Gate of God - ตอนที่ 455
ตอนที่ 455 ข้ารอเจ้าอยู่
เขาจะทําอะไรหลังจากเขาติดกับ?
เขามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น คือ หนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลือหรือหาทางออกมาให้ได้ด้วยตัวเอง…
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะรอ
เหตุผลคือ ถ้าวิธีแรกทําได้จริงๆ ซึ่ง หยวนกัวและคนอื่นคงรีบเข้ามาช่วยเขาแล้ว
สําหรับตัวเลือกที่สอง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถทําได้
ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็ถูกขัดจังหวะ
“เจ้าเป็นคนที่มองแผนของข้าออก ว่าข้าจะใช้ปีศาจที่อยู่ในเมืองเงาเลือดใช่ไหม?” หยุนชิงวู ถาม ฟาง เจิ้งจือ
“ใช่” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ
เขารู้ว่านางฉลาดมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ตอบมาด้วยความภูมิใจที่เขาอ่านแผนการของนางออก!
“การเป็นพันธมิตรระหว่างอาณาจักรเซียและดินแดนภูเขาทางใต้ก็เป็นเพราะเจ้าด้วย ใช้ไหม?” หยุนชิงวู กดดัน
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบตรงๆ
เขาพยักหน้า เขาไม่ขอบสถานการณ์ในตอนนี้เท่าไรนัก เขาจึงรอให้ หยุน ชิงวูพูดต่อไป
นางไม่ได้สนใจว่า ฟาง เจิ้งจือ จะพูดออกมาหรือไม่ หลังจากเห็น ฟาง เจิ้งจือ หยักหน้า นางก็หันไปมองรอบๆตัวเอง
ริมฝีปากของนางกระตุกเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา” ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความสามารถในการเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้ แม้ว่าเจ้าจะทําแค่เอาสิ่งต่างๆก็เถอะ”
“เจ้าหมายความว่าอะไร เดา? ข้าคิดอย่างสมเหตุสมผล! “ฟาง เจิ้งจือ อยากจะถ่มน้ำลายออกมา แต่เขาพยายามควบคุมตัวเองไว้
“คิดอย่างสมเหตุสมผล? ข้าคิดว่าเจ้าจะยกย่องตัวเองว่าฉลาดมากที่มองแผนของข้าออกเสียอีก” หยุน ชิงวู ดูเหมือนไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย
“เพราะข้าฉลาดอยู่แล้วไง” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับโดยไม่ต้องคิด
“ฮ่าฮ่า แม้เจ้ากําลังเผชิญหน้ากับความตาย เจ้าก็ยังไร้ยางเอยเช่นเคย” หยุน ชิงวู ยิ้มเยาะ นางขอบที่ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม
อย่างไรก็ตาม
ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจว่าทําไม หยุน ชิงวู ซึ่งถึงมีความสุขมาก
แต่ในเมื่อนางมีความสุข เขาก็น่าจะมีโอกาสรอดชีวิต
เขากระแอมสําคอและเตรียมตัวจะร้องขอชีวิตจาก หยุนชิงวู
อย่างไรก็ตามเขาถูกขัดจังหวะจาก หยุน ชิงวู ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา
“ทําไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะให้ทหารห้าหมื่นนายเลิกบุกเมืองภูเขาเซียนและมาล้อมที่นี่เอาไว้แทนล่ะ ?”
หยุน ชิงวู ถามออกมา ราวกับกําลังพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง แต่ ฟาง เจิ้งจือ เห็นความมั่นใจในดวงตาของนาง
นางมั่นใจเป็นอย่างมาก
นางมั่นใจว่าสามารถควบคุมทุกอย่างได้
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทําไมนางถึงมั่นใจขนาดนี้ แต่คําถามของนางนั้นตอบง่ายมาก
และเขาได้ตอบคนอื่นไปแล้วที่โถงบัลลังก์
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทําไม หยุน ชิงวู ถึงถามเขาในตอนนี้
นางตั้งใจจะทําอะไร?
“ข้ารู้ว่าเจ้าได้พูดมันไปแล้วที่โถงบัลลังก์ เจ้าคิดว่าข้าเลือกที่จะรีบโจมตีเนินเขาเหล็ก ดังนั้น เพื่อลดความสูญเสีย ข้าไม่มีทางเลือกจึงให้ปีศาจที่ล้อมเมืองภูเขาเซียนไว้อยู่มาช่วยที่นี่?” หยุน ชิงวู ยังถามต่อไป
ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อยราวกับต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาเลือกที่จะเงียบ
เพราะ หยุน ชิงวู ได้อ่านใจเขาไปแล้ว
“ในความเป็นจริงข้าสามารถเข้ายึดเนินเขาเหล็กได้อยู่แล้ว แม่ทัพไถ่อยู่ฝ่ายข้าตั้งแต่ต้น ต่อให้ไม่มีแม่ทัพไถ่ ข้าก็มีวิธียืดเนินเขาเหล็ก เจ้ายังคิดว่าข้าต้องการปีศาจอีกห้าหมื่นตนอีกงั้นรึ?” หยุน ชิงวู ถาม
ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป
เขารู้ว่านางฉลาด และเขาไม่ควรประมาทนาง ในทางตรงกันข้ามเขาพยายามติดตามนางตลอดเวลา
แต่เมื่อได้ยินคําพูดของ หยุน ชิงวู เขาพบว่าขณะที่เขาพยายามอ่าน หมุน ชิงวู นางก็วิเคราะห์สิ่งที่เขาทําเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะคิดได้ใกล้ความจริง แต่เขาก็ที่อ่านแผนสุดท้ายของ หยุน ชิงวู ไม่ออก
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนเดียวที่ตกตะลึงกับคําพูดของ หยุน ชิงวู ชิง หยวนกัว, ชิง ซิงฉุยหรือแม้แต่หนานกง เฮา ก็ตกตะลึง แน่นอนว่าองค์หญิง ฉาน ยู่ และเหล่าหัวหน้าถิ่นฐานเป็นผู้ที่ตกใจมากที่สุด
“แม่ทัพไถ่ทรยศ!!”
“นางมีวิธีอื่นต่อให้ไม่มีแม่ทัพไถ่?”
ฉาน หลิง มองไปยังหัวหน้าถิ่นฐานคนอื่นๆ เขาเข้าใจในที่สุดว่าทําไมประตูเมืองด้านหลังถึงแตก
นอกจากนี้ หยุนชิงวู บอกว่ายังมีวิธีอื่น
มันทําให้เขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“เจ้ากําลังรอหน่วยเกราะมังกรกับกองทัพทสายภูผาอยู่ใช่ไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่ เป้าหมายเดียวของเขาคือรู้ให้ได้ว่า หยุน ชิงวู คิดอะไรอยู่
“รอพวกนั้น? อืม พวกนั้นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง” หยุน ชิงวู พยักหน้า
“ส่วนหนึ่ง?”
“อืม เจ้าคิดว่าถ้าเจ้าหยุดพวกเราไว้ที่นี่และซื้อเวลาพอให้กองทัพของดินแดนภูเขาทางใต้และอาณาจักรเซี่ยรวมตัวกันจนมีทหารมากกว่าสามแสนนาย จะสามารถเอาชนะพวกเราได้งั้นสิ? ” หยุน ชิงวูถาม
“ไม่ใช่อย่างนั้นงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจอ ถาม
“ข้าได้เริ่มวางแผนสงครามครั้งนี้ตั้งแต่ข้าสิบขวบ เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้ด้วยการเดาอย่างนั้นรึ?” หยุนชิงวู ถาม
“เจ้าไม่รู้หรอกถ้าไม่ลองก่อน” ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างมั่นใจในแผนการของตัวเอง
“ฮ่าฮ่า … ข้าต้องบอกว่าเจ้าค่อนข้างฉลาด ข้าสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นท่าเราอยู่ในตําแหน่งที่เท่าเทียมกัน” หยุน ชิงวู หัวเราะ
“เท่ากัน?” ฟาง เจิ้งจื้อ มองไปที่ หยุน ชิงวู ด้วยความรู้สึกที่ไม่มั่นคงเท่าไรนัก เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้รับเพียงแค่อ่านเหมือนหนังสือ
“ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเจ้ากับข้าคือ… ข่าว!” น้ำเสียงของ หยุน ชิงวู เปลี่ยนแปลงไปในที่สุด
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเขาเข้าใจในทันที
หยุน ชิงวู พูดถูกต้อง
หากรู้ว่าศัตรูทําอะไรอยู่ ทุกสงครามเขาไม่มีทางแพ้แน่นอน อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รู้แผนการอะไรแม้แต่น้อย
ที่เขาทําคือเราทั้งหมด
ถ้าเขาสามารเดาได้ทั้งหมด นั่นหมายความว่าแผนนั้นง่ายเกินไป
“ข้าเรียกทหารห้าหมื่นนายจากเมืองภูเขาเซียนมาที่นี่เพราะข้ารู้ว่าเจ้าแนะนําให้องค์หญิง ฉาน ยู่ส่งทหารแปดหมื่นนายมาที่เนินเขาเหล็ก ดังนั้นการเป็นพันธมิตรระหว่างอาณาจักรเซียและดินแดนภูเขาทางใต้จึงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น”
หยุน ชิงวู ไม่คิดจะรออีกต่อไป
“ในเมื่อข้ารู้ว่าพวกเจ้าร่วมมือกัน เมืองภูเขาเซียนก็ไม่ใช่ที่ทําสงครามที่ดีอีกต่อไป!”
“เมืองภูเขาเซียนเป็นที่มั่นของดินแดนภูเขาทางใต้มาหลายชั่วอายุคน ข้าไม่รู้ว่าที่นั่นมีเส้นทางหรือกับดักมากน้อยเท่าไร นอกจากนี้มันยังตั้งอยู่บนเขาและกองทัพของข้าก็มีโอกาสถูกตัดเสบียงได้ง่ายๆ
“แต่เนินเขาเหล็กนั้นแตกต่าง ถิ่นฐานหนานหลิง อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าแล้ว ถ้าข้ายึดเนินเขาเหล็กได้…”
“จากตําแหน่งนี้ ข้าสามารถมุ่งหน้าไปเมืองภูเขาเขียนโดยตรงได้เลย หรือสามารถถอยกลับไปที่เมืองเงาเลือดได้โดยง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าข้าควบคุมที่นี่ได้ นั่นก็หมายความว่าข้าสามารถควบคุมโรงงานผลิตอาวุธของที่นี่ได้”
“เจ้าคิดว่าต่อให้พวกเจ้าร่วมมือกันทําอะไรข้าได้งั้นรึ”
หยุน ชิงวู จ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะมองทหารทั้งหมดในสนามรบ
ท่าที่ของซิง หยวนกัว และชิง ฉิงซุยเปลี่ยนไปทันที
พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ทั้งองค์หญิง ฉาน ยู่ และ ฉาน หลิง รวมถึงคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน
แม้แต่ หนานกง เฮา ก็มีท่าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
พวกเขารู้ว่า หยุน ชิงวู พูดความจริงใช้ปีศาจนับแสนเข้าควบคุมเนินเขาเหล็ก
จากนั้นพวกเขาก็สามารถบุกตรงไปยังเมืองภูเขาเซียนได้เลย ต่อให้มีทหารสี่แสนนายก็ยากที่จะเอาเมืองคืนได้
ที่สําคัญที่สุดฤดูหนาวกําลังจะมาถึง
ทหารของอาณาจักรเซียไม่พร้อมรบในฤดูหนาว โดยเฉพาะในดินแดนใต้ที่หิมะตัดขาดเส้นทางการสัญจรสัตว์ร้ายมากมายออกมาหากิน
นี้คือฤดูกาลที่สัตว์ร้ายกาจออกมาเพ่นพ่านมากที่สุด
ถ้าพวกเขายังอยู่ที่นี่ในฤดูหนาว เป็นไปได้ยากมาที่พวกเขาจะเอาชีวิตรอด
ถอย
มันเป็นตัวเลือกเดียวของพวกเขา
อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาถอยกลับ หนาน หลิง และ เนินเขาเหล็ก จะไม่ใช่ของดินแดนภูเขาทางใต้อีกต่อไป
ที่สําคัญกว่า
แม้แต่เมืองภูเขาเซียนก็อาจจะไม่ใช่ของพวกเขาอีกต่อไปเช่นกัน
ฉาน หลิง, ฉาน ยู่, ซิง หยวนกัว หนาวไปถึงกระดูกสันหลัง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวในชุดสีขาว
สําหรับ หยุน ชิงวู นางเพียงมอง ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
ฟาง เจิ้งจือ เองก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
คําพูดของ หยุน ชิงวู ทําให้เขารู้สึกเหมือนถูกเปิดเผยความคิตออกมาทั้งหมด
ตอนแรกเขาคิดจะถลาลงมาจากท้องฟ้าราวกับวีรบุรุษ แต่ตอนนี้เขากลับกระโดดเข้าสู่กับดักจากวีรบุรุษ
กลายเป็นนักโทษ ช่างน่าเศร้า
ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว! ชายแก่การกลับกลายเป็นอาจารย์นาง? อะไรกัน?
ฟาง เจิ้งจือ อยากภาวนาให้เรื่องนี้จบลงอย่างรวดเร็ว
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์
ที่สําคัญที่สุดคือ
ชะตาของเนินเขาเหล็กต้องตกไปอยู่ในมือของพวกปีศาจ
การต่อสู้จบลงแล้ว
“มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ข้าไม่เคยพูดมาก่อน” หยุน ชิงวู ทําลายความเงียบ
“อะไร?” ฟาง เจิ้งจือ อยากจะหนีออกไปแต่ก็ต้องถามโดยไม่มีทางเลือก เขาถูกทําให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ขยับไปไหนไม่ได้
“ข้ากําลังรอเจ้าอยู่” หยุน ชิงวู ตอบด้วยความจริงจัง
ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง
รอข้า??
นางกําลังจะแก้แค้นข้าแน่ๆ
นางรอโอกาสนี้
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกหดหูมาก แต่ทันใดนั้น หยุนชิงวู ก็เคลื่อนไหว นางดึงผ้าคลุมหน้าออก
เกิดอะไรขึ้น?
ฟาง เจิ้งจือ ตกใจพร้อมกับมองใบหน้าที่งดงามและคุ้นเคย
“ครั้งนี้ข้าเปิดผ้าคลุมด้วยตัวเอง” หยุน ชิงวู ยิ้มเยาะขณะมอง ฟาง เจิ้งจือ
นางราวกับดอกบัวท่ามกลางแสงอาทิตย์
ลมเบาๆพัดผ่าน
ชุดของนางพัดเบาๆไปตามสายลม
มันเป็นภาพที่งดงามมาก
นี่เป็นครั้งแรก ฟาง เจิ้งจือ เห็น หยุนชิงวู มีความสุข
ก่อนหน้านี้
ฟาง เจิ้งจือ ชื่นชมความงาม ความสามารถของนาง
แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ทํา
เขารู้ว่าทําไมนางถึงมีความสุข
ความสุขของนางมาจากการที่จับตัวเขาได้
“อืม เจ้าไม่ลองเอาดูหน่อยหรอว่าทําไมข้าไม่ฆ่าเจ้า?” หยุน ชิงวู มีท่าที่แปลกออกไปในวันนี้
ความห่างเหินและเยือกเย็นหายไป ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มอันสดใส
ฟาง เจิ้งจือ กลับรู้สึกเหมือนตัวเองโดนแช่แข็ง