Gate of God - ตอนที่ 487-488
ตอนที่ 487 การเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
เวลาผ่านไป
อีกไม่นานกองกำลังเสริมกำลังจะมาถึงนี่คือกองกำลังของอาณาจักรเซี่ยที่เดินทางมาจากถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง ฉาน หลิง ไม่ได้ยินดีกับเรื่องนี้เท่าไรนัก
สี่ชั่วโมงต่อมา…
การเสริมที่เหลือก็ได้เดินทางมาถึง
ทหารนับแสนเดินทัพเข้ามาในเนินเขาเหล็กขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นของพวกเขาถูกเติมเต็มจนนถึงจุดสูงสุด
จากนั้น…
เมื่อพวกเขาเห็นกองทัพปีศาจนอกเมืองการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่…
เนินเขาเหล็กสามารถต้านทานทัพอันน่ากลัวเช่นนี้ไว้ได้ยังไงกัน?
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทจากอาณาจักรเซี่ย เดินทางมาถึงแล้ว!” หนึ่งในหัวหน้าถิ่นฐานกระซิบกับ ฉาน หลิง
”อืม”ฉาน หลิง พยักหน้า
ตอนนั้นเองหลิน เทียนหลง ผู้สวมชุดสีเงินได้เดินเข้ามาพร้อม ซิง หยวนกัว
”ข้าเป็นองค์รัชทายาทของของแดนใต้ฉาน หลิง ยินดีที่ได้พบฝ่าบาท!” ฉาน หลิง หน้าซีด แต่เขาก็ไม่ลืมทักทาย หลิง เทียนหลง ด้วยความเคารพ
”ท่านไม่ต้องทำอะไรให้เป็นทางการหรอกปีศาจได้ก่อปัญหาขึ้นเล็กน้อย ท่านได้ลำบากมามากแล้ว เมื่อข้ากลับมาข้าจะขอให้ทหารมาประจำการอยู่ที่นี่” ดวงตาของ หลิน เทียนหลง เต็มไปด้วยความคิดขณะมองไปที่บาดแผลของ ฉาน หลิง
ฉานหลิง เหล่ตาลง
อาณาจักรเซี่ย?
กองทหาร?!
เขารู้ดีว่าองค์รัชทายาทหมายถึงสิ่งใดเขารู้ดีว่าหลิน เทียนหลง จะทำอะไร ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในดินแดนภูเขาทางใต้
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่สามารถเป็นปรปักษ์กับหลิน เทียนหลงได้
หน้าอกของเขาสั่นเทาขณะที่เผยรอยยิ้ม อย่างไรก็ตาม ความสนใจของเขาอยู่ที่กองทัพปีศาจบนสนามรบมากกว่า
”แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถยึดถิ่นฐานเนินเขาเหล็กพวกเขาก็ยังไม่ถอนทัพ แรงจูงใจของพวกเขาคืออะไร? องค์รับชทายาท เป็นท่านจะถอนกำลังหรือไม่?”ฉาน หลิง พูด
”ฮ่าฮ่า… ” หลิน เทียนหลง หัวเราะออกมาเขาไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจในคำถามและมองไปยังพวกปีศาจ
”การที่พวกเขาไม่ถอนทัพมีเหตุอยู่2 ประการ อย่างแรกคือ แม้พวกเขาจะแพ้สงครามครั้งนี้ พวกเขาก็ยังคงได้เปรียบอยู่ ถ้าพวกเขาถอนทัพพวกเขาจะเสียขวัญกำลังใจในการต่อสู้นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวสำหรับการถอนทัพ หยุน ชิงวู ฉลาดพอที่จะไม่สั่งถอนทัพทันที!”เสียงของ ซิง หยวนกัว ดังขึ้นมา
”เจ้าพูดถูกถ้า หยุน ชิงวู ยังอยู่ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลไปเพียงแต่เพิ่มการป้องกันอีกเสียหน่อย” หลิน เทียนหลง พยักหน้า
เมื่อฉาน หลิง ได้ยินเช่นนั้นแววตาของเขาก็เปล่งประกาย ในขณะที่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่
”ท่านพูดว่ามีเหตุ2 ประการ อย่างที่สองคืออะไร?”ฉาน หลิง ถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา
”ปล้น!ปีศาจต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการก่อสงครามครั้งนี้ พวกเขาตั้งใจจะยึดเมือง แต่ตอนนี้ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้แล้ว พวกเขาต้องมองหาอย่างอื่นแน่นอน”ซิง หยวนกัว กล่าวเพิ่ม
”ปล้น?! พวกเขาจะไปที่หนานหลิงงั้นหรือ?”ท่าทีของ ฉาน หลิง เต็มไปด้วยความตกตะลึง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือ
เขารู้ว่าหลิน เทียนหลง กำลังรอให้เขาทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามถ้าเขาขอความช่วยเหลือ…
สิ่งที่ต้องแลกมาต้องสูงค่ามากกว่าถิ่นฐานหนานหลิงแน่ๆ
แม้ว่าพวกอาณาจักรเซี่ยเต็มใจจะช่วยก็ตามพวกเขาก็ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับทองคำเท่าหยิบมือ
ผลก็คือ…
การขอความช่วยเหลือนั้นไร้ประโยชน์
ฉานหลิง ไม่พูด
หลังจากเงียบไปสักพักองค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ก็หัวเราะออกมา แววตาของเขาเปล่งประกาย
”ในเทื่อท่านพูดแล้วถ้าข้าช่วยปกป้องเนินเขาเหล็กไว้สักสามวัน ท่านจะตกลงหรือไม่?”
”ตกลงขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่าน!”
ฉานหลิง พยักหน้าและโดดออกจากกำแพง
”ฝ่าบาทพวกเราจะติดตามไปด้วย!”หัวหน้าถิ่นฐานติดตาม ฉาน หลิง ออกไป
”เอาล่ะมันอาจจะยากสำหรับพวกเจ้า ข้าจะปกป้องที่นี่เอาไว้เอง” หลิน เทียนหลง ยิ้มและโค้งตัว
หลินเทียนหลง หันหลังกลับไปและมองกองทัพปีศาจที่ราวกับทะเลสีดำด้านหน้า แววตาของเขาเยือกเย็นขึ้นมาทันที
…
ตกพลบค่ำ
ภายในบ้านหินขนาดใหญ่ในถิ่นฐานเนินเขาเหล็ก
การตกแต่งภายในมีความงดงามเป็นอย่างมากมันถูกตกแต่งด้วยหนังสัตว์ทั้งบนกำแพง ทั้งพรมบนพื้น
อัญมณีมากมายแขวนลงมาจากด้านบนเพดานส่องสว่างทั่วห้อง
หลินเทียนหลง ถอดชุดคลุมสีขาวและวางลงบนแผ่นหนัง ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เมื่อมาถึงที่นี่…
เขาได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้และเหตุการณ์ในกลืนกินโลก
”ฟางเจิ้งจือ! ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าการต่อสู้ที่นี่จะทำให้เจ้ามีชื่อเสียงขึ้นมา!”หน้าอก หลิน เทียนหลง สั่นไหวด้วยความโกรธ
”ฝ่าบาท,เจ้าหน้าที่ซูมาถึงแล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ดังขึ้น
ไม่นานเจ้าหน้าที่ซู ในชุดสีดำก็เดินเข้ามา
”เจ้าหน้าที่ซูมาได้จังหวะพอดี” หลิน เทียนหลง จ้องไปที่เจ้าหน้าที่ซู
ซูฉิง ไม่ได้ประหลาดใจกับเรื่องนี้เขารู้ดีว่า หลิน เทียนหลง รู้สึกอย่างไร
หลินเทียนหลง ไม่ใช่คนเดียวที่ตกตะลึง
เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่นี่เขาก็ตกตะลึงเช่นกัน
”ฝ่าบาทท่านกำลังกังวลเรื่องของ ฟาง เจิ้งจือ งั้นหรือ?”ซู ฉิง ถามเบาๆและโค้งตัวลง
”ฟางเจิ้งจือ?! ฮ่าฮ่า … เจ้าหน้าที่ซู ข้ารู้ว่าเจ้าอ่านสถานการณ์ได้ดีเยี่ยม แต่ครั้งนี้ข้าผิดหวังเสียจริง ไม่ว่าจะทำสิ่งใดสำเร็จ ณ ที่แห่งนี้ เขาไม่ได้มีผลอะไรต่อข้าแม้แต่น้อย “หลิน เทียนหลง ตอบอย่างรังเกียจ
”ท่านพูดถูกแล้วฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถทำอะไรท่านได้ แต่ … ” ซู ฉิง หยุดตัวเองเอาไว้
”แต่อะไร?พูดออกมา!”
”ฝ่าบาทท่านลืมเรื่องเกี่ยวกับผู้ส่งสารที่เดินทางมาที่ถิ่นฐานวานรน้ำแข็งไปแล้วหรือ?”
”ข้าได้สั่งชัดเจนแล้วและไม่มีอะไรบ่งชี้ได้ว่านั่นเป็นคำสั่งของข้า แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไปบอกองค์จักรพรรดิก็ตาม ท่านพ่อก็ไม่มีทางสาวถึงตัวข้าได้”
”ไม่มีหลักฐานแต่ไม่ได้หมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไม่เกลียดท่าน” ซู ฉิง พยักหน้า
”แล้วยังไง?”หลิน เทียนหลง ตอบอย่างไม่พอใจ
”การมีส่วนร่วมของเขาในครั้งนี้ฟาง เจิ้งจือ อาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง รวมไปถึงครอบครัวของเขาอาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชนชั้นสูงท่านรู้หรือไม่ว่ารัฐมนตรีกรมพิธีการตายไปแล้ว? ถ้าข้าคิดถูก องค์จักรพรรดิคงแต่งตั้งตำแหน่งนั้นให้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นแน่ ด้วยความสำเร็จของเขาในครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านี้นที่เขาจะได้เป็นรัฐมนตรี” ซู ฉิง กล่าวเพิ่ม
”พูดต่อ”หลิน เทียนหลง เริ่มเกิดความสนใจ
รัฐมนตรีกรมพิธีการ!
หนึ่งในหกรับมนตรีกรมที่รับผิดชอบด้านพิธีการและการฑูต มันเป็นหนึ่งในกรมที่สำคัญที่สุดในอาณาจักร เขาเคยควบคุมรัฐมนตรีมาแล้วครั้งหนึ่ง
แน่นอนว่า…
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดคือหลิน เทียนหลง รู้ว่าจักรพรรดิจะรวมโรงเรียนหลวงและกรมพิธีการเข้าด้วยกัน ถ้ามันเกิดขึ้นล่ะก็ …
อิทธิพลของกรมพิธีการจะเหนือกว่า
”ฝ่าบาทข้ามั่นใจว่าท่านยังไม่ลืมเรื่องการเดิมพันระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน ที่มีความเกี่ยวพันกับการแต่งงาน ก่อนหน้านี้ความเป็นไปได้ของเรื่องนั้นแทบเป็นศูนย์ แต่ถ้าหากเข้าขึ้นเป็นรัฐมนตรีกรมพิธีการล่ะ?” ซู ซิง ยิ้มออกมา
”เจ้ากำลังจะพูดถึงกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?”แววตาของหลิน เทียนหลง แข็งค้าง
”ถูกต้อง!ฉือ กูเหยียน เป็นนักยุทธศาสตร์ของราชาต้วนมาตลอด แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กับ ราชาต้วน จะมีเรื่องไม่ลงรอยกันบ้าง แต่ถ้า ฉือ กูเหยียน กับ ฟาง เจิ้งจือ แต่งงานกัน จะเกิดอะไรขึ้น?”
”พูดต่อไป”
”ถ้าฟาง เจิ้งจือ ได้เป็นรัฐมนตรีกรมพิธีการ รวมถึงลูกเขยของกองตรวจการศักดิ์สืทธิ์ รวมถึงท่าทีของ ซิง หยวนกัว ในวันนี้…ท่านคิดว่าสิบสามกองตรวจการจะวางตัวนิ่งเฉยอยู่อีกงั้นหรือ?”่
”เป็นไปไม่ได้!กองตรวจการความมั่นคงไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสงครามเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ มันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน!” หลิน เทียนหลง ตอบออกมาด้วยความมั่นใจ
”ในทางทฤษฎีมันอาจจะเป็นแบบนั้นถ้าสิบสามกองตรวจการร่วมมือกับราชาต้วน ตระกูลเหยียน…ท่านคงไม่สามารถรักษาบัลลังก์ไว้ได้”
”เพี้ย!
รอยแตกปรากฏขึ้นบนเตียงของหลิน เทียนหลง
เขาลุกขึ้นนั่งดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
”แผนของเจ้าคืออะไร?่
”้ข้ามีแผนที่จำทำให้ความดีความชอบที่นี่กลายเป็นของท่านทั้งหมด” ดวงตาของ ซู ฉิง เป็นประกาย
”ให้ความดีความชอบแก่ข้าทั้งหมด?ฮ่าฮ่า .. เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ สิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำในตอนนี้ทุกคนต่างเห็นชัดเจน มันจะเป็นไปได้ยังไง?” หลิน เทียนหลง ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน
”การขโมยเป็นวิธีที่ต่ำช้าที่สุดแต่แผนของข้าไม่ได้เป็นการขโมย แค่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์เล็กน้อย!”ซู ฉิง ส่ายหัว
”ฮ่าฮ่า… เจ้าวางแผนช่วยข้าเอาความดีความชอบทั้งหมด? เจ้าต้องบ้าไปแล้วแน่ ฮ่าฮ่า ทำไมเจ้าไม่บอกข้าล่ะว่าเจ้ามั่นใจในแผนการนี้แค่ไหน?” หลิน เทียนหลง หัวเราะ
”สิบเปอร์เซนต์!”ซู ฉิง ตอบโดยไม่ลังเล
”สิบ?เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่”ถ้าทีของ หลิง เทียนหลง แข็งค้างไปทันที
”ถ้ามันไม่ได้ผลข้าเต็มใจที่จะเอาชีวิตเข้าแลก!” ซู ฉิง ก้มหัวและคุกเข่าลง
”เอาล่ะบอกมาว่าแผนของเจ้าคืออะไร?!” หลิน เทียนหลง พยุง ซู ฉิง ให้ลุกขึ้นมา
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 488 เฉลิมฉลอง
…
ร่างทั้งสองร่างยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์
หลังจากกินและดื่มเรียบร้อยฟาง เจิ้งจือ ก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ สิ่งที่เขายังไม่ได้ทำตอนนี้คือหลับพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม…
เขายังคงเลือกที่จะนั่งพักอยู่กับฉือ กูเหยียน
ไม่มีเหตุผลพิเศษอาจจะเป็นเพราะเขาอยากขอบคุณนางที่ช่วยเขามาตลอด
ตอนนี้ไม่มีอันตรายใดๆแล้วอาจจะมีแค่เพียงเสียงของสัตว์ร้ายที่ดังขึ้นมาบ้างขณะที่พวกเรากำลังกินขนมกันอยู่ พวกเขาสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งๆที่มีกองทัพปีศาจล้อมรอบอยู่
มันเป็นค่ำคืนที่ดวงจันทร์สวยเป็นอย่างมาก
เขานอนเอนกายลงบนเก้าอี้และพาดขาไว้บนโต๊ะมือหนึ่งของเขาถือถั่วอยู่เต็มกำมือ
”เจ้ามีแผนอะไรหลังจากกลับไปเมืองหลวง?”ฉือ กูเหยียน แปลกใจที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ผ่อนคลายมาก
”ข้าคงไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือก่อน”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง ฉือ กูเหยียน
ตอนนี้นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินพร้อมกับลายดอกไม้ปักอยู่ที่หน้าอกของนาง
ฟางเจิ้งจือ ต้องยอมรับว่านางมีเสน่ห์มาก
เสียที่นางหยิ่งยโสเกินไปหน่อย
”แล้วไงต่อ?”ฉือ กูเหยียน ยังคงกดดัน ฟาง เจิ้งจือ
”ข้าคงจะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆ”
”และ?”
”แต่งงาน… เอ่อหาคนใช้สักร้อยคน”
”ร้อย?!”
”ใช่”
”ร้อยพองั้นรึ?”
”ฮ่าฮ่า…แค่นี้ข้าก็ต้องจ่ายค่าจ้างพวกเขามากเกินไปแล้ว”
”อืมมันเป็นเรื่องจริง”ฉือ กูเหยียน พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ฟางเจิ้งจือ เองก็เงียบ เขายังกินถั่วต่อไป แต่เขาพบว่ามันไม่อร่อยเหมือนเดิมแล้ว
คืนนี้อากาศหนาวเย็นมาก
มันเกือบจะถึงฤดูหนาวแล้ว
หลังจากนั้นสักครู่…
ฉือกูเหยียน ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
”เมื่อเจ้ากลับไปข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิคงมอบตำแหน่งรัฐมนตรีกรมพิธีการให้เจ้า เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
”งั้นข้าก็คงรับละมั้ง”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”การคัดเลือกผู้เข้าร่วมศาลาเต๋าสวรรจะเริ่มในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเจ้าจะเข้าร่วมไหม?” เสียงของนางนั้นสงบ แต่สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ว่าทำไมนางถึงถามและเขาก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว
ปัญหาเดียวคือ…
เขาจะสามารถทำได้หรือไม่?
มันดูเหมือนจะเร็วเกินไป…
ค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงบยิ่งนัก
ฟางเจิ้งจือ แหงนหน้าขึ้นและหลับตาลง
ฉือกูเหยียน ไม่ได้กดดันต่อ นางนั่งเงียบๆและมองดวงดาวบนท้องฟ้า
มันเป็นคืนที่เงียบสงบจริงๆ…
ห่างออกไปยังมีร่างหนึ่งยืนเงียบๆ…
นางสวมชุดหนังสีดำตัดกับผิวที่เปล่งประกายของนาง
นางยืนมองร่างทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยกันภายใต้แสงดวงจันทร์
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทและหัวหน้าถิ่นฐานกำลังรอท่านอยู่” ใครบางคนกระซิบข้างๆนางอย่างเคารพ
”ข้าเข้าใจแล้วมีการเคลื่อนไหวจากปีศาจหรือไม่?”
”ยังไม่ขอรับ”
”อืมถ่ายทอดคำสั่งของข้า หน่วยหมาปาเขาเงินจะช่วยป้องกันเนินเขาเหล็กด้วย จะต้องไม่มีจุดไหนที่ปีศาจเล็ดรอดเข้ามาได้! ใครที่ไม่เชื่อฟังให้ลงโทษซะ!”
”รับทราบ!”เสียงตอบกลับดังขึ้น ก่อนที่เขาจะหายไป
นางยังคงมองร่างทั้งสองอยู่อีกสักพักหนึ่งดวงตาของนางเผยความรู้สึกบางอย่างออกมา ก่อนที่นางจะจากไป
…
ยามรุ่งสางฉือ กูเหยียน ได้จากไปพร้อมกับ ปิง หยาง
กองทัพปีศาจยังคงตั้งทัพอยู่ที่ด้านนอกของเนินเขาเหล็กพวกเขายังคงฝึกซ้อมรบ แต่ไม่มีที่ท่าว่าจะโจมตี
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ว่างมาก เขาจึงเดินไปนั่งที่กำแพงเนินเขาเหล็ก
มักจะมีร่างหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของกระโจมปีศาจเสมอนางสวมชุดสีดำ
สามวันต่อมากองทัพปีศาจก็ได้ถอนทัพไป
สงครามแดนใต้ได้จบลงแล้ว
ในฐานะผู้บัญชาการซิง หยวนกัว ได้ตรงกับไปที่เมืองหลวงทันที ซิง ฉิงซุย และหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา รวมถึงทหารทั้งหมดก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…
องค์รัชทาทหลิน เทียนหลง ยังไม่ได้กลับไปทันที
ผู้เข้าสอบทุกคนก็เช่นกันพวกเขายังคงรองานเลี้ยงฉลองอยู่ที่แดนใต้
ในฐานะที่พวกเขามีส่วนร่วมในชัยชนะครั้งยิ่งใหญ๋…
ฟางเจิ้งจือ เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาตามเหล่าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้กลับไปที่เมืองภูเขาเซียนเพื่อร่วมฉลอง
ในเวลาเดียวกันที่เมืองหลวงของอาณาจักรเซี่ยก็มีการเฉลิมฉลองเช่นกกัน
ข่าวสงครามได้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแดนใต้ทำให้ทุกคนแทบบ้าคลั่ง
”เจ้าได้ยินไหม?ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับเซียน!”
”แน่นอนข้าต้องได้ยินอยู่แล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงาม!”
“มันน่าเสียดาย ที่นี่เป็นจุดจบของเส้นทางผู้ฝึกตนของเขา”
”แล้วยังไง?การมีส่วนร่วมในการต่อสู้นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับวางวัลเป็นอย่างมาก! ต่อให้เขาไม่ใช้ผู้ฝึกตนแล้ว เขาก็ยังถือเป็นคนสำคัญของอาณาจักรอยู่ดี! สิ่งที่เขาทำนั้นมีคุณค่าเป็นอย่างมาก!”
แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องพูดถึงฟาง เจิ้งจือ …
…
ในห้องบัลลังก์…
เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งรวมถึงองค์จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ตอนนี้พวกเขากำลังยินดีเป็นอย่างมาก
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม…
มันเป็นไปในทางที่ดีกว่าที่เขาคิดมากแม้ว่าพวกเขาจะพบกับความสูญเสียไปบ้าง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นกลับคุ้มค่าเป็นอย่างมาก องค์จักรพรรดิทรงยินดีเป็นอย่างมาก
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทเป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะในครั้งนี้ ตอนนี้เขาได้เจรจากับแดนใต้อยู่ ในความเห็นของข้า… ”
”คาดว่าซิง เฮ่า จะเดินทางมาถึงเมื่อไร?” องค์จักรพรรดิถามขึ้นมา พร้อมกับโบกมือให้เจ้าหน้าที่คนนั้นหยุดพูด
”ฝ่าบาทมีรายงานว่าเขาได้เดินทางออกมาจากดินแดนภูเขาทางใต้แล้ว เขาน่าจะมาถึงอีกห้าวันข้างหน้า” เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งก้าวขึ้นมาข้างหน้า ก่อนจะยิ้มเยาะเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้า
องค์รัชทายาท?
แน่นอนว่าเขาต้องมีส่วนร่วมในสงครามแดนใต้ในฐานหัวหน้าผู้คุมสอบ เขาก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะ
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ… การมีส่วนร่วมของเขานั้นเล็กน้อยมาก
”ตกลงคำสั่งของข้ามีดังนี้ บอก ซิง หยวนกัว ว่าไม่ต้องรีบ ให้เขาดูแลตัวเองด้วย ทุกเมืองจะจัดการต้อนรับเขา แล้วอย่าลืมให้รางวัลกับกองทัพด้วย” องค์จักรพรรดิพยักหน้า
”รับทราบฝ่าบาท!”
”ใช่แล้วฟาง เจิ้งจือ ยังอยู่ที่แดนใต้ใช่ไหม?” องค์จักรพรรดิเหมือนจะนึกเรื่องบางอย่างได้
”ฝ่าบาทฟาง เจิ้งจือ กำลังเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของดินแดนภูเขาทางใต้อยู่ เขาหน้าจะอยู่ที่นั่นอีกหนึ่งอาทิตย์ เขาน่าจะกลับมาพร้อมกับองค์รัชทายาท..” เจ้าหน้าที่ตอบ
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างมองหน้ากันพวกเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น…
พูดถึงฟาง เจิ้งจือ หลังจาก ซิง หยวนกัว…
นั่นหมายความว่าคุณค่าของเขาตอนนี้มากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสี่แล้ว
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้คัดค้านอะไร
อายุสิบหกปี…
เขาเป็นชายรุ่นเยาว์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตอนนี้แล้วและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สงครามครั้งนี้ชนะ
การต่อสู้กับคังหยางในกลืนกินโลก
เรื่องนี้จะทำให้เขาโด่งดังไปทั่วอาณาจักร…
แม้เขาอาจจะไม่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์หรืออะไรก็ตามอีกต่อไป…มันก็ไม่สำคัญแล้ว
”ตกลงนี่คือคำสั่งของข้า ฟาง เจิ้งจือ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของรัฐมนตรีกรมพิธีการ เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสามชั่วคราว รวมถึงเป็นตัวแทนของรัฐมนตรีกรมพิธีการและช่วยเรื่องการเจรจากับดินแดนภูเขาทางใต้” องค์จักรพรรดิออกคำสั่ง
”รับทราบฝ่าบาท!” เจ้าหน้าที่ทั้งหมดตอบทันที
ไม่มีใครกล้ายกความจริงเรื่องที่พลังของฟาง เจิ้งจือ ถูกทำลายไปจนหมดแล้วมาพูด แม้แต่รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายยู่ ยี่ปิง ยังทำได้แค่หลับตา และพยายามรักษาความสงบเอาไว้
พวกเขาทั้งหมดได้ยินคำว่า”ชั่วคราว”
เจ้าหน้าที่ระดับสาม?ชั่วคราว?
เขาได้รับการเลื่อนขั้นทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้กลับมาที่เมืองหลวงแล้วรางวัลที่เขาจะได้รับหลังจากกลับมาที่เมืองหลวงละ? ไม่มีใครคาดเดาได้แม้แต่น้อย
เพจหลัก: Gate of god TH