Gate of God - ตอนที่ 433
จะว่า ฟาง เจิ้งจือ ผิดก็ไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าองค์หญิง ฉาน ยู่ คิดอะไรอยู่ พูดได้ว่าเมื่อมีมีดสั้นจ่อคออยู่ใครกันที่จะไม่รีบลืมตาขึ้นมา?
มันเป็นปฏิกริยาอัตโนมัติ
ทุกคนย่อมมองไปด้านหน้าของตนเอง
มันเป็นปฏิกิริยาปกติมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้องค์หญิง ฉาน ยู่ วางเท้าไว้ที่หน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ
ในมุมนี้…
เป็นมุมที่สมบูรณ์แบบมาก
จริงๆแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ก็สงสัยมาตลอดว่าหญิงสาวของดินแดนภูเขาทางใต้ใส่ชุดชั้นในหรือไม่
ตอนนี้คำถามของเขาได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพูดออกมาดังๆได้ เหล่าแม่ทัพในห้องต่างรอหาข้ออ้างมาตัดหัวเขาไปได้ทุกเมื่อ
แม้องค์หญิง ฉาน ยู่ จะงดงามและร้อนแรง แต่นางก็ป่าเถื่อนเกินไป ไม่มีอะไรที่ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ลืมความจริงข้อนี้ไปได้
มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้านบนตัวเขา…
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาไม่ต้องการให้องค์หญิง ฉาน ยู่ และเหล่าแม่ทัพที่อยู่รอบๆเข้าใจผิด
เขาต้องการเตือนองค์หญิง ฉาน ยู่ จริงๆ…
“เจ้าไม่ได้สวมอะไรไว้ด้านในเลยนะ!“
แต่มีดที่คอของเขามันคมเกินไป แค่หายใจเขายังทำได้ยากลำบาก ถ้าเขาเคลื่อนไหวผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เขาอาจจะตายเลยก็ได้
นอกจากนี้เขายังอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพจำนวนมาก ถ้าเขาบอกให้ทุกคนในกระโจมนี้รู้วา เขาเห็นของสงวนขององค์หญิง ฉาน ยู่…
มันก็เหมือนกับเขารนหาที่ตาย
ดังนั้น สิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำได้ตอนนี้คือกระพริบตาเท่านั้น เขากระพริบตาให้องค์หญิง และมองลงไปข้างล่างเพื่อบอกใบ้นาง…
มันชัดเจน
“เจ้าไม่ได้สวมอะไรด้านล่างเลยนะ เปลี่ยนท่าซะ! ไม่ดีเอาซะเลย!“
นั่นเป็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ คิด อย่างไรก็ตามเมื่อองค์หญิง ฉาน ยู่ เห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ…
มันหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น …
ฟาง เจิ้งจือ กำลังมีอารมณ์กับสิ่งที่เขาได้เห็น…
การที่นางเติบโตมาในดินแดนภูเขาทางใต้ องค์หญิง ฉาน ยู่ นั้นได้รับความเป็นอิสระค่อนข้างมาก นางไม่รู้สึกอับอายแม้แต่น้อยถ้านางจะต้องสารภาพรักกับนักรบที่นางชื่นชอบ
และนางก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับชายคนไหนก่อนที่จะแต่งงาน
อย่างไรก็ตาม …
มันไม่ได้หมายความว่านางจะทนได้ถ้ามีชายคนไหนมามองจุดสงวนของนาง
นอกจากนี้ ชายคนนั้นยังพึ่งดูถูกว่านางเป็นพวกป่าเถื่อน ไม่มีมารยาท..
เขากล้ามองของสงวนของข้าอย่างหาญกล้าขนาดนี้ได้ยังไง?! ช่างไร้ยางอาย!
องค์หญิง ฉาน ยู่ อยากจะเอามือควักลูกตาของ ฟาง เจิ้งจือ ออกมาใจจะขาด อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถทำมันได้
เป็นเพราะว่า…
นางกำลังเผชิญอยู่กับสถานการณ์ที่ยากลำบาก นางต้องการความคิดเห็นของคนอื่นเพิ่มเติมเพื่อหาทางออกของสถานการณ์ในตอนนี้
“ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเจ้าไม่สามารถแสดงความคิดเห็นที่น่าพอใจออกมาได้ เจ้าลืมเรื่องที่จะออกจากกระโจมนี้ไปได้เลย!” องค์หญิง ฉาน ยู่ กัดฟันแน่น ก่อนจะเก็บมีดของนางกลับไป
เท้าที่เหยียบ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ เองก็ค่อยๆยกออกเช่นกัน
ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะร่างกายของเขาถูกมัดไว้อยู่
เขาเป็นลมไปที่หน้าผา
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่กระโจมขององค์หญิง ฉาน ยู่ กัน?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็สามารถเดาได้ เถิง ซือเซิง เป็นคนพาเขามาที่นี่
องค์หญิง ฉาน ยู่ ให้อำนาจแก่เขาในการควบคุม เถิง ซือเซิง และหน่วยของเขา นั่นเป็นวิธีเดียวที่นางจะคอยติดตามเขาได้ เขารู้เรื่องนี้มาตลอด
องค์หญิง ฉาน ยู่ ให้ทหารหมาป่าเขาเงินแก่เขาห้าร้อยนายเพื่อเข้าร่วมการทดสอบ เช่นนั้นนางจึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในการทดสอบ
ด้วยวิธีนี้ นางจะมีทุกสิ่งที่นางต้องการ
สำหรับแรงจูงใจ และเหตุผลอื่นๆนั้น…
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจกับมันมากนัก
เขามีปัญหาที่ใหญ่กว่าที่ต้องจัดการตอนนี้ เขาต้องหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิต
ภายในกระโจม
แม่ทัพทุกคนต่างมองมาที่ ฟาง เจิ้งจือ องค์หญิง ฉาน ยู่ แสดงจุดยืนของนางชัดเจนมาก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงอยากรู้ว่าเจ้าเด็กสารเลวนี้มีอะไรดีกว่าพวกเขากัน
พวกเขายังคงจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความกดดันที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มรู้สึกคันที่คอ เป็นสัญญานแสดงว่าบาดแผลของเริ่มรักษาตัวเองแล้ว
“ช่วยเอาเชือกที่มัดตัวข้าอยู่ออกก่อนได้ไหม?“
“เชือก?! นี่คือเงื่อนพันปี แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับจุติยังไม่สามารถออกมาได้!”
แม่ทัพคนหนึ่งรู้สึกโกรธขึ้นมา สมบัติชิ้นโปรดของเขาถูกคนอื่นเรียกเป็นเชือกธรรมดาๆ!!
แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เพราะ…
มีแม่ทัพจำนวนมากและองค์หญิง ยืนอยู่ เขาจึงทำได้แค่ยืนเงียบๆ
ฟาง เจิ้งจือ ถูกปล่อยตัว
“แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับจุติยังไมสามารถทำลายเชือกนี้ออกมาได้? ทรงพลังอะไรขนาดนี้!” ฟาง เจิ้งจือ หยิบสมบัติชิ้นนั้นขึ้นมาไว้ในมือของตัวเอง
“นั่นของข้านะ!“ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ
“หา? เป็นไปได้ยังไง? มันยังมัดตัวข้าอยู่ไม่กี่นาที่ที่แล้วเองจะเป็นของเจ้าได้ยังไง!” ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างไร้เดียงสา
“เจ้า… นี่คือของขวัญที่องค์หญิงมอบให้ข้าเชียวนะ… “
“พอแล้ว!“องค์หญิงหันไปมองแม่ทัพและ ฟาง เจิ้งจือ” ฟาง เจิ้งจือ เจ้าถูกปล่อยตัวแล้ว บอกความเห็นของเจ้ามา!“
“เราไม่คิดจะพูดคุยเรื่องข้อตกลงกันก่อนหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะยืนยันความปลอดภัยของตัวเองก่อนที่จะพูดอะไรออกมามากกว่านี้
และแน่นอน…
ฟาง เจิ้งจือ กำลังซื้อเวลาให้กับตัวเองเช่นกัน
เขาได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว
เขาได้ยินทุกอย่างชัดเจน
“เมืองภูเขาเซียนถูกปีศาจล้อมไว้ องค์รัชทายาทของดินแดนภูเขาทางใต้ได้ออกคำสั่งให้องค์หญิง ฉาน ยู่ เข้าช่วยเหลือ!“
มีอะไรต้องพูดคุยกันอีก?
นางแค่ต้องไป!
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ตำแหน่งเดียวกับนาง เขาคงออกำสั่งโดยไม่ลังเล “ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปกป้องดินแดนของพวกเราเอาไว้ บุกเข้าไป! จัดการเหล่าปีศาจซะ!“
แต่เขาไม่สามารถพูดได้
ประการแรกเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของนาง อีกอย่างความคิดเห็นแบบนี้เหล่าแม่ทัพก็พูดออกมาแล้วเช่นกัน
เขาจะพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง?
องค์หญิง ฉาน ยู่ ต้องการคำตอบที่น่าพอใจ นั่นหมายความว่าความคิดเห็นที่พูดออกมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่พอใจของนาง
งั้น..
คำสั่งนั้นคือให้องค์หญิงไปเป็นกำลังเสริมให้กับเมือง แม่ทัพทุกคนต่างแสงความต้องการที่จะสู้ออกมาชัดเจน เจ้าจะมาลังเลไร้สาระอะไรอยู่กันล่ะ?
ฟาง เจิ้งจือ พยายามอย่างมากที่จะแกล้งทำเป็นสลบอยู่เพื่อที่จะไม่ต้องแสดงความคิดเห็นอะไรออกมา
แต่เขาก็ทำได้ไม่นานเท่าไรนัก
มันน่าเบื่อมาก!
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชอบเลยจริงๆ เขาต้องใช้ความคิดมากเกินไป ความเห็นของเขาก็ง่ายๆ ทำตามคำสั่ง
แต่องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่ต้องการแบบนั้น
เช่นนั้น เขาจึงต้องเก็บความคิดนี้ไว้กับตัวเองและคิดอย่างอื่นขึ้นมาแทน
ไม่สู้?
งั้นก็หนี!
หากปีศาจเข้าโจมตีเมืองภูเขาเซียน เจ้าก็ไปโจมตีเมืองเงาเลือกของพวกปีศาจซะสิ! แล้วก็เปลี่ยนเมืองหลวงไปซะเลย!
ช่างเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ?
เดี๋ยวก่อน!
เมืองเงาเลือด!
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาบนหัว ฟาง เจิ้งจือ มันเป็นความคิดที่แปลก แต่ …
เขาเริ่มที่จะมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก
“ฟาง เจิ้งจือ นี่เป็นเรื่องด่วนนะ! เจ้ายังมีอารมณ์มาพูดแบบนี้อีกหรือ? ได้… บอกมาว่าเจ้าต้องการอะไร!“
องค์หญิง ฉาน ยู่ โกรธเมื่อได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด อย่างไรก็ตาม นางไม่มีทางเลือก ฟาง เจิ้งจือ ยังคงเลือกที่จะเงียบต่อไป
และแน่นอน…
ในฐานะเจ้าหญิง …
นางมีหลายวิธีที่จะตอบสนองความต้องการของ ฟาง เจิ้งจือ ตราบใดที่เงื่อนไขของ ฟาง เจิ้งจือ มีความสมเหตุสมผล นางก็สามารถทำให้มันเป็นจริงได้
หรือแม้ว่าจะไม่มีเหตุผล …
นางก็สามารถทำเป็นเห็นด้วยกับเขาในตอนนี้…
จากนั้นนางอาจจะไม่จำเป็นต้องทำตามที่พูดออกมาก็ได้
เมื่อต้องเผชิญกับคนไร้ยางอาย …
นางต้องไร้ยางอายให้มากกว่า
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถมองแผนของเหล่าปีศาจออก เขาต้องสามารถคิดแผนที่ทำให้นางผ่านสถานการณ์ในตอนนี้ไปได้แน่นอน
องค์หญิง ฉาน ยู่ คิดในใจ
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ทำเหมือนว่าไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูด เขายืนอยู่ที่เดิม ขณะที่มีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก
“พูดสิ บอกมาเลยว่าเงื่อนไขของเจ้าคืออะไร!” องค์หญิง ฉาน ยู่ ค่อนข้างรีบร้อน
“ไม่ไม่ …ไม่นะ… พวกเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่แล้ว ดินแดนภูเขาทางใต้ได้ตายไปแล้ว… ไม่ใช่แค่ดินแดนภูเขาทางใต้เท่านั้น นี่คือสงครามระหว่างปีศาจกับอาณาจักรเซี่ย!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนร้องออกมา ราวกับเขาไม่ได้ยินสิ่งที่องค์หญิง ฉาน ยู่ พูดออกมา