Gate of God - ตอนที่ 419
ลองนึกภาพถึงตอนที่ตื่นขึ้นมาและเห็นสาวงามยืนอยู่ตรงหน้า ตอนนั้นทุกคนจะมีทางเลือกอยู่แค่ 2 ทาง
เมื่อขยี้ตาหญิงสาวคนนั้นก็จะหายไปหรือเลือกหลับต่อไปหญิงสาวคนนั้นก็จะหายวับไปในกลุ่มควันเมฆ
ผลสุดท้ายก็เหมือนกัน
แต่คนฉลาดหลายคนรู้ว่าอะไรเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนฉลาด แต่มันกลับไม่ใช่หญิงงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า มันคือดาบดาบที่ทำให้เขาไม่สามารถหลับต่อไปได้
เพราะงั้น…
เขาจึงตัดสินใจขยี้ตา
“ทำไมดาบ …ยังอยู่อีก?!”ฟาง เจิ้งจือ ตระหนักว่าดาบยังคงปักอยู่ที่อกของเขา
มันเจ็บปวด!
มาก
มันเป็นความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้ ใครก็ตามที่เคยถูกแทงมาก่อนก็คงรู้
ความฝัน?
หรือความจริง!
นี่เป็นครั้งที่สองที่ ฟาง เจิ้งจือ ถามคำถามนี้ตั้งแต่ลืมตาขึ้น เขาเชื่อว่ามันเป็นความฝันมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อว่ามีดาบปักอยู่ที่อกของตัวเองจริงๆ
“นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ศิลาเซียนสามารถปรากฎขึ้นในความจริงได้หรือไม่? ไม่มีทาง! นอกจากนี้เขาพึ่งถูก เหยียน ซิว โจมตีใส่ เขาควรจะสลบอยู่บนพื้นที่ด้านล่าง
ทำไมเขาถึงต้องอยู่บนหน้าผา? แล้วทำไมเขาถึงถูกแทง?
ละเมอรึ?
บ้าแล้ว เขาไม่เคยทำนิสัยอย่างนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าเขาจะเดินละเมอยังไง ก็ไม่มีทางที่เขาจะปีนขึ้นไปบนยอดเขาผ่านเส้นทางที่มีทหารนับแสนคนด้านล่างนั้นได้
หยุน ชิงวู คือใครกัน?
นายน้อยของเหล่าปีศาจ
เขาเข้ามาใกล้นางได้ยังไง?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่ามันเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้โง่ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ทะลุผ่านเส้นเลือดของเขา
นี่มันจริงเกินไปแล้ว
เช่นนั้น…
สิ่งที่เขาทำได้คือยอมรับว่าทุกสิ่งที่เขาเห็นเป็นเรื่องจริง
“ถอยไป อย่าขวางข้า!”ฟาง เจิ้งจือ กัดฟันแน่นและเตะ ซี่ โปหนาน ออกไป
ซี่ โปหนาน ตกตะลึงเมื่อได้เห็น เขายังคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในร่างที่คิดแต่จะฆ่าอย่างเดียว
จิตสังหารก่อนหน้านี้ เป็นกลิ่นอายที่เกือบจะทำให้เขาเป็นเทพแห่งความตายได้
เขาพุ่งขึ้นไปที่หน้าผาเพื่อดึงผ้าคลุมหน้าของ หยุน ชิงวู งั้นหรือ? ดูเป็นไปไม่ได้มากๆ
เกิดอะไรขึ้น?
ตอนนี้กลิ่นอายที่ออกมาจากร่างของ ฟาง เจิ้งจือ คืออะไรกัน? จิตสังหารของเขาไปอยู่ที่ไหนกัน?
คำถามวนเวียนในใจของเขา แต่ก็ไม่มีใครตอบได้ เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เตะเขา สิ่งเดียวที่เขาทำคือ …
จ้องมอง…
เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาไม่มีพลังหรือเรี่ยวแรงเหลืออยู่แล้ว
ซี่ โปหนาน ไม่เคยรู้สึกขี้ขลาดแบบนี้มาก่อน เขารู้สึกว่าตนควรจะปกป้อง หยุน ชิงวู
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาถูก ฟาง เจิ้งจือ เตะจนร่วงตกจากยอดเขาอย่างที่ตัวเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“อ๊าก!”เขาร้องโหยหวนขณะที่ร่างค่อยๆกลิ้งตกลงไป
แม้ว่าเขาจะเป็นปีศาจในระดับอภินิหาร เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกรีดร้อง พลังของเขาหมดลง เขาต้องถูกทหารด้านล่างจับตัวแน่นอน
เขาไม่ต้องการให้ชีวิตของตัวเองต้องมาจบลงแบบนี้เลยจริงๆ
เขาจะล้มเหลวในการช่วยชีวิตนายน้อยและตายลง
ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ฟาง เจิ้งจือ อาละวาด หยุน ชิงวู ทำการโจมตี ผ้าคลุมหน้าของนางถูกเปิดออก และ ซี่ โปหนาน ที่ร่วงลงมาจากเขา
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นความจริง
ยังไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
แทง? แล้วเปิดผ้าคลุมหน้าของนาง? มันเกี่ยวอะไรกัน? หยุน ชิงวู เป็นคนที่แทง ฟาง เจิ้งจือ แต่ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงเตะ ซี่ โปหนาน ออกไป?
ซี่ โปหนาน ราวกับเป็นเหยื่ออารมณ์!
หากเหตุการณ์ค่อยๆเกิดขึ้น ความสับสนจะน้อยลงกว่านี้ อย่างไรก็ตาม มันเกิดขึ้นพร้อมกันมั่วไปหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจ
แล้วก็ …
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น
หลังจากที่ ฟาง เจิ้งจือ เตะ ซี่ โปหนาน ลงจากหน้าผา เขาก็ยื่นแขนออกไปและลูบหัวของ หยุน ชิงวู
“ฮึ่มมม ขนคิ้ว … แววตา, ริมฝีปาก, โอ้… เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน“ฟาง เจิ้งจือ พึมพำพูดเกี่ยวกับ หยุน ชิงวู ราวกับว่าเขากำลังชื่นชมงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
“ตูม!” แสงจากสายฟ้าคะนองทำให้ ใบหน้าของนางส่องสะท้อนด้วยแสงของสายฟ้า
ตกตะลึง!
ไม่มีคำพูดใดที่จะสามารถอธิบายอารมณ์ของเหล่าทหารที่มองดูอยู่ด้านล่างออกมาได้
พวกเขาตกตะลึงเกินกว่าที่จะเชื่อ
ในขณะนี้ ดวงตาของ ไป่ ซิง เบิกกว้างจนสุด ปากของ วู่ ยี่ อ้าค้างจนสามารถสอดแขนเข้าไปได้
บรรดาปีศาจก็ตกตะลึงเช่นกัน
มากเสียจนพวกเขาลืมเรื่องที่จะต้องจับตัว ซี่ โปหนาน ไป มันเป็นความเจ็บปวดแบบไหนกัน?
มันให้ความรู้สึกราวกับว่า มีใครคนหนึ่งกำลังเล่นตลกกับสิ่งของล้ำค่าอยู่ฟาง เจิ้งจือ กำลังลูบใบหน้าของ หยุน ชิงวู
สิ่งนี้ไม่ควรให้เหล่าทหารได้เห็น
นี่เป็นการดูถูกที่ใหญ่หลวงนัก
พวกเขาสามารถชื่นชมอย่างรื่นรมย์ได้ แต่ไม่สามารถดูถูกเช่นนี้ได้
แต่ตอนนี้…
การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ขัดกับหลักการเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาทำได้คงโยน ฟาง เจิ้งจือ ลงไปในเล้าหมูหรือแม้น้ำแล้ว
บางที่ ฟาง เจิ้งจือ อาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ไม่มีใครรู้
ไม่!
ต่อให้มีเขาก็ไม่ควรทำแบบนี้ เขาควรฆ่า หยุน ชิงวู ทิ้งซะ
ทำไมเขา…
เล่นกับนางราวกับนางเป็นแค่ของเล่นแบบนี้!
“มันเป็นความอัปยศของพวกเราจริงๆ!“
“อัปยศจริงๆ! “
เหล่าอัจฉริยะต่างเหลือบมองไปที่ หยุน ชิงวู มันเจ็บปวดมากที่เห็นสมบัติของพวกเขาตกอยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ
“เอิ่ม … ” ซิง หยวนกัว มองไปที่หน้าผาด้วยท่าทีแปลกๆเช่นกัน
หยุน ชิงวู ฉลาดมาก นี่คือสิ่งที่ปีศาจทุกตนรู้ดี
อย่างไรก็ตาม นางไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ คิดอะไรอยู่ดี แม้คางของนางจะถูกเชยขึ้นโดย ฟาง เจิ้งจือ แม้ตัวของนางจะอยู่ใกล้กับ ฟาง เจิ้งจือ มาก จนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา…
นางก็ยังไม่เข้าใจ
ไร้ยางอาย?
นางรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ไร้ยางอาย แต่มันก็ต้องมีขีดจำกัด? นางพึ่งแทงเขาไป เขาไม่คิดจะแก้แค้นนางหรือ?
ทำไมเขาถึงพยายามเล่นกับข้า?
ก่อนหน้านี้เขายังดูโกรธเกรี้ยวอยู่เลย? คนเราจะเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วขนาดนี้เลย?
โอ้ ใช่!
จิตสังหารของหายไปไหนแล้ว?
ขณะที่นางกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางรู้สึกถึงมือที่สัมผัสนาง นางไม่เคยถูกสัมผัสมาก่อน
ราวกับไฟฟ้าช็อต
“อืม … มันนุ่มนวลและอุ่นเล็กน้อย ข้าสามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของนาง ไม่มีทาง? มันเป็นเรื่องจริงได้ยังไง?” หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสด้านหนึ่งแล้วเขาก็ลองอีกด้านหนึ่ง เขายิ้มด้วยความพึงพอใจ
ความรู้สึกนี้เกินจริงไปมาก จนหัวใจของเขาเต้นรัว
เขารู้ว่าความจริงเขาไม่เคยสัมผัสร่างกายของ หยุน ชิงวู มาก่อน ถ้านี่เป็นความฝัน ทำไมเขาถึงรู้สึกได้ชัดเจนขนาดนี้
เดี๋ยวก่อน!
“นี่ … นี่ … นี่ของจริงงั้นรึ!“รอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างขณะที่มือของเขาก็เคลื่อนที่วนไปมาอยู่ที่หน้าอกของ หยุน ชิงวู
“ตูม!“
ท้องฟ้าอันมืดมิด มีสายฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง
ทุกคนเห็นมือของ ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสเข้ากับ หน้าอกของ หยุน ชิงวู
“แกร้ง แกร้ง..” เสียงอาวุธจำนวนมากหล่นลงพื้นด้วยความไม่เชื่อ
“ตายตายตาย … “
“ฆ่าเขาสิ!“
“พวกเราต้องฟาดเขาให้ตาย!“
“ข้าจะตัดมือเขาทิ้ง! เขากล้าย่ำยีเทพธิดาของข้าได้ยังไง!“
เสียงมากมายตะโกนขึ้นมาจากด้านล่างหน้าผา การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้พวกเขากลับมามีสติอีกครั้ง
เป็นเพราะว่า…
ความโกรธได้ลุกไหม้ในใจพวกเขา
พวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกต่อไป
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาแข็งค้าง และหันไปมอง หยุน ชิงวู
เขาเห็นว่าใบหน้านางขึ้นสี หลังจากที่นางถูก ฟาง เจิ้งจือ คุกคาม ไม่ว่าผู้หญิงคนไหน แม้แต่ หยุน ชิงวู ที่ปกติจะนิ่งสงบ ก็ต่างมีท่าทีเช่นกัน
ฟาง เจิ้งจือ ต้องการอธิบายตัวเอง
ฉากที่เกิดขึ้นนี้มันน่าอับายมาก
แน่นอน…
คำอธิบายคือเขาไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ สิ่งที่เขาต้องการคือพิสูจน์ว่ามันเป็นความฝันเท่านั้น
ต่อให้ในโลกก่อนเขาจะเป็นคนเปิดกว้างและกล้าหาญ แต่ก็ไม่ขนาดนี้
แต่อย่างน้อยนางก็คงไมท้องเพราะแค่เขาเอามือไปจับตัวนางหรอกใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม …
หยุน ชิงวู จะเชื่อเขาไหม
ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีโอกาสที่จะอธิบายตัวเอง ท่าทีของ หยุน ชิงวู เปลี่ยนนจากความอับอายเป็นโกรธเกรี้ยว
อย่างไรก็ตามในพริบตา…
เขาเห็นแสงสียาวเข้ามาในสายตา มันเรียวบางราวกับดาบ
ฟาง เจิ้งจือ จำได้ว่าดาบเล่มนี้พึ่งปักหน้าอกเขาอยู่
“เจ้าดึงดาบออก?! อ๊าก… ” เลือดของ ฟาง เจิ้งจือ พุ่งออกมาจากบาดแผลพร้อมกับเสียงร้องของเขาทันที
ในขณะนี้เขามั่นใจว่าทุกอย่างเป็นของจริง เขาเพิ่งถูกแทง
คำถามคือ …
เขาถูกแทงโดยปีศาจที่เขาเพิ่งเตะ? หรือเขาถูกแทงโดย หยุน ชิงวู?
คำถามนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะสุดท้าย หยุน ชิงวู ก็ดึงดาบออกไปแล้ว
ทำไมนางถึงป่าเถื่อนขนาดนี้?
นางดึงดาบออกโดยไม่ถามเขาแม้แต่น้อย?
อย่างน้อยชวยเตรียมยาฆ่าเชื่อไว้หน่อย! หรือเตรียมพ้องผ่าตัดให้ข้าก็ได้?
ถ้าเส้นเลือดใหญ่ของเขาถูกตัดล่ะก็…
“เชี่ย เลือดข้าจะหมดตัวแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ ลนลานเมื่อเห็นเลือดพุ่งออกมา
มือของพยายามปิดที่หน้าอกตัวเอง
ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? ข้าเข้าใจเต๋าในศิลาเซียนแล้ว เขาพึ่งเข้าใจหลัการสำคัญในระดับอภินิหาร
เขาไม่ได้กลายเป็นเซียนแล้วหรือ?
ทำไมกัน?
ทำไมเขากลับมาในความเป็นจริง?
นอกจากนี้เขาพึ่งถูกแทง และ หยุน ชิงวู เป็นคนดึงดาบออก นี่คือความจริงที่เจ็บปวด
เขากำลังจะตายใช่ไหม
“ไม่! ใครก็ได้ช่วยข้าหน่อย ข้าพึ่งถูกแทง มีเลือดออกจากบาดแผลอย่างมาก! ใครก็ได้ถ่ายเลือดให้ข้าหน่อย! กรุ๊ปเลือดของข้าคือ A+ !“