Gate of God - ตอนที่ 719 ปิดประตู
หรือว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจะมีอยู่จริงงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!แล้วทำไมถึงมีโซ่บนท้องฟ้าได้ล่ะ? นอกจากนี้หินสีดำก้อนนั้นอีก มันคืออะไรกัน? มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าบนโลกมีนี้สิ่งที่เรียกว่าหลักวิทยาศาสตร์อยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากความรู้ในโลกก่อนของเขา สิ่งนี้ไม่น่าจะมีจริงได้
เดี๋ยวก่อนหรือว่าจะเป็น …
ในตอนนั้นเองก็มีภาพหนึ่งปรากฎขึ้นในหัวของ ฟาง เจิ้งจือ มันเกี่ยวข้องกับเจ้าแม่หนี่วา (หนึ่งในเทพผู้สร้างของจีน)
ตำนานกล่าวถึงตอนที่เจ้าแม่หนี่วาพยายามซ่อมแทรมสรวงสวรรค์ตามตำนานเทพแห่งและเทพแห่งไฟได้ต่อสู้กัน
จนทำให้สวรรค์พังทลายสายน้ำบนสวรรค์ได้ไหลลงมาบนโลกมนุษย์ เจ้าแม่หนี่วาทนเห็นชาวมนุษย์ทนทุกข์ไม่ได้จึงสร้างหินสีห้าชิ้นเพื่อปิดรอยรั่วนั้น เจ้าแม่หนี่วานำความสงบสุขมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าตำนานดังกล่าวมีหลากหลายรูปแบบ แต่มันก็เป็นแค่ตำนาน
ซึ่งบนโลกใบนี้อาจจะมีตำนานที่คล้ายๆกันอยู่…
อย่างไรก็ตามถ้ามีผู้ที่เป็นทายาทของเจ้าแม่หนี่วาจริง..
จากนั้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ เมื่อคำพยากรณ์ของสวรรค์คือตัวเขาและ ฉือ กูเหยียน นั่นอาจหมายความว่า ฉือ กูเหยียน สืบเชื่อสายมาจากเจ้าแม่หนี่วา
หรือว่าตำนานนี้จะเป็นเรื่องจริง?
ถ้ามันเป็นเรื่องจริงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านหลังประตูหิน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เจ้าแม่หนี่วาสร้างเอาไว้
โซ่สีดำที่พันรอบหินก้อนใหญ่…
หนานกงเฮา สามารถทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวปรากฎขึ้นมาได้ด้วยการสังเวยเลือด
ด้วยความเกี่ยวข้องกันของสิ่งต่างๆในตอนนี้ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ กล้าที่จะเดา แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดา
อย่างไรก็ตามถ้ามันเป็นเรื่องจริงการที่ หนานกง เฮา สามารถทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวปรากฎขึ้นมาได้นั้น จะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก
หรือว่าจะมีความลับซ่อนอยู่อีก?
ฟางเจิ้งจือ หยุดคิดเพราะเขาเห็นก้อนหินสีดำ ในขณะที่ประตูกำลังปิด มันเริ่มแตกออก
”แกรก!”หินสีดำส่องแสงประกายมันเป็นแสงที่น่ากลัว ทำให้หายใจลำบาก
มันเป็นแค่แสงสว่างทำไมถึงมีแรงกดดันขนาดนี้?
ในก้อนหินสีดำมีอะไรอยู่กันแน่?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม มู่ ฉิงเฟิง ยืนมองมันอยู่บนท้องฟ้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกลียดทันที เขาแข็งทื่อเป็นหิน
จากนั้นมู่ ฉิงเฟิง ก็เริ่มขยับ เขารีบพุ่งไปที่ประตูหินโดยไม่ลังเล
”อาจารย์!”
เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เห็นสิ่งนี้พวกเขาก็เริ่มกังวล แม้จะไม่รู้เกี่ยวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเลยก็ตาม
”ตูม!”มู่ ฉิงเฟิง กระแทกฝ่ามือไปที่ประตูหิน มันสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามประตูกลับสั่นสะท้านเล็กน้อยเท่านั้น
ในทางกลับกันตัวของ มู่ ฉิงเฟิง เองก็กระเด็นออกมาเช่นกัน
นอกจากนี้สีหน้าของเขายังซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด การกระแทกฝ่ามือมันทำให้เขาบาดเจ็บเล็กน้อย
ปากของฟาง เจิ้งจือ เปิดออกเล็กน้อย
เขาจำได้ว่ามู่ ฉิงเฟิง สามารถปิดประตูชีวิตของเขาได้อย่างง่ายดาย ประตูหินสีเขียวนี้…
เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งเหมือนกันงั้นหรือ?!
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าความลับที่อยู่ด้านหลังประตูบานนั้นคืออะไร แต่ถ้ามันเป็นสมบัติจริงๆ
”ข้าจะเอามันไปได้ไหม?”
แต่ถ้ามู่ ฉิงเฟิง ยังไม่สามารถปิดมันได้ แล้วตัวเขาจะเอามันมาได้ยังไง
”ใช้เต๋าแห่งชีวิต!”ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ คิด ฉือ กูเหยียน ก็โผล่มาข้างๆ
”หึ?มันจะมีผลกับประตูสีเขียวนั่นงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่านางกำลังพูดกับเขาอยู่
”ข้าไม่รู้แต่มันก็ไม่ได้อันตรายอะไรที่จะลอง!” ฉือ กูเหยียน ส่ายหน้า
จากนั้น…
ฉือกูเหยียน ก็เคลื่อนไหว
ก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะเคลื่อนไหว นางก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
ฟางเจิ้งจือ สับสนเพียงชั่วครู่ ความงดงามและหนักแน่นของนางเริ่มทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว
”ผนึก!”ฉือ กูเหยียน ร้องออกมา ดวงแสงปรากฎขึ้นบนมือของนาง
จากนั้นมือนางก็ปะทะเข้ากับประตู
”ตูม!”ประตูเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง มันปิดลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่านางจะทำได้ผลมากกว่า มู่ ฉิงเฟิง
”เป็นไปได้ยังไงมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง
มันอาจจะเกี่ยวข้องกับสายเลือดของนาง
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่เข้าใจว่าหนานกง เฮา กว่าจะเปิดประตูนี้ได้ เขาต้องสูญเสียไปหลายอย่าง แต่มันจะถูกปิดง่ายๆแบบนี้
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่ามันแปลกมาก
อย่างไรก็ตามมีอีกร่างรีบพุ่งไปที่ประตูเขาเร็วมาก ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาเปล่งแสงออกมา เขาคือผู้อาวุโส กู่ หยวน
”ตูม!”เขากระแทกฝ่ามือเข้ากับประตู
อย่างไรก็ตามร่างของกู่ หยวน กลับกระเด็นออกมาพร้อมกับกระอักเลือด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ฟาง เจิ้งจือ ตกใจเกิดขึ้นอีกครั้ง…
ประตูหินสีเขียวปิดลงอีกนิดหน่อย…
”มันสามารถปิดได้จริงๆงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่รูว่ามันเป็นไปได้ยังไง…
แต่มันอาจจะปิดได้จริงๆ
ซึ่งมันอาจจะมีเงื่อนไขบางอย่าง ไอรีนโนเวล
เขาหยุดคิด
เพราะตอนนี้เขาควรทำอย่างอื่นพวกเขาต้องปิดประตูนี้ให้ได้ก่อน
เมื่อปิดประตูนี้ได้ชีวิตพวกเขาคงสงบสุขไปชั่วครู่หนึ่ง
”ตูม!”มู่ฉิงเฟิง กระแทกฝ่ามือทั้งสองข้างลงที่ประตูหินอีกครั้ง นั่นทำให้สีหน้าของเขาซีดขาว และมีเลือดไหลออกที่มุมปาก
อาจคิดได้ว่าแรงปะทะจากประตูหินขึ้นอยู่กับพลังที่ปล่อยออกไป
เดี๋ยวก่อน!
ขึ้นอยู่กับพลังที่ปล่อย?
ตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้างทันที
ในตอนนั้นเองศิษย์ทั้งสองสำนักก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่างก็พากันพุ่งขึ้นไปที่ประตูหินอย่างไม่ลังเล
มันเป็นภาพที่งดงาม
ราวกับดวงดาวนับพันมารวมตัวกัน
แสงสีมากมายเริ่มส่องสว่างออกจากร่างของพวกเขาไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย
ส่วนหนานกง มู่ เขาดูมีท่าทีที่เศร้าโศกอย่างมากเขาจ้องมองที่ประตูหิน และหยุดอยู่กลางอากาศ ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย หยานฉิงที่อยู่ด้านหลังของเขา ไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อลอบโจมตี เขากลับยืนอยู่เงียบๆราวกับรูปปั้น
”ตูม!”
”ตูม!ตูม!”
ศิษย์ในระดับเซียนหลายสิบคนพุ่งไปด้านหน้าประตูหินพวกเขากระแทกฝ่ามือนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยแรงของพวกเขา ดูเหมือนประตูหินจะปิดลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามพวกเขาปล่อยพลังออกไปอย่างมาก…
สีหน้าของพวกเขาเริ่มซีดขาวและมีเลือดไหลออกที่มุมปาก เห็นได้ชัดว่ากำลังเจ็บปวด
”ถ้าร่วมมือกันคงจะดีกว่า!”ฟางเจิ้งจือ คิดเช่นนั้น เขามองเห็นประตูกำลังปิด และตระหนักว่า ถึงเวลาที่เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
เราต้องคว้าโอกาสไว้ให้มากที่สุด
ฟางเจิ้งจือ คิดว่าตอนนี้อาจจะเป็นโอกาสที่แสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเองก็เป็นคนดีเช่นกัน เขาไม่ลังเล
ฟางเจิ้งจือ พุ่งไปด้านหน้าด้วยความมุ่งมั่น
”ทุกคนหลีกไป!ให้ข้าลองสักหน่อย!”ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าในเวลาเช่นนี้ เขาควรจะโชว์ออฟสักหน่อย ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปเช่นนั้น
เขารู้จักสถานการณ์แบบนี้ดีเขาควรจะปรากฎตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ มันจะทำให้เขาดูเด่นกว่าใครๆ
ดังนั้น…
ฟางเจิ้งจือ จึงพุ่งไปด้านหน้า
เหล่าศิษย์โดยรอบจะตกใจกับคำพูดของฟาง เจิ้งจือ และหลีกทางให้เขา
”ผู้ชายคนนี้อยากตายเหรอไง?”
”คิดจะรับแรงสวนจากประตูเขาไม่กลัวตายหรือไง?”
”ข้าไม่คิดเลยว่าคนไร้ยางอายแบบเขา จะมีศีลธรรมในช่วงเวลาเช่นนี้…”
”เขาเองก็เป็นผู้ถูกเลือกใช่ไหม?” เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างเปิดทางให้เขาพวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นสีหน้าที่มุ่งมั่นของ ฟาง เจิ้งจือ
มู่ฉิงเฟิง เองก็เห็นสิ่งนี้เช่นกัน ท่าทีของเขาตกใจราวกับพึงนึกอะไรขึ้นได้ จากนั้นก็ก้าวไปด้านข้าง
ฟางเจิ้งจือ ก็ตกใจเช่นกัน
เขาไม่ตกใจที่เหล่าศิษย์เปิดทางให้เขาแต่เขาไม่เข้าว่าทำไมคนพวกนี้ถึงไม่โจมตีประตูต่ออีกสักหน่อย? ประตูหินกำลังจะปิด
อย่างไรก็ตามมันยังเปิดอยู่
”ข้ารีบร้อนเกินไปหรือ?”ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่าเขาจะทำให้ทุกคนหยุดได้เพียงแค่ตะโกนออกไป เขาคิดว่าอย่างน้อยก็จะโจมตีกันต่อไปอีกหน่อย
สิ่งนี้ทำให้สถานการณ์ตกอยู่ในความอึดอัด
เขาคงไม่สามารถขอให้เหล่าศิษย์โจมตีต่ออีกสับรอบได้ใช่ไหม?
ฟางเจิ้งจือ หยุดอยู่หน้าประตู ด้านหน้าของเขาเป็นท้องฟ้าสีดำสนิท แสงของดวงดาวส่องประกาย
เขามองเห็นก้อนหินเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมาย
มันกำลังจะระเบิดออก
แน่นอนว่า…
ในตอนนี้สายตาของทุกคนกำลังจับจ้องมาที่เขาไม่มีใครเคลื่อนไหว ไม่มีใครพูดอะไร
แม้แต่สีหน้าของฉือ กูเหยียน ก็แสดงถึงคำว่า ถ้าเจ้าทำได้ ก็ทำซะ!
”…”ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย เขารู้สึกได้ถึงความคาดหวังจากรอบตัว ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่เพราะเขามีอิทธิพลอะไรนัก
แต่คนพวกนี้จงใจทำแบบนี้หรือพูดให้ถูกก็คือพวกเขา ฉลาด
ก็ได้…
ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นผู้เสียสละเสียแล้ว เขาไม่ต้องการความดีความชอบในการปิดประตู ที่เขาต้องทำตอนนี้ก็คือ รักษาศักดิ์ศรีของตัวเขาเอาไว้ เขาจะปิดประตูได้มากแค่ไหนกัน?
”โซ่ตรวนนรก!”แขนของฟาง เจิ้งจือ ขยับและโซ่ตรวนทั้งหกสีก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือ พวกมันเข้าไปพันรัดรอบประตูหิน
มันเป็นไปตามที่เขาคิดเขาไม่ได้รับแรงสวนจากประตู ถ้าหากไม่ได้โจมตีมัน คนที่นี่เอาแต่พยายามโจมตีมัน โดยไม่คิดวิธีอื่นเลยได้ยังไง?
ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย และรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า ในตอนที่เขาพยายามดึงโซ่ ก็มีเสียงที่น่ากลัวดังขึ้นข้างๆเขา
”อย่าเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านหลังประตู…ดึงโซ่นรกกลับมาเร็วเข้า!”เสียงนั้นเป็นของ มู่ ฉิงเฟิง
”หา?”ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง ในตอนที่เขาพยายามจะดึงโซ่นรกออกมา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัววิ่งเข้าหาเขา ”เชี่ย!”ทำไมมันเป็นแบบนี้? ข้ายืนอยู่นอกประตู และสิ่งที่ข้าทำก็เพียงแค่เหวี่ยงโซ่ออกไปรัดพันประตูเท่านั้น นี่ก็นับว่าเข้าไปในท้องฟ้านั้นด้วยงั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ พูดไม่ออก สิ่งที่ทำให้เขาพูดไม่ออกหนักกว่าเดิมก็คือ แรงดึงดูดพุ่งเข้าหาตัวเขา ในตอนนั้นเขาเห็นก้อนหินสีดำระเบิดออก
”ตูม!”เสียงระเบิดดังขึ้น
จากนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านหลังประตูหินก็สั่นไหว
ท้องฟ้าเริ่มปั่นป่วนอย่างเห็นได้ชัดแรงลมจากการระเบิดพัดออกมา มันทำให้ดวงดาวมากมายบนท้องฟ้าหมุนวนไปทั่ว
”…”ฟาง เจิ้งจือ จะพูดไม่ออก
……………………………………..