้งและรู้มาเป็นอย่างดีว่าคำพูดของซูจิ้งเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ควรละเลยแต่อย่างใด
“นำมันไปไว้ในห้อง” เฟิงเย่เหม่ยสั่งออกมา สองหนุ่มหล่อก็ขนเข้าไปแต่โดยดี และได้ออกจากห้องไปตามคำสั่งโดยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด เหลือแต่ฟูหมิงเท่านั้นที่อยู่ต่อเพื่อช่วยเปิดกล่อง
หลังจากเปิดกล่องออกจนเห็นของข้างใน แวบแรกนั้นของชิ้นนี้มีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์แต่ถูกห่อเอาไว้โดยพลาสติกห่อของ
เฟิงเย่เหม่ยนั้นได้ยื่นมือไปดึงพลาสติกออกจากส่วนที่หน้าจะเป็นส่วนหัวของมนุษย์ เมื่อเธอได้เห็นของที่อยู่ในกระดาษห่อ ทั้งสองคนถึงกับถอยร่นจนไปติดฝาผนังเลยทีเดียว
“คุณซู นี่มันหมายความว่ายังไงกัน” เฟิงเย่เหม่ยพูดโพล่งออกมาด้วยความตกใจ
“ผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ใบหน้าของฟูหมิงในตอนนี้เปลี่ยนน่าเกลียดแบบสุดๆ
ในกล่องที่อยู่ตรงหน้าของทั้งสองในตอนนี้นั้นเป็นร่างของคนจริงๆที่นอนนิ่งๆ การที่คนๆนี้มาอยู่ในกล่องแบบนี้เขาสมควรจะเป็นคนตายเท่านั้น
ซูจิ้งส่งคนตายมาให้แบบนี้หมายความว่ายังไงกัน นี่ถ้าไม่บอกว่าดูถูกกันก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดแทนได้แล้ว
“นายลองไปดูสิว่าเขาตายแล้วใช่ไหม” เฟิงเย่เหม่ยพูดออกมาอย่างใจเย็น
“ผม…” ฟูหมิงในตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่น้อย เขากลับพยายามกระเถิบออกไปทางประตูด้วยซ้ำ
“นายเอามันมาส่งแล้วคิดจะออกไปได้ง่ายๆรึไงกัน” เฟิงเย่เหม่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฟูหมิงในตอนนี้รู้สึกอยากจะร้องไห้อย่างมาก เขานั้นรู้สึกฉงนสงสัยในสิ่งที่คุณซูให้เขาทำจริงๆ แน่นอนว่าเขานั้นไม่สามารถขัดได้เพราะยังไงซะเขาและหัวหน้าของเขาก็เป็นหุ้นส่วน แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ไปได้เลย
ฟูหมิงรวบรวมความกล้าสักพัก ก่อนที่เขานั้นจะค่อยเดินตรงไปยังกล่องและค่อยๆเอานิ้วของตัวเองไปอังอยู่ที่จมูกของของร่างในกล่อง ทันทีที่เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ เขาจึงลองใช้มือสัมผัสใบหน้าของร่างในกล่อง มันก็อุ่นๆอยู่เช่นเดียวกัน
“เขายังไม่ตาย” ฟูหมิงพูดโพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจ เฟิงเย่เหม่ยเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ฟูหมิงนั้นกลัวว่าพลาสติกที่ห่อร่างนี้เอาไว้จะทำให้เขาตายจริงๆจึงได้ทำการเปิดกล่องออกทั้งหมดพร้อมทั้งรื้อพลาสติกและกระดาษที่ห่อร่างนี้เอาไว้ออกจนหมด
เมื่อทั้งสองได้เห็นทั้งร่างกายของคนๆนี้ก็ทำได้แต่มองด้วยสายตาหรี่ๆแบบจับจ้องด้วยความรู้สึกบางอย่าง ก่อนที่จะสายตาเบิกโพลงขึ้นมาในทันที
ชายหนุ่มที่อยู่ในกล่องนี้แน่นอนว่าหล่อ หล่อชนิดนิดว่าไม่มีใครเปรียบได้คือหล่อโดยสมบูรณ์ ร่างกายของเขาเองก็ดูสมส่วนราวกับเป็นงานศิลป์ของศิลปินชั้นสูงเลยก็ว่าได้
แม้แต่ฟูหมิงนั้นค่อนข้างมั่นใจกับความหล่อของตัวเองไปแล้วหรือแม้แต่หนุ่มหล่อสองคนก่อนหน้านี้ก็ยังเทียบกับใบหน้าของร่างนี้อย่างเทียบไม่ติด ไม่สิต้องบอกว่าเทียบกันไม่ได้ดีกว่า
แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ประหลาดใจที่สุดนั้นไม่ใช่ความหล่อเหลา แต่กลับเป็นเส้นผมสีเขียวที่ดูระยิบระยับ ตอนนี้เขานั้นยังหลับตาอยู่และยังหายใจอย่างเป็นจังหวะ
ถึงแม้จะมองว่าตัวเขานั้นเป็นมนุษย์ที่กำลังหลับอยู่แต่ทั้งสองก็สามารถบอกได้เหมือนกันว่าร่างๆนี้ไม่ใช่มนุษย์