Game of the World Tree - ตอนที่ 49 พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้บรรดาผู้ถูกเลือกจะเป็นสหายที่ดี และนักรบที่ยอดเยี่ยม …แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทุกคนจะควรค่าแก่การเคารพนับถือ
อย่างน้อยก็เอลฟ์หนุ่มผมทรงชี้ฟูสีแดง ๆ นั่นแหละ…
อลิซและเบอร์เซิร์กเกอร์ต่างมีความคิดแบบเดียวกันในเวลานี้
ในเวลานี้ ผู้เล่นทั้งหมดได้มาถึงฟลอเรนซ์และกำลังจะเริ่มพิธีก่อสร้างวงเวทเคลื่อนย้ายในเวลาอันสั้น …หากไม่นับเดมาเซียที่กำลังอยู่ในช่วงอารมณ์ขึ้นลงราวกับรถไฟเหาะจากเหตุการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้
หากไม่นับเดมาเซียที่กำลังอยู่ในช่วงอารมณ์ขึ้นลงราวกับรถไฟเหาะ ผู้เล่นที่เหลือได้มาถึงฟลอเรนซ์และกำลังจะเริ่มพิธีก่อสร้างวงเวทเคลื่อนย้ายในเวลาอันสั้น
วงเวทเคลื่อนย้ายชั่วคราวในบริเวณป่าได้ถูกรื้อถอนโดยนกกาเหว่าเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่ได้ร่วมการต่อสู้ในภารกิจหลัก เธอพบว่าตนเองไม่ได้มีความชำนาญด้านการต่อสู้แม้เธอจะเคยเรียนเทควันโดมาในระดับหนึ่งจากโลกภายนอก
ด้วยสาเหตุนั้น นกกาเหว่าจึงเลือกที่จะเปลี่ยนอาชีพข้ามสายความถนัด ปัจจุบันเธอเป็นจอมเวทเลเวล 11 โดยนกกาเหว่าตั้งใจจะพัฒนาความถนัดไปในด้านการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์และวงเวทรูปแบบต่าง ๆ ในอนาคต
เธอเป็นผู้นำของภารกิจติดตั้งวงเวทเคลื่อนย้ายครั้งนี้
การสร้างวงเวทจะกระทำบนลานด้านหน้าวิหารเก่าแก่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นลานพิธีกรรมของเมืองฟลอเรนซ์ และเป็นที่ ๆ บรรดาผู้เล่นได้สังหารร่างอวาตาร์ของอูลร์
ขณะนี้เหล่าผู้เล่นได้รวมตัวกันเป็นปาร์ตี้ใหญ่เพียงปาร์ตี้เดียวเพื่อรับแต้มผลงานจากรางวัลภารกิจ ซึ่งอีฟก็ใจกว้างพอสำหรับเรื่องนี้
พิธีได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่ออลิซถือพระคัมภีร์แห่งธรรมชาติขึ้นมาและเริ่มภาวนาไปทางมหาพฤกษา
นกกาเหว่านำบรรดาทรัพยากรที่ใช้ในการสร้างวงเวทเคลื่อนย้ายออกมา เธอสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ ก่อนจะลงมือเรียงอุปกรณ์เวทตามรูปแบบที่ระบุไว้ในพิมพ์เขียว
สายตานับร้อย ๆ คู่ต่างจับจ้องการเคลื่อนไหวของนกกาเหว่าด้วยความคาดหวัง
นกกาเหว่าลงมือด้วยความเร็วคงที่ ไม่เร็ว ไม่ช้า ความปราณีตของเธอสร้างความฉงนใจให้กับนักบุญอลิซผู้ซึ่งกำลังกำกับกระบวนการสร้างวงเวทให้กับนกกาเหว่า
ผู้ถูกเลือกหญิงท่านนี้มีความสามารถในศาสตร์แห่งวงเวท!
อลิซคิดด้วยความประหลาดใจ เธอมีความรู้สึกว่าตนอยากจะถ่ายทอดความรู้ด้านการวาดวงเวทให้กับนกกาเหว่า
วงเวทเคลื่อนย้ายค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างหลังจากที่นกกาเหว่าได้เริ่มติดตั้งมันมาครู่หนึ่ง และในที่สุด… วงเวทก็แผ่แสงที่แฝงไปด้วยคลื่นพลังเวทออกมา
นกกาเหว่าสร้างวงเวทเคลื่อนย้ายได้สำเร็จ!
ปุกิ๊ง–
[เป้าหมายภารกิจหลัก: สร้างวงเวทเคลื่อนย้ายภายในเมืองฟลอเรนซ์ (เสร็จสมบูรณ์)]
[ผู้เล่นที่มีส่วนร่วมในการสร้างวงเวทจะได้รับแต้มผลงาน 500 หน่วย]
ปุกิ๊ง–!
[ท่านบรรลุภารกิจหลัก: นครศักดิ์สิทธิ์ในอดีต!]
[ผู้เล่นที่มีเข้าร่วมภารกิจจะได้รับค่าประสบการณ์ 5,000 แต้ม คืนชีพสมบูรณ์ x 1 และแต้มผลงาน 500 หน่วย!]
บรรดาผู้เล่นที่เข้าร่วมภารกิจต่างได้รับข้อความจากระบบ ในวินาทีนั้นพวกเขาพากันโห่ร้องด้วยความยินดีเมื่อเห็นรางวัลที่ตัวเองได้รับ
“สำเร็จแล้ว!”
“เควสเสร็จแล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
อลิซและเบอร์เซิร์กเกอร์ต่างก็รู้สึกตื้นตันและร่วมปรบมือไปกับเหล่าผู้เล่น
ทันทีที่ปรากฏข้อความจากระบบ เพลงประกอบฉากของเมืองฟลอเรนซ์พลันเปลี่ยนไปเป็นโทนรื่นเริง ผู้เล่นทุกคนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเมืองเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยความครึกครื้น
อีฟเป็นผู้เลือกเพลงประกอบเมืองนี้ด้วยตัวเอง มันมีชื่อว่า ‘รุ่งอรุณแห่งฟลอเรนซ์’ เป็นบทเพลงอันงดงามที่เหล่าเอลฟ์ได้ประพันธ์ขึ้นมา
หลังจากที่ผู้เล่นได้ยึดฟลอเรนซ์กลับมา สถานที่แห่งนี้จะได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้กลายเป็นเมืองของเหล่าเอลฟ์ในดินแดนซากัส
อีฟเคยวางแผนที่จะใช้เมืองของผู้เล่นในบริเวณโคนต้นไม้โลกมาเป็นสถานที่พักอาศัยของทั้งเหล่าผู้เล่นและบรรดาสาวกของตน
แต่บัดนี้ อีฟเลือกที่จะใช้เมืองแห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นของผู้เล่นและให้ฟลอเรนซ์เป็นเมืองของเอลฟ์พื้นเมืองที่จะหวนคืนมาสู่ป่าเอลฟ์!
ความคิดเหล่านี้เกิดจากการไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน การสื่อสารระหว่างผู้เล่นและเอลฟ์พื้นเมืองในช่วงแรก ๆ ย่อมไม่เป็นไปด้วยความราบรื่น มันคงจะเป็นการดีถ้าให้พวกเขาแยกกันอยู่เป็นการชั่วคราวเพื่อให้มีเวลาในการทำความรู้จักและปรับตัวเข้าหากัน
ก่อนหน้านี้ อีฟสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ โดยมีรัศมีเพียงแค่ 10 กิโลเมตร ดังนั้นอีฟจึงไม่สามารถทำอะไรในเมืองฟลอเรนซ์ได้
แต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
พลังศักดิ์สิทธิ์ของอีฟได้เพิ่มขึ้นมา 37 หน่วยด้วยคริสตัลพระโลหิตที่ได้รับมาจากเบอร์เซิร์กเกอร์
นอกจากนี้ อีฟยังได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์มาถึง 10 หน่วย จากการที่บรรดาผู้เล่นพากันสังหารก็อบลินในเมืองฟลอเรนซ์
ในเวลานี้ อีฟจึงมีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั้งหมด 67 แต้ม
มหาพฤกษาในสภาพใกล้ตายยังคงมีอาณาเขตการควบคุมที่ระยะ 10 กิโลเมตรเช่นเดิม ทว่าอีฟสามารถสร้างรูปสักการะและใช้มันในการขยายอาณาเขตการปกครองไปยังบริเวณโดยรอบได้
วิธีนี้ถือเป็นทางลัดรูปแบบหนึ่ง อีฟพบว่าถ้านำรูปปั้นไปไว้ในเมืองฟลอเรนซ์ อาณาเขตของมันจะมีความกว้างพอที่จะครอบคลุมทั่วทั้งวิหารและบริเวณโดยรอบ
เมืองฟลอเรนซ์มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 30 ตารางกิโลเมตร หากอีฟต้องการให้อาณาเขตพลังของตนครอบคลุมเมืองทั้งหมด หนทางเดียวของอีฟคือการเพิ่มพูนพลังอย่างต่อเนื่อง
แต่เพราะบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายยังไม่ได้กลับมาสู่ป่าเอลฟ์ อีฟจึงยังไม่รีบร้อนกับประเด็นดังกล่าวเท่าไร
อีฟตั้งใจว่าจะให้เหล่าผู้เล่นสำรวจเมืองฟลอเรนซ์เป็นเป้าหมายถัดไป
เมืองแห่งนี้มีประวัติอันยาวนานนับพันปี
ด้วยความที่ฟลอเรนซ์เป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเอลฟ์ สถานที่แห่งนี้จึงมีคัมภีร์โบราณจากวัฒนธรรมของเอลฟ์อยู่มากมาย อีฟเชื่อว่าพวกมันยังคงหลงเหลืออยู่ภายในเมืองอีกจำนวนหนึ่ง
แม้อีฟจะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมของเอลฟ์จากมหาพฤกษาองค์เก่ามาพอสมควร แต่พวกมันก็ยังไม่ใกล้คำว่าพอแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ อีฟคาดหวังว่าจะพบวิธีฝึกตนของระดับยอดฝีมือด้วยการเดินลมปราณจากเมืองฟลอเรนซ์
มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้บรรดาผู้เล่นพึ่งพาพลังศักดิ์สิทธิ์ของอีฟในการพัฒนาเลเวลของตัวเองไปตลอด การไล่ฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นและดูดซับพลังชีวิตของพวกมันมาเป็นพลังของตนไม่ใช่หนทางที่ยั่งยืน
ผู้เล่นจำเป็นจะต้องบ่มเพาะพลังด้วยตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทิ้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้ำเลิศที่ได้รับจากอีฟไปโดยเปล่าประโยชน์
แม้อีฟจะมีอำนาจในการมอบพลังและทักษะให้กับผู้เล่น แต่อีฟไม่เข้าใจกระบวนการที่บรรดายอดฝีมือใช้บ่มเพาะพลังปราณของตน เป็นโชคร้ายของเทพธิดาที่องค์ความรู้ในด้านดังกล่าวได้สูญหายไปในเวลาที่อีฟมารับช่วงต่อจากมหาพฤกษาองค์เก่า
แน่นอนว่าอีฟสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อศึกษากระบวนการบ่มเพาะพลัง แต่อีฟไม่ต้องการใช้แต้มที่ตนมีอยู่เพียงน้อยนิดไปกับเรื่องดังกล่าว
ฟลอเรนซ์จึงกลายมาเป็นความหวังของอีฟ
นอกจากนี้ ในเวลาที่ผู้เล่นฝึกพลังปราณของตน ทักษะพลียุทธก็จะมอบพลังบางส่วนให้กับอีฟ
สถานการณ์นี้วิน-วินค่า
เพราะงั้นต้องรีบสำรวจฟลอเรนซ์ค่ะ!
นอกจากงานสำรวจโบราณสถาน อีฟตัดสินใจว่าจะเริ่มการซ่อมแซมลูกแก้วกักเก็บวิญญาณให้กลับสู่สภาพสมบูรณ์
การฝืนดึงพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายออกมาจากลูกแก้วในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ลูกแก้วที่อยู่ในสถานะเสียหายอยู่แล้วยิ่งมีสภาพย่ำแย่ลงไปอีกระดับ
ข้อมูลจากการวิเคราะห์สภาพทั่วไปทำให้อีฟพบว่าถ้าจะซ่อมแซมให้มันกลับมาสมบูรณ์แบบ อาจจะใช้เวลานานถึง 10 วัน และต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ถึง 21 หน่วย
ทว่า เมื่อเทพธิดาค่อย ๆ ศึกษารายละเอียดเชิงลึก อีฟพบว่าการซ่อมแซมให้ลูกแก้วอยู่ในจุดที่สามารถรองรับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนได้ จะเป็นการใช้พลังน้อยกว่าการซ่อมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นอย่างมาก โดยต้องการพลังศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่ 5 หน่วยเท่านั้น
แต่มันจะเป็นการจำกัดพลังของร่างอวาตาร์ที่ใช้ลูกแก้วนี้เป็นแก่นอย่างยิ่งยวด
โชคดีที่อีฟไม่ได้ต้องการอวาตาร์ที่ทรงพลัง
สิ่งที่อีฟกำลังมองหาไม่ใช่ร่างจุติของเทพ แต่เป็นร่างที่ตัวเองควบคุมได้อย่างอิสระโดยไม่มีผู้ใดรู้ตัวตนที่แท้จริงของอีฟ …เพื่อใช้จัดการปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่ควรใช้ตัวตนของเทพโบราณในการรับมือ
…แน่นอนว่าเค้าก็อยากจะมีอิสระในการเดินเหินเหมือนกันค่ะ
ประเด็นอื่น ๆ นอกจากนี้ คือการตัดสินใจเปิดรับผู้เล่นกลุ่มใหม่เพื่อ การทดสอบเกม รอบที่สอง!
อีฟตั้งใจว่าจะรับผู้เล่นใหม่ถึง 900 คนในครั้งเดียว!
ระบบอื่น ๆ เช่นการ PK ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาในการอัพเดทครั้งนี้เช่นกัน!
เมื่อเสร็จสิ้นการเขียนแผนงานสำหรับอนาคตอันใกล้ อีฟจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเพื่อเตรียมมอบภารกิจสำรวจพื้นที่ให้บรรดาผู้เล่นอีกครั้ง
ในวินาทีนั้น อีฟสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนภายในดวงวิญญาณของตน เทพธิดาสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธาจำนวนมหาศาลที่ไหลบ่าผ่านห้วงมิติมืด… พลังนั้นไหลเข้ามาในดวงจิตของอีฟโดยตรง
เพียงพริบตาเดียวพลังของอีฟเพิ่มขึ้นถึง 18 หน่วย บัดนี้เทพธิดามีพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดถึง 85 หน่วย!
อีฟรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อพบว่าพลังของตนเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เมื่อค่อย ๆ พิจารณา อีฟพบว่าในห้วงมิติปัจเจกของตนได้มีกลุ่มแสงสีเขียวโผล่มากว่า 200 จุด พร้อมกับเสียงสวดภาวนาที่ค่อย ๆ ดังขึ้น …เสียงเหล่านั้นให้ความรู้สึกล่องลอย แฝงไปด้วยความคาดหวัง ความวิตก และยังเต็มไปด้วยความหวัง
เสียงพวกนี้เป็นคำภาวนาจากสาวกของอีฟ!
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: 300 คน = กองทัพภัยพิบัติ
900 คน = กองกำลังวันสิ้นโลกแน่ ๆ
…
ขออภัยที่มาช้าค่ะ ช่วงนี้งานด่วนแน่น ๆ (เพราะเค้าดอง) จะพยายามลงให้ได้วันละตอนนะคะ
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _