Gate of God - ตอนที่ 1010 โซ่ทั้งเก้า
ตอนที่ 1010 โซ่ทั้งเก้า
เจ้าคิดว่าข้าจะนำของสำคัญติดตัวมาด้วยงั้นหรือ? หยุนชิงวูรู้สึกว่าสายตาที่จ้องมองฟางเจิ้งจือนั้นสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
ข้าจะรู้คำตอบหลังจากได้เห็น ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะพิสูจน์อีกต่อไปเพราะเขารู้จักนิสัยของหยุนชิงวูดี
ยอมรับ?
หยุนชิงวูจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
เขาสามารถฉวยมันมาได้ดังนั้นหลังจากที่เขาพูดจบฟางเจิ้งจือก็เอื้อมมือออกไปและพยายามคว้าจี้ที่คอของหยุนชิงวู
แน่นอนว่าหยุนชิงวูต้องต่อต้าน
นางดิ้นรนอย่างเต็มที่รวมไปถึงการใช้มือและเท้าเตะมาที่ร่างของเขาอย่างไรก็ตามนางอ่อนแอเกินไป
คนที่อยู่ในระดับผนวกดาราไม่สามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเจิ้งจือ ฟางเจิ้งจือกดหัวของหยุนชิงวูและดึงจี้ไปจากคอของนาง
ไม่ข้าไม่ให้เจ้าดู! หยุนชิงวูกังวลเมื่อเห็นจี้กำลังจะถูกแย่งชิงไปมันเป็นท่าทีที่ไม่สมกับเป็นนางเลย
ฟางเจิ้งจือยิ้มมันเป็นอย่างที่เขาคิด จดหมายที่เขียนด้วยตัวอักษรโบราณ ถูกซ่อนอยู่ในจี้ของนาง ไม่เช่นนั้นคงไม่เป็นกังวลขนาดนี้
เขาตัดสินใจและมองเข้าไปในจี้
ในไม่ช้าเขาก็พบหนังสือหลายเล่มภายในจี้นอกจากหนังสือแล้วยังมีค่ายกลและอัญมณีแปลกๆอยู่ภายใน
อย่างไรก็ตาม
กว่าเก้าในสิบส่วนของสิ่งที่อยู่ในจี้เป็นหนังสือหนังสือแต่ละเล่มมีความหนาประมาณหนึ่งกำปั้นวางซ้อนกันเป็นเนินสูง
หยุนชิงวูชอบอ่านหนังสือและนางอ่านหนังสือมาเกือบทุกประเภท อย่างไรก็ตามในบรรดาหนังสือมากมายหนึ่งในนั้นคือจดหมายที่เขียนด้วยตัวอักษรโบราณ
เป็นอย่างที่ฟางเจิ้งจือคิดเขารู้สึกพลังแปลกๆบางอย่างที่หน้าอกราวกับมีมีบางอย่างกำลังถูกดูดออกไปจากร่างกาย
โอ้ไม่เขาถูกหลอก!
ฟางเจิ้งจือปล่อยมือจากจี้อย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตามมันสายเกินไปเพราะมีสร้อยเส้นหนึ่งส่องประกายอยู่บนมือของหยุนชิงวู
มันคือสร้อยที่ฟางเจิ้งจือชิงไปจากนางบนภูเขาสวรรค์
แต่ตอนนี้…
มันอยู่ในมือของหยุนชิงวู
ตูม!เกิดระเบิดขึ้นที่หน้าอกของฟางเจิ้งจือ เขาจึงไม่สามารถจับมือของหยุนชิงวูไว้ได้อีก
ในขณะเดียวกันหยุนชิงวูแย่งจี้ในมือของฟางเจิ้งจือและใช้พลังเพื่อหลบหนีนางบินออกไปไกลด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ฟางเจิ้งจือไม่คิดเลยว่าหยุนชิงวูจะดึงสร้อยที่อยู่ในกลืนกินโลกของเขาออกไปได้
เป็นไปได้ไหมที่นางวางแผนนี้ตั้งแต่ถูกจับตัว?
แม้นางจะมั่นใจในตัวตนของฟางเจิ้งจือแต่ก็ไม่คิดแสดงท่าทีเช่นนั้นออกมาอย่างการตะโกนว่า ข้ามั่นใจว่าเจ้าคือฟางเจิ้งจือ
นางสามารถแสดงออกมาเช่นนั้นและไม่มีใครสงสัยว่ามันจริงหรือไม่
มีแต่หยุนชิงวูเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้นได้
อย่างไรก็ตามหยุนชิงวูต้องมีความตื่นตกใจมากในขณะที่ถูกเขาบังคับไม่งั้นนนางคงไม่ใช้พลังหนีอย่างสุดกำลังเช่นนี้
กองทัพอสูรและปีศาจก็อยู่ห่างออกไปไกลด้านหลังพวกเขา
ในขณะเดียวกันเหล่าศิษย์ฝ่ายมนุษย์กำลังตามฟางเจิ้งจือมาติดๆแม้หยุนชิงวูจะพ้นจากมือของฟางเจิ้งจือแล้วนางจะหนีไปไหนได้กัน?
หยุนชิงวูเจ้าหนีไม่พ้นหรอก! ฟางเจิ้งจือคิดว่ามันน่าขันเมื่อมองไปยังหยุนชิงวูที่กำลังพยายามวิ่งหนี
ในอดีตเขาเคยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนเลวที่ไล่ล่าหญิงสาวที่อ่อนแอและทำให้นางจนมุม
ตอนนี้รอยยิ้มนั้นกำลังปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา
นางจะหนีไปไหน?
ไม่มีทางที่นางจะรอดไปจากเขา!
ฟางเจิ้งจืออย่าบังคับข้า! หยุนชิงวูตะโกนออกมาในขณะที่กำลังวิ่งหนีโดยไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามแม้ว่านางจะไม่ได้ลดความเร็วลง…
แต่นางวิ่งได้ช้ามาก
พูดตรงๆฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าเขาต้องการเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถไล่ตามหยุนชิงวูได้ทัน
แล้วถ้าข้าบังคับล่ะ? ฟางเจิ้งจือมองปิงหยางที่อยู่ไกลออกไปจากนั้นก็หันมองหยุนชิงวูและตัดสินใจว่าต้องตามจับนางก่อนเขาไม่อยากเสี่ยงเพราะสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา
ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่หยุนชิงวูรู้ถึงตัวตนของเขาแล้วเขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่
ข้ามีข้อเสนอ
อะไร?
ถ้าเจ้าสัญญาว่าจะเลิกตามหาแหล่งพลังเทพเจ้าข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างที่ข้ารู้
ฮ่าฮ่าเจ้าคิดว่าข้าจะยอมตกลงงั้นหรือ?
งั้น..ข้า …ข้าสัญญาว่าจะให้เผ่าอสูรและปีศาจกลับไปที่หนองน้ำยักษ์และไม่ออกจากที่นั่นเป็นเวลาร้อยปี และข้าสามารถบอกวิธีปิดประเทพเจ้าของเผ่าอสูรและปีศาจได้!
หืม?! ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้เพราะเขาไม่คิดเลยว่าหยุนชิงวูถูกไล่ต้อนขนาดนี้
ข้อเสนอของนาง?
มันเหมือนนางยอมแลกทุกอย่าง
ทำไมนางถึงสร้างเงื่อนไขที่ตัวเองเสียเปรียบขนาดนี้?อะไรคือแหล่งพลังเทพเจ้าและหลุมฝังศพที่ไม่ควรจะถูกเปิดออกกันแน่?
ฟางเจิ้งจือสงสัยมาก
แรงกระตุ้นบอกให้เขาตามหาแหล่งพลังเทพเจ้าและเปิดหลุมฝังศพออกอย่างไรก็ตามสัญชาตญานบอกเขาว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่
แน่นอนสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการจับตัวหยุนชิงวูเรื่องข้อตกลงนั้นค่อยไว้ที่หลัง
ได้ข้าตกลง หยุดวิ่งได้แล้ว ฟางเจิ้งจือตัดสินใจหลอกล่อหยุนชิงวู
ข้าไม่เชื่อเจ้า หยุนชิงวูกล่าวโดยไม่หันหลังกลับมามอง
จากนั้น… ไม่มีคำว่า’จากนั้น’
นั่นเป็นเพราะฟางเจิ้งจือมาถึงตัวของหยุนชิงวูและสับหลังคอหยุนชิงวูด้วยฝ่ามือ
เห็นได้ชัดว่าจุดอ่อนสำคัญคือความไร้พลังของนาง
ฟางเจิ้งจือพยุงหยุนชิงวูที่สลบอยู่ขึ้นมาเพื่อเอาจี้และสร้อยคอกลับมา
อย่างไรก็ตามเขาต้องตกตะลึงเพราะมือของนางว่างเปล่า
… ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหยุนชิงวูถึงพยายามหนีทั้งๆที่รู้ว่าไม่สามารถหนีได้
ตั้งแต่ต้นเป้าหมายของหยุนชิงวูอยู่ที่จี้
มันเป็นเรื่องยากที่ฟางเจิ้งจือจะได้จี้กลับมา…
มันไปอยู่ที่ไหนกัน?
มันซ่อนอยู่บนร่างกายของนางหรือตามทางที่ผ่านมา?
ฟางเจิ้งจือมองไปยังทางด้านหลังที่เต็มไปด้วยหมอกหนามันเป็นเรื่องยากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร
ยิ่งไปกว่านั้นปิงหยางวิ่งหนีไปไกลแล้วเขาไม่สามารถทิ้งนางไว้เช่นนั้นได้!
ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์และกองทัพปีศาจอสูรกำลังไล่ตามมาติดๆ
เขาควรจะตามตัวปิงหยางกลับมาก่อนไหม?
จากนั้นก็วิ่งกลับไปหาจี้?
บัดซบ!เขาไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ว่าหยุนชิงวูทิ้งมันไว้ระหว่างทางหรือเปล่า
มันเป็นเพียงการคาดเดาของเขาเท่านั้น
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเขาพบว่าปิงหยางที่อยู่ด้านหน้าเขาได้หายตัวไป
เรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย?
นางหายตัวไปในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ?!
ฟางเจิ้งจือรีบวิ่งไปด้านหน้าจากนั้นเขาก็พบปิงหยางที่มีท่าทีสงบลง
นางส่ายหัวไม่หยุด
ปิงหยาง! ฟางเจิ้งจือตะโกน
หืม?เจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ? ทำไมเจ้าถึงอ่อนแอจัง ข้าองค์หญิง…แค่กๆ ข้าฆ่าอสูรและปีศาจมากมายจนออกมาได้! ปิงดูภูมิใจในตัวเองมาก
ฆ่าอสูรและปีศาจ? ฟางเจิ้งจือไม่เชื่ออย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าปิงหยางจะออกมาจากภวังค์ด้วยตัวเอง
นางออกมาได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือไม่แน่ใจแต่เขาคิดออกอย่างรวดเร็วเพราะเมื่อเขาวิ่งไปหาปิงหยาง เขาตกลงไปในหลุม
เขาตกลงไปพร้อมกับหยุนชิงวูโชคดีที่เขามีหยุนชิงวูเป็นเบาะทำให้หน้าของเขาไม่กระแทกพื้น
ใครมาขุดหลุมบ้าๆนี้เอาไว้กัน?! ฟางเจิ้งจือสบถออกมา เขาจำได้ว่าเมื่อกี้นี้ใบหน้าของปิงหยางเปรอะเปื้อนสิ่งสกปรก นั่นหมายความว่านางอาจจะตกลงมาในหลุมก่อนที่จะตื่นขึ้นจากภวังค์
ไม่น่าแปลกใจที่นางหายไปอย่างกระทันหัน
ฮ่าฮ่าฮ่า… เสียงปิงหยางที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานของปิงหยางดังขึ้น
ฟางเจิ้งจือที่พึ่งปีนขึ้นไปถึงด้านบนเตรียมจะสั่งสอนปิงหยางอย่างไรก็ตามเขาพบว่าหมอกควันได้หายไปหมดแล้ว
มันถูกแทนทีด้วยโซ่สีดำขนาดมหึมาเก้าเส้นลากยาวจากพื้นขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีกอนเมฆสายฟ้าสีดำอยู่
โซ่เหล่านี้อีกแล้วงั้นรึ?! ฟางเจิ้งจือเห็นโซ่ตรงหน้าก็รู้ทันทีว่ามันทำมาจากวัสดุชนิดเดียวกับโซ่ที่เขาเห็นในจักรวาล
อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพวกมันชัดๆพวกมันดูหนาและแข็งแรงกว่าโซ่ที่เขาเห็นในจักรวาลมาก โซ่ทั้งเก้าเส้นเชื่อมต่อกับเมฆสายฟ้าสีดำที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
เปรี้ยง! สายฟ้าจากเมฆสีดำผ่าลงมายังโซ่ทั้งเก้าเส้น
ฟางเจิ้งจือเบิกตากว้างมองเมฆสีดำด้านบนเขาไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ด้านในแม้จะใช้เต๋าวิญญานมองแล้วก็ตาม
จริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่?
เร็วเข้ารีบไปกันเถอะ! ปิงหยางดูตื่นเต้นมากและดูไม่กังวลแม้แต่น้อย
ไปไหน?เจ้าอยากโดนฟ้าผ่างั้นรึ? ฟางเจิ้งจือรู้สึกอยากจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
หา? ปิงหยางอ้าปากค้างด้วยความสับสน
ดูที่โซ่พวกนั้น ฟางเจิ้งจือชี้ไปยังโซี่ทีมีสายฟ้าวิ่งผ่านลงมาเรื่อยๆจาก้อนเมฆสีดำบนท้องฟ้า
สายฟ้าผ่าลงมาจากก้อนเมฆด้านบนเรื่อยๆ
ข้าไม่มั่นใจว่าจะทนต่อสายฟ้าได้ไหมแต่ข้ามั่นใจว่าหยุนชิงวูไม่มีทางทนได้! ปิงหยางกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจอีกครั้ง
แล้วยังไง? ฟางเจิ้งจือถาม
แล้วเจ้ามั่นใจหรือที่จะอุ้มนางพร้อมกับปีนไปด้วยแบบนั้น! ปิงหยางถามอีกครั้ง
ปีน?ข้าไม่ต้องปีนเสียหน่อย ข้ามีปีก ฟางเจิ้งจือกล่าว
… ปิงหยางที่ต้องการเห็นท่าทีตลกๆของฟางเจิ้งจือนิ่งไปในทันที จากนั้นนางก็มองหยุนชิงวูและฟางเจิ้งจือ นางจะไม่รู้ตัวตนของเจ้างั้นหรือ ถ้าเจ้าใช้ปีก?
อืม ฟางเจิ้งจือพยักหน้า แต่นางหมดสติอยู่
ปิงหยางขยับปากเพื่อต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่นางไม่รู้ควรพูดอะไรออกมาดี
เจ้าต้องการให้ข้าพาเจ้าไปด้วยไหม? ……………………………………..