Gate of God - ตอนที่ 481 -482
ตอนที่ 481 ร่วมมือ
เหล่าปีศาจต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกับมือของพวกเขาที่สั่นสะท้าน พวกเขาไม่สามารถทำให้มือของตัวเองนิ่งได้
”เขายังเป็นคนอยู่อีกหรือ?”
ความคิดเดียวกันผุดขึ้นในใจของเหล่าปีศาจ
นอกจากนี้ยังมีอีกคำถามหนึ่ง
การโจมตีนั้นเกิดจาก…
ความบังเอิญ?
หรือเป็นเพราะพลังจริงๆ!
ถ้าเป็นเพราะพลังนั่นก็หมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถ…
ไม่มีทาง!
พวกเขาลบความคิดนั้นออกไปทันที
มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญ…
แต่มันบังเอิญมากเกินไป…
อย่างแรกหนานกง เฮา รบกวนประสาทสัมผัสโดยการใช้ดาบ จากนั้นเขาก็บังคับให้คังหยางดึงแสงแห่งเซียนกลับไปในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
มันเหมือนเป็นกับดักเพราะเมื่อ คังหยาง เพ่งความสนใจไปที่หน้าผาก
…
โศกนาฏกรรมก็ได้เกิดขึ้น
”ไร้ยางอาย!ไร้ยางอายที่สุด!”
ปีศาจรู้ว่านั่นเป็นโอกาสของฟาง เจิ้งจือ แต่จะมีสักกกี่คนที่หาโอกาสเช่นนี้ได้
และต่อให้หาได้การโจมตีจะได้ผลงั้นหรือ?
เพราะคังหยางเป็นเซียน!
การจะลอบโจมตีเซียนได้นั้นเขาต้องสามารถโจมตีได้ในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเป็นอย่างมาก…
ช่างน่ากลัวจริงๆ!
…
บนพื้น…
คังหยางคุกเข่าอยู่ ด้วยใบหน้าอันซีดขาว เขากัดริมฝีปากของเขา…
เขาพบเจอกับความเจ็บปวดอันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
เขาต้องการจะยืนขึ้นแต่ใครก็ตามที่เจอแบบเขาคงเข้าใจว่าการลุกขึ้นยืนนั้นยากขนาดไหน
แม้เขาจะเป็นเซียนแต่เขาก็ถึงกับเหงื่อตก
”อาจารย์!”หยุนชิงวู ตกใจมากเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะหันมาหาคังหยาง ทันที…
ผู้ที่นางให้ความเคารพดั่งพ่อของตนเอง…
และตอนนี้…
เขากำลังพบกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส…
หยุนชิงวู สงสัยเหลือเกินว่ามันจะดีแค่ไหนถ้านางช่วยเขาแบ่งเขาความเจ็บปวดได้…
อย่างไรก็ตามเมื่อนางคิดถึงตรงนี้…
ร่างกายของนางก็สั่นเทา
แม้แต่ตัวนางก็ไม่อยากเจอกับความเจ็บปวดเช่นนั้น
นางรู้สึกผิดเล็กน้อยที่คิดแบบนั้น
แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่นางจะทนได้
คังหยางไม่ได้ตอบ หยุน ชิงวู เขาหันหน้าหนีไปจากนาง
เขาไม่อยากให้หยุน ชิงวู เห็นท่าทางของเขาในตอนนี้
เขากำหมัดแน่น
เส้นเลือดทั่วแขนของเขาปูดนูน
…
ร่างทั้งสองร่างเผชิญหน้ากันอยู่บนท้องฟ้า
หนึ่งในนั้นอยู่ในชุดนักปราชญ์สีขาว
อีกคน…
ทั้งร่างเปลือยเปล่าแต่ชุ่มไปด้วยเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้าจิตสังหารรอบๆตัวเขาราวกับเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย
ฟางเจิ้งจือ ไม่มีความสูงส่งเทียบเท่า หนานกง เฮา
อย่างไรก็ตามเขามีความป่าเถื่อนและจิตสังหารอันรุนแรง
ดวงตาของเขานั้นสำคัญที่สุด
มันแตกต่างจากปกติเป็นอย่างมาก
สำหรับฟาง เจิ้งจือ …
เขาไม่ได้สนอะไรมาก…
ความจริงเขารู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก ราวกับร่างกายของเขากำลังยืนอยู่บนไฟ ไฟที่เผาผลานออกมาจากข้างใน
มันร้อน…
ร้อนแรงจนเขาอยากจะถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด
แต่…ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยเลือด ตอนนี้โลกที่เขาเห็นนั้นแปลกไป
มันเป็นสีแดงสีน้ำเงิน สีเขียว สีม่วง …
ที่สำคัญเขาสัมผัสได้ถึงความต้องการฆ่าในใจของเขา
มันทำให้เขาดูเหมือนจะสูญเสียเหตุผลไปแต่นอกจากนั้นในใจของเขายังมีความสงบอยู่เช่นกัน
หรือพูดให้ชัดเจน…
ความสงบที่ทำให้จิตสังหารของเขาเบาบางลง
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเขามีพลังอยู่ในระดับไหนและรักษาระดับนี้ไว้ได้นานเท่าไร
อย่างไรก็ตามเขารู้สิ่งหนึ่ง…
เขาต้องกดดันฝ่ายตรงข้ามให้ได้
เขาพุ่งไปที่พื้นราวกับเหยี่ยวพุ่งใส่คังหยางที่คุกเข่าอยู่
เขาต้องการความได้เปรียบในสถานการณ์ในตอนนี้
ฟางเจิ้งจือ เร็วมาก เขามองไปยังดวงตาที่ไร้ประกายชีวิตของคังหยาง
ขณะที่ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ข้างหนึ่งเป็นสีม่วงแปลกๆ
”ตูม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อฟาง เจิ้งจือ ปะทะกับพื้น เขาเร็วจนทุกคนมองร่างของเขาไม่ชัด
”เร็วมาก!”
ปีศาจต่างมองด้วยความตกตะลึง
ฟางเจิ้งจือ กำลังเผชิญหน้ากับความตาย!
เขาไม่รู้หรือว่าการโจมตีครั้งก่อนหน้าที่ได้ผลเป็นเพราะโชคช่วยเท่านั้น?
ปกติ…
เราควรจะโจมตีซ้ำในเวลาที่ได้เปรียบแต่ คัง หยาง เป็นเซียน
เซียนผู้ทรงพลัง!
หากปราศจากหนานกง เฮา ที่สร้างการรบกวนประสาทสัมผัส การโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ก็จะไม่เป็นผล
พวกเขารอดูฟาง เจิ้งจือ พ่ายแพ้อีกครั้ง ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีผลไม้เหลืออีกแล้ว เขาไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้
ช่วงเวลาต่อมา…
ฝุ่นเริ่มเบาบางลง…
ร่างที่โชกเลือดสามารถมองเห็นได้ชัดเจน…
ไม่ไกลจากเขามีร่างในชุดสีฟ้ามือของเขายันไว้ที่พื้น ขณะที่ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว
”เขาหลบ?!”
เหล่าปีศาจต่างไม่เชื่อพวกเขารู้ว่าคังหยาง สามารถหลบได้ แต่พวกเขาไม่คิดว่าคังหยาง จะหลบ
ทำไมเขาต้องหลบ?
คังหยางเป็นเซียน!ทำไมเขาต้องหลบการโจมตีของมนุษย์?!
ปีศาจมองไปที่คังหยางตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเขาไม่เข้าใจ
จนกระทั่ง…
พวกเขาเห็นหัวหอกอยู่ในมือคังหยาง
มันเป็นหัวหอกที่หักแล้วปลายของมันมีหยุดเลือดไหลลงมา
”แกร้ง!”
ก่อนที่มันจะหล่นลงกับพื้น
ร่างกายของคังหยางดูเหมือนจะไม่สามารถทรงตัวไว้ได้
”หอก?มาจากไหนกัน?”
”ทำไมคังหยาง ถึงมีมันอยู่ในือ? และทำไมมันถึงหัก?”
”นอกจากนั้นมันยังเปื้อนเลือด… เลือดของใคร?”
ความคิดผุดขึ้นมาในใจของปีศาจทุกกตนใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว
แน่นอนว่า…
พวกเขาโกรธแค้น
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมคังหยาง ถึงหลบ
”เขาจริงๆแล้ว… ”
ปีศาจมองไปยังร่างที่ยืนอยู่หน้าคังหยางพวกเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เป็นไปได้อย่างไร…
คนเราจะไร้ยางอายขนาดนี้ได้อย่างไร?!
เขากล้าใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้ได้ยังไง?
เขาไม่คิดจะรักษาศักดิ์ศรีตัวเองไว้บ้างหรือ?
เหล่าปีศาจไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้
หยุนชิงวู ตกตะลึง
นางแทบล้มไปกับพื้นหัวของนางว่างเปล่า
”เขา… เขา … เขาใช้หัวหอกจริงงั้นหรือ?!”
ปีศาจไม่ใช่คนเดียวที่อึ้งแม้แต่มนุษย์ก็เช่นกัน
”หัวหอก?จริง ๆ แล้วเขา … ”
”เลวมาก!่
”…”
มนุษย์ล้วนพูดไม่ออก
ฉือกูเหยียน, ปิง หยาง แม้แต่ หนานกง เฮา ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
”เอ่อ…”
”…”
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้ยินเสียงพูดคุยรอบๆ แต่เขาก็สามารถเดาความคิดพวกนั้นได้
สำหรับเขาแล้วเขาถูกบังคับ!
เขาทำอะไรอื่นได้งั้นหรือ?
ใช้เพียงนิ้วมืออย่างเดียวมันไม่แข็งแกร่งพอ!
โอกาสนี้…
หายาก…
เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะเข้าใกล้คังหยางได้เขาคิดจะแทงคังหยาง จากด้านหลัง
อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าลอง
คังหยางเป็นเซียน…
เขาไม่รู้ว่าร่างกายของเซียนแขงแกร่งเพียงใดเพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ของเขาถูกป้องกันโดยแสงแห่งเซียนมาโดยตลอด
ดังนั้น…
เขาไม่อยากเสี่ยง
และเขาไม่รู้ว่าแทงคังหยางจากด้านหลังจะเกิดประโยชน์อะไรไหมเขาไม่มีทางเลือก มากนัก
เขาต้องโจมตีจุดที่คังหยางน่าจะป้องกันได้น้อยที่สุด
การโจมตีของฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่ได้ถึงตาย
สุดท้ายแล้วคังหยาง ก็ต้องเป็นผู้ชนะอยู่ดี
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ยังคงพยายามอย่างถึงที่สุด
ฟางเจิ้งจือ ไม่ลังเลที่จะโจมตีอีกครั้ง เขาใช้ประโยชน์ในตอนที่คังหยาง บาดเจ็บ
”ตูม!”
เสียงระเบิดดังก้องอีกครั้ง
คังหยางกลิ้งไปด้านข้าง ใบหน้าของเขาซีดขาว บนพื้นมีคาบเลือดเปื้อนอยู่
”พวกเจ้ากำลังรออะไรอยู่?เข้ามาช่วยสิ!” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ หนานกง เฮา และเหล่ามนุษย์
เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
แต่คนพวกนี้ยังคิดจะยืนดูเฉยๆ?
คังหยางบาดเจ็บแล้ว! นี่คือเวลาที่จะโจมตี! พวกเขากำลังรออะไรอยู่?
ท่าทีของหนานกง เฮา เปลี่ยนไปทันที
ในฐานะตระกูลหนานกงเขามีศีลธรรมอันดีงามแม้ คังหยาง จะเป็นศัตรู แต่เขาก็นับถือคังหยาง ในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่ง
แต่….
เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องเหล่านั้นมันเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของดินแดนใต้ และอาณาจักรเซี่ย
ดาบสรรสิ่งกู่ร้อง
หนานกงเฮา ไม่ลังเล เขาพสานร่างเข้ากับหายุดาบ พร้อมพุ่งเข้าไปหา คังหยาง
ขณะที่หนานกง เฮา เคลื่อนไหว…
แสงสีม่วงพุ่งออกมาซิง หยวนกัว ก็โจมตีเช่นกัน
ชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
ในสงครามทุกอย่างเป็นเกมที่ยุติธรรม
ถ้ามีโอกาสเช่นนี้ซิง หยวนกัว ก็อาจจะตัดสินใจแบบเดียวกับ ฟาง เจิ้งจือ…
เขาสามารถคิดได้ตั้งแต่แรก!
เสียงดาบดังขึ้นรอบตัวคังหยาง
”เปลี่ยนแปลงกฎ!”
ลำแสงสีม่วงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็พุ่งเข้ามาเช่นกันมันพุ่งเข้าหาหน้าผากของคังหยาง
นอกเหนือจากแสง…
มีผู้ชายหนึ่งคน…
ทั่วร่างปกคลุมไปด้วยเลือดดวงตาข้างหนึ่งของเขาเป็นสีม่วง
เวลาดูเหมือนจะหยุดลง
ทั้งปีศาจและมนุษย์ต่างมองไปที่จุดจุดหนึ่ง
นั่นคือจุดที่ทั้งสามร่างมาบรรจบกันตรงกลางเป็นผู้หนึ่ง
ผมสีเงินของเขาพัดไปตามสายลมดวงตาของเขาไร้แสงแห่งชีวิต
แต่เขายังกัดฟันแน่น
เขากัดฟันแน่นจนเห็นเส้นเลือดบนใบหน้าของเขา
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 482 ต่อสู้กับความตาย
มันกำลังจะจบ…
พวกเขาทุกคนตกอยู่ในความตึงเครียด
ร่างของทั้งสามคนรวดเร็วมาก
พวกเขาเขาไปล้อมรอบคังหยางเอาไว้ในชั่วพริบตา
อย่างไรก็ตามคังหยางไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยเขาจ้องไปข้างหน้าด้วยสายตาที่มืดบอดคู่นั้น
จากนั้นร่างทั้งสามก็รวมเป็นหนึ่ง
ดาบฝ่ามือ และกำปั้น
ดาบฟาดฟันลงไปที่หัวของคังหยางแต่ก็พลาดไปถูกไหล่ของเขาจนเลือดไหลออกมา
ฝ่ามือ…
มาจากด้านข้าง
นี่คือการโจมตีของซิง ฉิงซุย ผู้ช่ำชองการศึก เขาไม่ได้เล็งไปที่ด้านหลัง ต้นขา หรือก้นของ คังหยาง…
เขาเล็งไปที่คอ
อย่างไรก็ตามฝ่ามือของเขาก็พลาดไปถูกหน้าอกคังหยางแทน ‘แกร้ก’ เสียงของกระดูกที่แตกหักดังขึ้น
ส่วนกำปั้น…
เป็นกำปั้นของฟาง เจิ้งจือ
การโจมตีของฟาง เจิ้งจือ ดูธรรมดาแต่ก็รุนแรง
ฟางเจิ้งจือ เล็งไปที่ใบหน้าของคังหยาง
การโจมตีครั้งนี้…
จะทวีคูณความเจ็บปวดของคังหยางขึ้นไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องการจะทำให้ฟันของคังหยางหลุดออกจากปาก
อย่างไรก็ตาม…
คังหยางรับหมัดของฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ด้วยฝ่ามือ
เข้าเป้าหรือไม่?
ไม่!
”เขามีเป้าหมายเป็นข้าแต่แรกอยู่แล้ว!”ฟาง เจิ้งจือ คิดในใจเมื่อการโจมตีถูกป้องกัน
เขาเป็นคนที่เร็วที่สุด…
แต่…
มีแค่การโจมตีของเขาที่ถูกป้องกัน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเห็นว่าฝ่ามืออีกข้างของคังหยางพุ่งมาทางเขาด้วยความเร็วแสง
หัวใจของฟาง เจิ้งจือ สั่นเทา
เห็นได้ชัดว่าคังหยางต้องการแก้แค้นเขายินดีที่จะรับการโจมตีของ หนานกง เฮา และ ซิง หยวนกัว เพียงเพื่อจะโจมตี ฟาง เจิ้งจือ
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่ฟาง เจิ้งจือ ต้องการ
ฟางเจิ้งจือ จะไม่ยอมถูกคังหยางโจมตีแน่ เพราะเขาจะตายถ้าถูกคังหยาง โจมตีแม้แต่ครั้งเดียวก็ตาม
”ระวัง!่
ในตอนนั้นเองเสียงของ ซิง หยวนกัว ดังขึ้นข้างๆเขา มันดังมากเสียจน ฟาง เจิ้งจือ หูอื้อ
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่า ซิง หยวนกัว เตือนให้หลบ แต่เขาเห็นการโจมตีของคังหยางแล้ว
ซิงหยวนกัว คิดว่าเขาตาบอดงั้นรึ?
ในขณะนั้นเองแสงสีทองก็เปล่งออกมาที่ตรงหน้าของเขามันราวกับแสงของดวงอาทิตย์ …
มันสว่างยิ่งกว่าแสงแห่งเซียนก่อนหน้านี้เสียอีกมันส่องสว่างจนทำให้ท้องฟ้าเป็นสีทอง
”ฟางเจิ้งจือ!”่
เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังลั่นไปทั่วอากาศ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกบางอย่างไม่เหมาะสม เขาลังเลและเตรียมจะหลบการโจมตีหลังจากที่คังหยางเล็งเป้ามาที่เขา
แต่มันก็สายเกินไป
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างมากดทับที่หน้าอก
หน้าอก…
สำหรับมนุษย์แล้วเปรียบดั่งดวงตาปีศาจ
เขาก้มหน้าลงและเห็นฝ่ามือหนึ่งอยู่ที่หน้าอกเขาเขาตกใจมาก ฝ่ามือนี้ไม่ควรโผล่มาทางนี้ …
การโจมตีของคังหยาง…
เป็นเพียงการหลอกตา!
เหงื่อไหลเต็มหน้าผากฟาง เจิ้งจือ ในที่สุดเขาก็เข้าใจที่คังหยางหลบไปเรื่อยๆ …
…
ฟางเจิ้งจือ รู้ชัดถึงความหมายนั้น แต่เขาไม่คิดเลยว่าผู้เป็นเซียนจะใช้วิธีเช่นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียนที่พึ่งถูกทำให้อับอายมา
ผู้เป็นเซียนจะทนใช้วิธีนี้ได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ ประเมิณคังหยางต่ำไป…
คังหยาง
เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดก่อนที่หยุน ชิงวู จะพบเขา ความอดทนของเขาเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่มีทางเข้าใจได้ง่ายๆ
”ตูม!”
เกิดเสียงระเบิดอันดังก้องขึ้น
แสงสีทองพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
”อั้ก!”หนานกงเฮา กระอักเลือดออกมา เขายังคงถือดาบอยู่ในมือ แต่ตัวของเขากระเด็นออกไปด้านข้าง
ทุกคนกระเด็นออกไป…
รวมถึงซิง หยวนกัว
เขาก้าวถอยในทันทีแต่แสงสีทองยังคงส่งผลกระทบที่หน้าอกของเขา เสียงกระดูกแตกหักจากภายใน
คังหยาง
เซียน…
เขาจะใจเย็นอยู่ได้อย่างไรกับความอัปยศที่ได้รับ!เขาจะโจมตีทุกวิถีทางก่อนที่จะหาวิธีเอาชนะพวกเขาทั้งหมด
นี่เป็นสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ไม่ทันคิด
ซิงหยวนกัว กระเด็นออกมาอย่างช่วยไม่ได้ …
ฟางเจิ้งจือ ต้องการถอยเช่นกัน …
ทันใดนั้น…
ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนก็เข้ามาในหัวของฟาง เจิ้งจือ
ย้อนกลับไปตอนที่เขาถูกคังหยางตรึงร่างเอาไว้ตอนนั้นเหมือนเท้าข้างหนึ่งของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ก้าวเข้าไปในความตายแล้ว
ตอนนี้เหมือนเขาได้ลงชื่อยอมรับในความตายของตัวเองแล้ว
”เขาต้องการจะฆ่าเราทั้งหมด?!”ฟางเจิ้งจือ รู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งที่หน้าอกของเขา
เขาไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าเขาไม่ตอบโต้กลับไปในตอนนี้นั่นหมายความว่าเขายอมรับความตาย
เขาต้องต่อสู้!
เขากัดฟันและไม่สนใจฝ่ามือที่หน้าอกเขายกกำปั้นขึ้นและเหวี่ยงไปที่คังหยาง
มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นที่ผ่านเข้ามาในใจของเขา
โจมตีคังหยาง!
”ตึง!”่
การโจมตีที่เปี่ยมด้วยพลังมันกระทบกับหน้าของคังหยาง ทำให้กระดูกมากมายแตกหัก แต่คังหยางไม่ได้เคลื่อนไหว
คังหยางคงจ้องมาที่ฟาง เจิ้งจือ อย่างต่อเนื่อง
เขายินดีรับการโจมตีของฟาง เจิ้งจือ
แสงแห่งเซียนสว่างขึ้น
มันสว่างและเร่าร้อนราวกับดวงอาทิตย์ส่องสว่างจนท้องฟ้าเป็นสีทอง …
ฟางเจิ้งจือ เหล่ตาลงมอง
เขารู้สึกถึงแสงแห่งเซียนที่อยู่ใกล้เขาว่ามันพยายามจะดูดซับพลังของเขาไป
ความรู้สึกแสบร้อนไปทั่วร่างกายทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเขารู้สึกเหมือนตัวเองทรงพลังมากกว่าแต่ก่อน
แต่…
ในขณะนั้นเขารู้สึกถึงอันตราย…
นี่เป็นอันตรายที่เขาไม่เคยพบมาก่อน
เซียน!
นี่คือพลังของเซียนงั้นหรือ?
แม้เขาจะกินผลไม้ทั้งหมดเข้าไปแม้จะสามารถควบคุมกลืนกินโลก …เขาก็ไม่สามารถเอาชนะเซียนได้
เขาไม่อยากจะยอมรับเรื่องนี้!
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร…
ฟางเจิ้งจือ ตัดสินใจจะใช้ทุกอย่างที่เขามี เขาไม่มีกลอุบายอะไรให้ใช้อีกต่อไป เขาได้ใช้กลืนกินโลกและผลไม้แห่งเต๋าไปหมดแล้ว
ตอนนี้เขาเกือบจะชนะแล้ว
เขาต้องใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มี!
ฟางเจิ้งจือ กำหมัดแน่น เขาพร้อมสำหรับศึกสุดท้าย เขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขา
”อ๊าก!ไปลงนรกซะ!”
เขาตะโกน
แสงประหลาดสีม่วงได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามันสามารถเห็นได้ชัดเจนผ่านแสงแห่งเซียนเสาแสงสีม่วงนั้นล้อมรอบไปด้วยแสงสีอื่นๆ
แดงน้ำเงิน เขียว เหลือง …
”ตูม!”
ตอนนั้นพื้นดินก็แตกออกเกิดรอยแยกขึ้นมากมายราวกับใยแมงมุม มันขยายออกไปทั่วทิศทาง
สรวงสวรรค์เริ่มสั่นคลอน
รอยแตกก็เริ่มแพร่กระจายในท้องฟ้าความมืดเริ่มกลืนแสงสว่าง
”เกิดอะไรขึ้น?!”
”มันคืออะไร?”
”มันอาจจะเป็น…”
ปีศาจต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้แต่เหล่ามนุษย์ก็ตกตะลึงทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป
พวกเขาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผละจะเป็นยังไง?
ไม่มีใครรู้…
พวกเขาเห็นแสงสีม่วงพุ่งทะลุแสงแห่งเซียนสีทอง
ตอนนี้…
พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนฝุ่นผงและเศษหินลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ต้นไม้มากมาย เศษกำแพง และร่างกายผู้คนเริ่ม …
”หรือว่า…”
”กลืนกินโลกกำลังพังทลาย!”
”ท่าไม่ดีแน่!”
ทุกคนต่างตระหนัดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมหันไปมองทั้งสองร่างที่สู้กันอยู่
อย่างไรก็ตาม… ร่างทั้งสองนั้นหายไป
พูดให้ชัดเจน
พวกเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยเมฆฝุ่น
แสงแห่งเซียนและแสงประหลาดสีม่วงหายวับไป
แสงสีเงินส่องสว่างขึ้นจากที่ที่ทั้งสองร่างยืนอยู่จากนั้นแสงสว่างก็ระเบิดออก
ต้นไม้เริ่มจางลง…
จากนั้นก็หายไป…
ตามมาด้วยแผ่นดินไหว…
เกิดคลื่นทรายยักย์กระจายไปทั่วทิศกลางโดยมีแสงสีเงินนั้นเป็นศุนย์กลางมันพร้อมจะกลืนกินทุกอย่างที่ขวางทางมันเอาไว้
เพจหลัก: Gate of god TH