Gate of God - ตอนที่ 463-464
ตอนที่ 463 ระบายความโกรธ
ถ้าการที่ฟาง เจิ้งจือ โจมตี หยุน ชิงวู เป็นเพราะความถือดี แต่ตอนนี้ที่เขาโจมตีคังหยาง…
มันเป็นเพราะอะไรกัน?
”เจ้ากล้างั้นรึ?”หยุน ชิงวู มองไปที่ร่างสีน้ำเงิน นางอยากถามเขาว่าไปเอาความกล้าหาญนี้มาจากไหน แต่นางก็เงียบไป
นางมีคำตอบอยู่แล้ว
ฟางเจิ้งจือ
เขาอาจจะดูเหมือนคนที่กลัวตายแต่ตอนนี้เขากลับกล้าหาญอย่าไม่น่าเชื่อ
มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำด้วยงั้นหรือ?
หยุนชิงวู มองไปที่ คังหยางที่ทรุดเข่าลงอยู่กับพื้น
ด้วยระยะเท่านี้
ใกล้เกินไป!
หยุนชิงวู และ คังหยาง ไม่ได้ยืนอยู่ไกลจากเขามากนัก และ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่ใกล้คังหยางมากที่สุด
เขาถูกพันธาการด้วยเต๋าแห่งสวรรค์
นั่นหมายความว่าเขาต้องตายแน่นอน
ตอนแรกคังหยาง ยังระวัง ฟาง เจิ้งจือ อยู่ แต่เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรไม่ได้ เขาจึงลดการป้องกันลง
เพราะคังหยางมีงานที่สำคัญกว่า
นั่นก็คือ…
เขาต้องปกป้องหยุน ชิงวู!
ปกป้องนางจากการโจมตีของฉือ กูเหยียน
แน่นอนเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นคือคังหยาง ตาบอด
รวมกับเรื่องระยะทาง…
ต่อให้เขาคือคังหยาง
เขาก็ไม่สามารถป้องกันฟาง เจิ้งจือ ได้
ทุกคนต่างมองไปยังฟาง เจิ้งจือ ด้วยความไม่เชื่อ ตกใจ หวาดกลัว
ครึ่งเซียน!
แต่กลับโดนฟาง เจิ้งจือ โจมตี!
สายลมอันเยือกเย็นพัดผ่านยามค่ำคืนดวงดาวยังคงส่องประกาย
”ครึ่งเซียน?”ฟาง เจิ้งจือ มองคังหยาง ด้วยความมั่นใจ
เขารู้ว่าคังหยางเป็นครึ่งเซียน
แล้วยังไง?
ถ้าปิง หยาง ที่อยู่ในระดับผนวกดารายังกล้าเสี่ยง แล้วเขาที่อยู่ในระดับอภินิหารจะไม่กล้าเสี่ยงงั้นหรือ
ยิ่งไปกว่านี้..
เขาไม่มีทางเลือกอื่น!
หนี?
เขาจะหนีไปที่ไหนได้กองทัพปีศาจยืนอยู่เต็มหน้าประตูถิ่นฐานเนินเขาเหล็ก
เขาราวกับลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า
ถ้าเขาเคลื่อนไหวผิดพลาดเพียงครั้งเดียว…
เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาตายยังไง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้โง่ ที่สำคัญกว่านั้นเขารู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งระยะห่างจาก คังหยาง ได้ทัน
ดังนั้นแทนที่จะวิ่งหนี…
ทำไม…
ไม่ต่อสู้ล่ะ!
เรื่องการลอบโจมตีฟาง เจิ้งจือ เชี่ยวชาญอยู่แล้ว
สำหรับคนตาบาดอะไรที่เขาเชื่อถือมากที่สุด?แน่นอนว่าเป็นเสียงที่ได้ยิน! เขาใช้หูระบุตำแหน่งคู่ต่อสู้
ดังนั้นเพื่อที่เขาจะโจมตีได้สำเร็จ
เขาต้องทำให้คังหยางสับสนก่อน
ขั้นแรกฟาง เจิ้งจือ ระเบิดพลังออกมาเพื่อทำให้ คัง หยาง สับสนและลดการป้องกัน
ซึ่งมันสำเร็จ
บางครั้งบางสิ่งก็ง่ายกว่าที่คิดมาก
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่ได้หลงในความสำเร็จมากมาย
เพราะการโจมตีก็เหมือนแค่สร้างรอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น
ฆ่าคังหยาง?
มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดแม้แต่น้อย
ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือ…หยุน ชิงวู
ตอนนี้กำลังเบิกตากว้างมองเขาด้วยความตกใจ
ฟางเจิ้งจือ มอง หยุน ชิงวู ด้วยดวงตาอันลุกโชน เขาเป็นนักล่าที่หมายหัวเหยื่อเอาไว้แล้ว
ตอนแรกเขาเหมือนอยู่ริมหน้าผา
แต่ตอนนี้…
เขามีโอกาสไม่มีแสงสีฟ้าเหนือหัว หยุน ชิงวู อีกต่อไป
เพราะคัง หยาง ถูกโจมตี
มันจึงหายไปเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ พุ่งออกไปอย่างเร่งรีบก่อนที่ใครจะทันตั้งตัว
”ข้าจะทำให้เจ้ารู่ว่าความอัปยศนั้นเป็นเยี่ยงไร!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนก้อง ขณะพุ่งเข้าไปหา หยุน ชิงวู
เขาสัมผัสได้ถึงความอุ่นจากร่างกายของนาง
เขาอยู่ใกล้นางมาก!
ตราบที่เขาควบคุมหยุน ชิงวู ได้ ความได้เปรียบย่อมตกเป็นของเขา เขายังสามารถหันไปบอกคนอื่นๆได้อีกว่า
”ข้อขอตัวก่อน!”
นั่นจะเป็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ฟางเจิ้งจือ หัวเราะเบาๆด้วยความผ่อนคลาย เขากำลังจะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็น…
เขาตัดสินใจกระโดดเข้าสู่สนามรบ
มันเป็นหนทางที่ถูกต้องที่สุด!
สายลมพัดผ่านหูเขาร่างของเขาพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้
อย่างไรก็ตาม… ในที่สุดร่างกายของเขาก็หยุดลง
เขาหยุดห่างจากหยุนชิงวุ๋ยเพียง1 นิ้ว ขณะที่มือของเขาเกือบจะจับเอว หยุน ชิงวู ได้แล้ว
ความตั้งใจของเขาคือจับตัวหยุน ชิงวู พลิกลงกับพื้น
…
แต่
เขากลับขยับไม่ได้
ฟางเจิ้งจือ ต้องการหันหลังกลับแต่ร่างกายของเขาไม่ขยับ แม้แต่ปากของเขาก็ขยับไม่ได้
เชี่ยเอ้ย
เต๋าแห่งสวรรค์
ฟางเจิ้งจือ รู้ในทันทีว่าคังหยาง ฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้เขายังรู้ว่าตัวเองติดกับแล้ว
ทันใดนั้นเสียงร้องของสัตว์ตัวหนึ่งก็ดังขึ้น
มันบดบังแสงจันทร์และแสงดาว
ปีกของมันพัดลมอันรุนแรงไปยังร่างของคนที่อยู่ด้านหลังฟาง เจิ้งจือ ราวกับใช้ดาบ
บนหลังของมันมีปิง หยาง ยืนอยู่ด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่น
หอกของนางเปล่งประกายสีทองออกมา
ตอนนี้นางราวกับเป็นเทพแห่งความตายนางแทงไปที่คังหยาง ด้วยความรวดเร็ว
”ตูม!”
เสาเพลิงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้าพร้อมกับลำแสงสีทองที่อยู่ด้านใน
ฟางเจิ้งจือ หันไปมองร่างที่ยืนอยู่บนหลังนกตัวนั้น เป็นครั้งแรกที่เขาชื่นชมในความป่าเถื่อนของนาง
นาง…
ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
นางไม่กลัวตายงั้นหรือ?!
นางคิดอะไรอยู่?
ตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเองลำแสงสีเงินก็พุ่งลงมาราวกับดาวตก
”ตูม!”
เกิดเสียงระเบิดอันดังก้องขึ้น
มันต่างจากการโจมตีของปิง หยาง เป็นอย่างมาก มันทำให้เกิดหลุมบ่อบนพื้นมากมายบนพื้น
”ฉือกูเหยียน?!” ฟาง เจิ้งจือ ตกใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นมาก เขาพบว่าไม่ใช่แค่ ปิง หยาง เท่านั้นที่บ้าไปแล้ว
ฉือกูเหยียน ก็ด้วย!
หรือว่าพวกนางอยู่ด้วยกันมากเกินไป…
เลยติดนิสัยอีกคนหนึ่งมา?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะตีโต้
สำหรับการโจมตีครั้งแรกของเขา…
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้เลือก หยุน ชิงวู เป็นเป้าหมายเพราะนางยังมีแสงสีฟ้าอยู่บนหัว
แต่ตอนนี้…
แสงสีฟ้าหายไปแล้ว
ฟางเจิ้งจือ คงโง่มากถ้าไม่ฉวยโอกาสนี้
”พงทลาย!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน ก่อนจะมีแสงส่องออกมาจากร่างกาย
…
เขาเคลื่อนไหว
หยุนชิงวู ตกตะลึง ก่อนที่นางจะทันได้หนี ฟาง เจิ้งจือ ก็จับเอวนางเอาไว้แล้ว
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
เขาชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็คิดได้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่มาสนใจเรื่องนี้
เขาตัดสินใจแล้ว
เขายกหยุน ชิงวู ขึ้น
”เจ้า…” ตอนนี้ดวงตาของ หยุน ชิงวู แทบจะถลนออกมาจากเบ้า นางอยากจะถามว่า ฟาง เจิ้งจือ หลุดพ้นจากพันธนาการมาได้ยังไง
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มีท่าทีที่อยากจะตอบอยู่แล้ว
เท้าของนางถูกยกขึ้นจากพื้น
นี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีแม้แต่ หยุน ชิงวู เองก็พยายามดิ้นรนเพื่ออิสระ แต่แปลกมากที่ร่างกายของนางเหมือนถูกพันธนการไว้ด้วยแรงบางอย่าง
”สวรรค์…เต๋าสวรรค์! เขา เข้าใจมันแล้วจริงๆ?!” หยุน ชิงวู ตื่นตะลึง นางรู้ว่าร่างกายของนางถูกพันธนการด้วยอะไร
นางอยากกรีดร้องออกมาดังๆแต่นางพบว่าหัวของนางกำลังจะโดนพื้น ที่สำคัญกว่านั้น…
นางไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย!
”ตึ้ง!”หยุน ชิงวู เบิกตากว้าง ก่อนที่นางจะได้พูดอะไร นางก็หมดสติไปเสียก่อน
”เต๋าสวรรค์เต๋าสวรรค์..” หยุน ชิงวู พึมพัม ก่อนที่ตาของนาง
…
สนามรบตกอยู่ในความเงียบ…
ดวงตานับไม่ถ้วนมองอยู่ที่หยุน ชิงวู ไม่มีใครคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น
เริ่มที่ฟาง เจิ้งจือ หลุดจากพันธนาการ
และโจมตีคังหยาง…ปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน ร่วมมือกันโจมตี คังหยาง
ไปจนถึง…
ฟางเจิ้งจือ โจมตี หยุน ชิงวู
จากนั้นก็ยกตัวนางขึ้นและเอาหัวนางโขกกับพื้น….
”นายน้อย!”
”ไอสารเลว…กล้าดียังไง … ”
”ฆ่ามันเราต้องฆ่ามันให้ตาย!”
ปีศาจทุกตนต่างโกรธเกรี้ยวพวกเขาเห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม…
พวกเขาไม่สามารถทนได้ที่ฟาง เจิ้งจือ หยามนายน้อยของพวกเขา
เอาหัวโขกพื้น?!
เขาคิดอะไรอยู่?
ต่อให้เขาคิดจะจับนางเป็นตัวประกันก็ช่วยทำดีๆกับนางหน่อย!
ไม่มีใครเข้าใจ
”เจ้าสวะ!”ทันใดนั้นเสียงอันหยาบกร้านก็ดังขึ้นมา มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
ในที่สุดคังหยางก็ตั้งตัวได้
นานแค่ไหนแล้วที่คังหยาง ไม่ได้โกรธแค้นแบบนี้ แม้ตอนที่เขาได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำที่หน้าผานัน….
เขายังไม่รู้สึกโกรธเท่านี้
ความอัปยศ!
นี่คือความอัปยศอย่างรุนแรงเขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถหลุดจากพันธนาการเขาได้ถึงสองครั้ง
เต๋าสวรรค์…
สิ่งที่เขาพยายามใช้ทั้งชีวิตเพื่อเข้าใจมันแต่กลับถูกทำลายด้วยมนุษย์? มนุษย์วัยเยาว์?
คังหยางไม่เคยเห็นอัจฉริยะแบบนี้มาก่อน
ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะถ่ายทอดทุกอย่างที่เขารู้ให้ฟาง เจิ้งจือ แม้เขาจะไม่ใช่ปีศาจก็ตาม
ความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้ต้องการฆ่าฟันใคร
ถ้าไม่…
ปิงหยาง คงจะตายไปแล้วในตอนนี้ …
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่เขาทนไม่ได้
นั่นคือหยุน ชิงวู ถูกล่วงเกิน
งานหลักของเขาคือปกป้องนางแต่นางกลับถูกเอาหัวโขกพื้นต่อหน้าเขา!
”ตูม!”
สายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้า
คังหยางกำหมัดแน่นชุดคลมสีดำถูกพัดไปด้วยสายลมเผยให้เห็นชุดสีฟ้าที่อยู่ด้านใน
เพจหลัก: Gate of god TH
สายลมพัดแรงก้อนเมฆดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า
คลื่นขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากร่างของคังหยางถ้าระเบิดของฟาง เจิ้งจือ เปรียบดั่งทะเลสาบ คังหยางก็เป็นเหมือนมหาสมุทร
มหาสมุทรที่บ้าคลั่ง
มันน่าหวาดกลัวมากแม้แต่เหล่าปีศาจที่อยู่ด้านหลังเองก็ต้องก้าวถอย
”นี่คือความโกรธของครึ่งเซียนงั้นรึ?”
กองกำลังทั้งหมดต่างรู้สึกถึงความโกรธแค้นอันรุนแรงที่คังหยางแสดงออกมาพวกเขาต่างหวาดกลัวไปจนถึงกระดูกสันหลัง
เต๋าสวรรค์…
มันน่ากลัวมาก!
พวกเขาหันไปมองฟาง เจิ้งจือ
ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังของคังหยางอย่างไรก็ตามความหวาดกลัวจาก ฟาง เจิ้งจือ เองก็ปกคลุมจิตใจพวกเขาเช่นกัน
ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำได้อย่างไร
แต่ที่ฟาง เจิ้งจือ สามารถหนีจากพันธนาการและทำให้ หยุน ชิงวู สลบไปนั้นเป็นความจริง
เพื่อที่จะทำสิ่งนี้…
สิ่งเดียวที่อธิบายได้คือเขาเข้าใจในเต๋าสวรรค์
เขาอายุไม่ถึง16 ปี …
เขายังเด็กอยู่
ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ในขณะคนที่โตกว่ายังทำไม่ได้!เขามีความสามารถขนาดไหนกัน?
ไม่มีใครรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งแค่ไหน …แต่พวกเขารู้ว่าเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคังหยางเลย
นั่นหมายความว่า…
ไม่ช้าก็เร็วอาจจะมีครึ่งเซียนเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์
นอกจากนี้เขาจะเป็นครึ่งเซียนที่มีเต๋านับร้อยดวงในมิติพิเศษ!
สัตว์ประหลาด!
ความจริงแล้ว…มันอาจจะเกินจริงไปเสียหน่อย แต่ไม่มีคำพูดไหนที่จะสามารถอธิบายความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ ได้เลย
พวกเขาทุกคนตกตะลึงด้วยพลังของคังหยางและตระหนักถึงความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ
หนานกงเฮา มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
เป็นครั้งแรกหนานกง เฮา ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มองไปที่รอบๆตัว เขามองที่คังหยาง
”เจ้าต้องการอะไร?การต่อสู้? เข้ามาเลย โจมตีข้า!”ฟาง เจิ้งจือ มองที่คังหยางอย่างดูถูกขณะที่ดึงลูกธนูออกมาจากพื้นแล้วจ่อไปที่คอของ หยุน ชิงวู
เจรจา…
โดยใช้หยุน ชิงวู เป็นเชลย…
นั่นคือเป้าหมายของฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามหยุน ชิงวู ไม่จำเป็นต้องตื่นขึ้น
ความจริงแล้วผู้ที่ลักพาตัวส่วนใหญ่มักจะทำพลาดโดยการใช้เชลยเป็นตัวกลาง จนสุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของเชลยเอง
หลอกข้าได้หนนึงเจ้าควรจะละอายใจแต่ถ้าหลอกข้าได้สองหนข้าควรจะละอายใจเอง ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ยอมโดนหลอกอีก
นอกจากนี้หยุน ชิงวู เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เขาไม่มั่นใจว่านางจะยอมสั่งให้ปีศาจถอยทัพไปหรือไม่
ตราบใดที่หยุน ชิงวู ยังมีสติ…
อาจมีหลายอย่างที่คาดเดาไม่ได้
เพราะงั้นเขาจึงต้องทำให้นางสลบไป
นั่นคือตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
ตราบใดที่เขาไม่ได้ฆ่าหยุน ชิงวู ตราบใดที่เขาสามารถควบคุม หยุน ชิงวู ได้พวกปีศาจก็จะทำตามคำสั่งของเขาแน่นอน!
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มาจากตัวคังหยาง แต่เขาทำเพียงยิ้มเยาะออกมา
เขากำลังจะกลายเป็นผู้กอบกู้โลกจริงๆงั้นหรือ?
ชัยชนะพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น่!
ฟางเจิ้งจือ รอ
แต่…
ทั้งสนามรบเงียบลงจนน่ากลัว
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งร่อนลงมาอยู่ข้างฟาง เจิ้งจือ ร่างในชุดสีชมพู
แต่มีบางอย่างผิดปกติ
เดี๋ยวก่อน
ทำไมนางถึงอยู่คนเดียว!
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เขามองไปด้านข้าง
เขาเห็นสิ่งที่เขาคาดเอาไว้อย่างชัดเจนร่างในเกราะเพลิงแดงลอยอยู่ในอากาศ นางจับหอกเพลิงอยู่ในมือ
อย่างไรก็ตาม…
หอกได้สูญเสียจิตวิญญานในการโจมตีไปแล้ว
จากนั้นคังหยางก็ปลอยคลื่นพลังอกจากมือขวาดีดอินทรีย์เหมันต์หายไปบนท้องฟ้า
ก่อนที่จะกระแทกกับพื้นและตายในที่สุด
”เชี่ยเอ้ย!”ท่าทีของฟางเจิ้งจือ เปลี่ยนไปเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟางเจิ้งจือ ทำให้ หยุน ชิงวู หมดสติไป
เขาต้องโกรธมากอย่างแน่นอน
เพื่อที่จะจับตัวหยุน ชิงวู, ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ถึงกับต้องเสียสละตัวเอง
กลับกันมันก็เปิดโอกาสให้คังหยางสามารถจับตัวพวกนั้นได้
ในทั้งสอง…
ปิงหยาง ดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ปิงหยาง อ่อนแอเกินไป
เพื่อที่จะดึงความสนใจคังหยางเขาเลยตัดสินใจทำให้คังหยาง โกรธเขาได้ท้าทาย
ราวกับ…
ขอให้คังหยางต่อสู้กับเขา
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฟาง เจิ้งจือ คิด อย่างไรก็ตามดูเหมือน…
คังหยางโกรธ…
แต่เขาไม่ได้บ้าคลั่งกลับกันเขาพุ่งไปหา ปิง หยาง ทันที
มีกี่คนกันที่จะสามารถทำแบบนั้นได้?
”องค์หญิง!”
”ฝ่าบาท!”
เสียงมากมายดังขึ้นจากกลุ่มของหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา
ซิงหยวนกัว หน้าซีดขาว
องค์หญิงปิง หยาง ถูกจับ?
นั่นอาจจะสร้างปัญหาให้อาณาจักรเซี่ยได้เลย
”อ๊ากกก!ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไร้ยางอาย มาช่วยข้าสิ ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไม่ได้เข้าถึงเต๋าสวรรค์แล้วเหรอ?ช่วยข้าออกไปให้ได้! ” เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่า…
ปิงหยาง เป็นคนที่รักชีวิตของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใดนางไม่ได้เป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
คำพูดของนางพึ่งพูดกับฟาง เจิ้งจือ ว่านางอุตส่าห์ช่วยชีวิต ฟาง เจิ้งจือ แต่ทำไม่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ช่วยชีวิตนาง
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มขมขื่นเมื่อมองดู ปิง หยาง
เขาอยากช่วยนางจริงๆแต่เขาจะทำยังไง?
เต๋าสวรรค์…
ฟางเจิ้งจือ หวังว่าเขาจะเข้าใจเต๋าสวรรค์ได้ทังหมด แต่เขายังไปไม่ถึงจุดนั้น เขาหลุดจากพันธนาการได้เพราะเปลี่ยนกดของอากาศที่ตรึงร่างเขาเอาไว้
หรือก็คือเขาสามารถช่วยตัวเองได้แต่ช่วยคนอื่นไม่ได้
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะสามารถคลายวังวนรอบตัว ปิง หยาง ได้แต่จะดีหรือ?
ปิงหยาง จะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน?
นางกำลังสู้กับครึ่งเซียนที่อยู่มานานกว่าศววรรษ
ฟางเจิ้งจือ พยายามทำบางอย่างซ้ำๆ
”เจ้าไร้ยางอายเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?มาช่วยข้าที!”ปิง หยาง แผดเสียง
”ฝ่าบาทข้าเชื่อในความสามารถของท่าน ข้าแน่ใจว่าท่านสามารถเข้าใจเต๋าสวรรค์ได้!”ฟาง เจิ้งจือ เยินยอนาง
”สวะ!”
”เอาล่ะข้าต้องไปแล้ว”
”เจ้าไม่กล้าหรอก!””
”ฝ่าบาท…ท่านอยากให้ข้าทำอะไร?”
”ไม่ได้ยินหรือไงข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้า! ข้ายังเด็กและมีเส้นทางชีวิตข้างหน้าอีกมาก! ข้าตายที่นี่ไม่ได้!”
”งั้นลองพยายามเข้าใจเข้าใจเต๋าสวรรค์! ข้าสอนท่านได้ ก่อนอื่น เจ้าต้องใจเย็นๆและจินตนการว่าอยู่กลางทะเลสาบอันกว้างใหญ่และมีน้ำวนอยู่รอบๆตัวเจ้า …”
”น้ำวนบ้าบออะไรของเจ้ามาช่วยข้า!”ปิง หยาง ขัดกลางคัน
”อ๊า…เจ้าไม่สามารถเข้าถึงมันได้” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง เขาบอกนางในสิ่งที่เขารู้แต่นางไม่เปิดใจยอมรับมันเลย
เขามองไปที่ฉือ กูเหยียน
เขารู้สึกเหมือนว่าถึงตานางคิดแผนบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนฉือ กูเหยียน ดูจะไม่มีแผนการใดๆ นางมองดู ฟาง เจิ้งจือ แววตาของนางระยิบระยับเหมือนดาวในท้องฟ้า
”ทำไมเจ้าไม่ช่วยนาง?บอกนางถึงสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าสิ?ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน ด้วยความคาดหวัง
”นางอ่อนแอ”ฉือ กูเหยียน ตอบ
ฟางเจิ้งจือ ถอนหายใจ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ง่าย
ตอนนี้เขาจะทำยังไงดี?
เขามีหยุน ชิงวู แต่ฝ่ายตรงข้ามมี ปิง หยาง เขามีเพียงสองตัวเลือก แลกตัวเชลย หรือ
”ทำร้ายพวกนางทั้งคู่!”ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่าปกติเขามีสองทางเลือก แต่กรณีนี้เขาทำไม่ได้
แม้ว่าเขาจะพยายามแลกเชลยเขาก็อาจจะช่วย ปิง หยาง ไม่ได้และนางอาจตายได้ในที่สุด
นั่นคือสถานการณ์ปัจจุบัน
”ข้าจะไม่ทำข้อตกลงกับเจ้าปล่อยองค์หญิงของพวกเรา หรือให้ข้าฆ่า หยุน ชิงวู!”ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจชัดเจน
”เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?แม้ว่าข้าตาบอด แต่ถ้าข้าเดาถูก องค์หญิง ปิง หยาง ในตำนานอยู่ในกำมือของข้า!”คังหยางตอบอย่างใจเย็น
”องค์หญิงปิงหยางในตำนาน?”ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเรียกนางแบบนั้น
เป็นเพราะปิง หยาง เป็นองค์หญิงคนโปรดหรือ?
หรือเป็นเพราะชื่อเสียงของนางในเมืองหลวง
ฟางเจิ้งจือ ส่ายหัว แม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ดูเหมือนจะมีโอกาสไม่มาก
คู่ต่อสู้ของเขาคือครึ่งเซียนคังหยาง ทำไมครึ่งเซียนจึงใส่ใจรายละเอียดที่ไม่สำคัญเช่นนั้น?
ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเขาหันมามอง ฉือ กูเหยียน เขาตระหนักว่าท่าทีของนางเปลี่ยนไป
”เกิดอะไรขึ้น?”ฟางเจิ้งจือ เห็นท่าทีของ ซิง หยวนกัว ,ซิง ฉิงซุย พวกหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาเองก็เช่นกัน
ที่สำคัญที่สุดคือ…
แม้แต่ฉาน หลิง และหัวหน้าถิ่นฐานต่างก็หน้าซีดเมื่อได้ยินชื่อ “องค์หญิง ปิง หยาง”
นางโด่งดังขนาดนั้นจริงหรือ?
”ตาเฒ่าในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นองค์หญิง ปิง หยาง ก็ควรปล่อยข้าไปเสีย!เจ้าคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าข้าเจ็บตัว!”เสียงของ ปิง หยาง เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้เลยว่านางเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน
บาดเจ็บ?
นางถูกตรึงอย่างสมบูรณ์
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่า คังหยาง ไม่ได้สนใจ ปิง หยาง
และเขาไม่ได้มีท่าทีเยาะเย้ยต่อสิ่งที่นางพูดแม้แต่น้อยเขาเริ่มครุ่นคิดในสิ่งที่ได้ยิน …
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 464 ผิดแผน
สายลมพัดแรงก้อนเมฆดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า
คลื่นขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากร่างของคังหยางถ้าระเบิดของฟาง เจิ้งจือ เปรียบดั่งทะเลสาบ คังหยางก็เป็นเหมือนมหาสมุทร
มหาสมุทรที่บ้าคลั่ง
มันน่าหวาดกลัวมากแม้แต่เหล่าปีศาจที่อยู่ด้านหลังเองก็ต้องก้าวถอย
”นี่คือความโกรธของครึ่งเซียนงั้นรึ?”
กองกำลังทั้งหมดต่างรู้สึกถึงความโกรธแค้นอันรุนแรงที่คังหยางแสดงออกมาพวกเขาต่างหวาดกลัวไปจนถึงกระดูกสันหลัง
เต๋าสวรรค์…
มันน่ากลัวมาก!
พวกเขาหันไปมองฟาง เจิ้งจือ
ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังของคังหยางอย่างไรก็ตามความหวาดกลัวจาก ฟาง เจิ้งจือ เองก็ปกคลุมจิตใจพวกเขาเช่นกัน
ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำได้อย่างไร
แต่ที่ฟาง เจิ้งจือ สามารถหนีจากพันธนาการและทำให้ หยุน ชิงวู สลบไปนั้นเป็นความจริง
เพื่อที่จะทำสิ่งนี้…
สิ่งเดียวที่อธิบายได้คือเขาเข้าใจในเต๋าสวรรค์
เขาอายุไม่ถึง16 ปี …
เขายังเด็กอยู่
ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ในขณะคนที่โตกว่ายังทำไม่ได้!เขามีความสามารถขนาดไหนกัน?
ไม่มีใครรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งแค่ไหน …แต่พวกเขารู้ว่าเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคังหยางเลย
นั่นหมายความว่า…
ไม่ช้าก็เร็วอาจจะมีครึ่งเซียนเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์
นอกจากนี้เขาจะเป็นครึ่งเซียนที่มีเต๋านับร้อยดวงในมิติพิเศษ!
สัตว์ประหลาด!
ความจริงแล้ว…มันอาจจะเกินจริงไปเสียหน่อย แต่ไม่มีคำพูดไหนที่จะสามารถอธิบายความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ ได้เลย
พวกเขาทุกคนตกตะลึงด้วยพลังของคังหยางและตระหนักถึงความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ
หนานกงเฮา มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
เป็นครั้งแรกหนานกง เฮา ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มองไปที่รอบๆตัว เขามองที่คังหยาง
”เจ้าต้องการอะไร?การต่อสู้? เข้ามาเลย โจมตีข้า!”ฟาง เจิ้งจือ มองที่คังหยางอย่างดูถูกขณะที่ดึงลูกธนูออกมาจากพื้นแล้วจ่อไปที่คอของ หยุน ชิงวู
เจรจา…
โดยใช้หยุน ชิงวู เป็นเชลย…
นั่นคือเป้าหมายของฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามหยุน ชิงวู ไม่จำเป็นต้องตื่นขึ้น
ความจริงแล้วผู้ที่ลักพาตัวส่วนใหญ่มักจะทำพลาดโดยการใช้เชลยเป็นตัวกลาง จนสุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของเชลยเอง
หลอกข้าได้หนนึงเจ้าควรจะละอายใจแต่ถ้าหลอกข้าได้สองหนข้าควรจะละอายใจเอง ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ยอมโดนหลอกอีก
นอกจากนี้หยุน ชิงวู เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เขาไม่มั่นใจว่านางจะยอมสั่งให้ปีศาจถอยทัพไปหรือไม่
ตราบใดที่หยุน ชิงวู ยังมีสติ…
อาจมีหลายอย่างที่คาดเดาไม่ได้
เพราะงั้นเขาจึงต้องทำให้นางสลบไป
นั่นคือตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
ตราบใดที่เขาไม่ได้ฆ่าหยุน ชิงวู ตราบใดที่เขาสามารถควบคุม หยุน ชิงวู ได้พวกปีศาจก็จะทำตามคำสั่งของเขาแน่นอน!
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มาจากตัวคังหยาง แต่เขาทำเพียงยิ้มเยาะออกมา
เขากำลังจะกลายเป็นผู้กอบกู้โลกจริงๆงั้นหรือ?
ชัยชนะพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น่!
ฟางเจิ้งจือ รอ
แต่…
ทั้งสนามรบเงียบลงจนน่ากลัว
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งร่อนลงมาอยู่ข้างฟาง เจิ้งจือ ร่างในชุดสีชมพู
แต่มีบางอย่างผิดปกติ
เดี๋ยวก่อน
ทำไมนางถึงอยู่คนเดียว!
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เขามองไปด้านข้าง
เขาเห็นสิ่งที่เขาคาดเอาไว้อย่างชัดเจนร่างในเกราะเพลิงแดงลอยอยู่ในอากาศ นางจับหอกเพลิงอยู่ในมือ
อย่างไรก็ตาม…
หอกได้สูญเสียจิตวิญญานในการโจมตีไปแล้ว
จากนั้นคังหยางก็ปลอยคลื่นพลังอกจากมือขวาดีดอินทรีย์เหมันต์หายไปบนท้องฟ้า
ก่อนที่จะกระแทกกับพื้นและตายในที่สุด
”เชี่ยเอ้ย!”ท่าทีของฟางเจิ้งจือ เปลี่ยนไปเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟางเจิ้งจือ ทำให้ หยุน ชิงวู หมดสติไป
เขาต้องโกรธมากอย่างแน่นอน
เพื่อที่จะจับตัวหยุน ชิงวู, ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ถึงกับต้องเสียสละตัวเอง
กลับกันมันก็เปิดโอกาสให้คังหยางสามารถจับตัวพวกนั้นได้
ในทั้งสอง…
ปิงหยาง ดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ปิงหยาง อ่อนแอเกินไป
เพื่อที่จะดึงความสนใจคังหยางเขาเลยตัดสินใจทำให้คังหยาง โกรธเขาได้ท้าทาย
ราวกับ…
ขอให้คังหยางต่อสู้กับเขา
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฟาง เจิ้งจือ คิด อย่างไรก็ตามดูเหมือน…
คังหยางโกรธ…
แต่เขาไม่ได้บ้าคลั่งกลับกันเขาพุ่งไปหา ปิง หยาง ทันที
มีกี่คนกันที่จะสามารถทำแบบนั้นได้?
”องค์หญิง!”
”ฝ่าบาท!”
เสียงมากมายดังขึ้นจากกลุ่มของหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา
ซิงหยวนกัว หน้าซีดขาว
องค์หญิงปิง หยาง ถูกจับ?
นั่นอาจจะสร้างปัญหาให้อาณาจักรเซี่ยได้เลย
”อ๊ากกก!ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไร้ยางอาย มาช่วยข้าสิ ข้าขยับไม่ได้! เจ้าไม่ได้เข้าถึงเต๋าสวรรค์แล้วเหรอ?ช่วยข้าออกไปให้ได้! ” เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่า…
ปิงหยาง เป็นคนที่รักชีวิตของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใดนางไม่ได้เป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
คำพูดของนางพึ่งพูดกับฟาง เจิ้งจือ ว่านางอุตส่าห์ช่วยชีวิต ฟาง เจิ้งจือ แต่ทำไม่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ช่วยชีวิตนาง
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มขมขื่นเมื่อมองดู ปิง หยาง
เขาอยากช่วยนางจริงๆแต่เขาจะทำยังไง?
เต๋าสวรรค์…
ฟางเจิ้งจือ หวังว่าเขาจะเข้าใจเต๋าสวรรค์ได้ทังหมด แต่เขายังไปไม่ถึงจุดนั้น เขาหลุดจากพันธนาการได้เพราะเปลี่ยนกดของอากาศที่ตรึงร่างเขาเอาไว้
หรือก็คือเขาสามารถช่วยตัวเองได้แต่ช่วยคนอื่นไม่ได้
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะสามารถคลายวังวนรอบตัว ปิง หยาง ได้แต่จะดีหรือ?
ปิงหยาง จะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน?
นางกำลังสู้กับครึ่งเซียนที่อยู่มานานกว่าศววรรษ
ฟางเจิ้งจือ พยายามทำบางอย่างซ้ำๆ
”เจ้าไร้ยางอายเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?มาช่วยข้าที!”ปิง หยาง แผดเสียง
”ฝ่าบาทข้าเชื่อในความสามารถของท่าน ข้าแน่ใจว่าท่านสามารถเข้าใจเต๋าสวรรค์ได้!”ฟาง เจิ้งจือ เยินยอนาง
”สวะ!”
”เอาล่ะข้าต้องไปแล้ว”
”เจ้าไม่กล้าหรอก!””
”ฝ่าบาท…ท่านอยากให้ข้าทำอะไร?”
”ไม่ได้ยินหรือไงข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้า! ข้ายังเด็กและมีเส้นทางชีวิตข้างหน้าอีกมาก! ข้าตายที่นี่ไม่ได้!”
”งั้นลองพยายามเข้าใจเข้าใจเต๋าสวรรค์! ข้าสอนท่านได้ ก่อนอื่น เจ้าต้องใจเย็นๆและจินตนการว่าอยู่กลางทะเลสาบอันกว้างใหญ่และมีน้ำวนอยู่รอบๆตัวเจ้า …”
”น้ำวนบ้าบออะไรของเจ้ามาช่วยข้า!”ปิง หยาง ขัดกลางคัน
”อ๊า…เจ้าไม่สามารถเข้าถึงมันได้” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง เขาบอกนางในสิ่งที่เขารู้แต่นางไม่เปิดใจยอมรับมันเลย
เขามองไปที่ฉือ กูเหยียน
เขารู้สึกเหมือนว่าถึงตานางคิดแผนบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนฉือ กูเหยียน ดูจะไม่มีแผนการใดๆ นางมองดู ฟาง เจิ้งจือ แววตาของนางระยิบระยับเหมือนดาวในท้องฟ้า
”ทำไมเจ้าไม่ช่วยนาง?บอกนางถึงสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าสิ?ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน ด้วยความคาดหวัง
”นางอ่อนแอ”ฉือ กูเหยียน ตอบ
ฟางเจิ้งจือ ถอนหายใจ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ง่าย
ตอนนี้เขาจะทำยังไงดี?
เขามีหยุน ชิงวู แต่ฝ่ายตรงข้ามมี ปิง หยาง เขามีเพียงสองตัวเลือก แลกตัวเชลย หรือ
”ทำร้ายพวกนางทั้งคู่!”ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่าปกติเขามีสองทางเลือก แต่กรณีนี้เขาทำไม่ได้
แม้ว่าเขาจะพยายามแลกเชลยเขาก็อาจจะช่วย ปิง หยาง ไม่ได้และนางอาจตายได้ในที่สุด
นั่นคือสถานการณ์ปัจจุบัน
”ข้าจะไม่ทำข้อตกลงกับเจ้าปล่อยองค์หญิงของพวกเรา หรือให้ข้าฆ่า หยุน ชิงวู!”ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจชัดเจน
”เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?แม้ว่าข้าตาบอด แต่ถ้าข้าเดาถูก องค์หญิง ปิง หยาง ในตำนานอยู่ในกำมือของข้า!”คังหยางตอบอย่างใจเย็น
”องค์หญิงปิงหยางในตำนาน?”ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเรียกนางแบบนั้น
เป็นเพราะปิง หยาง เป็นองค์หญิงคนโปรดหรือ?
หรือเป็นเพราะชื่อเสียงของนางในเมืองหลวง
ฟางเจิ้งจือ ส่ายหัว แม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ดูเหมือนจะมีโอกาสไม่มาก
คู่ต่อสู้ของเขาคือครึ่งเซียนคังหยาง ทำไมครึ่งเซียนจึงใส่ใจรายละเอียดที่ไม่สำคัญเช่นนั้น?
ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเขาหันมามอง ฉือ กูเหยียน เขาตระหนักว่าท่าทีของนางเปลี่ยนไป
”เกิดอะไรขึ้น?”ฟางเจิ้งจือ เห็นท่าทีของ ซิง หยวนกัว ,ซิง ฉิงซุย พวกหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาเองก็เช่นกัน
ที่สำคัญที่สุดคือ…
แม้แต่ฉาน หลิง และหัวหน้าถิ่นฐานต่างก็หน้าซีดเมื่อได้ยินชื่อ “องค์หญิง ปิง หยาง”
นางโด่งดังขนาดนั้นจริงหรือ?
”ตาเฒ่าในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นองค์หญิง ปิง หยาง ก็ควรปล่อยข้าไปเสีย!เจ้าคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าข้าเจ็บตัว!”เสียงของ ปิง หยาง เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้เลยว่านางเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน
บาดเจ็บ?
นางถูกตรึงอย่างสมบูรณ์
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่า คังหยาง ไม่ได้สนใจ ปิง หยาง
และเขาไม่ได้มีท่าทีเยาะเย้ยต่อสิ่งที่นางพูดแม้แต่น้อยเขาเริ่มครุ่นคิดในสิ่งที่ได้ยิน …
เพจหลัก: Gate of god TH