Gate of God - ตอนที่ 461-462
ตอนที่ 461 ไปลงนรกซะเถอะ!
ฟางเจิ้งจือ ราวกับเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
อย่างน้อยที่สุดนั่นคือสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกได้ หัวใจของเขาเริ่มสั่นสะท้าน
เต๋าสวรรค์!
มันเป็นเรื่องยากยากเกินกว่าจะเป็นไปได้
ฟางเจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจได้ในเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ได้มีกฎระบุไว้ว่าเขาต้องเข้าใจทั้งหมดเต๋าสวรรค์ประกอบด้วยหลายอย่าง สิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ต้องทำในตอนนี้คืออะไร?
ทำลายพันธนาการ!
เพราะฉะนั้นฟาง เจิ้งจือ ไม่จำเป็นต้องเข้าใจการสรรค์สร้างทั้งหมด เขาเพียงแค่ต้องเข้าใจในสิ่งรอบตัวเขาเท่านั้น คังหยางเปลี่ยนแปลงพื้นที่รอบตัวของเขา
และใช้มันเพื่อพันธนาการเขา
ฟางเจิ้งจือ ต้องเข้าใจว่าคังหยางเปลี่ยนแปลงอะไรและเปลี่ยนแปลงร่างกายให้เข้ากับมันนั่นเป็นวิธีที่เขาจะสามารถปลดปล่อยตัวเองได้
”พื้นที่พื้นที่ การเปลี่ยนพื้นที่…” ฟาง เจิ้งจือ พูดซ้ำๆอยู่กับตัวเองเขามีเต๋านับร้อยในมิติพิเศษ
เขามีเต๋าราวกับเป็นกลุ่มดาวนับร้อยดวงอาทิตย์ สายลม สายน้ำ สายฟ้า เพลิงไฟ ผืนดิน ธรรมชาติ …
แน่นอนว่า…
นอกเหนือจากนี้เขาก็มีเต๋าแห่งพื้นที่
มีคำอธิบายของพื้นที่มากมายพื้นที่นั้นทำให้สิ่งต่างๆสามารถดำรงอยู่ได้
มันเป็นเรื่องพื้นฐานของการวางสิ่งของในรูปแบบสามมิติ
พื้นที่อาจจะประกอบไปด้วยความคิดจำนวน ดวงดาว…
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดถึงพื้นที่อื่นๆ เขาคิดแต่พื้นที่ที่อยู่รอบตัวเขาเท่านั้น
พื้นที่นี้เกิดขึ้นจากอะไร?
อากาศ
อากาศและพื้นที่ไม่ได้อยู่บนแนวคิดเดียวกัน
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ถูกควบคุมโดยอากาศ ไนโตรเจน 78% ออกซิเจน 21% คาร์บอนไดออกไซด์ 0.94% … และไนโตรเจนออกไซด์ 0.032%
จากนั้น..
นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดถ้าเขาคิดถึงพื้นที่ทั้งหมดที่เต็มไปด้วยอากาศ งั้น ฟาง เจิ้งจือ คงจะไม่ได้อะไร
เพื่อที่จะตรึงเขาเอาไว้ในพื้นที่แห่งนี้คังหยางได้เปลี่ยนแปลงความหนาแน่น และเพิ่มพลัง ความดัน และหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้น
ฟางเจิ้งจือ ต้องทำให้ร่างกายเข้าใจในพลังและอากาศรอบๆตัวเสียก่อนจากนั้นเขาต้องปล่อยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสิ่งเหล่านั้นทีละอย่าง
แม้ว่ามันจะยากและซับซ้อน…
แต่มันคงดีกว่าพยายามดึงดันปล่อยพลังออกมา
ฟางเจิ้งจือ ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาหลับตาและพยายามให้ร่างกายของเขารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่รอบตัว เพื่อท่จะทำสิ่งนี้ได้เขาต้องผ่อนคลายลง
เขาต้องใจเย็น
เสียงของฉือ กูเหยียน ดังก้องอยู่ในใจของเขาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้หัวใจของเขาค่อยๆสงบลง
ฟางเจิ้งจือ เริ่มรู้สึกว่าเซลล์ในร่างกายเกิดการตื่นตัว และพวกมันพยายามจะตอบสนองกับอากาศโดยรอบ
เขารู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลสาบ…
อย่างไรก็ตามทะเลสาบแห่งนี้อยู่ไกลจากความสงบและยังมีน้ำวนที่พยายามฉุดรั้งเขาไปทุกทิศทุกทาง
แต่…
น่าแปลกที่น้ำวนเหล่านี้กลับสร้างสมดุลขึ้น
ในตอนที่น้ำวนดึงเขาไปทางขวาน้ำวนทางซ้ายก็ต้านและลบล้างมันลงน้ำวนแต่ละด้านต่างลบล้างน้ำวนอีกด้าน
น้ำวนนับไม่ถ้วนต่างเหนี่ยวรั้งร่างของเขาไว้ให้คงอยู่ในตำแหน่งเดียว
”รู้แล้ว… เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงพื้นที่ เขาแค่สร้างวังวนนับไม่ถ้วนขึ้น ให้พวกมันเหนี่ยวรั้งกันเอง และบังคับให้พวกมันตรึงข้าเอาไว้ในการทำสิ่งนี้เขาต้องใช้แรงลมและแรงดันเพื่อให้เกิดความสมดุล … ”
แค่นั้นเอง!
เขาคิดออกแล้ว!
เมื่อรู้สึกถึงสภาวะรอบๆตัวเขาแล้วฟาง เจิ้งจือ จึงเริ่มเข้าใจกฎที่ควบคุมพื้นที่รอบตัวเขา
ดังนั้น…
เขามีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถหาทางหนีได้
…
เมื่อท้องฟ้ามืดลงการต่อสู้ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นภายใต้การบัญชาของซิง หยวนกัว หน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาจึงสามารถหาพื้นที่ตั้งมั่นได้
ศพทับซ้อนกันเป็นกองภูเขา
กลิ่นคาวของเลือดลอยเต็มอากาศ
สำหรับฉือ กูเหยียน นางยังคงปล่อยดาบแสงลงพื้นเรื่อยๆ
”ร่างทรงเต๋าสวรรค์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะได้ … ” คังหยาง ‘มอง’ บนท้องฟ้า
เขาดูดกลืนแสงสีเงินขณะที่พวกมันพุ่งเข้าหา หยุน ชิงวู …
หยุนชิงวู่ไม่ได้มองฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน นางมองไปที่แสงสีเงินที่กำลังกระหน่ำโจมตี
นางดูสงบนิ่งมาก…
อย่างไรก็ตามดวงตาของนางเปล่งประกายอิจฉาราวกับว่าสิ่งที่นางฝันถึงไปเกิดขึ้นกับคนอื่น
หยุนชิงวู…
นางเป็นปีศาจที่ถูกเนรเทศ
แน่นอนว่านางไม่มีความสามารถเหมือนฉือ กูเหยียน การกระทำและพลังของนางนั้นไม่สามารถปิดซ่อนความจริงที่ว่านางเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดาราได้เลย
แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น…
นางอาจจะไม่สามารถเอาชนะปิง หยาง ที่บาดเจ็บได้ด้วยซ้ำ
มันน่าขันขนาดไหน?
หยุนชิงวู ริษยาในความสามารถของ ฉือ กูเหยียน
ร่างทรงเต๋าสวรรค์…
ความสามารถของนางเป็นสิ่งพิเศษ
ฉือกูเหยียน เป็นเหตุผลที่ทำให้ หยุน ชิงวู พ่ายแพ้ไปในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง ร่างทรงเต๋าสวรรค์เป็นสิ่งที่ทำให้ ฉือ กูเหยียน แข็งแกร่ง
ลำแสงเริ่มเป็นสีเข้มและหนาแน่นขึ้นราวกับน้ำตก
น้ำตกแห่งการโจมตีที่ร่วงโรยมาจากฟากฟ้า
เหล่าปีศาจมองไปที่การโจมตีที่ตกมาจากฟากฟ้าด้วยความหวาดกลัวและชื่นชมจากนั้นก็มองไปที่ ฟาง เจิ้ง จือ
ฟางเจิ้งจือ หลับตาลงราวกับว่าเขาหลับไป
”เขายอมแพ้เหรอ?”
”ข้าเดาว่าเขาคงเหนื่อยไปแล้ว!ฮ่าฮ่าฮ่า…”
”ช่างน่าเสียดายในความพยายามของฉือ กูเหยียน ที่อุตส่าห์ทำเพื่อคนอย่างเขา เขาไม่มียางอายเลยเหรอ?”
ปีศาจต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความดูถูก
เขาเป็นเหมือนศพเดินได้
เขาไม่สมควรได้รับความสนใจ
เมื่อพลบค่ำมีแสงสว่างอยู่เพียงสองจุดคือ การโจมตีของ ฉือ กูเหยียน และการต่อสู้กันที่ประตูเมืองเนินเขาเหล็ก
ไม่มีใครมองดูที่ฟาง เจิ้งจือ…
แม้ว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็น
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่เล็กมากฟาง เจิ้งจือ สามารถขยับนิ้วขางขวาได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของมันหยุดลงอย่างรวดเร็ว
จากนั้น…
สักครู่ต่อมานิ้วชี้ของเขาขยับ
การต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่ว
การต่อสู้นั้นหมายถึงความตายการหลั่งเลือดและไฟผู้คนมากมายเสียชีวิตในสงครามหลายครั้งตลอดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการต่อสู้ก็เป็นการฝึกฝนและเป็นโอกาสที่จะได้รับเกียรติยศ
ในการต่อสู้ทุกครั้งนักรบนับไม่ถ้วนจะรอดชีวิตจากการทดสอบด้วยเลือดและไฟและจะแข็งแกร่งขึ้นเพราะมัน
”ตาย!”
”พวกเราจะตายไปพร้อมกับดินแดนภูเขาทางใต้!”
”พ่อแม่พี่น้องและลูกๆ ของเราอยู่ที่นี่! เราจะไม่ปล่อยให้พวกปีศาจเข้ามา!”
เสียงของพวกเขาดังก้องไปทั่วฟ้าพร้อมกับลูกธนูที่ยิงออกมา ลูกธนูเหล่านี้ปักลงสู่พื้นดินราวกับหนามแหลมคม
เสียงการสังหารดังขึ้นครั้งที่สอง
เห็นได้ชัดเลยว่าการป้องกันภายในถิ่นฐานเนินเขาเหล็กนั้นถูกต้อนเข้าไปถึงประตูหลัก
ฉานหลิง กัดริมฝีปากจนเกิดรอยเลือด เขารู้ชัดเลยว่าเสียงที่พึ่งดังขึ้นนั้นหมายความว่าอย่างไร
”ดินแดนภูเขาทางใต้จะจบสิ้นแล้วงั้นหรือ?”ฉานหลิง ไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้
”ฝ่าบาท!ท่านควรหลบเข้าไป! เรายังสามารถสร้างดินแดนขึ้นมาใหม่ได้หลังจากนี้ ท่านต้องถอยกลับไปที่ป่า ที่ซึ่งปีศาจไม่สามารถตามตัวได้!”เสียงดังขึ้นจากด้านข้างของ ฉาน หลิง
”หุบปาก!”แววตาของฉาน หลิง แดงก่ำ
เขารู้ดีว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์แบบไหนแต่เขาไม่สามารถหนีไปได้! เขาเป็นองค์รัชทายาท
”ฝ่าบาท!”
”มากับข้า!ถ้าข้าต้องตายที่นี่ ข้าก็จะตายที่นี่!”
”รับทราบ!”
เลือดพุ่งกระจายไปทั่วฟ้าสีแดงของเลือดบดบังดวงดาวที่ส่องสว่าง
ทันใดนั้นดวงตาคู่หนึ่งก็เปิดออกอย่างช้าๆไม่มีใครในสนามรบสังเกตเห็น
อย่างไรก็ตาม…
ดวงตาคู่นั้นเริ่มมองดูสภาพแวดล้อมของเขา
เขามองไปที่แสงสีเงินที่กำลังส่องสว่างและได้ยินเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้เขามองดูดวงดาวที่กระพริบในท้องฟ้า
”ตูม!”
คลื่นพลังที่ระเบิดออกมากระจายออกไปรอบๆ
มันดึงดูดความสนใจของคนหลายๆคน
”เขาไม่ได้ยอมแพ้ไปแล้วหรือ?”
”เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะตาย?”
”มันไม่สำคัญปล่อยให้เขาดิ้นรนต่อไป จะยังไงเสียมันก็ไร้ประโยชน์ เจ้าคิดจริงหรือว่าจะสามารถทำลายความลับของเต๋าสวรรค์ได้?”
”ฮ่าฮ่าฮ่า…ถ้าเขาทำได้ พระอาทิตย์คงจะขึ้นจากทางตะวันตกเป็นแน่”
ปีศาจต่างเยาะเย้ยพวกเขาทั้งหมดต่างงุนงงกับความพยายามของเขาในครั้งก่อน และไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้นในครั้งนี้
การต่อสู้…
การดิ้นรนที่ไร้จุดหมายชะตากรรมของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง
นั่นคือเต๋าสวรรค์!
ฟางเจิ้งจือ จะไม่สามารถหลบหนีมันไปได้นอกเสียจากอยู่ในความฝันของตัวเอง
ไม่มีปีศาจตนไหนเชื่อว่าเขาทำได้แม้แต่หน่วยเกราะมังกรหรือกองทัพทลายภูผาเองก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำได้ มันเป็นไปไม่ได้
คลื่นของพลังดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามความสนใจนั้นสั้นนักไม่มีใครคิดจะเสียเวลาดูต่อไป เพราะมันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยขน์
คลื่นพลังพัดเข้าหาชุดหยุน ชิงวู
ชุดของนางพัดไปด้านหลังแต่นางก็ไม่ได้มอง ฟาง เจิ้งจือนางยังคงจับจ้องกับแสงสีเงินด้านบน
คังหยางเองก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน
ในฐานะอาจารย์ของหยุน ชิงวู เขาเป็นหนึ่งในปีศาจที่น่านับถือ แม้แต่เจ้าปีศาจยังออกมาต้อนรับเขาที่หน้าประตูเมืองเงาเลือดด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามคังหยาง เข้าใจสิ่งหนึ่ง
ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งหรือน่าเคารพแค่ไหนเขาก็ยังเป็นปีศาจและ หยุน ชิงวู เป็นนายน้อยของเขา
เขาต้องการให้ฟาง เจิ้งจือ ตาย
ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นฟาง เจิ้งจือ เขาต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ ตายไป แต่ถ้า หยุน ชิงวู ไม่ได้ออกคำสั่ง …
เขาก็ไม่สามารถฆ่าฟาง เจิ้งจือ ได้
อย่างน้อย…
ยังไม่ใช่ตอนนี้!
คังหยางเคยเสียใจที่ตัวเองมงไม่เห็นอย่างไรก็ตาม หลายปีผ่านพ้นไปเขาก็ตระหนักได้ว่า เขาอาจจะไม่สามารถมองเห็นโลกนี้ได้ แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงมันได้อยู่
เขาสามารถรู้สึกถึงการมีอยู่ของทุกสิ่งรอบตัวรวมทั้งรูปร่างหน้าตาและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา
เป็นผลให้เขาสามารถเปิดประตูที่ใครหลายคนต้องการเปิดมันได้
การจุติเต๋าแห่งสวรรค์
”ไปตายซะ!”เสียงที่ดังก้องตัดผ่านอากาศมันเต็มไปด้วยความตื่นตัว ความตื่นตัวจากการทำลายจนได้รับอิสระภาพ
ราวกับว่าภูเขาไฟที่สงบนิ่งได้ปะทุขึ้นในที่สุดความร้อนระอุที่เกิดจากการระเบิดทำให้พื้นที่รอบๆพวกเขาบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย
สายลมที่พัดผ่าน…
ชุดสีน้ำเงินที่พริ้วไหวตามสายลมเหมือนกับชุดกระโปรงของ หยุน ชิงวู
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 462 สิ่งที่ไม่คาดคิด
ค่ำคืนนั้นห่างไกลจากคำว่าเงียบสงบมากนัก
มันเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงของการต่อสู้
แต่ในตอนนี้ทั่วทั้งสนามรบกลับเงียบสงบ
ไม่มีเสียงฆ่าฟันไม่มีเสียงกรีดร้อง
เวลานั้นราวกับได้ถูกแช่แข็งเอาไว้
เป็นเพราะว่า…
แสงอันส่องสว่างได้พวยพุ่งออกมา
มันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อจนแต่ละคนไม่สามารถแยกแยะได้ทันว่ามันคืออะไร
แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
ที่สำคัญที่สุดคือแสงนั้นพุ่งไปหาคังหยาง
มันอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงห้าสิบเซนติเมตร!
ความตกใจและไม่มีทางเลือก…
อารมณ์นี้แสดงอยู่บนใบหน้าของเหล่าปีศาจรวมถึงหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาด้วยเช่นกันไม่มีใครพูดอะไรออกมา
พวกเขาทั้งหมดต่างตื่นตะลึง
พวกเขาเบิกตากว้างขณะมองร่างสีน้ำเงินที่ค่อยๆผสานเข้ากับลำแสงที่พุ่งไปทางคังหยาง
เขาจะทำอะไรกัน?ทำไมเขาถึงทำแบบนี้? เขาอยากตายหรือไงกัน? หรือเขาเหนื่อยที่จะใช้ชีวิตแล้ว?
พวกเขาคิดไม่ออกแม้แต่น้อย
สิ่งที่พวกเขาคือร่างหนึ่งปรากฎที่ด้านหน้าของคังหยางและยกมือขึ้น
”ตูม!”
เสียงที่สามารถสั่นสะเทือนไปทั้งโลกได้ดังขึ้นหูของทุกคนต่างอื้ออึง
เมฆฝุ่นกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดจากพลังที่ระเบิดออกมาหรือเพราะการโจมตีที่ไม่ได้ตั้งตัว
คังหยางและร่างสีน้ำเงินถูกปกคุลมด้วยฝุ่นอย่างสิ้นเชิง
ยามค่ำคืน…
ช่างสงบและเงียบ
ลมพัดผ่านสนามลมตามมาด้วยกลิ่นคาวเลือด
”แคร้ง!”
บางคนทำอาวุธหล่นพื้นทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา
มันไม่ดังมาก
หากการต่อสู้ยังคดุเดือดเสียงนี้คงไม่ได้น่าสนใจนัก
แต่ตอนนี้…
มันราวกับก้อนหินที่ตกลงบนทะเลสาบอันนิ่งสงบมันทำลายความเงียบและฉุดทุกคนออกจากภวังค์
แต่ละคนต่างเบิกตาอ้าปากกว้างใบหน้าซีดขาว…
”เขา…ขยับได้!”
”นี่… นี่ …เขาหนีจากเต๋าสวรรค์ได้!”
”เป็นไปไม่ได้!”
”เต๋าสวรรค์!เขาเป็นอิสระได้ยังไง?!”
เสียงต่างๆเริ่มดังขึ้น
ทั้งปีศาจและมนุษย์ต่างไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
เต๋าสวรรค์ถูกทำลาย?!
และ…
ถูกทำลายโดยผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหาร?
มันเหลือเชื่อเกินไป
ราวกับมีคนบอกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
เต๋าแห่งสวรรค์เป็นที่รูจักกันในนามอุปสรรค์สุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ระดับเซียนผู้คนมากมายยอมสละทุกอย่างเพื่อจะเข้าถึงมัน
แต่ฟาง เจิ้งจือ กลับทำลายมันง่ายๆ?
ไม่มีทาง
เขาต้องเข้าถึงมันก่อน!
ได้ยังไงกัน?
ดวงตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่ร่างในเมฆฝุ่นพวกเขาไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ
ตำแหน่งที่ฟาง เจิ้งจือ อยู่ก่อนหน้านี้
ตอนนี้…
ว่างเปล่า!
”เขาเป็นอิสระแล้ว!”
”เขาหลุดมาจากพันธนาการเต๋าแห่งสวรรค์ได้!”
ต่อให้ไม่อยากจะเชื่อพวกเขาก็ต้องเชื่อ
แสงและร่างสีน้ำเงิน…
นั่นก็คือ…
ฟางเจิ้งจือ
ซิงฉิงซุย ยืนนิงเพราะสิ่งที่เขาเห็น เขาต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ สามารถหลบหนีจากพันธนาการได้
แต่ฟาง เจิ้งจือ กลับทำได้จริงๆ
”เขาอายุน้อยกว่าข้าเสียอีก!”
ซิงหยวนกัว ก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาเป็นผู้นำของสิบสามกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์และเป็นคนที่สามารถใจเย็นได้ตลอดการต่อสู้
แต่คราวนี้…
ดวงตาของเขากลับเบิกกว้าง”เขาอายุน้อยกว่า ซิง ฉิงซุยมาก!”
เสียงยังคงดังก้องไปทั่วสนามรบ
สายตาของหนานกง เฮา จากแสงสีเงินเปลี่ยนมาเป็นที่เมฆฝุ่นเช่นกัน มันเป็นเพราะแสงสีเงินได้หายไป…
แต่ที่สำคัญกว่านั้น…
แม้เขาจะเอามือมาขยี้ตาก็ยากที่จะเชื่อ
”เขา… เขาทำมันได้จริงๆ?!“ หนานกง เฮา น้อยครั้งนักที่จะตกใจ แต่ครั้งนี้เจาตกใจมาก
ตาของปิง หยาง เปล่งประกายด้วยความไม่เชื่อ นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
”เจ้าไร้ยางอายเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! เจ้าทำลายพันธนาการของการจุติเต๋าแห่งสวรรค์ได้ยังไง?! เดี๋ยวก่อน …บ้าเอ้ย เจ้าทำมันได้จริงเหรอ?!”
ปิงหยาง ไม่ค่อยสบถเท่าไรนัก แต่ตอนนี้นางกลับทำ อาจเป็นเพราะนางตื่นเต้นและนั่นเป็น ฟาง เจิ้งจือ
ดาบของฉาน หลิง หยุดค้างอยู่เหนือศีรษะของปีศาจ
ใบหน้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและเขารู้สึกเย็นเยียบไปถึงกระดูกสันหลัง
หัวหน้าถิ่นฐานคนอื่นๆเองก็รู้สึกเหมือนเขาอาวุธของพวกเขาต่างสั่นสะท้าน
น้ำตกสีเงินได้หายวับไป
มีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นแววตาที่เปล่งประกายจ้องมองที่พื้นดินชุดกระโปรงสีชมพูของนางพริ้วไหวตามสายลมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยโส
นางงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ
นางคือฉือ กูเหยียน ผู้หยิ่งยโสและเฉลียวฉลาด นางมีความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ และมีความมุ่งมั่นที่ชัดเจน
ที่พื้นดินมีใบหน้าที่งดงามอีกคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม…
ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยความตกใจมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หยุนชิงวู ตกใจจริงๆ แม้ว่านางจะรู้และสามารถคาดการณ์ได้หลายสิ่ง แต่นางไม่คิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถทำลายพันธนาการลงได้
”มีเพียงคนที่ใช้เต๋าสวรรค์เท่านั้นที่จะทำลายมันได้!”
นี่เป็นสิ่งที่นางพูดกับฟาง เจิ้งจือ เมื่อสักครู่ก่อน แต่ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ได้หายตัวไปแล้ว
เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ราวกับเต๋าสวรรค์ที่ล่องหน!
”อาจารย์!”หยุนชิงวู พยายามเรียกสติกลับคืนมาก่อนที่คนอื่นๆจะทำได้นางมองไปที่เมฆฝุ่น ที่ปกคลุมอยู่ด้านหลัง น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความกังวล
ในขณะที่หยุน ชิงวู กรีดร้อง …
ปีศาจต่างมีปฏิกริยาเช่นกัน
หลังจากทำลายพันธนาการลงได้ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งเข้าใส่คังหยาง ดูเหมือนว่าเขาจะโจมตี คังหยาง
ถ้าการที่ฟาง เจิ้งจือ สามารเป็นอิสระนั้นน่าเหลือเชื่อแล้วละก็
การที่ฟาง เจิ้งจือ โจมตีใส่ คังหยาง นั้นก็…เป็นเรื่องน่าขันมาก!
เขาไปเอาความกล้าหาญแบบนี้มากจากไหน?!เขาจะรนหาที่ตายให้ตัวเองอีกงั้นรึ?!
เหล่าหัวหน้าดินแดนต่างไม่เชื่อสายตาพวกเขา
ในที่สุดเหล่าทหารก็ได้สติ
พวกเขาทั้งหมดต่างมองหน้ากัน…
ในดวงตาของพวกเขามีเพียงความคิดเดียว
แปลกใจ!
จิตใจของพวกเขาว่างเปล่า
จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่เข้าใจว่าฟาง เจิ้งจือ หลุดออกมาจากพันธนการได้ยังไง
เขาสามารถเข้าถึงเต๋าแห่งสวรรค์ได้แล้วงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
งั้นเขาทำได้ยังไง?
ไม่มีใครสามารถคิดออกจากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้ทำบางอย่าที่เรียกได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย…
…
เมฆฝุ่นปกคลุมร่างทั้งสองอย่างสมบูรณ์อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ถูกเปิดเผยตัวอย่างรวดเร็ว
ดวงตานับไม่ถ้วนจับจ้องอยู่ที่ร่างทั้งสอง
ผลลัพธ์นั้นพวกเขาไม่ต้องเดาก็รู้ได้
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อพวกเขาเห็นร่างที่ยืนอยู่พวกเขากลับตกใจมาก
ชายเสื้อสีน้ำเงินยังคงพัดไปตามสายลมขณะที่ร่างกายของเขาเลอะไปด้วยฝุ่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเขากำลังยิ้มอยู่
ด้านหน้าของเขาเป็นชายในชุดดำผมยาวประบ่าเขากำลังมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาอันว่างเปล่า
มันเป็นภาพที่แปลกมาก
มันทำให้ทุกคนในสนามรบต่างไม่เชื่อ
”เกิดอะไรขึ้น?!”
”นั่นเป็นไปไม่ได้มันไม่ใช่ความจริง!”
”เขา… เขาจริง ๆ … จริง ๆ แล้ว … ”
”นั่นคือคังหยางผู้ที่เป็นครึ่งเซียน!”
สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่คังหยางที่ทรุดลงพวกเขาไม่สามารถเชื่อได้ลงว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถโจมตีโดนเขาได้
อะไรกัน
นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้!
”เป็นไปได้ไหมว่าเขาใช้เต๋าสวรรค์จริงๆ!การจุติเต๋าแห่งสวรรค์ … เขา … เขาเป็นครึ่งเซียน!”
”เป็นไปได้ยังไงเขาจะอยู่ในระดับจุติได้ยังไง!”
”ถ้าไม่ใช่เขาสามารถทำลายพันธนาการได้อย่างไร เขาสามารถโจมตีคังหยางได้อย่างไร? คังหยาง เป็นถึงครึ่งเซียน!”
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นความคิดนับไม่ถ้วนวนเวียนในหัวของพวกเขา มันรุนแรงจนพวกเขาลืมว่ากำลังอยู่ในการต่อสู้
พวกเขาทั้งหมดดูที่คังหยาง และ ฟาง เจิ้งจือ และพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น
เหลือเชื่อ?
ไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายสิ่งนี้ได้นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย
”อาจารย์!”เสียงของหยุน ชิงวู ดังขึ้น สีหน้าของนางเจ็บปวดขณะที่กรีดร้อง
ฟางเจิ้งจือ หนีจากพันธนาการของเขา …
นั่นไม่ใช่สิ่งที่นางวางแผนหรือคาดหวังไว้
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมามีสิ่งต่างๆที่ทำให้นางประหลาดใจแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถิ่นฐานวานรน้ำข็ง ก็อยู่ในแผนและการคาดการณ์ของนาง
แต่นางไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้
ไม่นานหลังจากนั้น…
ฟางเจิ้งจือ ก็พุ่งไปหาคังหยาง!
นางรู้ว่าทำไมคังหยางถึงถูกฟาง เจิ้งจือ โจมตี!
เพจหลัก: Gate of god TH