Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 918
GGS:บทที่ 918 การเปลี่ยนแปลง
“เป็นสองคนนี้แหล่ะ” ซูจิ้งพูดออกมา
“แน่ใจเหรอครับคุณซู” กวงหยวนได้ถามออกมาในทันทีนั่นก็เพราะเขาคิดว่าที่ซูจิ้งเลือกคนทั้งสองนี้เป็นเพราะเหตุผลแบบมือสมัครเล่นเท่านั้น
ต่อให้ทั้งสองคนที่ซูจิ้งเลือกแม้นั้นจะมีฝีมือที่น่าจับตามอง แต่เขาเองก็คิดว่านั่นยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดผู้ชมนั่นก็เพราะว่าสิ่งที่ผู้ชมอยากจะดูส่วนใหญ่นั้นต้องมีหน้าตาของสตรีมเมอร์เป็นสิ่งดึงดูดเป็นอย่างแรก
“แน่นอนน่า แถมสองคนนี้ยังอยู่ที่เมืองจงหยุนด้วย นี่ยิ่งทำให้ฉันไปหาพวกเขาง่ายเข้าไปอีก แน่นอนว่ามันก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองคนนี้ด้วยว่าอยากจะร่วมงานกับฉันรึเปล่า หากทั้งสองไม่ต้องการฉันค่อยหาคนใหม่ก็แค่นั้นเอง” ซูจิ้งพูดออกมา นอกจากนั้นเขายังได้ให้ซูฉือหาข้อมูลปูมหลังของทั้งสองเพิ่มเติมแล้ว นี่ยิ่งทำให้เขาอยากร่วมงานกับทั้งสองคนเข้าไปอีก
“งั้น…เอาตามที่คุณซูว่าแล้วกันครับ” กวงหยวนพูดออกมา ทั้งสองคนนี้ต่อให้เซ็นสัญญากับเขาอยู่ก็จริงแต่ในเมื่อซูจิ้งต้องการล่ะก็ อย่าว่าแต่เป็นสตรีมเมอร์ไร้ชื่อเลย
ต่อให้ซูจิ้งอยากได้สตรีมเมอร์ตัวท็อปของเว็บไซต์ของเขา เขาก็ยินดีที่จะยกให้ นั่นก็เพราะว่าเขาอยากสร้างความดีความชอบให้ซูจิ้งได้ประทับใจในตัวเขา
หลังจากซูจิ้งได้รับข้อมูลการติดต่อของทั้งสองคนมาแล้ว ซูจิ้งได้ติดต่อไปยังสตรีมเมอร์หญิงที่มีชื่อว่าหยินหนิงหนิงก่อนเป็นคนแรกโดยได้นัดเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
เมื่อหยินหนิงหนิงได้พบซูจิ้งตัวเป็นๆ เธอได้ตื่นเต้นมากจนเห็นได้เพียงแค่มองด้วยต่อเปล่า ขนาดนั่งอยู่ตรงหน้าซูจิ้งเธอก็ยังไม่เชื่อว่าคนตรงหน้านั้นคือซูจิ้งอยู่ดี
ก่อนจะพูดคุยอะไรกันเธอได้ขอลายเซ็นจากซูจิ้งก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของซูจิ้งเช่นเดียวกัน
“ได้สิ ฉันรู้ดีว่าคุณเป็นแฟนคลับของผมเพราะเพลงส่วนใหญ่ที่คุณเล่นเองก็เป็นเพลงที่ผมแต่งนี่นา” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเกียรติมากค่ะ แต่คุณจะยอมให้ลายเซ็นฉันจริงๆเหรอคะ” หยินหนิงหนิงถามออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ต่อให้เธอนั้นไม่คิดว่าซูจิ้งจะโกหกเธอหรือล้อเล่นก็ตาม แต่ด้วยการที่เขานั้นเป็นสุดยอดคนรวยและดาราดัง แน่นอนว่าเขานั้นไม่สมควรจะมีอะไรที่ต้องยุ่งเกี่ยวกันแม้แต่น้อย
นั่นก็เพราะว่าตัวเธอนั้นยากที่จะมีชื่อเสียงได้ ต่อให้เธอจะมีช่องสตรีมอยู่ก็ตาม แต่มันก็เล็กเกินกว่าที่จะทำให้เธอดังได้มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เธอแน่ใจ
“อย่าพึ่งดูถูกตัวเองสิ เธอยังมีข้อดีอีกตั้งหลายอย่างเลยนะ” ซูจิ้งพูดออกมา
“แต่ว่าหน้าตาของฉัน…” หยิงหนิงหนิงพูดออกมาด้วยท่าทางที่ไม่มั่นใจในเรื่องหน้าตาของตัวเองมากมาก
“หากเรื่องนี้ทำให้คุณนั้นไม่มั่นใจตัวเองขนาดนั้นล่ะก็ ผมสามารถที่จะทำสุดยอดศัลยกรรมให้คุณได้โดยไม่ต้องผ่าตัดได้นะ แน่นอนว่าผมจะทำให้คุณดูดีกว่านี้เป็นร้อยเท่าเลยก็ยังได้”
“ฉันได้ยินมาว่าการศัลยกรรมพลาสติกนั้นแพงมากเลยค่ะ และด้วยสภาพหน้าของฉันนั้นก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จได้ง่ายๆเลย”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ ค่าใช้จ่ายนี้ผมจะดูแลให้เอง ต่อให้ผมทำไม่สำเร็จก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายคุณแม้แต่น้อยอย่างแน่นอน”
หลังจากคุยกันต่ออีกสักพัก หยินหนิงหนิงก็ได้ยอมรับข้อเสนอของซูจิ้งอย่างยินดี นั่นก็เพราะว่าอย่างแรกเธอนั้นอยากจะเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของตัวเอง และอย่างที่สองเธอเชื่อมั่นในสุดยอดไอดอลประจำใจเธออย่างหมดใจ
ซูจิ้งได้พาหยินหนิงหนิงเข้าสู่กระบวนการศัลยกรรมในทันที แน่นอนว่าเขานั้นไม่จำเป็นต้องพอหยินหนิงหนิงไปโรงพยาบาลเพื่อศัลยกรรมจริงๆแม้แต่น้อย เขาแค่สะกดจิตเธอให้คิดว่าเป็นอย่างนั้นและแน่นอนว่าการศัลยกรรมตามแบบฉบับของเขานั้นเปิดเผยไม่ได้อยู่แล้ว
ในที่สุดแล้วหยินหนิงหนิงตอนที่รู้สึกตัวก็ได้นอนอยู่ที่บ้านแล้ว เธอได้ลุกขึ้นมาและส่องกระจกในทันที
แต่ทันทีที่เห็นใบหน้าของตัวในกระจกถึงกับต้องร้องกรี๊ดลั่นบ้าน นั่นก็เพราะว่าเธอประหลาดใจและไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เกิดเป็นเรื่องจริง นั่นก็เพราะเธอในตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแทบจะทุกส่วนของร่างกายเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าเป็นร่างกายสุดแสนจะเปอร์เฟค ไร้รอยขีดข่วน พร้อมทั้งใบหน้าที่สวยงามและผิวหนังอมชมพูราวกับว่าเธอภาวนาต่อพระเจ้าและพระเจ้าก็ได้ประทานร่างกายนี้มาให้เธอ ทุกส่วนในร่างเธอตอนนี้เป็นร่างกายในฝันของเธอเลยก็ว่าได้
“เป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันเป็นจริงได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ” หยินหนิงหนิงเองก็ยังไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเธออยู่ดี
“ตอนนี้ฉันก็คงพูดได้เพียงว่าหากการศัลยกรรมนี้ทำให้คุณไม่พอใจล่ะก็คุณยังสามารถกลับคืนสภาพเดิมได้อยู่นะ”
“ไม่ ไม่ใช่ค่ะ ฉันชอบมันจริงๆ” หยินหนิงหนิงรีบพูดออกมา ให้พูดตรงๆเลยก็คือเธอนั้นไม่มีทางบอกว่าไม่ชอบอยู่แล้วเมื่อเห็นร่างกายของตัวเองในตอนนี้
เมื่อนึกถึงว่าตัวเองนั้นเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ แต่ก็ยังมีเพี่อนที่โรงเรียนอยู่ การที่อยู่ๆเธอนั้นเปลี่ยนรูปร่างไปแบบนี้เพื่อนของเธอจะยังจำเธอได้อยู่รึเปล่านะ
เธอได้คุยกับซูจิ้งเรื่องข้อตกลงแล้วว่าตัวเธอนั้นละทิ้งตัวตนเดิมของเธอเพื่อแลกกับรูปร่างหน้าตาใหม่ที่ได้มา และรูปร่างหน้าตาที่เธอได้รับมาในตอนนี้นั้นแน่นอนว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ปฏิเสธจะไม่อยากมีได้
ตอนนี้เธอรู้สึกถึงความรู้สึกในใจตัวเองได้เลยว่าต่อให้เธอต้องเสียอะไรมากมายขนาดนั้นก็ต้องให้ร่างกายเธออยู่ในสภาพนี้ให้ได้อย่างแน่นอน
“เยี่ยม” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างปลื้มปลิ่ม
ถัดมา ซูจิ้งได้ไปพบสตรีมเมอร์ชายตัวอ้วนที่ชื่อว่าหวู่จูและทำให้หวู่จูนั้นสวมใส่หนังขาวที่เขาได้มาเช่นเดียวกัน เมื่อเขาได้เห็นตัวเองที่เปลี่ยนแปลงไปขนาดหนักทำให้หวู่จูยอมทำตามที่ซูจิ้งต้องการอย่างว่าง่าย
หลังจากซูจิ้งจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว กวงหยวนก็ได้โทรมาถามถึงผลการพูดคุยกับหยินหนิงหนิงและหวู่จูว่าเป็นอย่างไรบ้างเพื่อที่จะได้เตรียมตัวขั้นตอนต่อไปได้ถูก
เขาเพียงแค่นึกว่าซูจิ้งนั้นเลือกทั้งสองคนเพราะมีเหตุผลบางอย่างเลยทำให้เขาสนใจเป็นพิเศษ แต่เรื่องการศัลยกรรมนี่ไม่เคยเข้ามาในหัวเขาแม้แต่น้อยเลยจริงๆ
“ได้จังหวะพอดีเลย สองคนนั้นฉันคุยเรื่องการซื้อช่องของเขาแล้วละและพวกเขาก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้นายต้องเสียสตรีมเมอร์ไปถึงสองคน” ซูจิ้งพูดออกมาอย่างเรียบๆ
เอาจริงเรื่องสัญญานี้ก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะสัญญาพวกนี้เป็นเพียงแค่การตกลงเรื่องเวลาการสตรีมเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องเงินนั้นขึ้นอยู่กับของรางวัลที่สตรีมเมอร์จะได้มาจากตอนสตรีมเท่านั้น
“ฮ่าฮ่า เรื่องเล็กน้อยครับ หากคุณสนใจสตรีมเมอร์จริงๆล่ะคุณสามารถเลือกคนในสังกัดผมไปก็ได้นะครับ” กวงหยวนพูดออกมา
“ไม่ต้องหรอก ฉันเลือกคนที่เหมาะสมไว้แล้วน่ะเดี๋ยวฉันจะพาไปแนะนำให้คุณรู้จักก็แล้วกัน คุณสามารถเซ็นสัญญากับทั้งสองคนนี้แทนคนที่ผมซื้อช่องเขาไปแล้ว เดี๋ยวฉันส่งข้อมูลไปให้นายพิจารณาก่อนก็แล้วกัน” ซูจิ้งพูดออกมา
“ได้ครับ” กวงหยวนทำตามซูจิ้งอย่างว่าง่ายในทันที
ความจริงแล้วซูจิ้งเองก็เชื่อว่าทั้งหยินหนิงหนิงและหวู่จูนั้นจำนำพาเงินทองมาให้กวงหยวนได้อย่างมหาศาล
ในตอนเรื่องของเย่หลินเองกวงหยวนได้มอบเงินของตัวเองให้เขาแก้ปัญหาให้โดยไม่ต้องขอไปหนึ่งล้านหยวน ซึ่งนี่เองก็ทำให้ซูจิ้งรู้สึกดีไม่น้อยเลย
เขาเลยคิดว่าจะขอให้ทั้งกวงหยวนและหวู่จูตอบแทนกวงหยวนแทนเขาไป ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นสามารถจะมอบเงินคืนไปตรงๆได้ก็ตาม แต่เขาเองก็อยากลองดูว่าพลังของหนังขาวทั้งสองนี้จะทำให้เขาได้รับค่าการใช้ประโยชน์ฯสักเท่าไหร่กัน
หากว่าสร้างค่าการใช้ประโยชน์ได้ดีจริงๆล่ะก็เขาจะพาทั้งสองไปบริษัทของซือหยาเพื่อเป็นจุดขายของบริษัทในทันที
กวงหยวงเองที่ได้ยินคำพูดของซูจิ้งนั้นก็คิดเพียงว่าสตรีมเมอร์ที่ซูจิ้งจะพามาแทนนั้นเป็นเพียงสตรีมเมอร์ธรรมดาเท่านั้น
แต่ทันทีที่เขาเห็นนั้นถึงกับตกใจในทันที ตั้งแต่เขาเป็นเจ้าของช่องสตรีมชาร์คทีวีนี้มาเขาเองก็ถือได้ว่าเห็นสาวงามและหนุ่มหล่อมามากมายหลากหลาย
แต่เขานั้นไม่เคยเห็นสาวงามและหนุ่มหล่อแบบนี้มาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะอุทานออกมาดังๆราวกับเห็นเทพยาดาเลยก็ว่าได้ เหมือนกับคนที่อยู่มาจนจะแก่ตายแล้วแต่ถึ่งจะเคยเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจเทพเซียนพวกน้น
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรู้สึกได้ทันทีว่าทั้งสองคนนี้มีความสามารถที่ไม่สิ้นสุด หากทั้งสองเป็นสตรีมเมอร์เขาเชื่อได้เลยว่าช่องของพวกเขาไม่มีทางเงียบเหงาอย่างแน่นอน
ดังที่คาดไว้เมื่อหยินหนิงหนิงและหวู่จูได้เริ่มทำการสตรีม พวกเขานั้นได้เข้าระบบด้วยช่องของตัวเอง ทันทีที่ผู้ชมนั้นเห็นว่ามีการเปลี่ยนตัวสตรีมเมอร์คนใหม่ ตอนแรกแฟนคลับของทั้งสองก็โวยวายอยู่บ้าง แต่พอสำผัสได้ถึงความคุ้นเคยที่พวกเขาได้รับ พวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรออกมา
ไม่เพียงเท่านั้นทั้งสองยังได้ของรางวัลจากผู้ชมอย่างล้นหลามมากกว่าที่เคยสตรีมมาทั้งชีวิต เพียงวันเดียว หยินหนิงหนิงก็ได้ของขวัญจากแฟนๆกว่าห้าหมื่นหยวน
ส่วนหวู่จูนั้นถึงแม้จะได้น้อยกว่าแต่ก็ไม่ได้น้อยหน้านักนั่นก็เพราะว่าเขาได้รับของขวัญไปกว่าสามหมื่นหยวน และส่วนใหญ่แล้วเขาได้ของรางวัลเป็นดอกกุหลาบจากผู้ชมไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว
วันต่อมาและวันที่สามความนิยมของทั้งคู่ก็ยังพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้งราวกับจรวด จนกระทั่งในวันที่สี่มีได้ขอให้ทั้งคู่ล้างหน้าเพื่อโชว์หน้าสดของตัวเอง ทั้งสองก็ยินดีทำตามอย่างว่าง่าย ผลที่ออกมาคือใบหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยสักนิด
นี่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับเหล่าผู้ชมในทันที ซูจิ้งนั้นยินดีใจทันทีเพราะนี่ทำให้เขาได้รับสิ่งที่เขาคาดหวังไว้
“อืมมมมมม ทำไมฉันรู้สึกคุ้นเคยกับคำพูด น้ำเสียง และท่าทางของทั้งสองคนนี้จังเลยแหะ” เมื่อกวนหยวนทำงานเสร็จแล้ว เขาได้คิดถึงหยินหนิงหนิงและหวู่จูขึ้นมาในขณะที่กำลังดูวิดีโอการสตรีมของสองคนที่ซูจิ้งแนะนำมาให้เขา
อย่างไรก็ตามเขานั้นได้ส่ายหัวในทันทีและตัดสินให้เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น นั่นก็เพราะว่าสองคนนี่กับสองคนนั่นต่างกันราวกับฟ้าและเหว