Gate of God - ตอนที่ 1027 ปิดประตูเทพเจ้า
ตอนที่ 1027 ปิดประตูเทพเจ้า
ไป่ฉือนั้นสามารถนับได้เป็นหนึ่งในคนที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มาเนิ่นนานดังนั้นนางจึงรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะเปิดประตูเทพเจ้าทั้งสามบานได้
แต่ที่สามารถเปิดมันขึ้นมาได้เพราะความฉลาดของหยุนชิงวูและความบังเอิญหลายอย่าง
เช่นถ้าหนานกงเฮารอดูดซับพลังจากต้นไม้เทพเจ้าให้สมบูรณ์กว่านี้ก่อนที่จะไปยังภูเขาสวรรค์
หรือถ้าหนานกงเฮาทำตามแผนการของตระกูลโดยการดูดกลืนพลังสายเลือดของฉือกูเหยียนเขาคงชนะสงครามที่ภูเขาสวรรค์อย่างสิ้นเชิง
มันมีความบังเอิญมากเกินไปทำให้เผ่าอสูรและปีศาจสามารถเปิดประตูเทพเจ้าได้สำเร็จยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปิดมัน… ขณะที่ไป่ฉือกำลังคิดฉือกูเหยียนกลับพุ่งตรงไปที่ประตูเทพเจ้าทั้งสองบานที่เปิดอยู่
ไร้เดียงสามาก!คิดว่ามันจะเป็นไปได้งั้นรึ?! ไป่ฉือไม่ได้เร่งรีบหยุดนาง
แน่นอนว่าด้วยความสามารถของฉือกูเหยียนในตอนนี้คงสามารถเอาชนะไป่ฉือได้อย่างง่ายดาย
แต่ที่นางไม่ได้หยุดฉือกูเหยียนเป็นเพราะนางคิดว่าฉือกูเหยียนไม่มีทางปิดประตูได้
ตูม!เสียงระเบิดดังขึ้นจากนั้นพลังอันรุนแรงได้กดดันลงมาจากท้องฟ้าไปทั่วภูเขาสวรรค์
พื้นดินสั่นสะเทือนเสียงนกร้องดังระงมไปทั่ว
ฉือกูเหยียนไม่สนใจ
ดวงตาของนางเปล่งแสงราวกับดวงดาวยามค่ำคืนชุดสีชมพูของนางโบกสะบัดไปตามอากาศ ความงดงามของนางยังคงชวนตกตะลึง
การโจมตีของฉือกูเหยียนทำให้ประตูเทพเจ้าทั้งสองบานสั่นสะเทือนลำแสงจำนวนมากพุ่งไปที่ประตูทั้งสองอย่างต่อเนื่อง
แข็งแกร่งมาก!
ข้าคิดว่าพลังของนางตอนนี้อยู่เหนือกว่าระดับเทพเจ้า!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ร่างของเหล่าอสูรต่างสั่นกลัวอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเห็นร่างของฉือกูเหยียนบนท้องฟ้า
อย่างไรก็ตามแม้การโจมตีของฉือกูเหยียนจะทรงพลังมากแต่ประตูเทพเจ้าทั้งสองบานกลับสั่นไหวเพียงแค่นิดเดียว
มันไม่ขยับเขยื้อนออกไปจากจุดเดิมแม้แต่น้อย
ข้าจะช่วยเจ้าเอง! เฉียนยู่เคลื่อนไหวอีกครั้ง นางผิดหวังเล็กน้อยกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
แม้นางจะรู้ว่าเป็นไปได้ยากแต่ก็ไม่คิดจะทิ้งโอกาสเช่นนี้ไป
สองคน?พวกเจ้าก็ไม่มีทางทำได้อยู่ดี! ไป่ฉือหรี่ตาอีกครั้ง นางยังคงไม่หยุดฉือกูเหยียนและเฉียนยู่เช่นเคย
พวกนางไร้เดียงสาเกินไป!
ไป่ฉือไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปเช่นนั้นสิ่งเดียวที่นางทำได้คือปลอบใจตัวเองว่าประตูเทพเจ้านั้นแข็งแกร่งเพียงพอ
ครืน!
เฉียนยู่โบกหอคอยหยกในมือขึ้นไปในอากาศขณะที่นางตรงไปยังประตูเทพเจ้าเกิดสายฟ้าและเสียงฟ้าร้องขึ้นบนท้องฟ้า
สายฟ้าสีทองพุ่งเข้าไปที่หอคอยหยก
ขณะเดียวกันดวงจันทร์สีเงินบนหัวของเฉียนยู่ได้ส่องสว่างปกคลุมไปทั่วภูเขาสวรรค์
นางกำลังจะใช้ดินแดนหลิงหยุน! ไป่ฉือกำหมัดแน่น นางรู้ฤทธิ์เดชของดินแดนหลิงหยุนดี เมื่อหลายสิบปีที่แล้วอดีตผู้นำหอคอยหลิงหยุนได้ใช้ดินแดนหลิงหยุนเพื่อขังนางไว้ทำให้กองทัพอสูรพ่ายแพ้
การที่มันปรากฎขึ้นอีกครั้งต่อหน้าย่อมทำให้นางกังวลแน่นอน
ไป่ฉือไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่ามนางทำได้เพียงคอยระวังเท่านั้น
หอคอยหยกขนาดเล็กๆค่อยเปลี่ยนเป็นสีทองก่อนที่ขนาดของมันจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดมันก็สูงเกือบสิบเมตร
หอคอยทองคำเก้าชั้นลอยอยู่กลางอากาศล้อมลอบไปด้วยสายฟ้าจำนวนมาก
ในที่สุดเฉียนยู่ก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง
หลังจากที่นางกู่ตะโกนลำแสงพุ่งออกมาจากหอคอยเก้าชั้นปกคลุมไปทั่วภูเขาสวรรค์
ขณะเดียวกันดวงอาทิตย์สีทองปรากฎขึ้นบนดวงจัทร์ทั้งเก้าดวงเหนือหัวเฉียนยู่
มันส่องแสงสว่างหมุนวนสลับกับแสงสีเงินของดวงจันทร์! การรวมตัวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์!
เพื่อเปิดใช้งานดินแดนหลิงหยุนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ต้องอยู่ร่วมกัน
อดีตผู้นำหอคอยได้มอบดวงอาทิตย์สีทองให้กับเฉียนยี่และมอบดวงจันทร์สีเงินให้แก่เฉียนยู่
ความตั้งใจที่จะรวมสองพี่น้องให้เป็นหนึ่ง
น่าเศร้าที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อเฉียนยี่ตายไปแล้ว เฉียนยู่จึงกลายเป็นผู้ควบคุมดินแดนหลิงหยุนแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อดวงอาทิตย์และจันทร์ส่องสว่างหอคอยเก้าชั้นขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เสียงมากมายดังขึ้นรอบๆหอคอยราวกับเป็นเสียงจากสรวงสวรรค์
นี่คือดินแดนหลิงหยุน?!
บรรยากาศทรงพลังมา!
มันเป็นสมบัติชั้นยอดที่แท้จริง! เหล่าอสูรต่างตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ตรงหน้า
เหยียนเอ๋อร์มารวมพลังกับข้า! เสียงของเฉียนยู่ดังขึ้นอีกครั้ง ลำแสงสีทองพุ่งไปยังประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูร
อื้อ ดวงตาของฉือกูเหยียนเปล่งประกาย ขณะเดียวกันเงาหนึ่งปรากฎขึ้นด้านหลังของนาง
บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นเงาอีกต่อไป
’ร่าง’นั้นผสานเข้ากับร่างกายที่แท้จริงของฉือกูเหยียนผมยาวราวกับน้ำตก ชุดสีขาว บรรยากาศอันสูงส่ง
ตอนนี้ฉือกูเหยียนราวกับหญิงสาวสูงศักดิ์ทุกย่างก้าวของนางล้วนเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์
ตูม!
ฝ่ามือของฉือกูเหยียนและลำแสงสีทองกระทบเข้ากับประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูร
ประตูเทพเจ้าเริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรง แกรก!เสียงหนึ่งดังขึ้น มันทำให้การแสดงออกของไป่ฉือและเหล่าอสูรเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะพวกเขาเห็นประตูเทพเจ้าที่เปิดออกเคลื่อนไหวราวกับกำลังจะปิดลงอีกครั้ง
เป็นไปไม่ได้!ประตูเทพเจ้าจะถูกปิดลงโดยคนเพียงสองคนได้เช่นไร?! ดวงตาของไป่ฉือเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
นั่นหมายความว่าตำนานนั้นเป็นของปลอมงั้นรึ?
การที่จะเปิดประตูเทพเจ้าได้จำเป็นต้องมีสายเลือดของจักรพรรดิหยานกลับกันการที่จะปิดประตูเทพเจ้าได้จำเป็นต้องมีพลังจากมารดาแห่งโลก
มารดาแห่งโลก?
พวกนางไปหาพลังนั้นมากจากไหน?!
เดี๋ยวก่อน!
หรือพลังสายเลือดของฉือกูเหยียนจะเป็นพลังจากมารดาแห่งโลกในตำนาน?เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง ไป่ฉือไม่เชื่อเรื่องนั้น
อย่างไรก็ตามนางเริ่มรู้สึกเข้าใจในตัวของหนานกงเทียนว่าทำไมเขาถึงบังคับให้หนานกงเฮาดูดกลืนพลังสายเลือดจากฉือกูเหยียน
แม้พลังของฉือกูเหยียนจะไม่ได้มาจากมารดาแห่งโลกจริงๆแต่นางมีความสามารถที่จะปิดประตูเทพเจ้า
มันน่ากลัวเกินไป
ถ้าพลังของฉือกูเหยียนยังคงอยู่มันเท่ากับว่าประตูเทพเจ้าพร้อมจะปิดลงได้ทุกเมื่อ
ไป่ฉือไม่มีทางยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นแน่นอนต่อให้นางต้องตายนางก็ต้องหยุดเรื่องนี้ให้ได้!
โจมตี! ไป่ฉือตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
ราชาอสูรและกองทัพอสูรได้ยินเสียงตะโกนของไป่ฉือ แม้พวกเขายังคงตกตะลึงแต่ก็เคลื่อนไหวในทันที
โจมตี!
หยุดพวกนาง!
สู้!
แม้ว่าพวกเขาจะตายแต่พวกเขาก็ต้องสู้สู้เพื่อความหวังของเผ่าอสูร
พวกเขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไรก็ตามพวกเขาต้องผ่านการป้องกันจากศิษย์หอคอยหลิงหยุนให้ได้เสียก่อน
แสงมากมายส่องสว่างขึ้นกล่างอากาศจากนั้นเส้นใยสีเขียวขนาดมหึมาได้ปรากฏขึ้น
ตูม!
ตูม!
..
ร่างของราชาอสูรชนเข้ากับตายข่ายสีเขียวพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น ด้านฉือกูเหยียนสายตาของนางยังคงจ้องไปที่ประตูอย่างแน่วแน่โดยไม่สนใจเสียงรอบข้างแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเทียบกับฉือกูเหยียนร่างของเฉียนยู่สั่นไม่หยุด พลังของดินแดนหลิงหยุนนั้นแข็งแกร่งเกินไป การที่จะควบคุมมันได้ไม่เพียงแต่นางต้องใช้พลังกายแต่มันรวมไปถึงพลังชีวิตด้วย
มีเพียงพลังชีวิตของนางที่จะทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ส่องสว่างขึ้นพร้อมกันได้
ใบหน้าของนางมีริ้วรอยปรากฎขึ้นนางดูแก่ขึ้นหลังจากใช้ดินดินหลิงหยุนไปไม่เพียงกี่วินาทีเท่านั้น
ไม่! ไป่ฉือพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน ร่างของนางกลายเป็นจิ้งจอกขาว
อย่างไรก็ตามพลังอันรุนแรงได้ขวางนางเอาไว้ร่างของนางตกลงไปที่พื้นอีกครั้ง
ดินแดนหลิงหยุนสามารถขัดขวางไม่ให้สิ่งที่อยู่ด้านในออกมาแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ขัดขวางไม่ให้สิ่งที่อยู่ด้านนอกเข้าไปได้เช่นกัน น่ารำคาญจริงๆ! ไป่ฉือกล่าวออกมา
บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมฉือกูเหยียนและเฉียนยู่ไม่คิดจะเสียเวลาฆ่าไป่ฉือ
อย่างไรก็ตามถึงนางจะรู้นางก็ไม่เต็มใจที่จะเห็นประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรปิดลงเช่นนี้
ทำไมพวกนางต้องปิดประตูของเผ่าอสูรก่อน?!
พวกนางจะปิดประตูของเผ่าปีศาจก่อนก็ได้ไม่ใช่หรือ?
ไป่ฉือคงไม่โจมตีถ้าพวกนางปิดประตูของเผ่าปีศาจก่อน!
ครืน!ขณะที่ไป่ฉือกำลังโกรธ ประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรที่ปิดไปครึ่งหนึ่งได้เปิดออกอีกครั้ง
แต่มันแปลก
ไม่มีแสงสว่างจากดวงดาวส่องออกมาแต่เป็นความมืดสีดำสนิท เกิดอะไรขึ้น?หรือตัวตนเทพเจ้ากำลังจะออกมาอีก? ไป่ฉือตกตะลึง แต่ก็ถือเป็นโชคดีของนาง
อย่างไรก็ตามฉากแปลกๆตรงหน้านางมันทำให้นางรู้สึกต่างออกไป
ความมืดที่อยู่ด้านหน้านางนั้นใหญ่เกินไปมีรอยร้าวมากมายปรากฎขึ้น
มันเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นจากโซ่จำนานมากมันต่างออกไปจากตอนที่ตัวตนระดับเทพเจ้ากำลังจะออกมาจากประตู
ขณะที่ไป่ฉือกำลังสับสนเงาสีดำขนาดใหญ่ได้พุ่งออกมาจากประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรด้วยความเร็วอันสูงสุด
นั่นมันอะไรกัน?! ดวงตาของไป่ฉือเบิกกว้าง กับสิ่งที่พุ่งออกมา
นางไม่แน่ใจว่ามันเป็นตัวตนระดับเทพเจ้าหรือเปล่า?
……………………………………..