Game of the World Tree - ตอนที่ 56 การฝึกฝนของผู้เล่น
ปุกิ๊ง–
[เทพธิดาผู้โอบอ้อมอารีรับฟังคำอธิษฐานของท่าน จึงถ่ายทอดวิชาโคจรพลังธรรมชาติให้ในฐานะรางวัลจากการค้นพบเคล็ดวิชาโบราณ]
[ท่านได้รับกระบวนท่าบ่มเพาะพลังเวท วิชาโคจรพลังธรรมชาติ]
[ท่านปลดล็อกระบบช่วยเหลือการบ่มเพาะพลัง กระบวนท่าที่สามารถใช้ได้: วิชาโคจรพลังธรรมชาติ]
เสียงหวานของระบบดังขึ้นพร้อมกับเมนูบ่มเพาะพลังที่โผล่ขึ้นมาในหน้าต่างระบบของหลี่มู่และเดมาเซีย ภายในเมนูนั้นมีวิชาโคจรพลังธรรมชาติปรากฏอยู่!
พวกเขาสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ได้ตลอดเวลา และสามารถฝึกฝนได้อย่างง่ายดายด้วยความช่วยเหลือจากระบบ!
“สำเร็จ!”
เอลฟ์ทั้งสองตะโกนด้วยความยินดี
ทันใดนั้น ข้อความจากระบบสีม่วงสดปรากฏขึ้นสู่สายตาของผู้เล่นทุกคน
[ประกาศ–]
[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น หลี่มู่ และ เดมาเซีย ที่ค้นพบตำราโบราณระดับอีปิค วิชาโคจรพลังธรรมชาติ! วิชาโคจรพลังธรรมชาติได้รับการบรรจุในร้านแลกเปลี่ยน]
[เปิดใช้งานฟังก์ชัน บ่มเพาะพลัง อย่างเป็นทางการ!]
[ในฐานะที่เป็นผู้ค้นพบตำราโบราณ ผู้เล่น หลี่มู่ และ เดมาเซีย จะได้รับส่วนแบ่งการขาย 0.5% จากทุก ๆ ยอดขายของตำราตลอดระยะเวลา 1 ปีภายในเกม]
[ผู้เล่นทุกท่านได้รับส่วนลด 50% ในการแลกเปลี่ยน วิชาโคจรพลังธรรมชาติ เป็นระยะเวลา 1 ปีภายในเกม]
เปิดระบบบ่มเพาะพลัง? วางขายตำรา? ค่าคอมมิชชันนนนนนน—-?!
เดมาเซียและหลี่มู่ต่างนิ่งด้วยความตะลึงอยู่ครู่ใหญ่
พวกเขารีบตรวจสอบร้านแลกเปลี่ยน พบว่าภายในร้านมีวิชาโคจรพลังธรรมชาติปรากฏขึ้นมา!
มันเป็นวิชาระดับอีปิคชิ้นเดียวที่วางจำหน่ายอยู่ในเวลานี้
“เหลือเชื่อเลย… พวกเราค้นพบวิชาบ่มเพาะพลังระดับอีปิค!”
หลี่มู่อุทานอย่างแผ่วเบา
เขากดดูรายละเอียดเพิ่มเติมของเคล็ดวิชาดังกล่าว
[วิชาโคจรพลังธรรมชาติ: เคล็ดวิชาฝึกฝนพลังเวทระดับอีปิค สามารถเพิ่มพลังเวทมนตร์และความเข้ากันได้กับพลังธรรมชาติ สามารถใช้ได้จนถึงระดับเงินขั้นสูง (เลเวล 70) ค้นพบโดย: หลี่มู่, เดมาเซีย]
[ค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยน: 5,000 แต้มผลงาน]
เพื่อให้เหล่าผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนและนำมาบ่มเพาะพลังได้เร็วขึ้น อีฟจึงตั้งราคาไว้ในระดับที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้
นับตั้งแต่การเปิดตัวระบบแต้มผลงาน บรรดาผู้เล่นที่มีเลเวล 11 ล้วนมีค่าผลงานสะสมในปริมาณหนึ่ง แม้จะทำเพียงแค่ภารกิจรายวันก็ตาม
เพราะงั้นถ้าขยันฟาร์มมากพอ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ค่ะ!
อีฟได้บรรจุระบบช่วยเหลือการบ่มเพาะพลังไว้ในตัวเกม เพื่อช่วยให้ผู้ที่ซื้อทักษะจากร้านแลกเปลี่ยนสามารถฝึกฝนได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว!
หากมีใครลักลอบซื้อขายทักษะผ่านช่องทางอื่น พวกเขาย่อมไม่ได้รับผลประโยชน์จากระบบนี้
นอกจากนี้ อีฟยังได้สร้างระบบค่าตอบแทนการขาย ซึ่งจะจ่ายส่วนแบ่งให้ผู้ค้นพบวิชาเป็นระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อสร้างแรงกระตุ้นในการสำรวจแก่เหล่าผู้เล่น
ผู้ค้นพบจะได้รับทรัพย์จากทุก ๆ ยอดขายตลอดระยะเวลาหนึ่งปีนับจากวันวางจำหน่าย!
แน่นอนว่าเป็น 1 ปีในฝั่งซากัส ถ้าเวลาฝั่งดาวเคราะห์น้ำเงินก็คือ 3 เดือนค่ะ
อีฟตั้งอัตราส่วนค่าแบ่งการขายไว้ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ โดยจะแบ่งสรรปันส่วนไปตามจำนวนผู้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม เช่นในกรณีที่ค้นพบโดยผู้เล่น 2 คน ก็จะได้รับค่าแบ่งการขายที่คนละ 0.5 เปอร์เซ็นต์
สำหรับวิชาโคจรพลังธรรมชาติของหลี่มู่และเดมาเซีย พวกเขาจะได้แต้มผลงาน 25 หน่วยต่อการแลกเปลี่ยน 1 ครั้งตลอดเวลาในเกม 1 ปีเต็ม!
ชายหนุ่มทั้งสองจะมีรายได้เพิ่มพูนอย่างต่อเนื่องไปอีกพักใหญ่ ๆ
เมื่อเข้าใจกลไกของการค้นพบวิชาและระบบบ่มเพาะพลังทั้งหมด หลี่มู่และเดมาเซียต่างหายใจแรงด้วยความตื่นเต้น
“รวยแล้วพี่มู่! งานนี้โคตรรวย!”
สีหน้าของเดมาเซียดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
ทั้งคู่กำลังฝันหวานถึงแผ่นศิลาจารึกอีก 67 ชิ้นที่กำลังรอให้พวกตนไปขนกลับมา!
6 แผ่นเจอ 1 วิชา!
แล้วอีก 67 แผ่นที่เหลือล่ะ… มันต้องเจออะไรบ้างล่ะน่า?!
คิดได้ดังนั้น หลี่มู่จึงหายเข้าใจเข้าเฮือกหนึ่งก่อนกล่าวกับเดมาเซีย
“ไปเร็ว! หารถเข็นไปขนพวกมันกลับมากัน!”
สิ้นประโยคดังกล่าว ชายหนุ่มทั้งสองต่างพุ่งตัวไปหานกกาเหว่าเพื่อยืมรถเข็นไม้ ก่อนจะพากันวิ่งเข็นมันไปด้วยความตื่นเต้น
ผู้เล่นทั่งเซิฟเวอร์ต่างแตกตื่นเมื่อเห็นข้อความจากระบบ
“แม่เจ้าโว้ย! ไอ้บ้าเดมาเซียอีกแล้ว! ทำบุญด้วยไรมาเนี่ย?”
“วิชาบ่มเพาะพลัง? รีบไปดูเร็ว!”
“วิชาโคจรพลังธรรมชาติ… สกิลเพิ่มพลังเวท?!”
“โอ้ยตาย 5,000 แต้ม… เจ็บใจค่ะ… รายวันทีนึงได้ 50 แต้มเองนะ!”
“โหย เดมาเซียรวยเละแหง นอนกินจนอิ่มอ่ะงี้”
“พวกเราไปสำรวจฟลอเรนซ์มั่งดีมั้ยเนี่ย?”
…
แรกเริ่มเดิมที ผู้เล่นจำนวนมากพากันล้มเลิกภารกิจสำรวจเนื่องจากพวกเขาต่างใช้เวลาไปนานเนิ่นโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอัน ผู้เล่นเหล่านี้จึงเปลี่ยนไปล่าสัตว์อสูรแทน ซึ่งก็มอบค่าประสบการณ์ให้ในระดับที่มากพอสมควร
การค้นพบของหลี่มู่และเดมาเซียเป็นดั่งการโยนหินลงบนผิวน้ำที่สงบนิ่ง เป็นการปลุกแรงใจในการสำรวจให้กับบรรดาผู้เล่นอีกครั้ง!
เอลฟ์จำนวนมากพากันกลับมาที่เมืองฟลอเรนซ์ เพื่อเริ่มภารกิจสำรวจนครศักดิ์สิทธิ์!
พวกเขาต่างคาดหวังว่าตนจะมีโชค และพบเจอตำราสัก 1 ถึง 2 วิชา หรืออาจจะโชคดีถึงขั้นที่พบตำราระดับอีปิคหรือแม้แต่ระดับวีรชน ซึ่งจะพลิกชีวิตให้กลายเป็นเศรษฐีในช่วงข้ามคืน!
หลังจากที่หลี่มู่และเดมาเซียได้นำแผ่นศิลาจารึกที่เหลือกลับมาที่วิหาร ทั้งคู่ได้ราดน้ำมันเข้ากองเพลิงเป็นครั้งที่สอง!
ด้วยความช่วยเหลือของอลิซ ทำให้ทราบว่าจารึกที่เหลือมีเคล็ดวิชาโบราณอยู่อีกถึง 7 แบบ นอกเหนือจากการโคจรพลังธรรมชาติ!
ในบรรดาวิชาเหล่านั้น มี 3 วิชาที่เหมาะกับผู้เล่นสายพละกำลัง และอีก 2 วิชาที่เหมาะสำหรับผู้เล่นสายเวทมนตร์ นอกจากนี้ยังมีวิชาที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ศึกษาศาสตร์แห่งวงเวท และอีกหนึ่งวิชาสำหรับการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์!
ระดับของวิชาเหล่านี้ล้วนต่ำกว่าการโคจรพลังธรรมชาติ ทุกวิชาล้วนเป็นตำราระดับทั่วไป ยกเว้นตำราสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่จัดอยู่ในระดับแรร์
แม้กระนั้น ราคาของพวกมันยังอยู่ที่ประมาณ 800 ถึง 2,000 แต้มผลงาน
การบวงสรวงด้วยเคล็ดวิชาเหล่านี้ ได้มอบค่าประสบการณ์พร้อมแต้มผลงานให้กับหลี่มู่และเดมาเซียเป็นจำนวนมหาศาล มากเสียจนชายหนุ่มทั้งสองต่างยกระดับเป็นเลเวล 12 ท่ามกลางความอิจฉาตาร้อนของผู้เล่นที่เหลือ
อีฟได้ซ่อมแซมเคล็ดวิชาเหล่านั้นและนำพวกมันไปวางจำหน่ายในร้านแลกเปลี่ยน บรรดาผู้เล่นต่างพากันเข้ามาแลกซื้อตำราด้วยความสนใจ
หลี่มู่หยุดพักจากงานสำรวจเป็นการชั่วคราวเมื่อส่งมอบแผ่นศิลาเสร็จสิ้น
เขาเชื่อว่าตัวเองโชคดีที่ค้นพบขุมทรัพย์จำนวนมาก แต่โชคเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด แถมการที่ผู้เล่นแห่กันมาสำรวจโบราณสถาน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาเว้นช่วงจากการสำรวจซากปรักหักพัง
แต่สาเหตุที่แท้จริงที่หลี่มู่หยุดการสำรวจคือความอยากลองโคจรพลัง!
หลี่มู่เดินหามุมสงบในเมืองฟลอเรนซ์ เขานั่งขัดสมาธิลงก่อนจะเปิดใช้งานวิชาโคจรพลังธรรมชาติจากหน้าต่างระบบช่วยเหลือการบ่มเพาะพลัง
ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ หลี่มู่พลันเข้าใจวิธีการโคจรพลังราวกับได้ศึกษามานับครั้งไม่ถ้วน
เขาเริ่มปรับจังหวะลมหายใจให้ตรงตามจังหวะการโคจร วินาทีนั้นปรากฏพลังพิเศษจากภายในตัวที่เข้ามาช่วยในการควบคุมพลังเวทมนตร์ ทำให้เขาเข้าสู่สภาวะที่เหมาะสม
เมื่อตนเข้าสู่สภาวะโคจรพลัง หลี่มู่พลันรู้สึกถึงความสงบภายในจิตใจ
พลังเวทธรรมชาติหลากหลายรูปแบบล่องลอยอยู่โดยรอบ พวกมันจับกลุ่มและไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขา ส่งผลให้พลังเวทในตัวหลี่มู่เพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้สภาพร่างกายของหลี่มู่ก็ถูกปรับสภาพให้แข็งแกร่งกว่าเดิมเพราะการเพิ่มขึ้นของพลังเวทมนตร์…
ด้วยร่างเอลฟ์ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และการช่วยเหลือจากระบบ ทำให้เหล่าผู้เล่นฝึกฝนพลังเวทด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง แม้จะถูกเทพธิดาลดประสิทธิภาพไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ตาม
สภาวะนี้ค่อย ๆ หยุดลงหลังจากส่งผลมา 2 ชั่วโมง
หลี่มู่ลืมตาขึ้นและสำรวจสภาพร่างกายของตนเอง
เขารู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่าค่าประสบการณ์ของตนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แถมศักยภาพของร่างกายและปริมาณพลังเวทมนตร์ยังได้รับการยกระดับอีกเล็กน้อย!
“ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมมาก! พัฒนาขึ้นตั้งเยอะเลย!”
หลี่มู่ยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ได้จากการโคจรพลัง
“ถ้าอัตราการเติบโตคงที่ในระดับนี้ เลเวลของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการนั่งโคจรไปวัน ๆ โดยไม่ต้องทำอย่างอื่น!”
แต่หลี่มู่พลันส่ายศีรษะเมื่อนึกถึงสภาพในปัจจุบันของตัวเอง
“ไม่สิ เราจะฝึกแบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้ การโคจรพลังมีผลแค่ 2 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้มีผลดีอะไรขนาดนั้น”
ผู้เล่นจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังตลอดทั้งวันได้ เช่นเดียวกับบรรดาสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในดินแดนซากัส
เพราะระยะเวลาดังกล่าวคือขีดจำกัดของร่างกาย
โดยทั่วไป การบ่มเพาะพลัง 2 ชั่วโมงต่อวัน ถือเป็นเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด
ภายหลังจาก 2 ชั่วโมง เหล่าผู้เล่นยังสามารถโคจรพลังด้วยตัวเองต่อไปได้ ทว่าประสิทธิภาพของการบ่มเพาะจะลดลงเป็นอย่างมาก มันจึงเป็นการดีที่จะเปลี่ยนไปล่าสัตว์อสูรหรือทำภารกิจรายวันแทนการบ่มเพาะพลัง
หลังจากนี้เป็นต้นไป บรรดาผู้เล่นของเกม The Kingdom of Elves ต่างมีภารกิจรายวันชิ้นใหม่
นั่นคือการบ่มเพาะพลังต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง!
ผู้เล่นสายเวทมนตร์ต่างพากันโคจรพลัง ในขณะที่ผู้เล่นสายกายภาพจะใช้การร่ายรำกระบวนท่า
บรรยากาศของป่าเอลฟ์จึงเต็มไปภาพอันสวยงามของกลุ่มผู้เล่นที่ทำสมาธิและฝึกกระบวนท่า
ผู้เล่นเข้าสภาวะบ่มเพาะพลังกันแล้ว ในที่สุดเทพธิดาก็จะได้เริ่มการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากเหล่าต้นหอมทั้งหลายแล้วค่ะ~✰
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ปุ๋ยเร่งโตของอีฟ–
…
ะ
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _