Gate of God - ตอนที่ 1025 สิงโตห้าหัว!
ตอนที่ 1025 สิงโตห้าหัว!
เฉียนยู่ตกตะลึงโดยสมบูรณ์
เฉียนยู่คิดเสมอว่านางคือผู้รับผิดชอบการต่อสู้กับจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือส่วนฉือกูเหยียนคอยสนับสนุน อย่างไรก็ตามความจริงที่เกิดขึ้นนั้นได้ตบหน้านางอย่างจัง
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมฉือกูเหยียนถึงมาที่นี่อย่างเปิดเผยนั่นเพราะนางไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
ฉือกูเหยียนสามารถตัดหางของจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือได้ในดาบเดียว!
นั่นเป็นสิ่งที่เกินความสามารถของเฉียนยู่ในขณะที่ฉือกูเหยียนแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารไป่ฉือได้
เหมือนการต่อสู้ระหว่างยักษ์กับเด็กทารก
นางจำเป็นต้องช่วยเหลือนางอีกงั้นหรือ?
ไม่เลยฉือกูเหยียนสามารถฆ่าเด็กทารกตรงหน้าได้เพียงแค่การยกเท้าขึ้นแล้วเหยียบลงไป
มันเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
ในขณะเดียวกันฉือกูเหยียนไม่ได้เปิดโอกาสให้ไป่ฉือโต้กลับแม้แต่น้อยตั้งแต่การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นนางตรงเข้าไปแล้วตัดหางของจิ้งจอกทิ้งด้วยความเยือกเย็น
นั่นคือสิ่งที่ทำให้นางรู้สึกสมเพช
เฉียนยู่จับหอคอยหยกในมือแน่นแต่ไม่มีความตั้งใจจะใช้มันอีกต่อไป
นางไม่ได้มีบทบาทในการต่อสู้ครั้งนี้แม้แต่น้อย
นางทำได้เพียงมองดูเงียบๆอยู่ด้านข้างหากต้องการ นางก็สามารถนั่งจิบชาและกินของว่างได้
ฮึ่มคนรุ่นเยาว์สมัยนี้ช่างแข็งแกร่ง นางไม่ต้องพึ่งพาความสามารถของคนรุ่นเก่าอีกต่อไป เฉียนยู่ถอนหายใจ ในที่สุดนางก็ตัดสินใจเข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์กับอสูรและปีศาจ แต่ไม่มีใครเปิดโอกาสให้นางได้ทำอะไรแม้แต่น้อย
สายลมเย็นได้พัดผ่านผมของเฉียนยู่พริ้วไหวไปตามสายลม
จักรพรรดินีอสูรไป่ฉือกลิ้งไปด้านข้างจนทำลายบ้านหินที่นางอยู่ก่อนหน้านี้
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าราชาอสูรต่างตกตะลึง
พวกเขาไม่เคยเห็นจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือเป็นแบบนี้มาก่อนอย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าใจในทันทีหลังจากได้เห็นหางจิ้งจอกขาวที่ถูกตัดขาดบนพื้น
ไม่ใช่เพราะไป่ฉือที่ทำตัวแปลกไปแต่เพราะฉือกูเหยียนเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง
เร็วเข้ารีบไปช่วยจักรพรรดินี!
ส่งสัญญาณ!
ส่งสัญญาณบอกเทพอสูร!
อสูรจำนวนมากรุมล้อมจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือในขณะที่สัญญาณสีแดงถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า
สัญญาณ? เฉียนยู่หรี่ตาลงเล็กน้อย
ตามรายงานที่ได้รับจักรพรรดินีไป่ฉือ ราชาอสูรทั้งสิบรวมไปถึงกองทัพอสรได้รับหน้าที่คุ้มกันภูเขาสวรรค์
อย่างไรก็ตามหากรายงานถูกต้อง…
สัญญาณนี้ส่งให้ใครกัน
เดี๋ยวก่อน!
ตัวตนระดับเทพเจ้า!
เฉียนยู่ตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ฉือกูเหยียนรีบหนีกันเถอะ! เฉียนยู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว หากมีเพียงแค่ไป่ฉือและราชาอสูรสิบตน ด้วยความสามารถของหอคอยหลิงหยุนและฉือกูเหยียนยังคงมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ตามหากมีตัวตนระดับเทพเจ้าอยู่ด้วยพวกเขาจะเสียการควบคุมสถานการณ์อย่างสมบูรณ์และอาจต้องตาย หนี?ฮ่าฮ่า… เจ้าไม่สามารถหนีไปได้! ในขณะที่เสียงของเฉียนยู่ดังขึ้น เสียงหนึ่งก็ดังก้องไปทั่วภูเขา
หลังจากนั้นพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน
แรงสั่นสะเทือนและเสียงยังคงดังก้องอย่างต่อเนื่องร่างยักษ์ปรากฎขึ้นต่อหน้าเฉียนยู่
นั่นคืออสูร
ดวงตาของเฉียนยู่เบิกกว้าง
อสูรที่มีห้าหัวหัวที่ดูเหมือนวานรสีแดง เขียว ม่วง เงินและดำ
อย่างไรก็ตามร่างกายกลับเหมือนสิงโตขนสีน้ำตาลปกคลุมใต้ลำคอพวกมัน เกล็ดสีดำส่องประกายไปจนถึงกรงเล็บ
กรงเล็บของนกอินทรีย์
ยิ่งกว่านั้นอสูรตนนี้มีความสูงอย่างน้อย15 เมตร ราวกับภูเขาอีกลูกผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
ฟู่!อสูรสูดลมหายใจและเกิดเป็นคลื่นลมแรงพัดผ่าน
ตัวตนระดับเทพเจ้าเทพอสูร!
สิงโตห้าหัว?!
แค่สอง?! เสียงที่สงบของฉือกูเหยียนดังขึ้นในขณะที่เฉียนยู่กำลังตกตะลึงฉือกูเหยียนมองไปที่ยังเทพอสูรด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
สอง?!มีสองงั้นเหรอ? เฉียนยู่มองไปยังอสูรห้าหัวตรงหน้า แต่ไม่เห็นตัวที่สองแม้แต่เงา
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองมีเสียงหัวเราะดังขึ้น
ร่างเล็กๆร่างหนึ่งปรากฎขึ้นบริเวณลำคอของสิงโตห้าหัวเป็นร่างของชายที่สูงไม่เกินหนึ่งเมตรครึ่ง
ศีรษะล้านสวมชุดคลุมสีเทาที่ขาดรุ่ย เขาดูน่าเกลียดมากๆ
อย่างไรก็ตามชายร่างเตี้ยยืนอยู่บนร่างของอสูรตัวตนระดับเทพเจ้าแต่ละตนมีความหยิ่งผยอง พวกเขาจะยอมให้มีคนยืนบนหัวได้ยังไง?
เหตุผลเดียวคือชายร่างเตี้ยเป็นนายของอสูรตัวนั้น
เด็กน้อยเจ้ามีสายตาที่ยอดเยี่ยม แต่เจ้ายังเยาว์วัยนักและ …งดงาม เอาล่ะข้าจะเมตตาให้เจ้ามาเป็นเด็กรับใช้ จงคุกเข่าขอบคุณข้าเสีย ดวงตาของชายร่างเตี้ยเบิกกว้างด้วยความหื่นกระหายทันทีที่เห็นฉือกูเหยียน
แค่สองคน?ดูเหมือนเจ้าไร้ยางอายจะสามารถรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้สบาย ฉือกูเหยียนพึมพำกับตัวเองราวกับไม่ได้ยินที่ชายร่างเตี้ยพูด
เด็กน้อยข้ากำลังพูดกับเจ้า …หืม? เจ้ากล้าลงมืองั้นรึ! ชายร่างเตี้ยตระหนักว่าฉือกูเหยียนหายไปในขณะที่เขากำลังพูด
หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างจากด้านหลัง ความรู้สึกที่รุนแรงบังคับให้เขาต้องหยุดพูดและตบไปด้านหลังอย่างไม่ลังเล
อย่างไรก็ตาม…
เขาตบไม่โดนอะไร
หลังจากนั้นก็เห็นร่างหนึ่งปรากฎขึ้นด้านหน้าร่างที่สวมชุดสีชมพูและมีผมสีดำ
ความงดงามที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดและเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
ฉือกูเหยียนไม่ได้โจมตีจากด้านหลังแต่กลับปรากฎตัวที่ด้านหน้าแทน นั่นทำให้พวกเขาตกตะลึงโดยสมบูรณ์
สิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือชายร่างเตี้ยรู้สึกหนาวสั่นจากด้านหลัง
เกิดอะไรขึ้น?
ชายร่างเตี้ยสับสนเล็กน้อยแต่ก็เรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเขาไม่สามารถหลบการโจมตีด้านหน้าได้หลังจากตบไปด้านหลัง
แม้ว่าจะคาดการณ์ผิดพลาดแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
นั่นเพราะเขามีสิงโตห้าหัวอยู่ใต้ฝ่าเท้าเหตุใดจึงต้องกลัวฉือกูเหยียน
แสงดาบพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
ราวกับน้ำตกที่ไหลลงจากยอดเขาพวกมันฟาดฟันชายร่างเตี้ยและสิงโตห้าหัวด้วยเสียงที่คมชัด
การโจมตีของฉือกูเหยียนเป็นเพียงการโจมตีด้วยดาบธรรมดา
แต่มันเร็วมากพวกเขาไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้
โฮก!หัวของวานรทั้งห้าเงยหน้ามองด้วยแววตาที่บ้าคลั่ง หัวหนึ่งพ่นไฟออกมาในขณะที่อีกหัวหนึ่งปล่อยผลึกน้ำแข็ง
เมื่อเปลวไฟและผลึกน้ำแข็งรวมเข้าด้วยกันเกราะน้ำแข็งขนาดยักษ์ก็ก่อตัวขึ้น ในขณะที่แสงทั้งสามเริ่มส่องสว่างขึ้นจากหัววานรที่เหลือ
หัวทั้งห้าแสดงถึงธาตุที่ต่างกัน! ความสามารถในการควบคุมพลังทั้งห้าในเวลาเดียวกันของตัวตนระดับเทพเจ้า
อย่างไรก็ตามดูเหมือนฉือกูเหยียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้
นั่นเพราะดาบของนางยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องแม้ว่าเกราะน้ำแข็งจะปรากฎขึ้นก็ตาม
แกรก!
เกราะน้ำแข็งเริ่มแตกร้าวเปลวไฟถูกผ่าเป็นสอง ราวกับพวกมันถูกสายลมพัดหายไป
ผลึกน้ำแข็งกระจายไปทั่วท้องฟ้า
อย่างไรก็ตามดาบของฉือกูเหยียนยังไม่หยุด
ไม่เพียงแต่ไม่หยุดแต่พวกมันไม่ได้ช้าลงเลย แสงสีเงินขาวยังคงส่องสว่างและผสานเข้ากับแสงสีม่วงจนเกิดเสียงที่ดังก้อง
สีหน้าของชายร่างเตี้ยเปลี่ยนไป
หากก่อนนี้ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งตอนนี้มันกลายเป็นความประหลาดใจ อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป
ดาบไร้ร่องรอยในมือฉือกูเหยียนพุ่งเข้าหาหัววานรที่พ่นไฟออกมา
ตูม!
ร่างที่สูงใหญ่ของสิงโตห้าหัวทรุดลงกับพื้นทันที
อย่างไรก็ตามมันยังไม่จบ
ดาบของฉือกูเหยียนยังคงไม่หยุดมันผ่าหัววานรขนาดยักษ์ไปจนถึงขนหนาบริเวณลำคอ
ฟู่! เลือดสาดกระเซ็นไปในอากาศ
หัวของวานรกลิ้งไปตามพื้น
เลือดยังคงพวยพุ่งออกมาชุดสีชมพูของฉือกูเหยียนกลายเป็นสีแดงโดยสมบูรณ์
ดวงตาของสิงโตที่เหลือเพียงสี่หัวเบิกกว้าง
มันเต็มไปด้วยความไม่เชื่อหลังจากนั้นเสียงคำรามที่เจ็บปวดดังก้องไปทั่วภูเขาสวรรค์
ตูม!
ตูม!
…
ร่างสิงโตกลิ้งไปตามพื้นเพราะการโจมตีของฉือกูเหยียนเลือดค่อยๆแข็งตัวจากบาดแผลที่ถูกตัด อย่างไรก็ตามไม่มีหัวใหม่งอกออกมาแต่อย่างใด
ชายร่างเตี้ยกระโดดลงมาจากร่างอสูรยักษ์อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาซีดขาวเหมือนกระดาษเปล่า
เป็นไปได้ยังไง? ชายร่างเตี้ยไม่เชื่อ
เขารู้ถึงพลังของอสูรห้าหัวเป็นอย่างดีเขาใช้ความพยายามอย่างมากในการควบคุมมัน
อย่างไรก็ตามฉือกูเหยียนตัดหัวของอสูรได้ในดาบเดียว?!
น่าเหลือเชื่อเกินไป?! ความจริงแล้วชายร่างเตี้ยเตรียมพร้อมหลังจากได้เห็นหางจิ้งจอกของไป่ฉือถูกตัดขาด
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเตรียมพร้อมหรือไม่เขาก็ไม่คิดเลยว่าฉือกูเหยียนจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้
ในตอนนี้…
บรรยากาศบนภูเขาสวรรค์ช่างแปลกระหลาด
ราชาอสูรและเหล่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนหยุดเคลื่อนไหวจ้องมองไปที่สิงโตห้าหัวที่ตอนนี้…เหลือเพียงสี่หัว
ฉากที่น่าสะพรึงกลัว
นางตัดหัวของตัวตนระดับเทพเจ้าภายในการโจมตีเดียว?!
เป็นไปได้ยังไง!
ฉือกูเหยียนแข็งแกร่งมาก!
ราชาอสูรและเหล่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้เพราะมันเกินจริงจนไม่น่าเชื่อ
นอกจากพวกเขาแล้วเฉียนยู่เองก็ตกตะลึงในตอนแรกนางคิดว่าได้เห็นพลังทั้งหมดของฉือกูเหยียน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นางรู้สึกว่ามันเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น
สามารถตัดหัวของตัวตนระดับเทพเจ้าได้
เฉียนยู่ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าฉือกูเหยียนแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ภายในเวลาหกเดือนได้อย่างไร
เซียนขั้นสูงสุด?!
เดี๋ยวก่อน
ถ้านางอยู่ในระดับเซียนจะสามารถฆ่าตัวตนระดับเทพเจ้าได้อย่างไร?
แล้วถ้านางไม่ได้อยู่ในระดับเซียนขั้นสูงสุดนางมีพลังระดับไหน?
เว้นแต่ฉือกูเหยียนจะสามารถเข้าถึงพลังระดับเทพเจ้าได้ภายในเวลาหกเดือน!
มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ปากของเฉียนยู่อ้าค้างจนสามารถสอดกำปั้นเข้าไปได้ ยิ่งกว่านั้นนางมั่นใจมากว่าแหล่งพลังของฉือกูเหยียนมากจากพลังสายเลือดของนางนั่นทำให้ฉือกูเหยียนเป็นที่น่าสะพรึงกลัวเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง
อย่างไรก็ตามตอนนี้นางไม่เห็นเงาด้านหลังของฉือกูเหยียนแม้แต่น้อย
ถ้านางสามารถฆ่าตัวตนระดับเทพเจ้าโดยไม่ใช้พลังสายเลือดแล้วนางจะแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่อต้องใช้มัน?!
……………………………………..