Gate of God - ตอนที่ 1001 ฝ่าเข้าไปให้ได้!
ตอนที่ 1001 ฝ่าเข้าไปให้ได้!
ฟางเจิ้งจือเลือกที่จะโจมตีทันทีเพราะเขาได้ยินเสียงกองทัพปีศาจและอสูรที่กำลังเดินทางมาถึง
ยิ่งไปกว่านั้นเหมือนที่หยุนชิงวูบอกเขาสามารถอ่านความคิดและการกระทำของนางได้
จะสู้ห้าต่อหนึ่งงั้นรึ? หลินยู่มองอย่างเย็นชาไปที่ดาบทั้งเก้ารอบตัวฟางเจิ้งจือ
ตัวตนระดับเทพเจ้าล้วนมีความภูมิใจในตัวเอง
ความเย่อหยิ่งที่ไม่ยอมให้ใครมาทำลาย
ถ้าพวกเขาแพ้ในสถานการณ์เช่นนี้อีกความภูมิใจของเผ่าพันธุ์อสูรและปีศาจคงพังทลายลงอย่างสมบูรณ์
ฉินเซียนกำจัดควันเหล่านี้ออกไป! หลินยู่กล่าว
ควัน?ได้ แต่ข้ามีหนึ่งเงื่อนไข ฉินเซียนมองไปรอบๆด้วยความไม่เต็มใจเท่าไรนัก ในที่สุดเขาก็กล่าวออกมา
พูด
ข้าต้องการจะฆ่ามันด้วยมือของข้าเอง!
แน่นอนข้าขอยืนยันแทนนายน้อย หลินยู่พยักหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องถามหยุนชิงวู
นั่นเพาะเขาไม่แน่ใจว่าหยุนชิงวูจะเห็นด้วยหรือเปล่า
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาต้องการที่จะมั่นใจว่าฉินเซียนจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นอกจากนี้เขาต้องการให้ฉินเซียนร่วมมือกับพวกเขาโดยใช้พลังทั้งหมดที่มี
จงหายไป! หลังจากหลินยู่ตกลง ฉินเซียนเปิดปากออกเพียงเล็กน้อย ควันหลากสีถูกเขาดูดกลืนไปทั้งหมด
มันเป็นฉากที่แปลก
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากฉินเซียนดูดกลืนควันเข้าไปเหล่าดอกไม้ยักษ์ถูกคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
ราวกับความเป็น’ยาบำรุง’ของพวกมัน
เขาเป็นตัวอะไรกันแน่? ศิษย์ฝ่ายมนุษย์ตกตะลึงกับฉากแปลกๆตรงหน้า
ถ้าไม่ใช่เมิ่งเทียนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวแล้ว
ตัวตนระดับเทพเจ้าจากยุคโบราณนั้นน่ากลัวเกินไป
แต่ตอนนี้…
เมิ่งเทียนกำลังจะสู้กับพวกเขาทั้งห้าคนในคราวเดียว!
หลินยู่ปกป้องนายน้อยข้าจะโจมตีพร้อมกับมู่ซิง! หนึ่งในตัวตนระดับเทพเจ้าที่ยืนข้างๆหลินยู่กัดฟันแน่นเมื่อควันหายไป
ไม่จะไม่มีใครเคลื่อนไหวไปไหนทั้งนั้น พวกเราจะป้องกันอย่างเดียว! หลินยู่ส่ายหน้าในทันที
ควันหายไปแล้วทำไมพวกเราถึงไม่โจมตี?
กองทัพจะมาถึงที่นี่พวกเราแค่ถ่วงเวลาอีกสักครู่เท่านั้น ข้าไม่ต้องการให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอีก! หลินยู่พยักหน้า
บัดซบ! ตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นๆสบถออกมาเมื่อได้ยิน
อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าใจว่าสงครามครั้งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นผลลัพธ์ของสงครามนั้นขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์อสูรและปีศาจมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะกดขี่ฝ่ายมนุษย์หรือไม่
ป้องกันเพียงอย่างเดียวไม่โจมตี? ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้วเล็กน้อย สาเหตุที่พวกเขาจุดควันขึ้นมาเพื่อให้ฝ่ายมนุษย์มีโอกาสในการจัดการหยุนชิงวู
ถ้าตัวตนระดับเทพเจ้าเลือกจะป้องกันเพียงอย่างเดียวไม่เพียงแต่ควันที่พวกเขาจุดจะไร้ประโยชน์ แต่สถานการณ์จะกลายเป็นยากลำบากกว่าเดิม หนึ่งต่อห้า!
วิธีเดียวที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ได้คือหาช่องว่างระหว่างที่ตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้ากำลังโจมตีเขาแต่ถ้าอีกฝ่ายเอาแต่ป้องกันเขาจะหาโอกาสได้ยังไง?
มันยากเกินไป!
มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะเอาชนะตัวตนระดับเทพเจ้าได้ทั้งห้าคนในช่วงเวลาสั้นๆโดยที่เขาไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไป
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องได้ตัวหยุนชิงวูก่อนที่กองทัพปีศาจและอสูรจะมาถึง
ตาย! ฟางเจิ้งจือตะโกนและเริ่มเคลื่อนไหว
เขาจะชนะไหม? ศิษย์ฝ่ายมนุษย์มองฟางเจิ้งจือด้วยความกังวล
เจ้าไร้ยางอายต้องชนะแน่นอน! เสียงของปิงหยางไม่ได้ดังนักมีเพียงนางเท่านั้นที่ได้ยิน ตูม!เสียงระเบิดดังขึ้น
เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ระหว่างฟางเจิ้งจือและตัวตนระดับเทพเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว
ดาบทั้งเก้าหมุนวนในอากาศราวกับมังกรที่แหวกว่ายไปพร้อมกับสายฟ้าสีม่วง
ตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งสี่รวมถึงฉินซานยืนประจำตำแหน่งของตัวเองไม่มีใครเริ่มโจมตี ไม่มีใครล่าถอย
หลังจากเห็นหลี่ซาถูกฆ่าตายพวกเขาเลือกที่จะป้องกันแทน!
แสงอันเข้มข้นเปล่งออกมาจากร่างของพวกเขาทั้งห้ากำแพงแสงห้าชั้นปรากฎขึ้น นอกจากนั้นยังมีลำแสงพุ่งออกมาจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ มันพุ่งสูงเสียงฟ้า
ตูม!
ดาบของฟางเจิ้งจือปะทะเข้ากับกำแพงแสงห้าชั้นการปะทะอันรุนแรงทำให้ดาบยาวของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ดาบเหล่านี้เขาได้มาจากหอคอยหลิงหยุน
แม้จะสามารถเรียกพวกมันได้ว่าเป็นดาบที่ดีแต่พวกมันไม่สามารถเทียบได้กับกำแพงแสงห้าชั้นได้แม้แต่น้อย
ฝ่าไปไม่ได้งั้นรึ?ดาบพวกนี้เปราะบางเกินไป… ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้ว ความจริงที่อาวุธของเขานั้นอ่อนแอเกินไปทำให้ทุกอย่างยากลำบากขึ้น
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังจะโจมตีอีกครั้งเขาสัมผัสพลังอันน่าหวาดกลัวบางอย่างได้จากด้านหลัง
มันแหลมคมราวกับมีด
ถ้าเขาไม่ได้ใช้เต๋าวิญญานเฝ้าดูอีกโลกหนึ่งอยู่พลังอันน่าหวาดหวั่นนั้นคงไม่ถูกค้นพบ มันแฝงตัวอยู่กับแสงที่ส่องออกมาจากกำแพง
เขาบังคับร่างกายให้ขยับไปทางด้านขวาอย่างรวดเร็ว
แกร้ง!หลังจากเขาหลบออกไปไม่กี่วินาทีพื้นที่เดิมที่เขายืนอยู่ปรากฎรอยแตกเล็กๆขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสายลมสีน้ำเงินเข้มหมุนวนอยู่บริเวณนั้น
หลินยู่!
ฟางเจิ้งจือเห็นสิ่งที่หลินยู่ทำก่อนหน้านี้เขาได้ลอบโจมตอนที่ดาบของฟางเจิ้งจือปะทะกับกำแพงแสงห้าชั้น
ไม่เหมือนกับฉินเซียนและมู่ซิงวิชาที่หลินยู่ใช้นั้นไม่แปลกเหมือนฉินเซียน ไม่ดุดันเหมือนมู่ซิง อย่างไรก็ตามเขามีความแม่นยำทั้งในเรื่องของเวลาและตำแหน่งที่จะโจมตี
เมื่อหลินยู่พลาดตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นๆก็เริ่มโจมตี
แม้พวกเขาจะป้องกันแต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สามารถโจมตีได้แม้จะยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม
ตูม!
ตู้ม!
… เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเรื่องณ จุดที่ฟางเจิ้งจืออยู่เกิดร่องรอยของระเบิดเกิดขึ้นมากมาย
การโจมตีของตัวตนระดับเทพเจ้าไม่ได้อ่อนแอ
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาประสานการโจมตีได้เป็นอย่างดีวิชาที่หลินยู่ใช้จะปรากฎขึ้นหลังจากการโจมตีของคนอื่นทุกๆครั้ง แสงสีน้ำเงินเข้มอันเยือกเย็นก่อตัวขึ้นและพุ่งใส่ฟางเจิ้งจืออย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าเขาจะรวดเร็วแต่มันก็อันตรายมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้าตน
เศษเสื้อของเขาสองชิ้นตกลงบนพื้นชิ้นหนึ่งถูกเผาจนกลายเป็นเก้าถ่าน อีกชิ้นถูกแช่ด้วยน้ำแข็ง
ตอนนี้เขาเหลือดาบอยู่ห้าเล่มอีกสี่เล่มได้พังลงเพราะความพยายามในการโจมตีกำแพงแสงห้าชั้น เห้อคงดีถ้าดาบไร้ร่องรอยอยู่กับข้า! ฟางเจิ้งจือรู้สึกช่วยไม่ได้เล็กน้อยเมื่อมองดาบที่เหลืออยู่ห้าเล่ม
เขาทิ้งดาบไร้ร่องรอยไว้กับฉิงยี่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือเพื่อปลอมตัวเป็น’ฟางเจิ้งจือ’แทนเขา
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เขานำมันมาด้วยก็ไม่สามารถใช้มันได้เพราะตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยทันที
หรือเขาควรจะใช้เต๋าแห่งการจุติทั้งห้า?
ฟางเจิ้งจือ?เจ้าลังเลอะไรอยู่? เจ้าเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ ไม่ใช่ว่าเจ้าเชี่ยวชาญเต๋าแห่งการจุติทั้งห้างั้นหรือ? ทำไมถึงไม่ใช้พวกมัน? ยกเว้นว่าข้าจะคาดเดาผิดเพราะเทพสงครามเมิ่งเทียนฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ? เสียงของหยุนชิงวูดังขึ้นขณะที่นางจ้องมองมาที่ฟางเจิ้งจืออย่างซับซ้อน
ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
บางทีนางอาจจะคาดหวังว่าเมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือหรือบางทีนางอาจจะต้องการยืนยันความคิดของตัวเอง
ทำไมหยุนชิงวูถึงมั่นใจว่าฟางเจิ้งจือคือผู้อาวุโสเมิ่งเทียน?
ข้าคิดว่าตอนนี้ฟางเจิ้งจืออยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือแน่นอนเขาจะโผล่มาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นไร?
ใช่แล้วยิ่งไปกว่านั้นยังมีความแตกต่างเรื่องพลังระหว่างฟางเจิ้งจือและผู้อาวุโสเมิ่งเทียน แม้เขาจะเป็นอัจฉริยะแต่ก็ไม่มีทางที่พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาสั้นๆ!
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเมิ่งเทียนไม่สามารถฝ่าการป้องกันของตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้าได้!
เห้อ…ตัวตนระดับเทพเจ้าถึงห้าคนแม้แต่เมิ่งเทียนยังไม่สามารถทำได้ คงเป็นเรื่องยากที่จะเทียบเคียงกับตัวตนในยุคโบราณ…
เหล่าศิษย์ต่างมองไปที่ฟางเจิ้งจือด้วยความหวังและไร้หาทาง
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ฟางเจิ้งจือจะฝ่าการป้องกันเข้าไป
เวลาเวลาของพวกเราใกล้จะหมดแล้ว… เสียงของโม่ฉานฉือเต็มไปด้วยความกังวล
ครืน!เสียงย่ำฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้จนได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ขี่อย่างชัดเจน
คาดการณ์ว่าไม่เกินสิบนาทีกองทัพปีศาจและอสูรจะเดินทางมาถึงที่นี่
พวกเขาควรทำเช่นไร?
ปิงหยางเองก็กังวลเช่นกันนางไม่ได้ฝืนทำอะไรในตอนนี้เพราะนางรู้ว่าระดับการต่อสู้ในปัจจุบัน นางไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป
นางไม่อยากเข้าไปถ่วงฟางเจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือกำดาบในมือแน่นเขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถใช้เต๋าแห่งการจุติทั้งห้าออกไปได้ง่ายๆ
ครั้งสุดท้ายข้าจะโจมตีเป็นครั้งสุดท้าย! ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเขาเหลือเวลาไม่มากนัก
เขาจะต้องทำอะไรให้สำเร็จ
ฟุ้บ!ฟางเจิ้งจือหายตัวไป
ซ้าย?
ขวา?
หน้า?
หลัง?
ไม่ด้านบน! ตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้าต่างกวาดสายตาไปรอบๆเมื่อฟางเจิ้งจือหายตัวไป
ทันใดนั้นลำแสงสีเงินพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
มันเป็นดาบ
คิดจะฝ่าเข้ามาจากด้านบนงั้นรึ?!ฝันไปเถอะ! หลินยู่หรี่ตาและจู่โจมดาบยาวที่พุ่งลงมา
แสงสีน้ำเงินเข้มผสานเข้ากับคลื่นอากาศราวกับเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอากาศโดยรอบเริ่มแข็งตัวเพราะความหนาวเย็น
แกรก…แกรกแผ่นน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มลอยอยู่เหนือกำแพงแสงทั้งห้าชั้น
ดาบยาวที่พุ่งใส่กับแม่น้ำสีน้ำเงินเข้มสายฟ้าสีม่วงที่หมุนวนอยู่รอบใบดาบได้หายไปแทนที่ด้วยแสงสีเงินสลัวๆ
ตูม!เสียงจากการปะทะระหว่างใบดาบและแม่น้ำสีน้ำเงินเข้มดังขึ้น แทนที่มันจะแยกแผ่นน้ำแข็งตรงหน้าออก ใบดาบเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว
แกร้ง!
แกร้ง!
…
รอยแตกจำนวนมากเกิดขึ้นบนแผ่นน้ำแข็งดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้
เมิ่งเทียนทรงพลังจริงๆ! ตัวตนระดับเทพเจ้าที่ยืนอยู่ข้างๆหลินยู่กล่าวขึ้นขณะที่เขายิงลำแสงสีแดงออกไปจากมือ
มันเป็นดาบยาวสีแดงเลือด
ตูม!ดาบของฟางเจิ้งจือถูกดาบสีแดงเลือดทำลายเป็นสองส่วน
แต่มันยังไม่จบ
แทบจะในทันทีดาบยาวอีกเล่มพุ่งลงมาจากท้องฟ้าแทบจะในวินาทีเดียวกันกับที่ดาบเล่มแรกถูกทำลาย
ตูม!ดาบสีแดงเลือดถูกส่งกระเด็นออกไป ขณะที่ดาบยาวเล่มที่สองพุ่งเจาะแผ่นน้ำแข็งออกเป็นเสี่ยงๆ
มีอีกงั้นรึ?!
สองเล่ม?!
ไม่ห้าเล่ม!
พวกเขาได้สติในทันทีโดยไม่ลังเลลำแสงอีกเส้นได้พุ่งเข้าใส่ดาบเล่มที่สองของฟางเจิ้งจือ ตูม!
ดาบเล่มที่สองกระเด็นออกไปอีกครั้งจากนั้นเล่มที่สามก็พุ่งลงมา
ตูม!
ในที่สุดปลายดาบก็มาถึงกำแพงแสงห้าชั้น
เมิ่งเทียนเจ้าไม่มีวันฝ่าเขามาได้ ไม่มีวัน!! หลินยู่ตะโกนออกมา
……………………………………..