Gate of God - ตอนที่ 435
ท่าทีของ องค์หญิง ฉาน ยู่ เปลี่ยนไปนับครั้งไม่ถ้วนในชั่วเสี้ยวินาทที
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ถามนางเกี่ยวกับปีศาจ 50,000 ตน นางอึกอักเล็กน้อย แต่เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ พูดเกี่ยวกับเมืองเงาเลือด…
นางถึงกลับพูดไม่ออก
ในฐานะองค์หญิงของดินแดนภูเขาทางใต้ผู้ที่ควบคุมทหารนับหมื่นนาย นางรู้ดีว่ามันหมายความว่าอะไร
มันเป็นดาบ!
ดาบที่มีชื่อของดินแดนภูเขาทางใต้เขียนไว้อยู่
มันแค่รอจังหวะที่เหมาะสมเพื่อโจมตี มันเป็นเวลานานที่ดินแดนภูเขาทางใต้ได้รวบรวมทหารจำนวนมากไว้ที่หนานหลิง
เพื่อป้องกันดาบเล่มนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อ ฉาน หลิง ตัดสินใจที่จะเป็นพันธมิตรกับพวกปีศาจ ทุกคนต่างลืมเรื่องสำคัญเรื่องนี้ไป
ในตอนแรก ดินแดนภูเขาทางใต้ยังคงเฝ้าระวังตรงจุดนั้นอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อความสำพันธ์ของทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึน ปีศาจได้เดินทางมาที่ดินแดนภูเขาทางใต้มากขึ้น เขาแม้แต่ส่งปีศาจชั้นสูงมาเพื่อฝึกทหารของดินแดนภูเขาทางใต้
นอกจากนี้ พวกเขายังให้วัตถุดิบเพื่อสร้างอาวุธอีกด้วย ตอนนี้ทหารของดินแดนภูเขาทางใต้มีอาวุธที่ดีกว่าแต่ก่อนมาก
สิ่งนี้ยังทำให้พวกเขาไม่สนใจที่จะป้องกัน พวกเขาลืมนึกถึงภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นได้
“ฟาง เจิ้งจือ เจ้าบอกว่าปีศาจจะโจมตีมาจากเมืองภูเขาเซียน เจ้ามีหลักฐานอะไรบ้าง? พวกเขาไม่กลัวหรือไงว่าพวกเราจะโจมตีกลับ?” แม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากได้หยุดคิดไป
แม้ทัพรู้ดีว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงถ้าการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่ามันจะเปิดขึ้น
“โจมตีกลับ? ฮ่าฮ่า …เจ้าต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการรวบรวมกองทัพ!” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมา
“เจ้าหมายความว่าอะไร?“
“ถ้าข้าคิดถูก ปีศาจได้เดินทางออกมาจากเมืองเงาเลือดแล้ว ในทางกลับกันกองทัพของพวกเจ้าต้องเดินทางผ่านถิ่นฐานวานรน้ำแข็งที่ถูกอาณาจักรเซี่ยควบคุมเอาไว้อยู่ พวกเจ้าไม่มีทางไปถึงเมืองภูเขาเซียนได้ทันเวลา!” ฟาง เจิ้งจือ ดูถูก
“เจ้า… ” การแสดงออกของแม่ทัพเปลี่ยนไปทันที แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถตอบโต้ได้
นายพลคนอื่น ๆ ทั้งหมดเงียบลงเมื่อพวกเขามองหน้ากันอย่างเป็นกังวล
ฟาง เจิ้งจือ พูดถูก
พวกเขาไม่มีเวลาที่จัดเตรียมกองกำลังต่อจะต้องการทำแค่ไหนก็ตาม
นี่คือเหตุผลที่ หยุน ชิงวู เลือกที่จะโจมตีเมืองภูเขาเซียน นี่คือความสมบูรณ์แบบของแผนนาง
แม้ว่าพวกเขาจะคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น …
มันก็สายเกินไปแล้ว!
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ มันเป็นส่วนที่น่ากลัวที่สุด
“ฟาง เจิ้งจือ ถ้าปีศาจได้เดินทางออกมาแล้ว ทหารแปดหมื่นนายของข้าคงทำอะไรไม่ได้มาก … เจ้ามีความคิดดีๆไหม?” องค์หญิง ฉาน ยู่ กัดฟันถาม ก่อนจะหันไปมองเหล่าแม่ทัพ
“แน่นอนว่าข้ามีความคิดอื่น ๆ ” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
“พูดมันออกมา!” องค์หญิง ฉาน ยู่ ตอบกลับอย่างไม่พอใจเท่าไรนัก นางไม่มีอารมณ์มาใจเย็นแม้แต่น้อย
“โอ้ … ” ฟาง เจิ้งจือ ลากเสียง จากนั้นเขาก็นั่งลงที่หัวโต๊ะพร้อมยกเท้าขึ้นมา”เจ้าไม่ฆ่าข้าแล้ว?“
“เจ้า! ฟาง เจิ้งจือ เจ้าไม่เห็นหรือว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก! สิ่งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับดินแดนภูเขาทางใต้เท่านั้น! ถ้าเราพ่ายแพ้ อาณาจักรเซี่ยก็ต้องเป็นแบบนั้นเช่นกัน!” ท่าทีขององค์หญิง ฉาน ยู่ พลันกลายเป็นน่าเกลียดทันทีที่เห็นท่าทีของ ฟาง เจิ้งจืออย่างไรก็ตามนางเลือกที่จะข่มความโกรธของนางเอาไว้
แม่ทัพคนอื่นๆก็จ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสัตว์สีทอง อย่างไรก็ตามเพื่อให้ ฟาง เจิ้งจือ พูดแผนออกมา พวกเขาต้องยอมทน
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ และ เหล่าแม่ทัพ
ทุกครั้งที่เขาเข้ามาที่นี่องค์หญิง ฉาน ยู่ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด นางดูสูงส่ง
ในฐานะที่เป็นผู้ชาย …
คนที่มีความทะเยอทะยาน … คนที่ไม่เคยคุกเข่าให้องค์จักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ย … เขาจะถูกกดดันโดยองค์หญิงของดินแดนภูเขาทางใต้ได้เยี่ยงไร
นี่เป็นโอกาสในการเอาคืนของเขา
นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาใฝ่ฝัน
ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้พยายามที่จะเอาคืนนาง เพราะเวลาไม่เหมาะสมเท่าไรนัก ตอนนี้เขามีโอกาสแล้ว คงโง่มากถ้าไม่ใช้มัน
“เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ? องค์จักรพรรดิต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ของเขาแน่นอน ข้าเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับสี่อันต่ำต้อย แต่องค์หญิง … ตอนนี้เจ้าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะต่อรองอะไรได้ ” ฟาง เจิ้งจือ พูดเสริม
“เจ้า… ฟาง เจิ้งจือ… ข้าจะฆ่าเจ้า…”
“เจ้าต้องการที่จะฆ่าข้าอีกแล้ว? เอาสิ ข้าสัญญาว่าจะไม่หลบเจ้า แต่ก่อนนั้นเจ้าช่วยหาใครมาเช็ดรอยเลือดที่คอข้าหน่อยได้ไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความรังเกียจ
“อึก เจ้า! เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือข้า! ฟาง เจิ้งจือ เจ้าต้องการอะไรบอกมาซะ?!” องค์หญิง ฉาน ยู่ โกรธมาก โกรธจนแทบจะเสียสติ
“เรายังไม่ได้ทำข้อตกลงกันเลย” ฟาง เจิ้งจือตอบอย่างใจเย็น
“ข้อตกลง?” ในที่สุดองค์หญฺง ฉาน ยู่ ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น การอยู่รอดของดินแดนภูเขาทางใต้นั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ฟาง เจิ้งจือ เลยแม้แต่น้อย
ไร้ยางอายที่สุด!
เขากล้าเอาเปรียบพวกนางในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง!
องค์หญิง ฉาน ยู่ ก่นด่าในใจ
แม่ทัพคนอื่นๆก็เช่นกัน พวกเขาต่างโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตั้งใจฟังสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดในดีเท่านั้น
“เจ้าต้องการอะไร?” องค์หญิง ฉาน ยู่ พยายามข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้
“ทอง!ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างไม่ลังเล
“ทอง? ฮ่าฮ่าฮ่า … “องค์หญิง ฉาน ยู่ หัวเราะเบา ๆ ” ข้าสงสัยว่าเจ้ามีเงื่อนไขอะไรอยู่ในใจ? เจ้าก็เป็นแค่คนโลภคนหนึ่ง ไม่ต้องห่วง พวกเรามีสมบัติมากมาย เจ้าต้องการเท่าไรกันล่ะ? หมื่น?สองหมื่น?!” “
“ฮ่าฮ่า … งั้นเหรอ? ถ้าข้าต้องการเหมืองทองคำละ?” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ เขาชอบคนอย่างองค์หญิง ที่เกิดมาท่ามกลางกองเงินกองทอง
นอกจากนั้นนางได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นเป้าหมายของ ฟาง เจิ้งจือ
การที่นางคิดจะทำแบบนั้น …มันเป็นเรื่องที่…
โง่เง่ามาก!
“เหมืองทองคำ?! ไม่มีทาง? เหมืองทองคำถูกควบคุมโดยเชื้อพระวงศ์มาเสมอ! แม้แต่ผู้นำถิ่นฐานหลกทั้งหกยังไม่มีส่วนร่วมในกิจการพวกนี้เลย ข้าจะให้มันกับเจ้าได้เยี่ยงไร?“รอยยิ้มขององค์หญิง ฉาน ยู่ แข็งค้างไปทันที
ดินแดนภูเขาทางใต้มีทรัพยากรมากมาย
และยังพอมีเหมืองทองคำอยู่บ้าง
แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น องค์หญิงก็ไม่คิดจะมอบมันให้กับคนนอก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเชื้อพระวงศ์
ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะเมื่อเห็นท่าทีขององค์หญิง ฉาน ยู่
เขารู้ว่าเหมืองทองคำมีความหมายต่อผู้คนในโลกนี้อย่างไร มันคล้ายกับเครื่องพิมพ์เงิน ไม่มีอาณาจักรไหนคิดจะมอบมันให้กับคนภายนอก
แต่ ฟาง เจิ้งจือ ต้องการให้มันเกิดขึ้น
ในความเป็นจริง หลังจากเขารู้ถึงแผนของ หยุน ชิงวู เขาไม่สามารถรีบแก้ไขมันอย่างเร่งรีบได้
ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถตื่นตระหนกได้
เขาต้องมีความมั่นคงและใจเย็น
ในความเป็นจริงเพื่อทำลายแผนการของ หยุน ชิงวู ทุกอย่างต้องดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบ เขาต้องกำจัดข้อสงสัยทั้งหมดออกไปเพื่อโอกาสในความสำเร็จ ถ้าล้มเหลวแม้แต่นิดเดียว เขาอาจจะพ่ายแพ้ได้เลย
ดังนั้นเขาต้องการให้องค์หญิง ฉาน ยู่ ใจเย็น
นอกจากนี้…
มีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ
องค์หญิง ฉาน ยู่ เชื่อมั่นในตัวเขาเป็นอย่างมาก นางต้องเต็มใจเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาบอกแผนการออกมา
นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องการเหมืองทองคำ
ถ้าคนรวยซื้อยาวิเศษมาสักสิบเม็ด และลองกินมันไปสักสามเม็ดแต่ไม่เกิดผลอะไร เขาอาจจะตัดสินใจกินเพิ่มอีกสักสามเม็ด ถ้ายังไม่เป็นผลอีกพวกเขาก็จะโยนที่เหลือทิ้งอย่างไม่คิดอะไร
แต่…
เกิดอะไรขึ้นถ้าเขาใช้โชคทั้งหมดของเขา?
เขาจะกินทั้งสิบเม็ดอย่างแน่นอน เขาไม่คิดจะโยนมันทิ้งไปแม้แต่นิดเดียว
นั่นคือความแตกต่าง
“ข้ายังพูดไม่จบ ข้าต้องการ 10 เหมืองขนาดใหญ่!” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวเสริม ราวกับเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ องค์หญิง ฉาน ยู่ พูด
“10 เหมืองทอง!“
“เขาบ้าไปแล้วเหรอ? เราไม่ให้พวกเขา แต่เขากลับจะเอาถึงสิบ! และต้องการเหมืองขนาดใหญ่ด้วย? เขาไม่รู้หรือว่าเรามีเหมืองทองคำเพียงห้าสิบแห่งในดินแดนภูเขาทางใต้?“
“ฝัน! เขาต้องฝันอยู่แน่ๆ!”
แม่ทัพทุกคนไม่สามารถระงับความโกรธไว้ได้อีกต่อไป พวกเขาชี้ไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และเริ่มตะโกนออกมา
“ฟาง เจิ้งจือ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ข้าจะไม่ให้เหมืองแก่เจ้าแม้แต่เหมืองเดียว!” องค์หญิง ฉาน ยู่ พูดออกมา