Gate of God - ตอนที่ 450
“เหยียน เยว่!“
เมื่อทหารได้ยินชื่อ ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที เพราะชื่อนี้คือชื่อของหัวหน้าถิ่นฐาน
มันเป็นประเพณีของดินแดนภูเขาทาใต้
มันไม่ใช่แค่ชื่อธรรมดา แต่มันสืบทอดต่อกันมา
แต่ละชื่อถิ่นฐานล้วนแสดงถึงพลัง
“ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นหัวหน้าถิ่นฐาน เป็นความผิดพลาดของข้าเอง โปรดนั่งลงเถอะ” เหงื่อไหลออกมาจากใบหน้าของ หลิน เทียนหลง
อย่างไรก็ตาม บนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม
ชีวิตของเขาตอนนี้อยู่ในมือของ เหยียน เยว่ เขาไม่มีโอกาสที่จะวิ่งหนีได้
เขาไม่คิดเลยว่าหัวหน้าถิ่นฐานจะมาเป็นคนส่งจดหมายด้วยนตัวเอง
เกิดอะไรขึ้น?
“ไม่ต้อง ข้ามาที่นี่เพื่อส่งจดหมาย ในเมื่อท่านตอบรับแล้ว ข้าก็ขอลา” เหยียน เยว่ ยื่นจดหมายออกไปอีกครั้ง
หลิน เทียนหลง ยิ้ม
เขาไม่ได้พูดอะไร ขณะมองไปที่ทหารทั้งสองคน
ทหารทั้งสองคนหยิบจดหมายและมอบให้ หลิน เทียนหลง ทันที
จากนั้นก็รีบออกจากกระโจมไปอย่างเร่งรีบทันที
ไม่นานก็เกิดความวุ่นวายขึ้นที่ด้านนอกกระโจม ด้านนอกนั้นมีผู้คนจำนวนมากยืนอยู่
เหยียน เยว่ ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ท่าทีของเขามีแต่ความสงบ
หลิน เทียนหลง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อย่างไรก็ตาม …
ในขณะที่เขาอ่านจดหมายท่าทีของเขากลายเป็นแข็งค้างทันที จากนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกายอันเยือกเย็นออกมา
“เรียกเจ้าหน้าที่ซู และคนอื่นๆให้เข้ามา” เขามอง เหยียน เยว่ ด้วยความกังวล จากนั้นก็ส่งทหารข้างนอกกระโจม
“ฝ่าบาทของคุณ …ถ้าท่านอยู่คนเดียว… “
“อย่ามาวุ่นวาย? เจ้าไม่เข้าใจคำสั่งงั้นรึ?“
“ขออภัยฝ่าบาท!“ทหารวิ่งออกจากกระโจทันที
ไม่นานหลังจากนั้น ซู ฉิง ที่สวมชุดสีดำก็เดินเข้ามา
“สวัสดีฝ่าบาทและท่าน เหยียน เยว่ ข้าเป็นหัวหน้าโรงเรียนหลวง ซู ฉิง!” ซู ฉิง แนะนำตัวเองและโค้งคำนับให้ หลิน เทียนหลง จากนั้นก็เอามือมากำไว้ที่หน้าอกและก้มหัวให้ เหยียน เยว่
เหยียน เยว่ ตกตะลึงเล็กน้อย ซู ฉิง ใช้วิธีการทักทายแบบชาวดินแดนภูเขาทางใต้
“เจ้าหน้าที่ซู ท่านสุภาพเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงแค่หัวหน้าถิ่นฐานเท่านั้น” เหยียน เยว่ โค้งคำนับกลับ
“ท่านถ่อมตัวเกินไป แม้ว่าดินแดนภูเขาทางใต้จะเป็นรัฐบรรณาการ แต่ที่นี่กับอาณาจักรเซี่ยนับได้ว่าเป็นพี่น้องกัน มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องแสดงความเคารพต่อท่าน”
“ฮ่าฮ่า…เจ้าหน้าที่ซู ช่างเป็นคนที่สุภาพจริงๆ!” เหยียน เย่ว พยักหน้า และยืนอยู่กับที่ไม่ได้สนใจอะไรอีก
“เจ้าหน้าที่ซู ลองดูจดหมายนี่สิ” หลิน เทียนหลง มองไปยังจดหมายบนโต๊ะ
“รับทราบ ฝ่าบาท!” ซู ฉิง พยักหน้าและหยิบจดหมายขึ้นมา ก่อนจะอ่านมันสองครั้งและวางมันกลับไปที่เดิม
“เจ้าคิดว่ายังไง?” หลิน เทียนหลง ถาม
“ดินแดนภูเขาทางใต้กับอาณาจักรเซี่ยเป็นเหมือนปลาและน้ำ ปลาไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่มีน้ำ น้ำไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่มีปลา เช่นนั้นเราควรตอบสนองความปราถนาของพวกเขา” ซู ฉิง ตอบ
“อืม” หลิน เทียนหลง พยักหน้าและมองไปที่ เหยียน เยว่ “ข้ายอมรับข้อตกลง”
“ขอบคุณฝ่าบาททหารของอาณาจักรเซี่ยที่ เหยียน เยว่ และ ฉือซุน จะถูกส่งกลับมาให้ท่านก่อนบ่ายของวันพรุ่งนี้” เหยียน เยว่ คาดเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้ว
“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ข้าจะออกคำสั่งออกไปทันที พวกรองแม่ทัพจะไปพบข้าที่ถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง!”“
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่าน!” เหยียน เยว่ โค้งคำนับอีกครั้ง
…
หลังจาก เหยียน เยว่ ออกไปสักพัก
“เจ้าคิดว่ายังไง?” องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ถาม ซู ฉิง
” จากจดหมาย องค์รัชทายาทของดินแดนภูเขาทางใต้พร้อมกับองค์หญิง กำลังเดินทางไปพบ หนานกง เฮา และ ซิง หยวนกัว พวกเขาน่าจะไปถึงที่เนินเขาเหล็กเร็วๆนี้ นั่นหมายความว่าสิ่งที่เขียนในจดหมายนั้นเป็นจริง หมายความว่าการเจรจานี้เป็นเพราะฟาง เจิ้งจือ เขาควรได้รับความชอบ” ซู ฉิง พยักหน้า
“เจ้าพูดถูก แต่ข้าไม่เข้าใจบางเรื่อง ถ้าพวกเขายอมเจรจาเพราะ ฟาง เจิ้งจือ ทำไมพวกเขาถึงต้องการจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ไปลงโทษล่ะ?” หลิน เทียนหลง สับสน
“ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับพวกเราซะทีเดียว” ซู ฉิง พูดออกมา
“เจ้าหมายความว่าอะไร?“
“่ฝ่าบาทท่านลืมเกี่ยวกับผู้ส่งสารที่ท่านส่งไปที่ถิ่นฐานวานรน้ำแข็งแล้วงั้นหรือ?“
“อืม ข้าเป็นคนทำเรื่องนั้นเอง”
“แน่นอน ต่อให้เรากลับไปที่เมืองก็ไม่มีใครกล้ากล่าวหาท่านแต่ ฟาง เจิ้งจือ…”
“ฮ่าฮ่า ข้าจะกลัวแค่เจ้าหน้าที่ระดับสี่งั้นรึ?” หลิน เทียนหลง ดูหมิ่นทันที
“ถ้า ฟาง เจิ้งจือ กลับไปที่เมืองหลวง เขาจะยังเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับสี่อยู่งั้นหรือ?“ซู ฉิง ถาม
“เจ้าหมายความว่าอะไร?“
“จดหมายกล่าวว่า ฟาง เจิ้งจือ มีเหรียญตราขององค์จักรพรรดิ มันคงเป็นของจริง แต่ไม่ได้หมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเอามาใช้แบบนี้ได้ มันน่าจะเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีฝ่ายพิธีการ ตอนนี้เขาได้ตายไปแล้ว และ ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่…”
“ เจ้าหน้าที่ระดับสี่จะถูกเลื่อนขั้นเป็นรัฐมนตรีในทันทีเลยได้ยังไง?” หลิน เทียนหลง ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน
“จากสถานการณ์ปัจจุบันของเขาไม่น่าไปได้ถึงระดับรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามเขาสามารถได้รับการเลื่อนตำแหน่ง จากนั้นองค์จักรพรรดิต้องหาเหตุผลให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีกรมพิธีการแน่นอน”
“แล้วยังไง?“
“เขาอาจจะไม่ได้เป็นภัยกับท่านมาก แต่ถ้าเขาร่วมมือกับราชาต้วนล่ะ?“
“เขาขัดแย้งกันมาตลอด ไม่น่าเป็นไปได้”
“ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฟาง เจิ้งจือ อาจไม่มีอำนาจในตอนนี้ แต่ถ้าเขามีขึ้นมาล่ะ?” “
“เคร้ง!“
แก้วหยกถูกปาลงบนโต๊ะ
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น! ข้าสามารถกล่าวหาเขาได้ว่าเขาใช้เหรียญตราในการบิดเบือนความต้องการขององค์จักรพรรดิ!”มือของ หลิน เทียนหลง กำแน่น
“ข้าเกรงว่า.. ” ซู ฉิงส่ายหัว
“ทำไม?“
“ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะทำแบบนั้น แต่เขาก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับอาณาจักรเซี่ยการลงโทษของเขาจะไม่ถึงตาย!“
“เจ้ากำลังบอกว่า ข้าไม่สามารถลงโทษ ฟาง เจิ้งจือ ได้? ข้าต้องส่งคนไปจับตัว ฟาง เจิ้งจือ และส่งให้คนของดินแดนภูเขาทางใต้งั้นรึ?“
“ไม่ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโถงบัลลังก์ ในความเป็นจริงเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เรารู้คือความจริง ”
“ความจริง? เจ้าหมายถึงอะไร?“
“รัฐมนตรีกรมพิธีการได้เจรจาสำเร็จแล้ว แต่ ฟาง เจิ้งจือ พยายามที่จะขโมยผลงานของเขา จึงใช้เหรียญตราขององค์จักรพรรดิเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิดจน ฉาน หลิง ฆ่ารัฐมนตรีกรมพิธีการ ท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปล่ะ?“
“ฮ่าฮ่าฮ่า … ซู ฉิง ดีจริงๆที่เจ้าไม่ได้อยู่ข้างราชาต้วน ไม่งั้นข้าคงแพ้ให้ความปลิ้นปล้อนของเจ้าแน่นอน!” หลิน เทียนหลง หัวเราะ
“ฮ่าฮ่า … ” ซู ฉิง ตัวสั่นเล็กน้อย ราวกับเขาคดอะไรบางอย่างได้ แต่เขาก็พยายามสงบสติลง
“ได้ เราจะทำตามที่เจ้าแนะนำ! ข้าไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรให้กับ ฉาน หลิง โกรธแค้น แต่เราสามารถใส่ความเขาได้ ข้าแน่ใจว่าองค์จักรพรรดิจะต้องพอใจกับผลลัพธ์แน่นอน เขาต้องยกย่องข้าที่มีความเมตตาที่ไม่ประหาร ฟาง เจิ้งจือ เสียตั้งแต่ตอนนี้แน่นอน!“
…
ห่างออกไปจากเนินเขาเหล็ก
ร่างในชุดดำวิ่งผ่านป่าไปด้วยความรวดเร็ว
ด้านหน้ากลุ่มคนพวกนี้เป็นชายในชุดเกราะหวาย พร้อมสวมผ้าคลุม ด้านหลังของเขาเป็นทหารในชุดเกราะทั่วไป
ฉาน หลิง มองไปที่ปราสาทสีดำที่ห่างออกไป เขากำหมัดแน่นด้วยความวิตกกังวล
องค์หญิง ฉาน ยู่ ขมวดคิ้ว นางเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมา
“เจ้ายังคิดเกี่ยวกับข้อเสนอที่พวกเราส่งให้อาณาจักรเซี่ยอยู่หรือ?” ฉาน หลิง กระซิบ
ก่อนจะส่งสัญญานให้เหล่าหัวหน้าถิ่นฐานที่ตามมาด้วยกระจายตัวป้องกันรอบๆ
“แม้ว่าเขาจะไร้ยางอาย แต่เขาก็เป็นถึงเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรเซี่ยและเป็นผู้ชนะในการทดสอบ … “
“มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องสนใจ ทหารห้าหมื่นนายแลกกับคนหนึ่งคน เจ้าคิดว่าพวกนั้นจะปฏิเสธงั้นรึ?“
“อ่า…”
“ข้ามั่นใจว่าพวกเขาต้องเห็นด้วย ข้าจะให้ ฟาง เจิ้งจือ แก่เจ้า ต่อให้เขาจะตบหน้าเจ้า แต่เราก็ยินดีให้อภัยเขาถ้าเขายอมมาเป็นข้ารับใช้เจ้า ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ฆ่าเขาทิ้งเสีย”
“ข้าต้องฆ่าเขาหรือ?“
“แน่นอน ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ที่เข้าสู่ระดับอภินิหารได้ตอนอายุน้อยที่สุด ถ้าเขาอยู่กับอาณาจักรเซี่ย พวกเราจะไม่สามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาได้แน่นอน …ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้คุยกับ ซิง หยวนกัว แล้ว เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตกลงอะไรกับ ฟาง เจิ้งจือ แสดงว่าเขาคิดทั้งหมดด้วยตัวเอง ไม่มีใครในดินแดนของเราฉลาดเท่าเขา!“
“ท่านยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นจักรพรรดิใช่หรือไม่?” องค์หญิง ฉาน ยู่ ตัวสั่น
“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ เรื่องที่เราต้องทำคือหาทางออกจากสถานการณ์ในตอนนี้ให้ได้ก่อน พวกเราจะไม่เป็นรัฐบรรณาการไปตลอด! ข้าบอกให้ปล่อยทหารห้าหมื่นนาย แต่ประตูผ่านภูเขายังอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรา!” ดวงตาของ ฉาน หลิง เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่ได้ตอบ นางกำหมัดและขมวดคิ้วแน่นด้วยความสับสน