Gate of God - ตอนที่ 429
ดินแดนภูเขาทางใต้…
ดินแดนที่บริสุทธิ์และมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองรวมถึงรักความเป็นอิสระ
ที่แห่งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวและชายหนุ่มดูเหมือนจะเป็นไปตามความปรารถนาของพวกเขาเอง เหล่าชายหนุ่มต่อสู้อย่างกล้าหาญในสนามรบ
และเมื่อกลับมา พวกเขาก็ได้รับความรักและเทิดทูลจากสตรี
ก่อนที่จะได้แต่งงาน เหล่าหญิงสาวก็ได้มอบพรหมจรรย์ให้กับเหล่านักรบเพื่อแสดงความกล้าของพวกนาง
นางยินดีที่จะยอมแพ้ในความรัก
ในทำนองเดียวกันนั้นเอง ถ้าชายเหล่านั้นชอบในหญิงนางเดียวกัน พวกเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงพรหมจรรย์ของนาง สิ่งนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความเคารพ
และแน่นอน…
หญิงนางนั้นยังสามารถเลือกคนที่นางต้องการจะอยู่ด้วยได้
ในดินแดนภูเขาทางใต้ไม่มีใครถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการนี่เป็นสถานที่ให้ความสำคัญกับอิสระในการเลือกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
องค์หญิง ฉาน ยู่ สงบใจลงและมองดูสีหน้าที่กังวลของเหล่าแม่ทัพนางยิ้ม
“ท่านจะกังวลอะไรอยู่อีกเล่า ถ้าเขาถูกมัดมือมัดแล้วก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก?“
“เอ่อ … ใช่แล้ว ฝ่าบาท!“
แม่ทัพทั้งหมดมองหน้ากันก่อนที่จะถอนหายใจ
“แม่ทัพเถิง ข้ามีหวายพันปีที่เอาไว้จับสัตว์ป่าอยู่ โปรดใช้มันมัด ฟาง เจิ้งจือ ด้วย“
“ขอบคุณ แม่ทัพหลิน!”เถิง ซือเซิง รู้สึกโมโหเล็กน้อยเมื่อเขาหยิบหวายจับสัตว์มาจากแม่ทัพหลิน อย่างไรก็ตาม เขาต้องมั่นใจว่าองค์หญิง ฉาน ยู่ จะปลอดภัย
…
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเขาได้สติกลับคืนมา
เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขากดทับเขาอยู่ จากนั้นก่อนที่เขาจะสามารถยกมันออกจากอกได้ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
จากนั้น…
เขารู้สึกเหมือนกำลังจะตกลงมา
ความรู้สึกนั้นทำให้เขาตื่นตระหนก อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะกระแทกกับพื้น เขาก็ถูกมัดไว้ด้วยเชือกหวาย
อย่างไรก็ตามมันยังไม่ชัดเจนนัก
เขายังรู้สึกไม่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งผะอืดพะอมและคลื่นไส้
เขาถูกเหวี่ยงไปมาอยู่นานก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าตัวเองได้หนีมาจากเรื่องทั้งหมดแล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองถูกจับมัดอีกครั้ง
เป็นการมัดที่แน่นหนามาก
งู?
ไม่นะ!!
เขาต้องถูกงูรัดตัวอยู่แน่ๆ เขาจะตายแบบนี้ไม่ได้!
เขาต่อสู้และดิ้นรน …
ในที่สุด …
ฟาง เจิ้งจือ ก็เห็นแสงที่ด้านหน้าของเขามันสว่าง และเป็นแสงแห่งความหวัง จากนั้นเขาก็เห็นบางอย่างสั่นๆแต่กลับมีลักษณะคล้ายกับภูเขา
มันเกือบจะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมันดึงดูดเขาเป็นอย่างมาก
ฟาง เจิ้งจือ ต้องการสัมผัสมัน
อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว เกือบจะเหมือนถูกงูเหลือมรัดคออยู่
“อา เจ้าสัตว์ร้าย ปล่อยข้านะ!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด ขณะที่เขาลืมตาเพื่อมองดูมัน
ด้านหน้าของเขาเริ่มชัดเจนมากขึ้น
จากนั้น…
ปากของเขาอ้าค้าง
เขาตระหนักว่ามีหญิงนางหนึ่งในชุดหนังสีขาวอยู่ด้านหน้าของเขาและภูเขาทั้งสองลูกที่เขาเห็นนั้น…
ดูเหมือนจะเป็นของหญิงสาวนางนั้น
นางแสดงให้เห็นถึงความงดงามพร้อมกับรูปทรงที่โค้งเว้าอย่างได้รูป
ฟาง เจิ้งจือ รู้ถึงความจริงข้อนี้
มันสั่นไหวอยู่ในสายตาของเขา…
…
ท่าทีขององค์หญิง ฉาน ยู มืดมนลงทันที
นางไม่ยินดีกับเรื่องนี้เท่าไรนัก
ฟาง เจิ้งจือ พึ่งถูกส่งมาที่กระโจมของนาง
ถูกมัดมือไว้อย่างแน่นหนา
องค์หญิง ฉาน ยู่ มีความสุขกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เริ่มต่อสู้ดิ้นไปมา นางก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
นางอยู่ถัดไปจาก ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตาม นางไม่คาดคิดเลยว่า คำแรกที่เขาพูดออกมาคือ “อา เจ้าสัตว์ร้าย ปล่อยข้านะ!“
“เจ้าสัตว์ร้าย?!“
องค์หญิง ฉาน ยู่ รู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ หมายถึงอะไร
ชาวดินแดนภูเขาทางใต้นั้นมีชีวิตอยู่เคียงข้างกับสัตว์ร้าย แม้ว่ามันจะเป็นอันตราย แต่ชาวบ้านก็ปฏิบัติกับเหล่าสัตว์ราวกับเป็นเพื่อนบ้าน
พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
กับการเรียกว่า เจ้าสัตว์ร้ายนั้น …
เป็นการดูถูกและแสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพในอุดมติของพวกเขา
“เจ้ากล้าเรียกข้าว่า เจ้าสัตว์ร้ายงั้นรึ? หรือเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว?”องค์หญิง ฉาน ยู่ ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมกับคว้าไม้ที่วางอยู่ข้างเตียงออกมา
“โป้ก!“
เสียงดังสะท้อนออกมา
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกถึงแรงกระแทกและโลกด้านหน้าของเขาก็มืดลงอีกครั้ง หัวของเขาสั่นไหว
องค์หญิง ฉาน ยู่ มองดูด้วยความงุนงง
“โอ้? เขาสลบอีกแล้วหรือ? นี่ … เจ้าไร้ยางอาย ตื่นเดี๋ยวนี้นะ! ข้าขอสั่งให้เจ้าตื่นเดี๋ยวนี้!“องค์หญิง ฉาน ยู่ ตะโกนออกมา
แต่…
มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ฟาง เจิ้งจือ ยังคงอยู่ในอาการสาหัส
หลังจากผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอกกระโจม
“ฝ่าบาท มีคำสั่งส่งมาจากเมืองภูเขาเซียน! “
“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว!“องค์หญิง ฉาน ยู่ พยักหน้าและหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ที่ไม่รู้สึกตัว
ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!
ถ้าเจ้าไม่เรียกข้าว่า เจ้าสัตว์ร้าย ข้าจะไม่ทำเจ้า!
เจ้าสมควรโดนแล้ว!
…
เมืองภูเขาเซียน!
เมืองหลวงของดินแดนภูเขาทางใต้ และเป็นจุดที่สูงที่สุดในดินแดนนี้ทั้งเมืองถูกสร้างขึ้นมาจากหิน
ฉาน หลิง
บุตรชายคนที่สามของราชาและทายาทแห่งบัลลังก์
โดยปกติแล้วการเป็นบุตรคนที่สามไม่มีทางได้สืบทอดบัลลังก์เด็ดขาด
อย่างไรก็ตามตำแหน่งนี้กลับตกเป็นของเขา ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ต้องไปแย่งชิงกับใครด้วยซ้ำ เขาได้สร้างชื่อด้วยตัวเอง
มันเป็นเพราะความสามารถของเขา
เขาเด็ดขาดและกล้าหาญ เขามีทุกสิ่งที่จะทำให้ผู้คนเคารพนับถือ
อย่างไรก็ตาม …
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาได้สูญเสียความเยือกเย็นที่เคยมีไป
“ตูม!” เสียงอันดังก้องได้เกิดขึ้นมา ขณะที่โจ๊ะหยกถูกผลักล้มลงกระแทกกับพื้น
“เจ้าต้องการให้ข้าเดินไปยังเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับงั้นรึ!?” ฉาน หลิง คำราม ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
เขาโกรธแค้น
อย่างไรก็ตามชายในชุดดำยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรแม้แต่น้อย เขาไม่ได้แม้แต่ก้าวถอยหลัง
“พวกเราไม่เข้าใจ มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง? นี่เป็นวิธีที่เผ่าพันธุ์ของพวกเราใช้ช่วยท่านเท่านั้นเอง”ชายชุดดำตอบอย่างใจเย็น
“ช่วยข้า? ช่วยข้างั้นรึ! ฮ่าฮ่าฮ่า … เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นรึ? เจ้าต้องการให้ข้าฆ่าราชาองค์ปัจจุบันที่เป็นพ่อของข้าเองงั้นรึ!” ดวงตาของ ฉาน หลิง กลายเป็นสีแงก่ำด้วยความโกรธ อารมณ์ของเขาไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก
“ลองคิดดูสิ บัลลังก์จะกลายเป็นของเจ้านะ!” ชายชุดดำยังคงไม่ได้สะทกสะท้านอะไรแม้แต่น้อย
“ใครจะสนใจกันล่ะ? นั่นพ่อข้านะ!” ฉาน หลิง กำหมัดแน่น
เขาต้องการต่อยชายด้านหน้าให้ล้มลงเหลือนเกิน
แต่เขาทำไม่ได้
ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ แต่ตอนนี้มีทหารของเหล่าปีศาจล้อมรอบเมืองภูเขาเซียนอยู่กว่าห้าหมื่นนาย…
พวกเขาไม่ควรอยู่ที่นี่
เป็นเพราะว่า…
ตามข้อตกลงพวกเขาถือเป็นพันธมิตรกันในการต่อสู้ครั้งนี้ ดินแดนภูเขาทางใต้เผชิญหน้ากับอาณาจักรเซี่ยด้วยทั้งหมดที่พวกเขามี ในขณะเดียวกันพวกปีศาจจะส่งกองทัพชั้นยอดมาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ด้านนอกของเมืองภูเขาเซียนมีกองทัพปีศาจกว่าห้าหมื่นตน
ปีศาจ!
พวกเขาเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เกิด พวกเขาสามารถทำลายกองทัพทหารสองหมื่นนายได้อย่างง่ายๆ
และตอนนี้ก็มีทหารเพียงสองหมื่นคนในเมืองภูเขาเซียน
มันไม่ใช่ผลจากความประมาทของ ฉาน หลิง
เขาไม่มีทางเลือก
ดินแดนภูเขาทางใต้กว้างใหญ่แต่มีคนไม่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพยายามลดความสูญเสียในการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด
เช่นนั้น เขาจึงได้วางกองกำลังไว้ซุ่มโจมตีที่สี่ถิ่นฐานหลัก
มันไม่ได้หมายความว่าเขาปล่อยเมืองหลวงไว้โดยไม่มีการระวังอะไร
ในความเป็นจริง…
ทหารที่แข็งแกร่งสองหมื่นนาย …
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ฉาน หลิง มั่นใจเป็นอย่างมากว่าพวกเขาสามารถต้านทหารแสนนายของอาณาจักรเซี่ยไว้ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเจอการตลบหลังจากปีศาจกว่าห้าหมื่นตน…
เขาไม่สามารถต้านได้ไหวอีกต่อไป
เขาไม่ได้ประเมิณอาณาจักรเซี่ยต่ำไป เขาไม่คิดว่าปีศาจจะทรยศพวกเขาและเข้าโจมตีเมืองภูเขาเซียน