Gate of God - ตอนที่ 465-466
ตอนที่ 465 ข้าต้องการให้เจ้าตาย
ฟางเจิ้งจือ สับสนมาก
ทำไมชื่อของปิง หยาง ทำให้ครึ่งเซียนถึงกับลังเล?
หลังจากยืนนิ่งไปนานคังหยาง ก็พยักหน้า
”อืมเจ้าพูดถูก ข้ารู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นดี อย่างไรก็ตาม… ผลจะไม่ได้เกิดกับเมืองเงาเลือดเท่านั้น อาณาจักรเซี่ยก็เช่นกัน” คังหยางตอบ
”หึเจ้าตาบอด! ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าไม่มีใคนกล้าพูดเรื่องนี้หรือไงกัน? ข้าขอเตือนเจ้าหน่อย…ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าข้าโตขึ้นจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่” ท่าทีของ ปิง หยาง แข็งค้างทันทีเมื่อได้ยิน
”ผู้ใหญ่?อืม … นั่นเป็นปัญหาที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หากเจ้าอายุมากกว่านี้ข้าคงไม่กล้าทำอะไรเจ้าแต่ตอนนี้เจ้าอายุเพียง 14 ปี อีกสองปีเจ้าถึงจะบรรลุนิติภาวะ”
คังหยางส่ายหัว ปิง หยาง ถูกดึงมาด้านหน้าของเขา
”บรรลุนิติภาวะ?2ปี? ไม่กล้าทำอะไรนาง?”
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึงเมื่อได้ยิน เกิดอะไรขึ้น?
ผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดารา…
แต่กลับทำให้ครึ่งเซียนหวาดกลัวได้?
นี่เรื่องตลกใช่ไหม?
หรือคังหยาง อาจจะเข้าใจอะไรผิด หรือสมองถูกกระทบกระเทือน ถ้าเขาเป็นคังหยาง คงทำให้ ปิง หยาง หุบปากไปแล้ว
ไม่อย่างนั้น…
”ปล่อยข้าไปปล่อยข้าเดี๋ยวนี้… เจ้าตาบอด! ฟาง เจิ้งจือ เจ้าไร้ยางอาย ข้าช่วยเจ้าแล้ว! ทีนี้ก็เป็นตาเจ้า!”
อย่างที่เขาคิดเสียงของปิง หยาง ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
”ทำให้นางหุบปากที!”ฟางเจิ้งจือ ร้องตะโกน
อย่างไรก็ตามคัง หยาง ไม่ได้ทำอะไร เขามอง ปิง หยาง เงียบๆ
ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อยเมื่อฟังสิ่งที่ ปิง หยาง พูด
แต่เขาก็ทำได้แค่ไม่สนใจนาง
อืม…
ฟางเจิ้งจือ คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยิ่ง ปิง หยาง ตะโกนมากเท่าไร ความสนใจของผู้คนก็พุ่งมาที่เขาเรื่อยๆ
ตอนนี้เขาอับอายเป็นอย่างมาก
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มอย่างขมขื่น
เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าพวกเจ้ามองหาอะไรถ้าพวกเจ้ากล้ามากก็ไปช่วย ปิง หยาง สิ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดออกมาได้
ฟางเจิ้งจือ ยอมรับว่าตัวเองไร้ยางอาย อย่างไรก็ตามการเมินเฉยผู้หญิงที่เขาพึ่งช่วยชีวิตไปแล้วนั้น….
เป็นบางสิ่งที่…
เขาไม่สามารถทำได้จริงๆ
ตอนนี้เขาควรทำอะไรดี?
เขาควรจะเพิกเฉยกับความจริงที่ว่านางพยายามจะช่วยเขา?
”ฟางเจิ้งจือ มาช่วยข้าหน่อย เจ้าเข้าถึงเต๋าแห่งสวรรค์แล้วใช่ไหม?มาจัดการเจ้านี่เร็วเข้า!” เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้น
ทหารทุกคนต่างมองหน้ากัน
พวกเขาต้องการช่วยนาง…
เต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้
ตอนนี้…
ความหวังเดียวของพวกเขาคือฟาง เจิ้งจือ
แต่ฟาง เจิ้งจือ กลับไม่มีท่าทีอะไรเลย?
พวกเขากำลังรอให้ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรสักอย่าง
ตามปกติแล้วพวกเขาจะไม่เชื่อมั่นในฟาง เจิ้งจือ
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้…
พวกเขาจำเป็นต้องเชื่อ
”ท่านพ่อพวกเราควรทำยังไงดี?” ซิง ฉิงซุย มองไปที่ ซิง หยวนกัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขารู้ว่า ปิง หยาง ต้องปลอดภัย
ซิงหยวนกัว มองไปที่ คังหยาง
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเขารู้ว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะโจมตีบางทีอาจจะมีโอกาสเจรจา
ถ้าเขาโจมตีทุกอย่างจะเลวร้ายกว่านี้…
อีกอย่างตอนนี้พวกปีศาจกำลังได้เปรียบ หากพวกเขายังดึงดันจะสู้ต่อ คงมีแต่ต้องตาย
ถ้ารอต่อไปสถานการณ์อาจจะดีขึ้น!
”รอ!”ซิงหยวนกัว ตะโกนออกมา
”แต่… ” ซิง หยวนกัว อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป
…
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าสารเลว เจ้าไร้ยางอาย เจ้าจะทิ้งข้าไว้คนเดียวหรือ? ถ้าข้าตาย ข้าจะหลอกหลอนเจ้าตลอดไป!”ปิง หยาง กังวลมาก
”หุบปาก!”ฟางเจิ้งจือ ทนไม่ได้อีกต่อไป
นางคิดอะไรกัน?ตอนนี้การถ่วงเวลาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
”ข้าจะไม่หุบปากข้าอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้า?แต่เจ้ากลับยืนเฉยๆ? ”
”เจ้าช่วยหุบปากได้ไหม!”ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ระเบิดความโกรธออกมา “คังหยาง ข้าสามารถแลกเปลี่ยนตัวประกันกับเจ้าได้ แต่มีเงื่อนไข”
”มันคืออะไร”คังหยางพยักหน้า
”ถอนทัพ”
”เป็นไปไม่ได้”
”งั้นพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นถอนทัพออกจากเนินเขาเหล็ก” ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมา
”เป็นไปไม่ได้เช่นกัน”คังหยาง ตอบ
”งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยข้าไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวระหว่างเรื่องมนุษย์กับปีศาจ การที่ข้ามาที่นี่เป็นเรื่องยังเอิญ ข้าเพียงอยากมีชีวิตเท่านั้น หากข้าแลกตัวประกัน ข้าต้องตายแน่นอน ดังนั้นข้าเองก็ควรจะฆ่า หยุน ชิงวู”
ฟางเจิ้งจือ โบกมือให้คังหยาง
คังหยางบังคับให้ ฟาง เจิ้งจือ ช่วย ปิง หยาง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถจัดการ ฟาง เจิ้งจือ ได้
ไม่ใช่เพราะเขาลืมว่านางได้ช่วยเขาไว้
แต่ฟาง เจิ้งจือ ไม่อยากตาย
”เจ้าคิดว่าการที่พวกเราถอนทัพออกจากที่นี่เจ้าจะมีชีวิตรอด?” คังหยาง มอง ฟาง เจิ้งจือ พร้อมปล่อยจิตสังหารออกมา
”อย่างน้อยข้าจะมีโอกาสมีชีวิตอยู่”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”ถ้าข้าบอกข้าแค่ต้องการชีวิตของเจ้าล่ะ?”คังหยาง ถามอย่างใจเย็น
”…”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
”ได้ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า แต่ต้องเป็นตัวเจ้าที่ใช้แลกเปลี่ยน!” คังหยางพยักหน้าหลังจากลังเล
”ข้าต้องหันหลังไหม?”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองรอบๆก่อนจะหันไปมอง ฉือ กูเหยียน
หลังจากได้ยินการแลกเปลี่ยนนางก็คิดสักพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าในที่สุด
”เชี่ยเอ้ย!” ฟาง เจิ้งจือ สบถออกมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ส่งเสียงกังมากนัก
ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่าทำไม คัง หยาง ถึงต้องการตัวเขา
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่มีทางเลือก
เขาไม่อาจเพิกเฉยต่อปิง หยาง ได้
หากปีศาจถอนตัวออกจากเนินเขาเหล็ก…
ดินแดนใต้ก็จะมีโอกาสที่จะรอดชีวิตนั่นหมาความว่าเขาก็มีโอกาสหนีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม… เขาต้องสามารถหาวิธีหลบหนีได้ก่อน
อย่างน้อยเขาก็มีตัวเลือก
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่า คัง หยาง ไม่อยากจะเสียเวลาอีกต่อไป การให้ปีศาจถอนทัพออกไปจากเนินเขาเหล็กเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
”ตกลงข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เขาไม่มีทางเลือกอื่น ปิง หยาง ต้องปลอดภัย เขาอาจจะใช้ ปิง หยาง เป็นโล่ ได้ที่หลัง…
นางมีเกราะเพลิง
นางอาจจะรับการโจมตีให้เขาได้สักรอบสองรอบ
”ออกคำสั่งให้ถอนทัพออกจากเนินเขาเหล็ก”คังหยาง ไม่ลังเล
เขาสั่งคำสั่งทันที
”รับทราบ!”หัวหน้าดินแดนหยักหน้าหลังจากได้ยินคำสั่ง
ก่อนที่พวกเขาจะหันมามองฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาอันคมกริบ
ฟางเจิ้งจือ คือศัตรูหมายเลขหนึ่ง
มันอาจจะเป็นเพราะความสามารถของเขา
แต่ที่สำคัญกว่านั้น…
พวกเขามีปัญหากับสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ทำ
ทั้งตอนที่หน้าผาและครั้งนี้
”ถอนทัพ!”
”ถอนทัพ!”
”ถ่ายทอดคำสั่งลงไป!”
เสียงของปีศาจดังขึ้นเป็นระยะ
ฉานหลิง มองไปด้วยความตกใจ
เขารุ้ว่าปีศาจนี่นเป็นยังไง
หยุนชิงวู!
ผู้นำอันโด่งดังของเหล่าปีศาจ…นางสามารถจัดระเบียบดินแดนปีศาจให้กลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
”ถอนทัพ!”
เสียงยังคงดังก้องไปทั่ว
ไม่นานปีศาจที่หน้าประตูถิ่นฐานก็ถอนทัพออกไปทั้งหมด
”ท่านพี่เกิดอะไรขึ้น?”องค์หญิง ฉาน ยู่ ปรากฎตัวขึ้น
นางไม่สบายใจที่อยู่ๆพวกปีศาจก็หายไป
”อย่าถามคำถามตอนนี้เลยตรึงกำลังของพวกเราเอาไว้!”ฉาน หลิง สั่ง
องค์หญิงฉาน ยู่ พยักหน้าก่อนจะมองไปยังร่างที่สวมชุดสีน้ำเงิน
มันไม่ใช่จุดที่สำคัญที่สุดเพราะที่สำคัญคือตอนนี้มีหญิงสาวนอนอยู่ข้างๆเขา
”หยุนชิงวู?! เป็นไปได้ยังไง?”องค์หญิง ฉาน ยู่ ตกตะลึง
นางไม่เข้าใจว่าฟาง เจิ้งจือ หนีจากเต๋าสวรรค์ได้ยังไง เพราะนางไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้น
หยุนชิงวู หมดสติได้ยังไง?
และ…
เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
”เจ้าจะไม่ทำตามคำสั่งงั้นหรือ?”ฉานหลิง ขมวดคิ้ว
”แต่… ” องค์หญิง ฉาน ยู่ ลังเล
”อาฟาง เจิ้งจือ เข้าสู่เต๋าแห่งสวรรค์แล้ว” ฉาน หลิง มองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ และถอนหายใจ
”อะไรนะ!?เขา … เป็นไปได้ยังไง?!”องค์หญิง ฉาน ยู่ เบิกตากว้าง
”ข้าเองก็ไม่รู้แต่มันเป็นความจริง ”
แม้แต่ตัวเขาเองก็ตกตะลึงตอนที่เห็น
ฟางเจิ้งจือ อายุเพียง 16 ปี!
ถ้าเขาเข้าถึงเต๋าสวรรค์ได้ตอนอายุเท่านี้อนาคตของเขาจะเป็นยังไง?ถ้า ฉาน หลิง อยากจะเป็นจักรพรรดิ ฟาง เจิ้งจือ ต้องถูกเขี่ยให้พ้นทางก่อน
แน่นอนว่า…
ฟางเจิ้งจือ ต้องตายอยู่แล้ว
ฉานหลิง รู้ดีตั้งแต่ คังหยางจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ได้
”งั้นเรามาเริ่มแลกเปลี่ยนกัน”เสียงของ คังหยาง ดังขึ้น
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน เงียบๆ
”เจ้าจะไปไหม?”
”ไม่”ฉือ กูเหยียน ตอบอย่างใจเย็น
”เจ้าไม่กลัวตายหรือ?”
”ไม่เขาต้องการชีวิตเจ้าไม่ใช่ข้าเสียหน่อย” ฉือ กูเหยึยน ตอบอย่างใจเย็น
”บัดซบ!”ฟางเจิ้งจือ รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมากกับคำตอบนี้
แต่เขาหันไปมองปิง หยาง อีกครั้ง
ตอนนี้…
เขาควรทำอะไรดี?
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 466 สิ่งที่ผู้ชายควรทำ
ปิศาจถอนกำลังออกไปและฟาง เจิ้งจือ มี หยุน ชิงวู เป็นเชลย ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ใจแคบและไม่สนใจ ปิง หยาง
…
เขาอาจจะรอดชีวิต
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ จะไม่มีวันทำอะไรที่น่ารังเกียจเช่นนั้น เขาอาจเป็นคนไร้ยางอาย แต่หัวใจของเขาไม่ได้ด้านชา
เขาไม่เคยคิดที่จะทิ้งปิง หยาง
เชลยศึกต้องถูกแลกเปลี่ยนและเขาต้องช่วย ปิง หยาง ให้ได้
สำหรับหยุน ชิงวู …
แม้ว่าหยุนชิงวู จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา แต่เขาไม่ได้มีความบาดหมางส่วนตัวกับนาง
การแลกเปลี่ยนเชลยนั้นเป็นเรื่องง่ายและเขาต้องส่งตัว หยุน ชิงวู อย่างปลอดภัย
นั่นเป็นสิ่งที่คังหยางเชื่อ
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่า คังหยาง จะทำร้าย ปิง หยาง เหมือนกับที่ คังหยาง คิดว่ายังไง ฟาง เจิ้งจือ จะช่วย ปิง หยาง ให้ได้
สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การแลกเปลี่ยนตัวเชลย
แต่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
ฟางเจิ้งจือ ขมวดคิ้วตำแหน่งในปัจจุบันของเขานั่นหมายความว่าเขาอยู่ใกล้กับพวกปีศาจเล็กน้อย ถ้าเขาพยายามหนี
ก็ไม่น่าจะไปได้ไกลนัก
แม้เขาจะโจมตีคังหยางได้ก็ใช่ว่าเขาจะมั่นใจว่าเร็วกว่าคังหยาง
ดังนั้นเขาจะทำอย่างไรถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะความเร็วของคัง หยาง ได้?
ปาทรายเข้าตาคังหยาง? หรือใช้อาวุธลับ?
ของพวกนี้เป็นก่ารโจมตีพื้นฐานของฟาง เจิ้งจือ ที่ส่วนใหญ่ใช้กับคู่ต่อสู้และจากนั้น ก็ระเบิดแสงของเขา
มันน่าเสียดายที่…
สิ่งเหล่านี้ไม่มีผลกับคังหยาง…
คังหยางตาบอดถ้าใช้ขี้เถ้าหรือระเบิดอสงไปก็ไร้ประโยชน์
ลอบโจมตี…
ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์นักสำหรับที่นี่
เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากหน้าผากของฟาง เจิ้งจือ ลอบโจมตี เป็นของถนัดเขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์ต่อหน้าคนตาบอด
หากเขาไม่สามารถลอบการโจมตี…
เขาจะหาโอกาสหนีได้อย่างไร
เร็วกว่าคังหยาง?
นั่นคงเป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ ไม่แม้แต่ต้องคิดเรื่องนี้ คังหยาง เป็นครึ่งเซียน ที่สามารถจุติเต๋าแห่งสวรรค์ได้
เขาไม่สามารถลอบโจมตีจากด้านบนและไม่สามารถเผชิญหน้าตรงๆกับคังหยางได้
ฟางเจิ้งจือ จนปัญญา เขาต้องใช้ ปิง หยาง เป็นโล่กำบัง แต่ ฉือ กูเหยียน ตัดสินใจอยู่ด้านหลัง
ปิงหยาง ไม่สามารถป้องกันเขาทั้งคู่ได้
ที่สำคัญฉือ กูเหยียน จะไม่ยอมให้เขาใช้ ปิง หยาง เป็นเกราะกำบังแน่
ตอนนี้เขาจะทำยังไงดี?
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน และประเมิณตำแหน่งของเขาเขาสรุปได้ว่าเขาคงต้องตายหลังจากแลกตัวเชลย
”เจ้าพร้อมหรือยัง?ความอดทนของข้ามีจำกัด” คังหยางพูดขัดขึ้นมาระหว่างที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด
”ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนนัก?ข้ามีเรื่องที่อยากทำก่อนตาย” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ
”ย่อมได้”คังหยางพยักหน้า
”ข้าอยากสั่งเสียช่วยเข้ามาใกล้ๆหน่อยได้ไหม ข้าไม่อยากให้ใครได้ยิน” ฟาง เจิ้งจือ กระซิบที่ ฉือ กูเหยียน
”ไม่มีประโยชน์ความสามารถของคังหยาง เขาสามารถได้ยินเจ้าทั้งหมดไม่ว่าจะพูดเบาแค่ไหน” ฉือ กูเหยียน ตอบกลับ
”โอ้… “ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
เขาเคยได้ยินว่าคนตาบอดจะมีการได้ยินที่ดีขึ้นแต่เขาไม่คิดว่าคังหยางจะเป็นเช่นนั้น
แต่ก็อย่างที่พูดฉือ กูเหยียนคงไม่โกหกเขา
ฟางเจิ้งจือ ไม่เคยสนใจอะไรแบบนั้น
ความจริงแล้วเขาต้องการปรึกษาแผนกับฉือ กูเหยียน เขาคงทำไม่ได้ถ้ายังคังหยางก็จะได้ยิน
นั่นคงจะเป็นการฆ่าตัวตาย
ในขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับมันแขนสีขาวนวลก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าเขามันดูราวกับเป็นผลงานศิลปะที่งดงามที่สุดในโลก
”เจ้าพูดไม่ได้แต่เจ้าเขียนได้” ฉือ กูเหยียน ไม่ได้มองที่ ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของนางสงบเยือกเย็นขณะที่ยื่มมือมา
”อะแฮ่ม… ” ฟาง เจิ้งจือ กระแอม
เขาไม่ได้คิดถึงวิธีการนี้แต่เนื่อจาก ฉือ กูเหยียน เป็นคนเสนอวิธีนี้เขาจะไม่ทำให้นางผิดหวัง
เขาเป็นผู้ชาย
เขาจะต้องมีความเด็ดขาดในบางครั้ง เขาต้องทำมันแม้ว่ามันจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจก็ตาม
นอกจากนี้…
ในการเผชิญหน้ากับศัตรูบางครั้งจำเป็นต้องมีการเสียสละ
ฟางเจิ้งจือ จับมือ ฉือ กูเหยียน และสัมผัสมัน เขารู้สึกถึงความอบอุ่นและนุ่มนวล
ร่างของฉือ กูเหยียน สั่นไหวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้คิดจะดึงมือกลับมาแม้แต่น้อยนางดูสงบมาก
นางได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวทหารและเติบโตขึ้นมาในหมู่พวกเขาแม้นางจะเป็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว แต่ก็เป็นดั่งทหาร
…
บนกำแพงของถิ่นฐานเนินเขาเหล็ก…
ดวงตานับไม่ถ้วนจ้องมาที่พวกเขาตรงประตูพวกเขาทุกคนกำลังจ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน
ดวงตาของหน่วยเกราะมังกรแข็งค้าง
กองทัพทลายภูผาต่างอ้าปากค้างแข็ง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดเสียงดัง เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่ได้ยิน จึงเป็นปกติที่จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
นางเป็นความภูมิใจของอาณาจักรฉือ กูเหยียน!
นางงดงามราวกับดวงดาวที่เปล่งประกายที่สุดบนท้องฟ้าดังนั้นทำไม..
ทำไมฉือ กูเหยียน ถึงปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ จับมือ
หน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผารู้ดีว่ามีความสัมพันธ์พิเศษรหว่างฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน อย่างไรก็ตามทหารดินแดนภูเขาทางใต้นั้นไม่รู้
พวกเขารู้แค่ว่าฉือ กูเหยียน เป็นหญิงสาวในคำพยากรณ์ของสวรรค์นางเป็นคนที่ทุกคนคิด …
นางอาจเป็นเชื้อสายราชวงศ์ในอนาคต
”ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?”
”ข้า…ไม่คิดอย่างนั้น! ข้าก็เห็นเช่นกัน …”
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะมีความสามารถ แต่ ฉือ กูเหยียน นั้นพิเศษ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน”
ทหารดินแดนภูเขาทางใต้ต่างไม่เชื่อ
องค์หญิงฉาน ยู่ กำมือแน่นและกัดริมฝืปากนางดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อย แต่ยังมีอารมณ์อื่นร่วมอยู่ด้วย
หนานกงเฮา เองก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน เช่นกัน
เขามองดูมือของฉือ กูเหยียน ซึ่ง ฟาง เจิ้งจือ กำลังจับเอาไว้อยู่ ท่าทีของเขาซับซ้อน แต่ดูเหมือนจะไม่แปลกใจมากนัก
ท้องฟ้ายามค่ำคืนยังคงมืดมิด
เวลาผ่านไปไม่นานตั้งแต่การต่อสู้หยุดลงและเหล่าปีศาจหยุดลงอย่างไรก็ตาม ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น
ฉือกูเหยียน มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และสับสนเล็กน้อย
”ทำไมเจ้าไม่เขียนอะไรเลย”
”เขียน?โอ้ … ใช่ข้าควรเขียน แต่ …ข้าควรเขียนอะไรดี?”ฟาง เจิ้งจือ ถามเมื่อเขาเริ่มคิด
”ไร้ยางอาย!”ฉือกูเหยียน รู้ถึงนิสัยของ ฟาง เจิ้งจือ แต่นางไม่สามารถทำอะไรได้
คังหยางได้ยินการแลกเปลี่ยนเล็กน้อย
”อย่าเสียเวลาอีกเลยเริ่มได้แล้ว”แม้คังหยางจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขาก็สามารถบอกได้จากสิ่งที่ได้ยิน
”ข้ายังไม่ได้เขียนสิ่งที่จะทำเลย!มนุษย์ไม่ควรทำผิดสัญญา!”ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวแสดงความไม่พอใจของเขา
”ฮ่าฮ่าข้าเป็นปีศาจ ไม่ใช่มนุษย์” คังหยางยิ้มเขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พยายามถ่วงเวลา
ยิ่งถูกยืดเวลาไปนานเท่าไรยิ่งแย่สำหรับปีศาจเท่านั้น
”ข้าขอเวลาสองชั่วโมง”ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้น
”ข้าจะนับถึงสิบถ้าเราไม่แลกเปลี่ยนตัวเชลยในตอนนี้ ข้าจะฆ่านางซะ”คังหยาง ไม่คิดจะเจรจาใดๆ
”เอาล่ะเอาล่ะ ก็บ้าแล้ว เจ้าจะรีบไปไหน? “ฟาง เจิ้งจือตอบอย่างโกรธเคืองขณะที่เริ่ม ‘เขียน’
”สิบ…”
”เก้า…”
”…”
”หนึ่ง”
”ข้าขอเวลาเดี๋ยวเดียวข้ายังไม่เสร็จเลยทำไมไม่นับใหม่ล่ะ”ฟาง เจิ้งจือ รีบตอบ
”หึ!”คังหยางพูดอย่างเย็นชา และแน่นอน ฟาง เจิ้งจือ พยายามดึงความสนใจ
เขา…
ขยับนิ้วของเขาเล็กน้อย
”อ๊าก!”ปิงหยาง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนว่านางจะหายใจไม่ออก ” ข้ากำลังจะตาย … ข้าจะตามหลอกหลอน … ตามหลอกหลอนเจ้า … ตลอดไป!”
”รอเดี๋ยวก่อน!ถ้าเจ้าอยากแลกเปลี่ยนเชลย เราควรหาวิธีที่ปลอดภัยกว่านี้!”ฟาง เจิ้งจือ ตอบทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้อง
ในความเป็นจริง…
เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว
เนื่องจากคังหยางเริ่มโจมตีทางเดียวของเขาคือต้องหยุด …
ถ้าเขาสามารถถ่วงเวลาจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึงเขาก็มีโอกาสรอดชีวิต ถ้าเขาถ่วงเวลาได้ต่อไปโอกาสของเขาก็เพิ่มมากขึ้น อย่างที่ว่าไป โอกาสของเขาเหลือน้อยเต็มที
เขาตัดสินใจแล้ว
เขาจะปฏิเสธข้อเสนอของคังหยางไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม
จากนั้นเขาจะเสนอบางอย่างที่ไม่สมเหตุผลอย่างเช่นให้คังหยางปล่อย ปิง หยาง ก่อน
ใครจะเห็นด้วยกับมัน?
นั่นคือสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ คิด
อย่างไรก็ตามคังหยาง อ่านแผนของเขาออกหมดแล้ว เขาไม่สนใจ ฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่เริ่มขยับนิ้วอีกครั้ง
”อ๊าข้า ข้า” สีหน้าของ ปิง หยาง เปลี่ยนเป็นสีแดง ริมฝีปากกลายเป็นสีม่วง นางกำลังถูกรัดคอ
”เอาล่ะเราจะสลับตัวกันตอนนี้เลย!”ฟาง เจิ้งจือ เริ่มกังวลอย่างแท้จริง
”อืม”คังหยาง พยักหน้าและหยุดลง
”แฮ่ก… แฮ่ก … ฟาง เจิ้งจือ เจ้ามันไร้ยางอาย ข้าจะให้เจ้าได้รู้สึกแบบเดียวกันนี้เมื่อข้ากลับไปได้” ปิง หยาง โกรธมาก
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกขมขื่น
เขายินดีที่จะทำแต่ปัญหาคือหลังจากการแลกเปลี่ยนตัวเชลย เขาจะถูกฆ่า
ตอนนี้เขาควรทำอะไรดี?
เขาไม่สามารถถ่วงเวลาได้อีกต่อไป
เขาต้องเดินต่อไป
การแลกเปลี่ยนตัวเชลยต้องเกิดขึ้นแต่ต้องเกิดขึ้นหลังจากกำลังเสริมมาถึงตอนนี้ไม่สามารถมอบ หยุน ชิงวู ให้คังหยางได้ นางเป็นไพ่ตายของเขา
”ดูหยุน ชิงวู เอาไว้!”ฟาง เจิ้งจือ กัดฟันขณะที่มองไปที่ ฉือ กูเหยียน เขาปล่อยมือนางและเดินไปหาคังหยาง
สีหน้าของฉือ กูเหยียน เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่า ฟาง เจิ้งจือ ปล่อยมือไป
”เจ้าไร้ยางอายกลับมา เป้าหมายของคังหยางคือตัวเจ้า ข้าจะเป็นคนแลกเปลี่ยนกับ หยุน ชิงวู เอง!”ฉือ กูเหยียน รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังจะทำอะไร
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ เร็วเกินไป
นางต้องการหยุดเขาแต่ ฟาง เจิ้งจือ เดินไปแล้ว นางไม่สมารถรั้งได้
เป็นเพราะว่า…
นางไม่สามารถทิ้งหยุน ชิงวู ไว้ลำพังได้
”เจ้า!ฮ่าฮ่า …เจ้ารู้จักเต๋าสวรรค์ไม่ใข่หรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ลังเลขณะที่เขาหันกลับมาเยาะเย้ย
เขารู้ว่าคังหยางกำลังเล็งที่เขา
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปล่อยห้ ฉือ กูเหยียน ไปเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้นปิง หยาง ถูกจับไปก็เพราะพยายามจะช่วยเขาด้วย
เพจหลัก: Gate of god TH