Gate of God - ตอนที่ 1021 แผนที่ขุมทรัพย์
ตอนที่ 1021 แผนที่ขุมทรัพย์
แหล่งพลังเทพเจ้า?!
เขาพูดว่าจารึกหินนี้พูดถึงแหล่งพลังเทพเจ้า?พวกเราจะพบแหล่งพลังเทพเจ้าในปราสาทหินสีดำแห่งนี้งั้นหรือ?!
ตำนานเป็นเรื่องจริง?
แม้จะไม่มีใครเชื่อว่าฟางเจิ้งจือสามารถเข้าใจตัวอักษรบนจารึกหินแต่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อหลังจากได้เห็นฟางเจิ้งจืออ่านจารึกด้วยความคล่องแคล่ว
ไม่มีใครสงสัยในตัวฟางเจิ้งจืออีกต่อไป!
มันเขียนถึงแหล่งพลังเทพเจ้าว่ายังไงบ้าง? แม้แต่มู่ฉิงเฟิงก็จ้องมองเขาด้วยความอยากรู้
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือทำเหมือนว่าอยากพูดอะไรอีกเขายังคงทำหน้าบึ้งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
บรรยากาศกลายเป็นตึงเครียดทันที เหยียนซิวและปิงหยางไม่ได้รบกวนเขาพวกเขายืนนิ่งอยู่เคียงข้างฟางเจิ้งจือพร้อมทั้งเต๋าซิงและหยุนชิงวูในอ้อมแขน
มันเป็นความจริง! ในที่สุดฟางเจิ้งจือก็พูดบางอย่างหลังจากคิดอยู่ชั่วขณะจากนั้นก็หันมองปิงหยาง
อย่างไรก็ตามเขามองหยุนชิงวูแทนที่จะเป็นปิงหยางสายตาของเขาจับจ้องไปยังใบหน้าอันงดงามและดวงตาที่ปิดสนิท
นี่เจ้าไร้ยางอายทำไมเจ้าถึงหยุดอ่าน? ข้ารอฟังอยู่นะ ปิงหยางอดไม่ได้ที่จะถามออกไปเมื่อนางเห็นฟางเจิ้งจือหันมองมาที่นาง
เจ้าอยากฟังเรื่องราวมากกว่านี้รึ? ฟางเจิ้งจือเผยยิ้มและถามออกไป
ใช่ ปิงหยางพยักหน้าอย่างต่อเนื่องราวกับไก่ที่กำลังจิกเมล็ดข้าว
แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ฟางเจิ้งจือยักไหล่
ไม่มี? ปิงหยางดูสับสนตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าฟางเจิ้งจือ สามารถเข้าใจตัวอักษรบนจารึกหินได้
อะไรกัน!
…
…
นอกจากปิงหยางแม้แต่มู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือและคนอื่นๆต่างก็พูดไม่ออกราวกับมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ
ไร้ยางอายเกินไป!
ทำไมเขาถึงต้องทำให้เราสงสัยในสถานการ์เช่นนี้ด้วย?
อืม…ฟางเจิ้งจือ แหล่งพลังเทพเจ้ามีความสำคัญต่อมนุษยชาติอย่างมาก โปรดบอกความจริงกับพวกเรา มู่ฉิงเฟิงใช้ความอาวุโสของเขากับฟางเจิ้งจือ
มันมีแค่นั้นจริงๆ ฟางเจิ้งจือพูดแบบเดิมอีกครั้ง
นั่น… มู่ฉิงเฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเขาไม่ยอมแพ้และเอ่ยถามอีกครั้ง ทำไมเจ้าไม่ลองอ่านอย่างจริงจังอีกสักครั้ง? ไม่ได้มีบางอย่างเกี่ยวกับ’ประตู’ที่ย่อหน้าที่สามงั้นหรือ?
มีบางอย่างเกี่ยวกับประตูจริงๆแต่วันมันไม่เกี่ยวกับตำนาน ฟางเจิ้งจือตอบเบาๆ
มันเกี่ยวกับอะไร?
มันเป็นภาพ!
ภาพ?!ภาพอะไร?
ถ้าข้าเดาถูกมันคงเป็นแผนที่ขุมทรัพย์!
แผนที่ขุมทรัพย์?!
ในตอนนั้นเองมู่ฉิงเฟิงไม่ใช่คนเดียวที่ตกตะลึง แม้แต่โม่ฉานฉือเองก็เบิกตากว้าง ก่อนที่ใบหน้าซีดขาวจะกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย
แผนที่ขุมทรัพย์!
นั่นหมายความว่าจะต้องมีสมบัติ!
เหล่าศิษย์ต่างหันมองกันด้วยความสดใสราวกับพวกเขาเห็นสมบัติกองโตตั้งอยู่ตรงหน้า สมบัติอยู่ที่ไหน? มู่ฉิงเฟิงกลืนน้ำลายและเอ่ยถาม
มันคือแหล่งพลังเทพเจ้า ฟางเจิ้งจือตอบกลับด้วยความอารมณ์เสีย
…
…
ทุกคนต่างพูดไม่ออกอีกครั้ง
แผนที่ขุมทรัพย์แสดงสถานที่ตั้งของแหล่งพลังเทพเจ้า ฟางเจิ้งจืออธิบาย
ถ้างั้น..มันอยู่ที่ไหน? ดวงตาของมู่ฉิงเฟิงเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง
รอสักครู่ ฟางเจิ้งจือส่ายหัว
รอ…รออะไรหรือ?
ในขณะที่มู่ฉิงเฟิงรู้สึกสับสนเขาก็เห็นดาบยาวปรากฎขึ้นในมือของฟางเจิ้งจือก่อนที่เขาจะโจมตีใส่จารึกหิน
…
ตูม! จารึกหินแตกออกเป็นสองจากนั้นเขาก็โจมตีใส่อย่างต่อเนื่องจนเศษหินกระจายไปทั่วท้องฟ้า
ฟางเจิ้งจือเจ้าทำอะไรลงไป?! แม้แต่มู่ฉิงเฟิงยังไม่คาดคิดว่าฟางเจิ้งจือจะทำเรื่องแบบนี้
ทำลายมัน ฟางเจิ้งจือตอบตรงๆ
… มู่ฉิงเฟิงรู้สึกทำใจได้ลำบาก เขาอยากรู้เหตุผลที่ฟางเจิ้งจือทำเช่นนั้น เราจะหาแหล่งพลังเทพเจ้าได้เช่นไรถ้าเจ้าทำลายมันทิ้ง?
ข้ารู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหนกองทัพปีศาจและอสูรกำลังมาถึงท่านอยากให้พวกเขาอ่านจารึกหินนี้ด้วยงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือมองไปยังมู่ฉิงเฟิงราวกับเขาเห็นคนงี่เง่า
… ใบหน้าของมู่ฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ศิษย์โดยรอบและโม่ฉานฉือต่างมองไปยังมู่ฉิงเฟิงด้วยท่าทีแปลกๆเช่นนั้น พวกเขามองมู่ฉิงเฟิงราวกับมองคนโง่!
ในขณะที่มู่ฉิงเฟิงกำลังยืนนิ่งฟางเจิ้งจือก็เริ่มเก็บเศษจารึกหินที่แตกกระจาย
เขาไม่ได้ทิ้งพวกมันเอาไว้
’ทำไมเขาถึงรวบรวมชิ้นส่วนของพวกมันอีก?’มู่ฉิงเฟิงกำลังจะถาม แต่จำเหตุการณ์อันน่าอับอายก่อนหน้านี้ได้ เขาจึงยั้งปากตัวเองเอาไว้ทันที
ด้านเหล่าศิษย์พวกเขามองฟางเจิ้งจือด้วยความสงสัยเช่นกันแต่พวกเขาไม่อยากถูกมองเป็นคนโง่จึงไม่ได้ถามอะไรออกไปเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือมองเศษชิ้นส่วนจารึกในมือด้วยความพอใจพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
ราวกับเขาได้รับสมบัติชั้นเยี่ยม
มู่ฉิงเฟิงรู้สึกขัดแย้งเขาไม่รู้ว่าควรถามฟางเจิ้งจือไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ฟางเจิ้งจือทำแม้แต่น้อย
’มีบางอย่างผิดปกติเจ้าเด็กเหลือขอนี่ต้องพยายามปิดบังบางอย่าง!’ มู่ฉิงเฟิงเริ่มมั่นใจ
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีหลักฐานยืนยัน
เขาควรทำเช่นไรดี?
ด้านเหยียนซิวปิงหยาง วู่จวี้เอ๋อ พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าฟางเจิ้งจือกำลังทำอะไร แต่พวกเขามั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี
หลังจากฟางเจิ้งจือเก็บพวกมันเสร็จเขาหันไปมองปิงหยางอีกครั้ง
เจ้าต้องการอะไร? ปิงหยางถามด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
นางหนักไหม?เจ้าจะให้ข้าอุ้มนางแทนไหม? ฟางเจิ้งจือชี้ไปทางหยุนชิงวู
เจ้าอยากอุ้มนางหรือเจ้าอยากจะฉวยโอกาสทำอะไรบางอย่างกันแน่? ปิงหยางเบะปากราวกับมองเห็นแผนการอันไร้ยางอายของฟางเจิ้งจือ นางไม่มีทางยอม
เจ้ากำลังล้อข้าเล่นแล้วข้าดูเป็นคนแบบนั้นหรือไง? ฟางเจิ้งจือถามกลับ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างสดใส เจ้าไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไปกับหยุนชิงวูงั้นรึ?
บางอย่างแปลกไป? ปิงหยางไม่เข้าใจ
เจ้าคงฟังพอแล้วใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือเมินปิงหยางและมองหยุนชิงวูอีกครั้ง
อะไรนะ?! ปิงหยางแปลกใจ
มู่ฉิงเฟิงเองก็ผงะไปเช่นกันเขาเองก็มองไปที่หยุนชิงวูและเข้าใจใจทันที
หยุนชิงวูได้ตื่นขึ้นแล้ว!
มันทำให้เขาเข้าใจเรื่องที่ฟางเจิ้งจือทำก่อนหน้านี้มากขึ้นมันคงไม่ใช่เรื่องดีที่ให้หยุนชิงวูรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งพลังเทพเจ้า
ด้านฟางเจิ้งจือเขายกมือขึ้นและตบลงไปที่ก้นของหยุนชิงวู
เพี๊ยะ!เสียงทั้งดังและชัดเจน
อย่างไรก็ตามหยุนชิงวูยังไม่เคลื่อนไหวราวกับนางยังคงหมดสติอยู่
เจ้าช่างเล่นละครได้ยอดเยี่ยม ฟางเจิ้งจือยิ้มเยาะ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเตรียมตบก้นของนางอีกครั้ง
หน้าด้าน! แต่ทันใดนั้นเสียงของหยุนชิงวูที่เต็มไปด้วยความโกรธก็ดังขึ้น
จากนั้น..
นางก็หล่นลงบนพื้น
เพราะปิงหยางเผลอปล่อยนางโดยไม่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตามหยุนชิงวูกลับเงยหน้ามองปิงหยางอย่างนิ่งเฉย
ความอดทนของนางนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ
แต่แม้ว่านางจะไม่โกรธก็ใช่ว่าปิงหยางจะไม่โกรธ นางรู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอก
หยุนชิงวูเจ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไร?
ตอนที่เจ้าบีบแขนข้า หยุนชิงวูตอบอย่างตรงไปตรงมา
บีบแขน? ปิงหยางจำได้ว่ามันเป็นตอนที่นางกำลังทะเลาะกับวู่จวี้เอ๋อ งั้นก็หมายความว่าเจ้าได้ยินทุกอย่างที่ฟางเจิ้งจือพูดก่อนหน้านี้? นางถามอีกครั้ง
อืมไม่เพียงแต่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับจารึก แต่ข้ายังได้ยินเรื่องที่เจ้าทะเลาะกับวู่จวี้เอ๋อด้วย หยุนชิงวูไม่ปฏิเสธ
เจ้า… หน้าของปิงหยางขึ้นสีเล็กน้อย
ปิงหยางไม่มีทางปล่อยนางไปเพราะหยุนชิงวูได้ยินความลับของนางแล้วดังนั้นปิงหยางรีบยกนางขึ้นมาจากพื้นทันที
เจ้าจะฆ่าข้างั้นรึ?
เจ้าจะเชื่อไหมถ้าข้าบอกว่าการฆ่าเจ้านั้นง่ายเหมือนบี้มดแค่ตัวเดียว ปิงหยางพูดข่มขู่
ข้าเชื่อแต่ตอนนี้พวกเจ้ามีสิ่งสำคัญมากกว่าการฆ่าข้า หยุนชิงวูปล่อยให้ปิงหยางจับตัวนางโดยไม่ขัดขืน
สิ่งที่สำคัญมากกว่า? ปิงหยางสับสน
ในทางตรงกันข้ามฟางเจิ้งจือหันไปมองอีกด้านทันทีเมื่อได้ยินหยุนชิงวูพูด กองทัพปีศาจและอสูรอยู่ที่นี่แล้ว!
หยุนชิงวูพูดถูกเรื่องนั้นสำคัญมากกว่า
พวกเขาเห็นเงาจำนวนมากอยู่ไกลออกไป
มู่ซิงและคนอื่นไล่ตามมาทันแล้วงั้นรึ?
เอ๊ะ?!ทำไมถึงเป็นโจวฉีที่มาถึงก่อนแทนที่จะเป็นมู่ซิง?
เกิดอะไรขึ้น?
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังใช้ความคิดมู่ซิงและตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นได้ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับหลินยู่
ห้าคน!
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกองทัพอสูรและปีศาจจำนวนมากกว่าที่ฟางเจิ้งจือเห็นด้วยเต๋าวิญญานก่อนหน้านี้เสียอีก
’พวกมันเข้ามาทั้งหมดเลย?’เป็นไปไม่ได้ที่ฟางเจิ้งจือจะไม่แปลกใจ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่เห็นฉินเซียน ’ฉินเซียนไปไหน?’
’ทำไมโจวฉีถึงมาอยู่ที่นี่?’
มีคำถามมากมายผุดขึ้นในใจของฟางเจิ้งจือ
ต่างกับกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้าปรากฎตัวขึ้นในเวลาเดียวกัน!
……………………………………..