Gate of God - ตอนที่ 483-484
ตอนที่ 483 อยู่หรือตาย
ท้องฟ้านั้นมืดมิด
ไม่มีแสงสว่างบนท้องฟ้าแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงฝุ่นและทรายกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
หยุนชิงวู ไม่ได้เคลื่อนไหว ปล่อยให้ทรายเข้ามาปกคลุมนางเอาไว้
ฉือกูเหยียน และ ปิง หยาง เองก็ไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน
ซิงหยวนกัว เองก็ล้มลงอยู่ที่พื้น ซิง ฉิงซุย อยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก
”ท่านพ่อ!”ซิง ฉิงซุย พยายามพยุง ซิง หยวนกัวขึ้น
อีกด้านที่มุมปากของ หนานกง เฮา มีเลือดไหลออกมา ขณะที่ข้างๆเขามีดาบปักอยู่ อย่างไรก็ตามร่างกายที่สั่นสะท้านของเขาทำให้เห็นได้ชัดเจน…
เขาได้รับบาดเจ็บ…
บาดเจ็บสาหัส!
ฉานหลิง ยืนอยู่เงียบๆขณะที่พายุทรายพัดเข้ามาหาเขา เหล่าทหารและหัวหน้าถิ่นฐานได้หายไปจากสายตาเขาแล้ว
หลังจากผ่านไปนาน…
รอยแตกบนพื้นได้หายไปแทนที่ด้วยต้นไม้ที่ค่อยๆเติบโต ดวงอาทิตย์ส่องแสงท่ามกลางหมู่เมฆ
ร่างจำนวนมากเริ่มปรากฎให้เห็น
ปีศาจและมนุษย์…
กำแพงสีดำของเนินเขาเหล็กเองก็เห็นได้อย่างชัดเจนมันมีร่องรอยพังทลายมากกว่าเดิมพอสมควร
มนุษย์รวมทั้งสิ่งที่อยู่รอบๆยังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามมนุษย์และปีศาจมีท่าทีที่แตกต่างกันมากมาย
”นายน้อยกลับมาแล้ว!”
”กลืนกินโลกพังทลายไปแล้ว!”
ทหารปีศาจต่างตะโกนร้องด้วยความดีใจ
อย่างไรก็ตามหยุน ชิงวู ไม่ได้แสดงความยินดีออกมาแม้แต่น้อย ทหารและ หยุน ชิงวู ที่ไปติดในกลืนกินโลกมาต่างมองไปที่กลางทุ่งหญ้า
ตรงนั้น…
มีสองร่างอยู่…
สายลมพัดชายเสื้อสีฟ้าและผมสีเงินโบกสะบัดไปเบาๆใบหน้าของเขาซีดขาว
”หรือว่า…”
เหล่าปีศาจต่างมองไปด้วยความไม่เชื่อสิ่งที่คังหยาง เป็นอยู่ในตอนนี้สามารถอธิบายได้ทั้งหมด
ที่สำคัญที่สุดคือ…
มีใครบางคนอยู่ด้านหน้าคังหยาง
เป็นชายคนหนึ่งที่ปกคลุมด้วยเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้าร่างกายของเขาเปลือยเปล่าพร้อมกับผมอันยุ่งเหยิง ไม่มีคำพูดไหนอธิบายได้ว่าเขาโศกเศร้าเพียงใด
ที่สำคัญที่สุดฝ่ามือของเขาอยู่บนหน้าผากของคังหยาง
…
มันอยู่บนสัญลักษณ์สีทอง!
”เป็นไปได้ยังไง?!”
”เขาทำมันได้…อย่างไร”
ปีศาจที่รอดชีวิตมาจากกลืนกินโลกต่างเต็มไปด้วยความสงสัยพวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในกลืนกินโลก
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ก็ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของพวกเขาได้
ทุกคนที่ออกมาจากกลืนกินโลกได้ต่างยืนเงียบ…
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าตอนจบจะเป็นแบบนี้
คังหยางตายแล้วเหรอ? หรือ ฟาง เจิ้งจือ ที่ตาย?
กลืนกินโลกได้พังทลายลงแล้ว!
นั่นหมายความว่าฟาง เจิ้งจือ ตายแล้ว อย่างไรก็ตามฉากที่อยู่ด้านหน้าของพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่สามารถสรุปได้
ทั้งคังหยาง และ ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีใครแสดงท่าทีอะไรออกมา
แสงสีทองแห่งเซียนได้หายไป…
พร้อมกับแสงสีม่วงแปลกๆจากฟาง เจิ้งจือ …
”ชีวิตหรือความตาย?ใครอยู่? ใครตาย?”
โดยปกติแล้วคงเป็นเรื่องง่ายถ้าฟังจากเสียงหัวใจแต่ฉากข้างหน้ามันทำให้พวกเขายากที่จะเดา
ใบหน้าของซิง หยวนกัว นั้นซีดขาว แต่เขายังจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และคังหยาง อย่างใจจดใจจ่อ
หนานกงเฮา เก็บดาบแล้วเช่นกัน แต่สายตาของเขาไม่เคลื่อนไหวไปไหน
ฉานหลิง รู้สึกกังวลน้อยลงมาก เขาพิงกำแพงเมือง ยืนรออย่างอดทน
ชุดสีขาวของหยุน ชิงวู พัดไปตามสายลม
”ท่านอาจารย์… ” หยุน ชิงวู พึมพัม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าและสิ้นหวัง
มีร่างสองคนยืนอยู่ข้างๆนาง
ชุดสีชมพูของฉือ กูเหยียน ยังคงสะอาดเหมือนเคย แต่ท่าทีของนางดูไม่ดีเท่าไรนัก
นางรู้ว่าการพังทลายของกลืนกินโลกนั้นหมายความว่ายังไง
”เจ้าไร้ยางอายคุณ… เจ้าตายไม่ได้ … ” ฉือ กูเหยียน พึมพำกับตัวเอง
”อ๊าก!ปล่อยข้าไป! เจ้าไร้ยางอาย… “เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นทำลายความเงียบลง
อย่างไรก็ตามนางหยุดตะโกนเกือบจะทันที…
เป็นเพราะว่า…
นางรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ…
เมื่อนางดิ้นนางก็พบว่านางสามารถเคลื่อนไหวได้!สิ่งที่พันธนาการร่างนางไว้ได้หายไปแล้ว!
นางไม่ได้ถูกควบคุมโดยเต๋าสวรรค์แล้วงั้นหรือ?
คังหยางตายแล้ว?
นี่คือสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวนางนางตื่นเต้นมาก ปกตินางคงจะจัดงานฉลองไปแล้ว
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลที่อธิบายไม่ได้บางอย่างนางไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเฉลิมฉลอง
”นี่เจ้าไร้ยางอาย! นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า! มาปกป้องข้าซะ ข้าเป็นองค์หญิง! ได้ยินไหม? ฟาง เจิ้งจือ!!!” เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้น
อย่างไรก็ตาม…
ไม่มีคำตอบ
เงียบ
มีแต่ความเงียบ…
มีเพียงเสียงที่เกิดจากสายลมอ่อนๆที่ปะทะร่างทุกคนเท่านั้นตอนนี้เป็นเวลาสายๆ ดวงอาทิตย์ยังไม่แสบตามากนัก
หลังจากเงียบไปนาน…
ความเงียบถูกทำลายอีกครั้ง…
มันเป็นอาการไอเบาๆ เสียงที่อ่อนแอและแหบพร่า ดูเหมือนคนส่งเสียงจะอ่อนแอมาก
”แค่กๆ…”
เมื่อได้ยินเสียงไอ…
ท่าทีของปีศาจต่างเปลี่ยนไปพวกเขาไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ยินดีเป็นอย่างมาก!
น้ำตาคลอในดวงตาของหยุนชิงวุ
ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอาบแก้มของนาง…
”แค่กๆ…”
”อะแฮ่ม!”เสียงดังขึ้นอีกครั้ง
ร่างหนึ่งเริ่มขยับชายเสื้อสีฟ้าเริ่มเคลื่อนไหวเบาๆ
”ไม่ดีแล้วเขายังไม่ตาย!”ปิง หยาง ร้องอย่างตกใจ
อย่างไรก็ตาม…
นอกจากความตกใจมันยังเต็มไปด้วยอารมณ์อันซับซ้อนอื่นๆ
อารมณ์ของนางนั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็น คัง หยาง เคลื่อนไหว…
นางพุ่งออกไปทันที!
ไม่มีใครรู้ว่าปิง หยาง กำลังคิดอะไรอยู่ …
แม้แต่ตัวนางก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่นางไม่ได้เร็วมาก แต่หอกฉีหลินในมือของนางเริ่มสำแดงพลังออกมาแล้ว
เสาเพลิงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
มีแสงสีทองเป็นประกายอยู่ที่ปลายหอก
”ไม่!”
”ปิงหยาง!”
ขณะที่ปิง หยาง พุ่งออกไปก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงของ หยุน ชิงวู และ ฟาง เจิ้งจือ
หยุนชิงวู ไม่เร็ว …
นางไม่สามารถหยุดปิง หยาง ได้
ฉือกูเหยียน เร็วกว่า นางจึงสามารถขวาง ปิง หยาง เอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อนางเห็น หยุน ชิงวู พุ่งออกมา นางจึงชะลอความเร็วลง
”ปิงหยาง อย่าไป!” ฉือ กูเหยียน ไปขวางหน้า หยุน ชิงวู แทนแต่สายตาของนางยังคงจับจ้องที่ ปิง หยาง
หยุนชิงวู หยุด
นางมองไปที่ฉือ กูเหยียน ขณะที่ทั่วหน้าของนางอาบไปด้วยน้ำตา
สำหรับปิง หยาง…
นางไม่คิดจะหยุด
นางฟังฉือ กูเหยียน เสมอ ไม่ว่า ฉือ กูเหยียน จะพูดอะไร นางจะฟังโดยไม่มีเงื่อนไขเสมอ
นั่นเพราะ
นางคิดว่าฉือ กูเหยียน ถูก…
แต่ตอนนี้นางไม่หยุด
ปิงหยาง ไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะนางถูกพันธนาการร่างไว้นานเกินไป
หรือบางที่นางอาจจะต้องการระบายความผิดหวังใส่คังหยาง
เพราะในฐานะองค์หญิงของอาณาจักรเซี่ยการถูกควบคุมนั้นเป็นเรื่องที่นางไม่สามารถรับได้
แน่นอนว่า…
นางคิดว่าสิ่งที่นางทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ปิงหยาง ไม่หยุด
นางดันหอกไปด้านหน้าแสงสีทองเล็งไปที่คังหยาง
เพลิงยังคงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเรื่อยๆ
จากนั้น…
พวกมันก็หายไป…
แม้แต่แสงสีทองที่ปลายหอกก็หายไป
การโจมตีของปิง หยาง นั้นแร็วและทรงพลังมาก แต่มันกลับถูกหยุดอย่างรวดเร็ว
นางหยุดนิ่งสายตาจ้องไปที่ปลายหอก
มีมือจับอยู่ที่ปลายหอกของนาง
มือที่หยุดหอกฉีหลินหนึ่งในสิบสมบัติอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเซี่ยเอาไว้ได้
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 484 เซียนก็ยังคงเป็นเซียน
ตาของปิง หยาง เบิกกว้าง นางไม่เชื่อ เป็นการแสดงออกที่หาได้ยากจาก ปิง หยาง
นางพยายามแทงปิง หยาง
นางมั่นใจมากว่าไม่มีใครจะหยุดหอกของนางได้
แม้คังหยางจะบาดเจ็บ แต่ ปิง หยาง ก็อยู่เพียงระดับผนวกดารา …
อย่างไรก็ตามปิง หยาง ก็ตกใจมาก…
ดวงตาของนางแทบถลนออกมาจากเบ้า
”เจ้า… ” ปิง หยาง ต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ทุกครั้งที่นางอ้าปาก นางไม่สามารถหาคำมาอธิบายความตกใจของนางได้
ปิงหยาง ไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ
แม้แต่หนานกง เฮา, ฉือ กูเหยียน หรือแม้แต่ ซิง หยวนกัว เองก็ตกใจเช่นกัน
คนที่จับหอกฉีหลินของปิง หยาง ไม่ใช่ คังหยาง…
แต่เป็น..
ฟางเจิ้งจือ!
มือที่เปื้อนเลือดของเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผกระทบจากพลังโจมตีของหอกเลยแม้แต่น้อย
”เป็นไปได้ยังไง?”
”เขายังไม่ตายใช่ไหม?!”
”แต่เขาไปเอาพลังมาจากไหน?มิติพิเศษของเขาไม่ได้พังไปแล้วหรือ? เขาไม่มีผลไม้แห่งเต๋าแล้วด้วย เขาทำได้ยังไง?”
ปีศาจต่างไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น …
ฟางเจิ้งจือ ไม่ตาย …
มันน่าตกใจมากไม่เพียงแต่เขาจะมีชีวิตรอด เขายังมีพลังพอที่จะหยุดหอกฉีหลินได้!
อะไรกัน?!
ทุกคนต่างตกใจ…
แม้แต่พวกมนุษย์ก็เช่นกัน
”เกิดอะไรขึ้น?”
”ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้เชื่อมโยงมิติพิเศษ เข้ากับกลืนกินโลกงั้นหรือ? ตอนนี้มันพังทลายไปแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ยังมีพลังอยู่ได้ยังไง?!”
”เกิดอะไรขึ้น?”่
ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน
มันไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับพวกเขา…
อย่างไรก็ตาม…
มันไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก…
พลังงานของมนุษย์มาจากมิติพิเศษฟาง เจิ้งจือ ได้เชื่อมโยงมันเข้ากับกลืนกินโลก ซึ่งตอนนี้กลืนกินโลกได้ถูกทำลายไปแล้ว…
ฟางเจิ้งจือ ควรจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
การพัฒนาพลังในอนาคตของเขาย่อมเป็นปัญหาไม่มีใครคิดว่าเขาจะหยุดหอก ฉีหลินได้ ที่สำคัญเขาได้กินผลไม้แห่งเต๋าไปทั้งหมดแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
ไม่มีใครเข้าใจ
แสงอาทิตย์สะท้อนกับชุดเกราะของปิง หยาง เป็นประกาย มันเป็นภาพที่สวยงาม แต่ไม่มีใครมองไปที่นาง
ทุกคนต่างมองไปยังร่างที่ยืนอยู่ด้านหน้านาง
ร่างนั้นเคลื่อนไหว
…
เขาดึงหอกฉีหลินมาไว้ในมือ
จากนั้นก็เอามาถือไว้
การแสดงออกของเขาอธิายทุกอย่างทั้งหมดแล้ว…
เขาลังเลก่อนที่จะยิ้มอย่างขมขื่น
ดวงตาของเขากลับเป็นปกติแล้ว
แสงสีม่วงหายไป
แสงหลากหลายสีก็หายไปเช่นกัน
ปิงหยาง ตกตะลึงเมื่อเห็นดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นนางก็จำบางอย่างได้…
เดี๋ยวก่อน…
เขากำลัง…
เอาหอกฉีหลินของนางไป?
ปิงหยาง รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พยายามทำอะไร นางเริ่มรู้สึกโกรธ…
ถ้าไม่ใช่ว่ากระจกป้องกันใจถูกทำลายหอกของนางคงถูก ฟาง เจิ้งจือ เอาไปแล้ว
”เจ้ากล้ามากนะ!เจ้ากล้าขโมยหอกของข้า?” ปิง หยาง เดือดดาลเป็นอย่างมาก นางต้องการจะคว้ามันกลับมา
อย่างไรก็ตามเมื่อนางมองไปที่คังหยาง…
นางก็สงบลง…
หอกฉีหลินจะมีประสิทธิภาพมากกว่าในมือของฟาง เจิ้งจือ
ขณะที่นางกำลังคิดนางก็เห็น ฟาง เจิ้งจือ ส่งหอกคืนมา
”ข้าคืนให้เจ้า”เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังออกมา
”คืน?”ปิง หยาง กระพริบตาด้วยความตกใจ นางไม่เข้าใจว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงคืนหอกมาในตอนนี้
หรือเขาตกลงอะไรกับคังหยางไว้?
พูดถึงคังหยาง…
ปิงหยาง มองหาเขาโดยไม่รู้ตัว
เขามองไปยังดวงตาอันว่างเปล่าที่อยู่บนใบหน้าอันอ่อนเยาว์สัญลักษณ์สีทองบนหัวเขาจางลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่มันยังคงอยู่และมีแสงสลัวๆนั่นแปลว่า …
เขายังคงเป็นเซียน!
เซียนที่ทรงพลัง
แล้วฟางเจิ้งจือ ล่ะ?
ปิงหยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่นางจะนึกได้ ตอนนี้นางอยู่ใกล้ ฟาง เจิ้งจือ และคังหยาง มากเกินไป
เป็นเพราะว่า…
การต่อสู้ยังไม่จบ!
ปิงหยาง ต้องการวิ่ง
แต่ตอนนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็พูดขึ้นมา
”เฮ้เจ้ามีชุดใหม่ให้ข้าไหม?”
”ชุด?”ปิงหยาง ตกตะลึง จากนั้นนางก็มองไปที่ตัวของ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่ใบหน้าของนางจะขึ้นสีทันที “เอ่อ ข้า เอ่อ ข้ามีกระโปรงอยู่ .. ”
”กระโปรง?งั้นเจ้าเก็บไว้ให้ตัวเองเถอะ” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวก่อนจะหันไปมองรอบๆ
ไม่นานเขาก็พบบางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขา
เขาเดินไปที่ศพปีศาจใกล้ๆ
ปิงหยาง บอกได้เลยว่ามันเป็นปีศาจระดับสูง เกราะและหมวกของมันต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจน
มันสดใสและแข็งแกร่ง…
แต่…
นั่นไม่ใช่ประเด็น…
ทำไมฟาง เจิ้งจือ ถึงกล้าเดินไปที่ศพนั้นอย่างเปิดเผย?
เขาไม่กลัวคังหยาง จับเขา?
ปิงหยาง รู้สึกแปลกๆ เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เดินไปที่ศพ คังหยางก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
เขาเริ่มเดินไปที่ปิง หยาง
”หยุดอยู่ตรงนั้น!อย่าคิดว่าข้าจะให้เจ้าทำตามใจชอบนะ ต่อให้เจ้าจะเป็นเซียนก็ตาม!” ปิง หยาง แผดเสียง
นางรู้ว่าคังหยางไม่คิดจะสนใจนาง
ความตั้งใจของนางเพียงเพื่อจะเตือนฟาง เจิ้งจือ ว่าตอนนี้นางอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตาม…
สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือ…
ฟางเจิ้งจือ เมินต่อเสียงของนาง เขาเดินไปที่ศพและถอดชุดเกราะออก จากนั้นก็สวมใส่มันช้าๆ
เหงื่อไหลลงมาบนหน้าผากปิง หยาง
นางไม่อยากตายที่นี่ถ้านางตายนางจะคอบตามหลอกหลอน ฟาง เจิ้งจือ ไปตลอดชีวิต
คังหยางเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ปิงหยาง ทนไม่ไหวแล้ว
นางจับหอกในมือแน่นกัดฟัน จากนั้นก็เล็งไปที่คอคังหยาง
”แกร้ง!”
หอกหล่นลงกับพื้น
ราวกับปิง หยาง ไม่ได้ถือมันแน่นพอ อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง รู้ว่าความจริง…นางถูกบังคับให้ปล่อยหอกนั้นทิ้ง
คังหยางอยู่ใกล้ ปิง หยาง
หัวไหล่ของพวกเขาเกือบจะชิดกันแล้ว!
ปิงหยาง ไม่ขยับ
อย่างไรก็ตามคังหยาง ยังเดินหน้าต่อไป
สำหรับฟาง เจิ้งจือ …
เขายังคงฮัมเพลงเบาๆขณะพยายามจัดชุดเกราะให้เข้ากับตัวเอง
ปิงหยาง โกรธมาก
ผู้ชายคนนี้กำลังทำอะไรอยู่?
เขาไม่รู้ผลลัพธ์ของการเมินข้าใช่ไหม?เขามั่นใจได้ยังไงว่า คังหยาง จะไม่โจมตี?
ที่สำคัญกว่า…
เขาได้รับพลังทั้งหมดจากที่ใด?เกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับคังหยาง?
ปิงหยาง มีคำถามมากเกินไป …
อันที่จริงคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจของทหารทุกคนพวกเขาดู ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง ด้วยความสับสน …
พวกเขาไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้
แม้แต่ปีศาจก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้…
หยุนชิงวู อยู่กับ ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง อยู่กับ คังหยาง ทำไมคังหยางถึงไม่จับตัว ปิง หยาง เพื่อแลกกับ หยุน ชิงวู?
ปีศาจมองไปที่คังหยางด้วยความสับสน
ตอนนั้นเองที่คังหยางเดินไปทางฉือกูเหยียน สัญลักษณ์บนหน้าผากของเขาจางลงอย่างชัดเจน
”แลกเปลี่ยนตัวประกัน”เสียงของ คังหยาง ดังขึ้น
”…”
ทั้งสนามรบตกอยู่ในความเงียบ…
ทุกคนคาดหวังว่าคังหยางจะพูดอะไรที่แตกต่างออกไป แต่กลับพูดสิ่งที่พวกเขาคิดเป็นตัวเลือกสุดท้ายว่าคังหยางจะพูดออกมา
”แลกเปลี่ยนตัวประกัน?”
”นี่เป็นเวลาที่จะหารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนตัวประกันงั้นหรือ!่”
เพจหลัก: Gate of god TH