Gate of God - ตอนที่ 469-470
ตอนที่ 469 ไปตายซะ
คังหยางนั้นเร็วเกินไป เพียงพริบตาเดียว ฟาง เจิ้งจือ ก็กระเด็นออกไปไกล
เหล่าหัวหน้าถิ่นฐานต่างมองไปด้วยความไม่เชื่อ
พวกเขาอยากช่วยฟาง เจิ้งจือ
แต่พวกเขาทำไม่ได้
แม้แต่ซิง หยวน กัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ฟางเจิ้งจือ มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแสงสีฟ้าที่อยู่รอบๆตัวเขา
อย่างไรก็ตามเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่ปะทะเข้ากับหน้าอกของเขา
มันทรงพลังมาก
”เคร้ง!”เสียงแตกหักดังขึ้นฟาง เจิ้งจือ หน้าซีดทันที เขารู้ว่ามันเป็นเสียงอะไร
มันเป็นเสียงของกระจกป้องกันใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
มันเป็นของขวัญที่เขาได้รับมาจากฉือ กูเหยียน มันได้ช่วยชีวิตเขามาหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม…
กระจกไม่เกิดร่องรอยอะไรแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ กระจกลับแตกออกจากการโจมตีครั้งเดียวของ คังหยาง
มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพลังของคังหยางนั้นน่ากลัวขนาดไหน
มันทั้งเร็วและทรงพลัง
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของฟาง เจิ้งจือ
นั่นก็คือ…
ตาย!
ฟางเจิ้งจือ ได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งมามากมาย
ทั้งฉาน หลิง ที่โลกแห่งเซียน
แต่เขาก็สามารถเอาชนะมาได้
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับคังหยาง
ฟางเจิ้งจือ ดูไม่ออกแม้แต่น้อยว่าคังหยาง ทำอะไรอยู่ ทั้งหมดที่เขาเห็นคือภาพมัวๆเท่านั้น
เขาเห็นคังหยางพุ่งเข้ามาจากนั้นก็มองไม่เห็นอะไรอีก เขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่า คังหยาง นั้นโจมตีมาจากทิศทางไหน
ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือเดา…
”ทุกสิ่งที่เขาทำมานั้นไร้ประโยชน์จริงๆรึ?”ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำทุกสิ่งที่ควรทำไว้หมดแล้ว
เขาได้นำพาการต่อสู้มายังจุดที่เขาได้เปรียบที่สุดแล้ว
เขาไม่สามารถต่อสู้กับคังหยาง คนเดียวได้
แต่เขาคิดว่าซิง หยวนกัว และคนอื่นๆทำได้
เพื่อช่วยปิง หยาง เขาล่อคังหยาง ออกมา
เขาวางแผนทั้งหมดเอาไว้แต่มันก็ถูกทำลายอย่างรวดเร็วโดยคังหยาง
เขาแข็งแกร่งเกินไป
กับดักชั้นดีสามารถดักจับสัตว์ได้มากมายส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถหลบหนีได้ ยกเว้นจะรู้ถึงความลับของกับดักนั้น มีข้อยกเว้นเพียงข้อเดียวเท่านั้น
เมื่อสัตว์ตัวนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่ากับดัก
เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่แท้จริงกับดักก็เป็นได้แค่ของประดับฉาก เขาสามารถทำลายทุกอย่างที่อยู่ในเส้นทางของเขาได้
หากมีภูเขาในเส้นทางเขาก็สามารถทำลายมันทิ้งได้
หรือพุ่งผ่านมันไปได้ง่ายๆ
จะทำยังไงถึงจะหยุดเขาได้?
คังหยางยอมทิ้ง ปิง หยาง เพื่อตาม ฟาง เจิ้งจือ มาที่ประตูถิ่นฐาน ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของ ฟาง เจิ้งจือ
แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์
เขาสามารถพาฟาง เจิ้งจือ กลับไปยังตำแหน่งเดิมได้ง่ายๆ หรือที่ไหนก็ได้ตามที่เขาต้องการ
เขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้
ฟางเจิ้งจือ กระอักเลือดออกมา
”ตูม!่
ร่างของเขาปะทะพื้นดินหินและทรายสาดกระเซ็นไปทั่ว
แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมดทันทีที่ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ปะทะกับพื้น แสงสีฟ้าก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง
มันเป็นการโจมตีแบบเดียวกัน
”ตูม!่
พื้นดินแตกออกเป็นสองฝั่ง
คราวนี้ฟาง เจิ้งจือ นอนนิ่งอยู่บนพื้นไม่สามารถหนีไปไหนได้ เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้ เขาต้องทนรับความรุนแรงของการโจมตีเอาไว้ทั้งหมด
กระจกป้องกันใจเริ่มแตกออกเรื่อยๆ
หัวใจ
หนึ่งในอวัยวะสำคัญ
ในโลกใบนี้หัวใจของแต่ละคนยังประกอบไปด้วยมิติพิเศษ
ความตั้งใจของคังหยางนั้นง่ายมาก เขาต้องการทำลาย ฟาง เจิ้งจือ รวมถึงมิติพิเศษด้วย ถ้าเขาไม่สามารถฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ได้ ก็ต้องมั่นใจว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไม่สามารถใช้พลังได้อีก
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าคังหยาง จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงทำสำเร็จ
แต่มันก็ไม่สำคัญ
เขารู้สึกราวกับวาหัวใจของเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
”เคร้ง!”ในที่สุดกระจกป้องกันใจก็แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นก็กระเด็นออกมาเช่นกัน
เข็ม,เล็บ, ขี้เถ้า, อาหาร, เสื้อผ้า …
สิ่งของมากมายกระจายไปทั่วพื้นมันเป็นหลักฐานว่ากระจกป้องกันใจได้พังแล้ว
”ฟางเจิ้งจือ!” ดวงตาขององค์หญิง ฉาน ยู่ เต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่มอง ฟาง เจิ้งจือ จากด้านบน
ดวดลายเมฆปกคลุมทั่วร่างของนาง
ขณะที่นางกำลังจะกระโจนเข้าสู่สนามรบก็มีแขนอันทรงพลังหยุดนางไว้
”เจ้าออกไปไม่ได้!”ฉาน หลิง เตือน
”อ๊าก!ให้ข้าไป ข้าต้องไปช่วยเขา! เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะดินแดนใต้ ให้ข้าไป…”
”เพี๊ยะ!”เสียงตบดังขึ้นชัดเจนลายเมฆบนร่างกายขององค์หญิง ฉาน ยู่ ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
”พานางลงไปและเฝ้านางเอาไว้!”
”รับทราบฝ่าบาท!่
…
ซิงหยวนกัว มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่นอนหน้าซีดหายใจรวยรินอยู่ เขาต้องการจะช่วย ฟาง เจิ้งจือ แต่เขารู้ว่าถ้าเขาพยายามช่วย
แน่นอนว่า…
หัวหน้าดินแดนปีศาจและรองหัวหน้าต้องเข้ามาช่วยด้วยเช่นกัน
เมื่อฟาง เจิ้งจือ มาอยู่ที่ริมกำแพงเขาสามารถช่วยได้โดยไม่ลังเล แต่การที่เขาจะกระโจนลงไปในสนามรบเป็นเรื่องที่ต่างกัน
ตามข้อตกลง…
ฟางเจิ้งจือ ควรแลกเปลี่ยนตัวเชลยกับ คังหยาง
”พี่เหยียน เจ้าไร้ยางอายกำลังจะตาย! ไป … ไปช่วยเขา!”ปิง หยาง อยู่ไม่ไกลจาก ฟาง เจิ้งจือ
นางรู้ดีว่าการโจมตีนั้นทรงพลังแค่ไหน
แม้ว่านางจะเข้าใจฟาง เจิ้งจือ ผิดไปเล็กน้อย…
แต่ปิง หยาง …นางไม่ได้โง่
ร่างกายของฉือ กูเหยียน สั่นเทา แม้แต่นางก็สัมผัสได้ถึงความรุนแรงของการโจมตีนั้น อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
นางขยับไม่ได้แม้แต่นิ้วมือ
อย่างไรก็ตามนางสามารถหยุด คังหยางได้
”หยุด!”ฉือกูเหยียน ยกมือขึ้นจ่อที่ลำคอของ หยุน ชิงวู มือของนางเริ่มเปล่งแสงสีเงิน
คังหยางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
อย่างไรก็ตามแสงที่เปล่งออกมาจากร่างกายเขาไม่ได้หายไปแสงสีฟ้ายังคงปกคลุมร่างกายของเขาราวกับร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยท้องฟ้า
”เชี่ย!”ฟางเจิ้งจือ กระอักเลือดออกมาเต็มปาก
เขาขัดขืนคังหยาง
อย่างไรก็ตามเมื่อเลือดปะทะเข้ากับแสงสีฟ้ามันเหมือนปะทะเข้ากับโล่แก้ว ก่อนที่เลือดจะหยดลงพื้น
”ติ้งติ้ง … ”
เลือดไหลหยดลงมาเปื้อนเสื้อของฟาง เจิ้งจือ รวมไปถึงอาวุธลับและสิ่งของอื่นๆด้วย
ในของพวกนั้น…
มีหินก้อนหนึ่งเป็นหินสีดำ …
หินก้อนนั้นเป็นสีดำที่ดำสนิทอย่างไม่น่าเชื่ออย่างไรก็ตามเมื่อหยดเลือดสัมผัสโดนหินก้อนนั้น ราวกับว่ามันถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นมันไม่หลงเหลือคราบใดๆเอาไว้แม้แต่น้อย
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้สังเกตุเห็น
ตอนนี้เขามีเพียงความรู้สึกเดียวคือเจ็บปวดหน้าอกของเขาเจ็บปวดเป็นอย่างมากราวกับถูกแทง
แทงทะลุลงไปในหัวใจ
ความลังเลของคังหยาง…
นั้นสามารถคาดเดาได้…
หยุนชิงวู ยังอยู่ในกำมือของ ฉือ กูเหยียน ตราบใดที่ หยุน ชิงวู ยังอยู่ในสภาพนั้น ชีวิตของเขาจะยังไม่อยู่ในอันตราย
นั่นคือเหตุผลที่ฟาง เจิ้งจือ เลือกเดินไปข้างหน้า
แต่ตอนนี้…
เขาตระหนักว่ามีชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายตอนนี้ …เขาเริ่มอยากตายขึ้นมา
”เจ้า…เจ้าอยากทำลายมิติพิเศษของข้างั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ อยากจะลุกขึ้น แต่เขาถูกตรึงเอาไว้ด้วยพลังมหาศาล
นี่ไม่ใช่พันธนาการของเต๋าสวรรค์
นี่เป็นเพียงพลังที่เหนือกว่า
”ฮึ่ม…เจ้าฉลาดมาก! “คังหยางพยักหน้า จากนั้นหน้าของเขาก็เริ่มซีดขาวและกระอักเลือดออกมา
”เขาบาดเจ็บรึ?”ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าทำไมคังหยางถึงบาดเจ็บ แต่เขามั่นใจเลยว่านั่นไม่ใช่ฝีมือของเขา
การโจมตีของซิง หยวนกัว? หรือ หนานกง เฮา?
หรืออาจเป็น…
การสะท้อนกลับจากกระจกป้องกันใจ
นั่นไม่สำคัญฟางเจิ้งจือ รู้ว่าถ้าถูกคังหยางโจมตีเข้าอีกครั้ง…
เขาต้องตายลงแน่นอน
”ปล่อยข้าหรือจะให้ฆ่า หยุน ชิงวู พวกเราจะพบกับความเจ็บปวดทั้งคู่!”ฟาง เจิ้งจือ กระวนกระวายใจ ความลังเลของคังหยางนั้นทำให้เขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เขาเห็นว่าคังหยางยังคงสงบนิ่งราวกับสายน้ำแต่ ฟาง เจิ้งจือ ร้อนรนอย่างมาก
”ฆ่า!ยังไง?”เสียงที่อ่อนแอของคังหยางดังขึ้นอีกครั้ง
บางคนอาจถูกหลอกให้คิดว่าคังหยางอ่อนแอเพราะน้ำเสียงของเขาอย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าคังหยางนั้นมีพลังที่น่ากลัวมาก
”ถึงข้าจะทำไม่ได้แต่นางทำได้!”ฟาง เจิ้งจือ กัดฟันของเขา
”เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?ช่างน่าเสียดายที่ตอนนี้การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า นอกจากนี้ เจ้าควรจำไว้ว่านางไม่ใช่แค่ ฉือ กูเหยียน นางเป็นถึงผู้สืบทอดของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ และแม่ทัพของอาณาจักรเซี่ยในอนาคต” คังหยางยิ้ม
ฟางเจิ้งจือ มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของคังหยาง
เขาไม่ได้พูดแต่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป
แม้คังหยางจะพูดเช่นนั้นแต่ทุกอย่างก็เป็นความจริง ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีอะไรมาแก้ตัว
ฉือกูเหยียน ไม่สามารถฆ่า หยุน ชิงวู ได้
นางคือฉือ กูเหยียน ผู้บัญชาการในอนาคตของอาณาจักรเซี่ย นางต้องคิดถึงผลประโยชน์ของทั้งอาณาจักรเซี่ยและดินแดนภูเขาทางใต้
”ชิงวู…ใกล้ถึงเวลที่นางจะฟื้นได้แล้ว” คังหยางหัน ‘มอง’ ในตำแหน่งที่ห่างไปจาก หยุน ชิงวู เล็กน้อย
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมคังหยางถึงหยุดหลังจาดได้ยินคำพูดของฉือ กูเหยียน
ในตอนแรก…
เขาคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา
แต่ความจริงแล้วคังหยางได้ควบคุมทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์
เหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่คือ…
คังหยางกำลังรอ
เขากำลังรอให้หยุน ชิงวู ได้สติ เขาอยากให้ หยุน ชิงวู ได้เห็น
ร่างของหยุน ชิงวู ขยับเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาจะค่อยๆเปิดออก
จากดวงตาที่จ้องมอง…
นางยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามนางได้สติอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นดาบแสงที่จ่อคอนางอยู่ นางหันไปมอง ฉือ กูเหยียน
จากนั้นก็มองไปที่คังหยาง และ ฟาง เจิ้งจือ
”เจ้าพยุงข้ายืนขึ้นได้ไหม?”หยุนชิงวู มองไปที่ ฉือ กูเหยียน
”อืม”ฉือ กูเหยียน พยักหน้าและเก็บดาบแสงของเธอ
หยุนชิงวู ไม่พูดอะไรในขณะที่นางกำลังลุก นางมองดูที่ ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของนางดูซับซ้อน
”ข้าขอถามอะไรเจ้าเป็นอย่างสุดท้ายได้ไหม?”
”เจ้าจะถามอะไรข้าก็ได้แต่ข้าไม่รับประกันว่าจะตอบ” ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่า หยุน ชิงวู จะมีคำถามอะไรมาถาม หลังจากที่เขาทำให้นางสลบไป
คำถาม…
อาจจะเป็นแค่การซ้ำเติม
นางคงอยากจะเยาะเย้ยที่ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้น?
ฟางเจิ้งจือ ก็กำลังคิดคำตอบเช่นกัน
เขาจะตอบกลับไปว่า…
”ไปตายซะ!”
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 470 ตายหรือมีชีวิต
หยุนชิงวู มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นก็มองไปบนท้องฟ้า นางไม่รู้สึกประหลาดใจกับนิสัยของ ฟาง เจิ้งจือ เท่าไรนัก
”เจ้าคิดว่าดวงจันทร์คืนนี้สวยไหม?”่
”เชี่ย…หืม?นั่นคือคำถามของเจ้าหรอ?” น้ำเสียงของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปทันที
”ใช่นั่นคือคำถามของข้า” หยุน ชิงวู พยักหน้า
”ดวงจันทร์… สวยมาก!” ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้ามองดวงจันทร์ยามค่ำคืน ถ้าไม่ใช่ว่าเขานอนจมกองเลือดอยู่…
เขาถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากที่จะชมดวงจันทร์
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่คิดว่านี่จะเป็นคำถามของหยุน ชิงวู
”อืมข้าคิดว่ามันค่อนข้างงดงามเช่นกัน” หยุน ชิงวู เงยหน้าขึ้นมองอย่างเงียบสงบ
ฟางเจิ้งจือ ไม่สามารถสงบใจลงได้
เขาไม่รู้ว่าทำไมหยุน ชิงวู ถึงถามเขาเกี่ยวกับดวงจันทร์ แต่เขารู้ว่าหลังจากนางถามเสร็จ ก็มีฝ่ามือพุ่งเข้ามาที่หน้าอกเขาทันที
มันเป็นฝ่ามือที่ดูแก่ชรา
”ในฐานะครึ่งเซียนเจ้าคิดจะแอบลอบโจมตีข้างั้นรึ? ถ้าเจ้ากล้า ก็ให้ข้าขอชื่นชมดวงจันทร์อีกสักพัก!” ฟาง เจิ้งจือ เอี้ยวตัวหลบ
เขารู้ดีว่าฝ่ามือนี้ทรงพลังขนาดไหน
เขายังรู้…
จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น…
คังหยางลังเลไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ พูด…
แต่เขาเลือกที่จะไม่โจมตี
ฟางเจิ้งจือ อยากจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาทำไม่ได้
เพราะมันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นคังหยาง เยือกเย็นเป็นอย่างมาก
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร
ความมั่นใจ…
หรือเพราะการตัดสินใจ…
เขารู้ว่าคังหยาง ได้ตัดสินใจไปแล้ว
”หรือข้าจะต้องตายจริงๆ?!”ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังดวงจันทร์และกลุ่มดาวบนท้องฟ้า เขารู้ว่าถ้าการโจมตีครั้งต่อไปจากคังหยาง เร็วพอเขาจะตายโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด ที่เขาไม่รู้คือเขาจะไปที่ไหนต่อหลังจากเขาตาย
หลังจากเขาตายในโลกก่อนเขาก็ถูกพามาที่โลกนี้ หลังจากใช้เวลาในโลกนี้มาหลายปีเขาก็คุ้นชินกับมัน
มันเป็นโลกที่สวยงาม
ดอกไม้ที่งดงามน้ำที่ใสสะอาด แมแต่อากาศก็เต็มไปด้วยความสดชื่น…
ฟางเจิ้งจือ รักทุกสิ่ง
ที่นี่ไม่มีมลพิษทางอากาศและน้ำ
ฟางเจิ้งจือ ชอบที่จะเดินทางไปยังที่ต่างๆบนโลกใบนี้
ที่สำคัญกว่า…
เขามีครอบครัวอันอบอุ่น
”พ่อแม่…ถ้าพวกท่านรู้ว่าข้าตาย…พวกท่านจะเศร้าขนาดไหนนะ?” ภาพมากมายผุดเข้ามาในหัว ฟาง เจิ้งจือ
ตอนที่ผู้อาวุโสหมู่บ้านภูเขาทางใต้พาเหล่ากองตรวจการศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในหมู่บ้าน
นั่นเป็นวันแรกที่ฟาง เจิ้งจือ ได้สัมผสถึงลังในโลกใบนี้
ตอนที่ทุกคนในหมู่บ้านต่างน้ำตานองหน้าเพราะฟาง เฮ่าเตอ และกลุ่มนักล่าบาดเจ็บสหาหัส
นั่นคือวันที่ฟาง เจิ้งจือ ได้ใช้พลังในโลกใบนี้
วันที่ฟาง เจิ้งจือ กับครอบครัวออกจากหมู่บ้านภูเขาทางใต้
นั่นคือวันที่เขาได้ใช้ประโยชน์จากพลังของเขาอย่างเต็มที่
จากนั้น…
ทุกวันที่เขากลับบ้านตอนเย็นมักจะมาพร้อมกับเหยื่อที่เขาล่าได้”ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!”่
”บ้าน…ข้าจะกลับไปได้ไหมนะ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปบนท้องฟ้าด้วยความเศร้า
”เจิ้งจือเจ้ายังไม่กลับมาอีกหรอ?”
”เจิ้งจือเจ้าเป็นความภูมิใจของหมู่บ้านพวกเรา!”
”เจิ้งจือได้เป็นเจ้าหน้าที่แล้ว! หมู่บ้านของเรายอดเยี่ยมมาก! มีทั้งการสร้างโรงเรียน รวมถึงถนนด้วย!”
”ใช่!”เขาคือความภูมิใจของพวกเรา!่
…
”เจ้าดูพอหรือยัง?”คังหยางขัดจังหวะทำให้ ฟาง เจิ้งจือ กลับมาสู่ความเป็นจริง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ตอบ
เขาดิ้นรนมามากแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับคังหยาง ก็มีเพียงแค่ความตายรอเขาอยู่เท่านั้น…
แต่เขาก็ยังจะดิ้นรนต่อไป
มือ,เท้า, ฟัน …
ฟางเจิ้งจือ ใช้ทุกสิ่งที่ร่างกายสามารถใช้ได้
”อ๊าก!”พลังมหาศาลปะทุออกมา
แรงที่เกิดมาจากมิติพิเศษของเขาไม่เหมือนครั้งที่แรงที่พลังของเขาระเบิดออกมาเป็นรอบๆ
แต่มันระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง!
ราวกับแม่น้ำที่พยายามจะทำลายตะหลิ่งอย่างไม่ยอมแพ้
ฟางเจิ้งจือ ไม่มีความคิดที่จะถอยกลับ ความคิดเดียวของเขาคือใช้ทุกสิ่งที่เขามี
”ตูม!”พลังทำให้ชุดของคังหยางพัดไปด้านหลัง
ร่างกายของคังหยางเคลื่อนไหว …
ราวกับเขาถูกยกขึ้นจากพื้นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามเขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วและพุ่งลงมาใส่ ฟาง เจิ้งจือ อย่างรุนแรง
”พี่เหยียนฟาง เจิ้งจือ จะตายแล้ว!ท่านต้องไปช่วยเขา!” ปิง หยาง ตะโกนออกมาด้วยความกังวล
นางเป็นกังวลอย่างแท้จริง
พูดตามความเป็นจริงนางไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงกังวล…
”เจ้าหน้าด้าน!”ฉือ กูเหยียน หน้าซีด ไม่มีใครเคยเห็นนางเป็นแบบนี้มาก่อน
ขณะที่เสียงของนางทะลุผ่านอากาศไป
ลำแสงสีเงินก็พุ่งลงมาปะทะพื้นดิน
มันส่องสว่างราวกับกับรวมแสงของดวงดาวนับไม่ถ้วนเอาไว้และรวมพลังเพื่อโจมตีไปที่คังหยาง
”ตูม!”เสียงระเบิดดังดังลั่น
ร่างกายของคังหยางสั่นสะท้าน แต่เขาไม่หลบ ในความเป็นจริงเขาไม่พยายามจะหลบแม้แต่น้อย ปล่อยให้ลำแสงที่พุ่งลงมาปะทะเข้ากับร่างกายของเขา
ร่างกายอันผอมบางของคังหยางเหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ที่ไม่ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เขายกมือขึ้นและมองไปยังฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาอันดำมืดของเขา
”ข้าคิดว่าเจ้าคงดูพอแล้วนะ”คังหยางพูดออกมาอย่างนิ่งสงบ
เมื่อฟาง เจิ้งจือ มองไปยังดวงตาคู่นั้น..
เขาหมดหวังเป็นครั้งแรกที่ความพยายามของเขาไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้น
พลังอันรุนแรงที่เขาปล่อยออกมาก่อนหน้านี้พัดอาวุธลับและของต่างๆที่อยู่รบๆตัวเขากระเด็นออกไปไกล
เขากำลังเผชิญหน้ากับครึ่งเซียน
”ข้ายังไม่ได้แต่งงานเลย!”ฟาง เจิ้งจือ มีเรื่องให้เสียใจมากมาย แม้ในโลกก่อนหน้านี้ เขายังหาแฟนไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในโลกนี้เขามีความสามารถอันไร้ขีดจำกัดแต่ตอนนี้เขากำลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว
ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากยอมรับมัน
แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
กระจกป้องกันใจของเขาพังทลายไปแล้วมีอะไรที่ป้องกันการโจมตีของ คังหยาง ได้บ้าง?
เกราะ!
เขาเคยได้เกราะดีๆมาชุดหนึ่งนี่!
ฟางเจิ้งจือ คลำไปรอบๆตัวเขา แต่เขาก็พบว่าชุดเกราะนั้นก็กระเด็นออกไปไกลเช่นกัน
เขาพูดไม่ออก
เขาไม่มีแม้แต่ชุดเกราะ
ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ คิดมือของเขาก็สัมผัสเข้ากับหินสีดำก้อนหนึ่ง
”หินนี้คือ… “ฟาง เจิ้งจือ เจอมันตอนที่หนีออกมาจากกลืนกินโลก
อย่างไรก็ตามหินก้อนนี้ดูไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อยเขาทิ้งมันไว้ในกระจกป้องกันใจเฉบๆ
หินนี้…
ยังไม่พังไปอีกหรือ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าหินก้อนนี้คืออะไร หรือทำอะไรได้
เขาไม่มีเวลามานั่งคิด
คังหยางได้โจมตีมาที่หน้าอกของเขาอีกครั้งแล้ว
เขาไม่ต้องคิดมากอะไรอีกต่อไป
ฟางเจิ้งจือ วางหินไว้ที่หน้าอกของเขา เขาไม่ต้องสนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว…
”ตูม!”
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความรุนแรงจากการโจมตีครั้งนี้
เขาไม่สามารถหลบได้
แม้เขาจะวางหินขวางเอาไว้แรงที่ส่งผ่านมายังเขาก็ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้าง
เขามั่นใจว่าเขาต้องตายแน่นอน
อย่างน้อยที่สุด…
มิติพิเศษของเขาก็น่าจะถูกทำลาย
”ข้าอยากรู้ว่าจะอยู่โดยไม่มีมิติพิเศษได้ไหม?แล้วจะอยู่ได้นานเท่าไรกัน?” ฟาง เจิ้งจือ คิดเรื่องนี้กับตัวเอง
เขากำลังรอ…
เขากำลังรอให้มิติพิเศษแตกสลาย
อย่างไรก็ตามหลังจากลังเลสักครู่เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขารู้สึกคือความเจ็บปวด
หรือคังหยางเมตตากับเขา?
เขาล้มเลิกความคิดนี้ไปคังหยางไม่มีทางแสดงความเมตตา
งั้น…
ทำไมเขาไม่ตาย?
เขามองไปที่คังหยาง
คังหยางเองก็มองกลับมาที่เขา
ตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ฟาง เจิ้งจือ ความนิ่งสงบของเขาได้หายไป
ราวกับฟาง เจิ้งจือ ได้หย่อนหินลงไปในทะเลสาบ
ก้อนหิน!
ฟางเจิ้งจือ มองก้อนหินบนหน้าอกที่ส่องประกายอยู่ตอนนี้
ก่อนหน้านี้มันทั้งดำและว่างเปล่า
ตอนนี้มันเปล่งแสงเจิดจ้าเป็นอย่างมาก
แสงสีเงินผสานเข้ากับดาวบนท้องฟ้า
”หินก้อนนี้เป็นสมบัติ!”ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง
แม้แต่คนบ้าก็รู้ว่าหินก้อนนี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้เขาไม่รู้ว่าก้อนหินกลายเป็นสิ่งมีค่าไปได้ยังไง
แต่…
มันก็ดีกว่าเขาไม่มีอะไรเลย
นอกจากนี้เขาได้วางหินก้อนนี้ไว้ในกระจกป้องกันใจบางที่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้…
ถ้าไม่มี…
เขาก็จะคิดว่ามันเป็นขยะชิ้นหนึ่งละกัน
แสงจากอกของฟาง เจิ้งจือ ดึงดูดสายตาของทุกคน
ทุกคนบนกำแพงต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
”นั่นคืออะไร?”
พวกเขาคิดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถตอบคำถามนั้นได้
กองทัพปีศาจที่อยู่เบื้องหลังหยุน ชิงวู ก็สับสนเช่นกัน หัวหน้าดินแดนต่างตกตะลึง
พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง…
อย่างไรก็ตาม…
พวกเขาไม่ได้ตั้งคำถามแต่พวกเขาหวาดกลัว…
”นั่นมัน…”
”นั่นมัน…กลืนกินโลก!”
”เป็นไปได้ยังไง?!ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงมีมันได้?!”
เพจหลัก: Gate of god TH