Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 935
GGS:บทที่ 935 สร้างได้ก็ทำลายได้
“รู้สึกว่าส่วนแบ่งตามสัญญานี่นายจะไม่พอใจสินะ ว่าแต่ขอถามหน่อยเถอะว่านายเคยหาเงินได้มากขนาดนี้ก่อนที่จะทำสัญญากับฉันด้วยเหรอ” ซูจิ้งถามออกมา
“เป็นเพราะตอนนั้นผมไม่ได้คิดให้ดีต่างหากตอนเซ็นสัญญา ตอนนั้นผมไม่ได้อ่านให้ถี่ถ้วนเลยไม่ได้คิดให้ดีก่อนว่าผมได้น้อยเกินไป
ตอนนี้ผมสตรีมเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวันก็ได้เงินเยอะแยะแล้วแล้วทำไมผมต้องแบ่งเงินให้คุณด้วยล่ะ หากคุณไม่เห็นด้วยล่ะก็เรามาพบกันที่ศาลก็แล้วกัน” วูจู่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ก็ดี ในเมื่อนายคิดอย่างนั้นล่ะก็ ในเรื่องส่วนแบ่งนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าเราหาที่คุยกันก่อนแล้วมาคุยกันเรื่องยกเลิกสัญญาก็แล้วกัน” ซูจิ้งขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยเขาเลยตัดความในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
“ยกเลิกสัญญา?” วูจูนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งก่อนที่เขานั้นจะยิ้มออกมาในทันที ตอนแรกนั้นเขาอยากจะเปลี่ยนสัญญาในเรื่องส่วนแบ่งเฉยๆ แต่ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ล่ะก็เข้าทางเสียยิ่งกว่าเดิมเพราะว่าเขานั้นจะไม่ต้องแบ่งเงินที่ตัวเองได้อีกในอนาคต ด้วยหน้าตาและความนิยมของเขาในตอนนี้นั้นเปรียบได้ดั่งแม่น้ำฮวงโฮที่ไปได้ไม่สิ้นสุด
“ใช่ ในเมื่อนายต้องการเราก็ต้องมีข้อตกลงกันหน่อยน่ะ” ซูจิ้งพูดออกมา
“ตอนนี้ผมกำลังว่างเลย หรือจะให้ผมไปหาคุณเลยดี” วูจู่พูดออกมา
“เอาอย่างนั้นแล้วกัน” ซูจิ้งรีบจบบทสนทนาในทีนที เขารีบทำการนัดหมายกับวูจู่ให้เจอกันไม่ไกลจากที่นี่ ด้วยการที่หมอนี่อยากจะยกเลิกสัญญาเร็วๆจึงทำให้เขารีบไปที่นั่นไปทันที
“เกิดอะไรขึ้น” กวงหยวนถามออกมาในทันที เขาได้ยินน้ำเสียงของปลายสายลางๆแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาแต่อย่างใด แต่แค่น้ำเสียงเขาก็รู้ได้เลยว่าต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
“เป็นกวนจิวจูน่ะ หมอนั่นยากจะเปลี่ยนสัญญา ฉันรำคาญก็เลยว่าจะยกเลิกสัญญาไปแทนน่ะ” ซูจิ้งพูดออกมาอย่างเรียบเฉย
“ได้ดีเพียงนิดหน่อยก็ก่อวอดเลยเหรอ?” กวงหยวนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา ต่อให้หมอนั่นจะมีความสามารถดีขนาดไหนก็ตามแต่หากไม่ใช่ซูจิ้งที่มีชื่อเสียงไปขุดออกมาจากโคลนตมนั้นย่อมไม่มีทางดังได้ขนาดนี้อย่างแน่นอน
คนพวกนี้ช่างไร้ซึ่งวิสัยทัศน์และจิตสำนึกกันจริงๆ คนพวกนี้ไม่รู้จักซูจิ้งกันจริงๆสินะ ไม่ว่าจะเป็นปูมหลังของเขาและเงินทอง แค่ได้ส่วนแบ่งเล็กๆจากเขาก็ถือได้ว่ามีอนาคตที่สดใสแล้ว
ทั้งๆที่ซูจิ้งช่วยเขาให้โด่งดังเป็นพลุแตกแต่หมอนี่กลับไม่อยากตอบแทนซูจิ้งเลยสักนิด แถมยังกลับกล้วเผชิญหน้าตรงๆแบบนี้ในทันทีเสียอีก
หากซูจิ้งนั้นเกลียดหมอนี่ขึ้นมาจริงๆล่ะก็คงไม่มีทางอยู่รอดได้อย่างแน่นอน หมอนี่ไม่รู้เลยรึไงว่าไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามาตอแยซูจิ้งจบไม่สวยเลยสักราย
ถึงแม้ว่ากวงหยวนจะไม่รู้ว่ากวนจิวจูคือวูจู่ก็ตาม เขาเองก็ใช้บรรทัดทานของคนธรรมดาเท่านั้น เพียงแค่นี้เขาก็โกรธแทนซูจิ้งเรียบร้อยไปแล้ว ด้วยประสบการณ์ของเขาทำให้เจอคนแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“คุณซู คุณต้องการจะจัดการหมอนี่หรือไม่ครับ” กวงหยวนถามออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองในตัวกวนจิวจู
“ไม่จำเป็น ในเมื่อหมอนั่นไม่อยากร่วมงานก็แต่ปล่อยหมอนั่นไปก็พอ” ซูจิ้งส่ายหัวในขณะที่พูดออกมาด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นมาและได้เตรียมการไว้แล้วเหมือนกัน
นี่ทำให้กวงหยวนไม่พูดอะไรออกมา เขาเองก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าหากซูจิ้งไม่จัดการให้เด็ดขาดแล้วเห็นว่านี่เป็นเรื่องเล็กๆล่ะก็ คนอย่างกวนจิวจูต้องมาแว้งกัดทีหลังเป็นแน่
ณ ห้องคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซูจิ้งได้เข้ามาเพื่อพบวูจู ซูจิ้งในตอนนี้นั้นใส่หน้าการแปลงโฉมและแว่นตากันแดด มีบริกรสาวคนหนึ่งเข้ามาเพื่อบริการก็อดไม่ได้ที่จะจ้องไปยังใบหน้าของวูจู วูจูเองเห็นดังนั้นก็มองกลับไปพลางยักคิ้วให้จนทำให้บริกรสาวจิตใจหวั่นไหวและใจเต้นแรงขึ้นมาในทันที
ปริกรสาวเองก็อดไม่ได้ที่จะเล่นหูเล่นตากับวูจูเหมือนกัน ถึงแม้จะมีคำกล่าวที่ว่าผู้หญิงนั้นสนใจผู้ชายที่ความสามารถ แต่ยังไงซะเรื่องหน้าตาก็ยังถือว่าเป็นอาวุธขั้นสุดยอดของผู้ชายอยู่ดี
เพียงแค่หน้าตาดีก็ทำให้สาวๆต่างหลงไหลได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะหน้าตาของซูจูในตอนนี้แล้วยิ่งแล้วใหญ่ ต่อให้หมอนี่ไม่สตรีมก็ยังจีบสาวได้ไม่ยากเย็นอย่างแน่นอน
“คุณซู คุณนำสัญญามาหรือเปล่าครับ” วูจูนำสัญญาของตัวเองออกมา
“แน่นอน” ซูจิ้งนำสัญญาออกมาและทำการเผาทิ้งในทันที วูจูในตอนนี้รู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจอย่างมาก เอาจริงๆเขานั้นก็ไม่คิดว่าเรื่องจะง่ายดายขนาดนี้
ตอนแรกที่เขามานั้นเขายังหวั่นๆอยู่ว่าซูจิ้งจะแค่พูดไปเพราะความใจร้อนและไม่มีทางที่จะยกเลิกสัญญาอย่างแน่นอน
ถ้าซูจิ้งยังยืนยันแบบนั้นเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันทำได้เพียงต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเท่านั้น เอาจริงๆต่อให้ขึ้นศาลเขาก็ไม่แน่ใจแม้แต่น้อยว่าจะสามารถทำอะไรได้
เพราะซูจิ้งนั้นมีเหตุผลอย่างที่สุดที่ไม่ต้องยกเลิกสัญญาได้นั่นก็คือสัญญาก่อนหน้านี้นั้นถูกกฏหมายแบบสุดๆเพราะเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยสถานะของซูจิ้งนั้นสูงกว่าเขามากๆ หากซูจิ้งไม่ยอมเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
แต่ในตอนนี้ซูจิ้งกลับยอมเผาสัญญาแบบง่ายๆโดยไม่คิดอะไรมาก เมื่อเห็นดังนั้นเขาเองก็รีบเผาสัญญาในทันทีเช่นเดียวกัน
“เรียบร้อยนะ?” ซูจิ้งถามออกมา
“เรียบร้อยครับ คุณซูนี่ช่างดีจริงๆ ฮ่าฮ่า เป็นผมเองที่ผิดเองในวันนี้” วูจูหัวเราะออกมา
“มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่นา ฉันก็อยากรู้หมือนกันว่าถ้านายไม่มีเงินแล้วนายจะทำยังไง แต่นายต้องอย่ากลับมาหาฉันง่ายๆล่ะ ฉันคงเบื่อแย่หากว่านายขาดเงินแค่วันเดียวจะกลับมาอ้อนวอนขอร้องฉัน” ซูจิ้งพูดออกมาพลางยิ้มเยอะ
“แค้ก” วูจูถึงกับสำลักออกมาในทันทีที่ได้ยินเมื่อได้ยินคำพูดของซูจิ้ง แต่เขาเองก็เลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงเพราะแค่นี้เขาก็ถือได้ว่าได้กำไรมากแล้ว และคิดไปว่าแค่ซูจิ้งนั้นไม่เคืองเขามากจนระรานเขาไปตลอดเวลาล่ะก็ แต่ให้ไม่มีเงินแต่ด้วยตัวเขาในตอนนี้การทำเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
“เอาล่ะ ในสัญญานี้สิ้นสุดไปแล้วก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องทำให้นายให้เป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะนะ” ซูจิ้งพูดออกมาพลางแสยะยิ้ม
“ทำให้เป็นเหมือนเดิม…?” วูจู่อึ้งนิ่งไปในทันที เขาไม่รู้ว่าซูจิ้งนั้นหมายถึงอะไรกันแน่
“แหงล่ะ อย่าบอกนะว่าฉันจะบอกให้นายอยู่ในสภาพนี้ทั้งๆที่นายไม่ได้เซ็นสัญญากับฉัน” ซูจิ้งพูดในขณะที่แสยะยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม
วูจู่ที่เห็นรอยยิ้มอำมหิตของซูจิ้งในตอนนี้ถึงกับลุกขึ้นยืนในทันที แล้วเขาก็พูดออกมาว่า “คุณหมายความว่ายังไง ผมช่วยให้คุณได้รับเงินกว่าแสนหยวนไปแล้วนะ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วนี่ ตอนนี้เราสมควรจะไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้ว”
“หึ หึ นายจะบอกว่าวิธีการศัลยกรรมของฉันมีค่าเพียงแค่แสนหยวนเนี่ยนะ นายทำให้ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้รังแกนายแม้แต่น้อย ฉันก็แค่คืนรูปลักษณ์เดิมของนายให้ก็เท่านั้น
นี่สิถึงจะเรียกว่าไม่ติดค้างกันจริง นี่สิถึงจะเรียกว่าพอๆกันกับเงินที่เล็กน้อยที่นายหามาให้ฉันได้ และหลังจากที่ฉันเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนายให้เป็นแบบเดิมแล้วเราก็ไม่มีอะไรต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก” ซูจิ้งพูดออกมาอย่างช้า
วูจู่นั้นไม่รู้สึกมึนงงในคำพูดของซูจิ้งจริงๆไม่แน่ใจว่าซูจิ้งหมายถึงอะไรกันแน่ จะบอกว่าด้วยรูปลักษณ์ของเขาในขณะนี้ยังจะสามารถกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกอย่างนั้นเหรอ
เท่าที่เขารู้มานั้นการผ่าตัดศัลยกรรมนั้นมีอันตรายและการจะทำให้รูปร่างของเขาเป็นไปได้ถึงขนาดนี้จากรูปลักษณ์เดิมของเขานั้นยิ่งยากไปกันใหญ่
หากพูดถึงอัตราความสำเร็จแล้วบอกได้เลยว่ายากเสียยิ่งกว่ายากที่จะทำได้ ไม่ต้องพูดถึงการกับสู่รูปลักษณ์เดิมเลย เขาว่าจะน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ต่อให้สำเร็จจริงล่ะก็แน่นอนว่าตัวเขาจะไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป เขาไม่มีทางจะกลับไปอยู่ในรูปลักษณ์นั้นอีกต่อไปแล้ว
คิดได้ดังนั้นวูจู่ตั้งท่าเตรียมหมุนตัวและวิ่งหนีออกไปในทันที เขาไม่มีอะไรที่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว แต่เพียงเขาก้าวเท้าออกไปได้เพียงก้าวเดียว เขาก็รู้สึกเวียนหัวจนหัวหมุนตาลายและหมดสติไปในทันที
หลังจากผ่านไปนานพอสมควร บริกรสาวก่อนหน้านี้ที่วูจู่เล่นหูเล่นตาด้วยได้กลับที่นี่อีกครั้งโดยความหวังที่ว่าจะได้เห็นหน้าหนุ่มงานอีกครั้ง ตอนนี้ใจเธอเต้นระรัวในขณะนึกถึงใบหน้าทรงเสน่ห์ในช่วงก่อนหน้านี้ที่เธอมา
แต่เมื่อเธอเข้ามานั้นก็พบว่าหนุ่มหล่อใบหน้าทรงเสน่ห์ก่อนหน้านี้ไม่อยู่เสียแล้ว แม้แต่ชายหนุ่มใส่แว่นกันแดดก่อนหน้านี้เองก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน
ในตอนนี้เหลือเพียงร่างอันใหญ่โตเทอะทะนอนกองอยู่กับพื้นที่มีใบหน้าใหญ่โตและสิวขึ้นเต็มหน้า เธอจ้องอยู่พักนึงก็รู้สึกได้เลยว่าต้องเป็นพวกหื่นกามอย่างแน่นอน
“ท่านคะเป็นอะไรรึเปล่าคะ” บริกรรีบเข้าไปถามอาการในทันที
วูจู่เองเมื่อโดนเขย่าตัวแรงๆก็เริ่มได้สติขึ้นมา เขาสังเกตรอบๆก็ไม่เห็นซูจิ้งอีกต่อไปแล้ว รู้ตัวแค่ว่าตัวเองนั้นนอนกับพื้น นี่เองก็สมควรเป็นฝีมือเป็นซูจิ้งเช่นเดียวกัน พลางคิดออกมาว่าซูจิ้งนั้นเหี้ยมโหดจริงๆ นี่ถึงกับตีหัวเขาจนสลบเลยเหรอเนี่ย
คิดได้ดังนั้นเขาเองก็ได้หันไปหาบริกรสาวก่อนที่จะพูดออกมาว่า “น้องสาว ชายคนที่ฉันดื่มด้วยไปแล้วเหรอ”
“ใครเป็นน้องแก อย่ามาลามปามนะ” บริกรสาวตะเบ็งเสียงใส่วูจู่ในทันทีพลางขมวดคิ้ว ก่อนที่จะทำท่าขนลุกและหน้าตาแสดงออกว่าขยะแขยงออกมา
เหมือนกับคำพูดที่ว่าต่อให้ใช้คำพูดเดียวกัน แต่ถ้าเปลี่ยนจากหนุ่มหล่อรวยเป็นคนจนหน้าเกลียดพูดก็จะกลายเป็นการคุกคามทางเพศในทันที
เมื่อบริกรเห็นว่าไอ้หนุ่มหน้าตาลามกนี้ไม่เป็นไรเธอเองก็ไม่อยากจะใส่ใจหมอนี่และรีบจากไปในทันที
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” วูจู่ในตอนนี้ถึงกับมึนตึบในทันที ด้วยรูปลักษณ์ของเขาในตอนนี้ไม่มีทางที่จะมีสาวไหนไม่ชอบเลยนี่นา แถมก่อนหน้านี้เธอยังเล่นหูเล่นตากับเขาเสียอีกทำไมถึงเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้กัน
วูจูนั้นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพียงคิดว่าตัวเองหน้าตาคงมอมเป็นหมาเพราะนอนอยู่กับพื้นแบบนี้จึงได้หยิบกระจกส่องหน้าขึ้นมา
แต่ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าตัวเองในกระจกก็ถึงกับตกตะลึงนิ่งอึ้งในทันที เขาหมดแรงจนกระจกหลุดมือหล่นพื้นในทันที หลังจากนั้นพักใหญ่เขาก็กู่ร้องออกมาดังลั่นจนทำให้ห้องนั้นสั่นสะเทือนในทันที