Gate of God - ตอนที่ 454
ตอนที่ 454 พลังของเต่าสวรรค์
เหนือพื้นดินสูงขึ้นไป การโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนที่ได้ยินเสียง เขาก็พุ่งผ่านแสงสีฟ้าที่อยู่เหนือหัวของ หยุน ชิงวู ไปแล้ว ราวกับลูกธนู
ขณะที่เขาพุ่งลงสู่พื้น
ตุ้บ!
ฝุ่นมากมายกระจายไปทั่ว
ตอนนั้นเองสนามรบกลับมาอยู่ในความสงบ ราวกับมีคนเอาน้ำเทลงมาบนกองไฟ
และไฟก็ดับลงในทันที
ทุกคนต่างหันไปมองร่างๆ หนึ่ง ทั้งหอกทั้งดาบหยุดค้างขณะที่พวกเขาหันมอง
เขาดูน่าอับอายเป็นอย่างมาก ชุดสีน้ำเงินของเขาเปื้อนไปด้วยฝุ่น
“ฟาง เจิ้งจือ?!”องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง นางคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไม่มาที่นี่
แม้เขาจะมา เขาก็ไม่น่าจะปรากฏตัวมาเช่นนี้
นางรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนที่จะท้าทายคนอื่น แต่เขาพึ่งท้าทายคังหยาง
คังหยาง!
ผู้ที่เข้าถึงการจุติเตแห่งสวรรค์
เขาท้าทายคังหยาง? เขาไปเอาความกล้านั่นมาจากที่ไหนกัน?
องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ไม่ใช่แค่นางคนเดียว ฉาน หลิงและหัวหน้าถิ่นฐานคนอื่นๆ ต่างก็ไม่อยากเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหาะจะกล้าท้าทายพลังของคังหยาง
แต่แน่นอน
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โจมตีคังหยางโดยตรงเขาโจมตีใส่ หยุน ชิงหวูที่อยู่ด้านหน้าคังหยาง
มันถึงเป็นการท้าทายคังหยาง!
ทหารของดินแดนภูเขาทางใต้มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
พวกเขาชื่นชมความกล้าหาญของ ฟาง เจิ้งจือ และเยาะเย้ยกับความประมาทของเขา
ซึ่ง หยวนกัว และ ซิง ฉิงซุย ต่างมองดูที่ ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังชัดเป็น ไปไม่ได้ที่พวกเขาจไม่ได้ยิน
ความไม่เชื่อในสายตาของพวกเขาเต่างไปจากคนอื่นเล็กน้อย
ซึ่ง หยวนกัว และ ซิง ฉิงซุย รู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มันจึงมีเรื่องไม่มากที่จะทําให้พวกเขาตกใจ
เขาจะสามารถต่อต้านคังหยางได้จริงหรือ?
ซึ่งหยวนกัว และ ซิง ฉิงซุย มองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล
หนานกงเฮาไม่ได้กังวล แต่เขาก็ตกใจ
เขาตกใจที่ ฟาง เจิ้งจือ พึ่งกระทําการบางอย่าง แม้ว่าเขาจะไม่ทําโดยปราศจากความนึกคิด
ฟาง เจิ้งจือ คาดว่าการกระทําของเขาจะดึงดูดความสนใจของคนจํานวนมาก นอกจากนี้เขา ยังรู้ว่าการต่อสู้ต้องหยุดชะงักเพราะการกระทําของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังแบบนี้ เขาไม่คิดว่าเขาจะพลาด
เขาพลาดตรงไหน?
ฟาง เจิ้งจือ คิดไม่ออก
อย่างไรก็ตามเขาเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็วและพ่นฝุ่นในปากออก
“ข้าพลาด?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่าเขาจะทําพลาดเขารู้ว่าความสามารถของ หยุน ชิงวู นั้นไม่ธรรมดา
ที่สําคัญกว่า
การโจมตีของเขาถูกเป้าหมาย
ฟาง เจิ้งจือ พยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจําได้ว่ามือของเขาพุ่งผ่านแสงสีฟ้าเหนือหัวของ หยุน ชิงวู
ในตอนนั้นเอง เขาเพิ่มพลังในการโจมตีของเขา
เขาพยายามที่จะทะลวงผ่านแสงสีฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาสัมผัสมัน เขารู้สึกถึงว่างเปล่า
และพุ่งผ่านมันไปอย่างง่ายดาย
หยุน ชิงวูอยู่ห่างไปไม่กี่นิ้วเขาเกือบจะจัดการนางได้แล้ว
ไม่มีเหตุผลที่จะสั่งเส
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ลังเลที่จะสั่งสอน หยุน ชิงวู! ในคราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้นางได้พูดอะไรอีก
เขาจะจัดการนาง!
นั่นคือแผนของเขา
เขามั่นใจว่าถ้าเขาสามารถชนะ หยุน ชิงวูได้ กองทัพปีศาจต้องไม่กล้าโจมตีอีกแน่นอน
จากนั้นเขาก็จะบังคับให้พวกมันถอยไป!
นี่เป็นการตัดสินใจที่ง่าย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดเลยว่าการโจมตีของเขาจะพลาดและอยู่ดีๆเขาก็หล่นลงมากระทบพื้นเช่นนี้
เกิดอะไรขึ้น?
ฟาง เจิ้งจือ หันหลังกลับมามอง เขาคิดว่า หยุน ชิงวู? ใช้วิชาลับบางอย่างเพื่อกันการโจมตีของ
มันมีความเป็นไปได้เพราะนางเป็นถึงนายน้อยของเหล่าปีศาจ
ทําไมนางถึงไม่หนีไป?
ฟาง เจิ้งจือ มองที่ หยุนชิงวู
หยุน ชิงวู มองย้อนกลับไปด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
“นางออมมือให้ข้าหรือนี่?” ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง เขารู้ความสามารถของหยุน ชิงวู ดี ในสถานการส่วนใหญ่แล้วนางจะหนีไป
แต่นางไม่ทํา
เกิดอะไรขึ้น?
สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือแม้แต่ปีศาจที่ตาบอด ปีศาจชราที่อยู่ด้านหลังนางก็ไม่วิ่งหนี
ที่สําคัญกว่า
เขาไม่มีท่าทีว่าจะเคลื่อนไหว
ความจริงแล้ว ทุกคนมองดูเขาราวกับรูปปั้น ไม่มีปีศาจพุ่งเข้ามาหา หยุน ชิงวู แม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่แล้วมองดู ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความดูถูก
พวกเขากําลังคิดอะไรอยู่
พวกเขาไม่กังวลหรอกเหรอ?
“เจ้ากําลังพยายามจับตัวข้าอีกงั้นหรือ? “เสียงของ หยุน ชิงวู ดังขึ้นกลางคัน ขณะที่ ฟาง เจิ้ งซื้อ กําลังคิด น้ำเสียงของนางสงบราวกับสายลมที่พัดผ่านทะเลสาป
ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก
เขาต้องการตอบ ใช่!” แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เขาพบว่ามันยากที่จะตอบกลับไปตรงๆ
มันคงสมเหตุสมผลถ้า…
เขาไม่รู้สึกอายที่มาเพื่อจับตัวนาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางหลบการโจมตีของเขา นางไม่ได้หนีไปไหน..
มันเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อยสําหรับเขาที่จะยอมรับความจริงนั้น
“ชิงวู เขาคือ ฟาง เจิ้งจือ?”
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กําลังคิดหาคําตอบให้ หยุน ชิงวู เสียงก็ดังขึ้น
เสียงของชายชราที่ตาบอด
แต่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกแปลกๆ
ชิงวู?
เขาไม่ควรเรียกนางว่านายน้อยงั้นหรือ?
“ใช่แล้ว อาจารย์” หยุน ชิงวู ตอบโดยไม่ลังเล
“อาจารย์?!” หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ เต้นผิดปกติ
เขามองดูแววตาอันใจเย็นของ หยุน ชิงวู และดวงตาที่ว่างเปล่าด้านหลังนาง
จากนั้น
เขามองไปที่ท่าที่เยาะเย้ยของเหล่าปีศาจรอบๆเขา และเช่นเดียวกันเหล่าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้และหน่วยเกราะมังกร รวมทั้งกองทัพทลายภูผา
ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในใจของ ฟาง เจิ้งจือ
ความกดดันที่ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจสูงอายุตรงหน้า
คล้ายกับตอนที่เขาเจอกับราชาฟลี่ฉิน
และตอนนี้
ชราด้านหน้า
เขาทั้งอ่อนแอและตาบอด
ในตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจทันทีว่าทําไม หยุน ชิงวูถึงไม่วิ่งหนี เขายังเข้าใจอีกว่าทําไมเหล่าปีศาจยังไม่เข้ามาช่วยนาง
นอกจากนี้เขายังเข้าใจว่าทําไม ซิง หยวนกัว, ซิง ฉิงซุย, องค์หญิง ฉาน ยู่, ฉาน หสิ่ง และเหล่าทหารต่างมองดูเขาเช่นนั้น
ที่สําคัญที่สุดคือ
เขายังเข้าใจว่าทําไม หยุน ชิงวู ถึงขึ้นอยู่ท่ามกลางการต่อสู้เช่นนี้
ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้าขึ้น
เขาอยากจะหลายเป็นสัตว์ร้ายที่มีปีก และบินหนีไป
เขาต้องหาวิธีออกไป
เขาจะทํายังไง?
เขาไม่มีทางเลือก
“สวัสดีท่านลุง ท่านทําอะไรอยู่หรือ?ข้าขอโทษที่รบกวนท่าน ข้ามาผิดที่…ให้ข้าแนะนําตัวเองเสียหน่อย ข้าชื่อ ฟาง เจิ้งจือ และข้าเคารพผู้สูงอายุเสมอ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน…”
ฟาง เจิ้งจือ ไม่แม้แต่จะพูดจนจบประโยคได้เขาพบว่าตัวเองแข็งค้างอยู่ที่พื้นดิน
เขาไม่สามารถเคลื่อนไปจากตําแหน่งนั้นได้
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก มันให้ความรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาต่างออกไป
ราวกับว่ามันถูกควบคุมโดยพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า พลังทําทําให้เขาต้องยอมสยบ จนเขาถูกทําให้ตัวแข็งอยู่ที่พื้น