Gate of God - ตอนที่ 1015 สิ่งที่ข้าควรได้รับ?
ตอนที่ 1015 สิ่งที่ข้าควรได้รับ?
การที่จะขึ้นเป็นผู้นำศาลาหยินหยางได้นั่นหมายความว่าเต๋าฮุนต้องทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่มาก่อนหน้านี้
เช่นนั้นผู้คนน่าจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางมาก่อนในความเป็นจริงนางแสดงรูปลักษณ์ที่แท้จริงมาตลอดตั้งแต่ที่นางได้รับตำแหน่ง
ทำไมผู้ชายกลับกลายเป็นผู้หญิงได้?
เป็นไปได้ยังไง?ยกเว้นว่านาง…จะไม่ใช่ผู้นำศาลาหยินหยาง?! เหล่าผู้อาวุโสต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่ผู้นำศาลาหยินหยาง?!
งั้นนางเป็นใคร?
ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่ผู้อาวุโสกล่าวออกมา
อย่างไรก็ตามมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง… ฟางเจิ้งจือได้ตัดสินใจจะฆ่าเต๋าฮุนแล้ว
สำหรับเขาไม่ว่าเต๋าฮุนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ได้สำคัญอีกต่อไป
เดี๋ยวก่อน…อย่าพึ่งฆ่านาง! ผู้อาวุโสศาลาหยินหยางกล่าวเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือกำลังจะโจมตี
อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป
ต่อให้เป็นมู่ฉิงเฟิงหรือโม่ฉานฉือที่ขอร้องเขาฟางเจิ้งจือก็ไม่สนใจ
ดาบของฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวตวัดเพียงครั้งเดียว หัวของนางก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ
เลือดไหลนองไปทั่วพื้น
เต๋าฮุนผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในเซียนที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลับตายลงโดยไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
เห็นฉากตรงหน้าเหล่าผู้อาวุโสและศิษย์จากศาลาหยินหยางต่างกลั้นหายใจ
เมิ่งเทียนฆ่าเต๋าฮุนจริงๆ?! ไม่ว่าเต๋าฮุนตรงหน้าพวกเขาจะเป็นตัวจริงหรือปลอมแต่การตายของนางทำให้พวกเขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
ใครที่บอกว่าเมิ่งเทียนไม่กล้าฆ่าเต๋าฮุน?
เขาลงมือจริงๆ!
ยิ่งไปกว่านั้นเขาลงมืออย่างเด็ดขาดไม่คิดจะให้นางพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย!
ผู้อาวุโสท่าน… มู่ฉิงเฟิงกลืนน้ำลายและจ้องมองหัวของเต๋าฮุนที่หล่นอยู่ไม่ไกล เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
จะบอกว่าเมิ่งเทียนเป็นคนที่มีความชอบธรรมได้หรือไม่?
เขาทำสิ่งต่างๆโดยไม่ไว้หน้ามนุษย์คนไหนแม้แต่น้อย
หรือจะบอกว่าเมิ่งเทียนเป็นคนชั่วร้ายก็ไม่ถูกนักเพราะอย่างน้อยเขาก็จับตัวหยุนชิงวู
หรือบางที…
เมิ่งเทียนอาจจะแสร้งทำเป็นจับตัวหยุนชิงวูได้?หลังจากถูกเต๋าฮุนเปิดเผยความจริงเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฆ่านางทิ้ง?
ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจของมู่ฉิงเฟิง
เมิ่งเทียนไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเราไม่มีทางปล่อยเจ้าไป! ผู้อาวุโสศาลาหยินหยางกัดฟันแน่นและตะโกนออกมา
ไม่ปล่อยข้าไป?หมายความว่าพวกเจ้าก็อยากตายเหมือนกันใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะปล่อยให้ตัวเองถูกคุกคาม ปลายดาบของเขาจ่อไปที่ลำคอของผู้อาวุโสศาลาหยินหยาง
เหงื่อไหลออกมาบนแผ่นหลังของผู้อาวุโสศาลาหยินหยางพวกเขาหวาดกลัวอย่างยิ่งเมื่อเห็นดาบของเมิ่งเทียน
เขาหยิ่งยโสเกินไป
ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนผู้เป็นความหวังของมนุษยชาติแต่เขากลับไม่สนใจถ้าจะต้องกลายเป็นศัตรูกับมนุษย์ทั้งหมด
มันเหนือกว่าที่กลุ่มพันธมิตรสวรรค์คิดไว้นัก
เจ้าหุบปากได้แล้วงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือมองผู้อาวุโสศาลาหยินหยางที่เงียบไป ข้าเมิ่งเทียนผู้ไม่เกรงกลัวต่อกองทัพปีศาจและอสูร ข้าสามารถจับตัวหยุนชิงวูที่ถูกปกป้องโดยตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้าได้ แต่ตอนนี้ข้ากลับถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจและอสูรโดยพวกเจ้า? มันเป็นสิ่งที่ข้าควรได้รับงั้นรึ?!
…
เมื่อฟางเจิ้งจือถามคำถามนี้ออกมาทุกคนกลับเงียบเสียงลง
มาพูดเรื่องความชอบธรรมต่อหน้าข้า?ในเมื่อเต๋าฮุนกล้าฆ่าข้า ข้าเองก็กล้าที่จะฆ่านางเช่นกัน มันแปลกตรงไหน? ฟางเจิ้งจือกล่าวอีกครั้ง
…
ข้ามีชื่อเสียงมาหลายร้อยปีข้ากลับมาและได้ฆ่าเทพอสูรหลินจี ข้าได้ไปที่เมืองเงาเลือดเพื่อจับตัวเจ้าปีศาจ ข้าได้ทำสิ่งมากมายเพื่อมนุษยชาติแต่พวกเจ้ากลับเชื่อคำพูดของเต๋าฮุนงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือกำลังโกรธมาก
เหล่าศิษย์ต่างก้มหัวลง
เขาพูดถูก
เมิ่งเทียนทำประโยชน์มากมายให้มนุษยชาติ
ไม่เพียงแต่จะฆ่าเทพอสูรหลินจีแต่เพราะแผนการของเขาในครั้งนี้ทำให้กลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์สามารถฆ่าราชาอสูรได้ถึงสองคน
มันถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่…
แต่พวกเขากลับยังสงสัยในตัวตนของเมิ่งเทียน?
ความอึดอัดความละอายก่อตัวขึ้นในหัวใจของพวกเขา
ข้าจำได้ว่ามีบางคนที่โจมตีข้าก่อนหน้านี้?ให้ข้าถามคำถามกับพวกเจ้าสักหน่อยได้ไหม ข้าสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ไหม? ฟางเจิ้งจือขยับดาบเล็กน้อย ปลายดาบบาดลงไปบนลำคอของผู้อาวุโสศาลาหยินหยาง เลือดหยดลงสู่พื้น
ผู้อาวุโสศาลาหยินหยางกัดริมฝีปากร่างกายของเขาสั่นไหวเล็กน้อย เขามองดาบยาวที่อยู่ตรงหน้าเขาและหัวของเต๋าฮุนที่หล่นอยู่ไม่ไกล
ในที่สุดเขาก็คุกเข่าลงช้าๆ
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนข้าสมควรตาย!
ฉั๊วะ!
…
เหล่าผู้อาวุโสศาลาหยินหยางต่างคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับวางดาบไว้ด้านหน้าพวกเขาไม่ต่อต้านอีกต่อไป
ฟางเจิ้งจือกวาดสายตาไปรอบๆ
เขาสามารถฆ่าผู้อาวุโสเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายแต่เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถทำได้อีกต่อไป
นั่นเป็นเพราะกองทัพอสูรและปีศาจได้เข้ามาแล้ว เขาฆ่าเต๋าฮุนเพราะความแค้นส่วนตัว
ไม่มีความหมายที่เขาจะฆ่าผู้อาวุโสของศาลาหยินหยางทั้งหมดอย่างน้อยพวกเขาก็เป็นขุมกำลังสำคัญของมนุษยชาติ
เขาต้องการฆ่าอีกคนเดียวเท่านั้น
เต๋าซิง!
ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้ากองทัพปีศาจและอสูรจะมาถึงในไม่ช้า ฟางเจิ้งจือเก็บดาบ
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงมองไปยังร่างหนึ่ง
ร่างที่ยืนอยู่ข้างๆเหยียนซิว
ข้าไม่ยอมให้ท่านฆ่านาง! เหยียนซิวกล่าวพร้อมบังเต๋าซิงเอาไว้ พัดสีแดงปรากฎขึ้นบนมือของเขาอีกครั้ง
ซิวเอ๋อร์หลีกไปนังนั่นสมควรตาย! เหยียนเฉียนหลี่ตะโกนขึ้นมาทันที
ไม่ เหยียนซิวส่ายหน้า
ซิวเอ๋อร์ข้าเป็นปู่ของเจ้านะ! เหยียนเฉียนหลี่กำหมัดแน่น
ข้ารู้ เหยียนซิวพยักหน้า
เจ้า…เจ้ารู้งั้นรึ? เหยียนเฉียนหลี่ตกตะลึง เขาไม่ได้ยินเหยียนซิวเรียกเขาว่า’ท่านปู่’ตั้งแต่ที่เหยียนซิวสูญเสียความทรงจำ
ที่ภูเขาหลิงเซียวเขาเจอเหยียนซิวหลายครั้ง
อย่างไรก็ตามเหยียนซิวทำราวกับไม่รู้จักเขา
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
เหยียนซิวบอกว่าตัวเองรู้
เหยียนเฉียนหลี่จะไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ได้ยังไง?ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกไปมีร่างหนึ่งกระโดดออกมาจากหมอกหนาทึบที่ลอยห่างออกไปไม่ไกล
หืม?! เหยียนเฉียนหลี่พบว่าพวกเขาใส่ชุดสีดำและสวมหน้ากากผ้าสีดำ
กลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์? จากนั้นร่างที่ดูคุ้นเคยได้ปรากฎขึ้นอย่างไรก็ตามเขาต่างออกไปจากอดีต ตอนนี้เขาทั้งดูซูบผอมอ่อนแอ ต้องมีศิษย์จำนวนหนึ่งพยุงร่างของเขาเอาไว้
โม่ฉานฉือ?เขาบาดเจ็บงั้นรึ? เหยียนเฉียนหลี่รู้วาฟางเจิ้งจือไม่มีทางทำร้ายโม่ฉานฉือ งั้นเขาน่าจะบาดเจ็บเพราะปีศาจและอสูร
และแน่นอนผู้ที่ทำให้โม่ฉานฉือบาดเจ็บได้ต้องไม่ใช่อสูรหรือปีศาจทั่วไปต้องเป็นตัวตนระดับเทพเจ้า!
ตาเฒ่าโม่เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? มู่ฉิงเฟิงพุ่งไปหาโม่ฉานฉือทันทีโดยไม่ลังเล
ข้า…ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย โม่ฉานฉือส่ายหน้าให้มู่ฉิงเฟิงจากนั้นก็หันไปหาฟางเจิ้งจือ ขอบคุณท่านมากผู้อาวุโสเมิ่งเทียน…หืม?!
ขณะที่โม่ฉานฉือขอบคุณฟางเจิ้งจือเขาเห็นศพไร้หัวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฟางเจิ้งจือ
จากนั้นเขาก็เห็นหน้ากากอันคุ้นเคยและหัวของหญิงสาวนางหนึ่งอยู่ใกล้ๆ
เต๋า…เต๋าฮุนงั้นรึ?! โม่ฉานฉือตกใจมาก เขาไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อย
เต๋าฮุนตายแล้ว?!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เต๋าฮุนพยายามกล่าวหาผู้อาวุโสเมิ่งเทียนว่าเป็นพวกปีศาจและอสูรเขาจึงฆ่า… มู่ฉิงเฟิงเห็นความตกใจในสายตาของโม่ฉานฉือ
กล่าวหาผู้อาวุโสเมิ่งเทียนงั้นรึ?เต๋าฮุน…เยี่ยมมาก! แค่ก แค่ก..มันสมควรตายแล้ว ฮ่าฮ่า… โม่ฉานฉือหัวเราะออกมาทันทีหลังจากที่หายตกใจ
เกิดอะไรขึ้นด้านนอก? มู่ฉิงเฟิงรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติทันทีเมื่อได้เห็นท่าทีของโม่ฉานฉือ
นั่นเป็นเพราะจากการคาดเดาของเต๋าฮุนโม่ฉานฉือนั้นบาดเจ็บเพราะเมิ่งเทียน
แต่โม่ฉานฉือยังคงเรียกเมิ่งเทียนว่าผู้อาวุโสนั่นหมายความว่าเป็นเรื่องจริงที่หยุนชิงวูถูกเมิ่งเทียนจับตัวได้
ข้าทำผิดพลาด…ข้าคิดว่าพวกเราสามารถชะลอกองทัพพวกปีศาจและอสูรได้อย่างไรก็ตามพวกเรากลับทำได้ไม่นานนัก… โม่ฉานฉืออธิบาย
พวกมันมีจำนวนมากเท่าไร?
จำนวนมิใช่น้อยๆยิ่งไปกว่านั้นมีตัวตนระดับเทพเจ้าสามคนตามมา…
ตัวตนระดับเทพเจ้าสามคน?! ท่าทีของมู่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปทันที
นอกจากมู่ฉิงเฟิงแล้วนั้นท่าทีของทุกคนในกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ตัวตนเทพเจ้านั้นมีพลังอันน่าสะพรึงกลัว
เพียงคนเดียวก็สามารถเทียบได้กับเซียนนับสิบคน
พวกเราควรทำเช่นไรดี?!
กองทัพอสูรและปีศาจกำลังมาถึงแล้ว!
พวกเราจะพ่ายแพ้แบบนี้งั้นรึ? เดี๋ยวก่อน!พวกมันจะกล้าทำร้ายพวกเราได้ยังไงในเมื่อหยุนชิงวูอยู่ในมือของพวกเรา?
แม้ว่าพวกเขากำลังตื่นตระหนกแต่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
อย่างน้อยตอนนี้หยุนชิงวูก็อยู่ในมือพวกเขาปีศาจและอสูรจะกล้าลงมืองั้นหรือ?
มันไร้ประโยชน์ตอนนี้ผู้บัญชาการกองทัพปีศาจและอสูรคือฉินเซียน เขา…เขาบ้าคลั่งกว่าหยุนชิงวูนัก…เขาได้ออกคำสั่งแล้ว ข้าคิดว่า…แม้แต่หยุนชิงวู…ก็ไม่สมารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก… โม่ฉานฉือส่ายหัว
อะไรกัน?!
แม้แต่หยุนชิงวูก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นหรือ?
แล้วพวกเราควรทำเช่นไรพวกเราต้องสู้กับพวกมันทั้งหมดจริงๆงั้นรึ?
การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอกแต่พวกเขาได้ยินประโยคหนึ่ง
’หยุนชิงวูไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกต่อไป’
ผู้อาวุโส…เมิ่งเทียนผู้อาวุโส… โม่ฉานฉือมองไปที่ฟางเจิ้งจือเพราะเขารู้ว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถหยุดกองทัพอสูรและปีศาจได้
เรื่องนั้นไว้ก่อนข้าต้องการฆ่าอีกคน ฟางเจิ้งจือโบกมืออย่างสบายๆจากนั้นก็มองเต๋าซิงที่เหยียนซิวบังเอาไว้อยู่
ยิ่งคิดเขายิ่งโกรธเกรี้ยว
นางส่งเขาไปที่เก้าขุนเขาให้เขาถูกหลอมในหม้อหลอมจนตาย เขาคงนอนหลับไม่สนิทถ้าหญิงคนนี้ยังไม่ตาย
ฆ่าอีกคน? โม่ฉานฉือตกตะลึง
อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจทันทีเมื่อเห็นสายตาของฟางเจิ้งจือที่มองไปยังเต๋าซิง
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนต้องการจะฆ่าเต๋าซิงหลังจากฆ่าเต๋าฮุนไปงั้นรึ?
เดี๋ยวก่อน!
เกิดอะไรขึ้น?
เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้กันแน่?
……………………………………..