Gate of God - ตอนที่ 501 -502
ตอนที่ 501 ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ไป่ซิง ยกนิ้วของเขาขึ้น เขามองไปรอบ ๆ อย่างเคร่งขรึม
เขาไม่เชื่อข้อแก้ตัวอย่าง’เที่ยวเล่น’ ของ ฟาง เจิ้งจือ
ไม่มีใครเชื่อว่าฟาง เจิ้งจือ บังเอิญมาที่บ้านเขา
ไป่ซิง ไม่เชื่อ แต่เขาไม่ได้ถามคำถามเพิ่มเติม
เขาตะโกน…
”ดูแลแขกหน่อย!”
คนที่ดูเหมือนคนรับใช้ถือกาน้ำชาออกมา
ไป่ซิง ขมวดคิ้ว
ที่เขานำชาออกมาให้ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเจ้าบ้านที่ดี เขาอยู่ในเมืองเงาเลือดเมืองหลวงของปีศาจ เขาเป็นผู้ควบคุมที่นี่ ยิ่งถ่วงเวลาเอาไว้ได้นานแค่ไหน…
เขายิ่งได้เปรียบ…
ถ้าฟาง เจิ้งจือ ไม่รีบเร่งแล้วทำไมเขาต้องรีบด้วย?
มีเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเขาอยากจะรู้จริงๆว่าทหารยามตาบอดหรือไงกัน
ดูเหมือนพวกทหารปีศาจจะละหลวมกว่าที่เขาคิดมาก
คนใช้เอาชาออกมาเร็วมาก
มันเร็วมากเสียจนเหมือนเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้วที่สำคัญกว่านั้น ฟาง เจิ้งจือ เตรียมถ้วยชามาสองถ้วย
”เขาเตรียมมาเองเหรอ?”ไป่ซิง ไม่ค่อยแปลกใจนัก
เมื่อต้องรับมือกับฟาง เจิ้งจือ …
เขาไม่สามารถโจมตีได้โดยตรง
เขาจะฆ่าผู้ที่ปลอมตัวเป็นคนใช้และทำให้ ฟาง เจิ้งจือ หวาดกลัว
เขาซ่อนแสงสีเงินไว้ในฝ่ามือของเขา
เขากำลังรอเขาจะรอจนกว่าชายคนนี้จะเข้ามาใกล้
คนรับใช้ถือกาน้ำชาเดินเข้ามาโดยไม่สังเกตุถึงจิตสังหารที่เล็ดลอดออกมาจากไป่ ซิง แม้แต่น้อย
เขาเข้ามาใกล้แล้ว!
นิ้วของไป่ ซิง ขยับและดวงตาของเขาส่องประกาย ขณะที่กำลังจะโจมตี เขาก็แข็งค้าง
เป็นเพราะว่า…
เขาเห็นตาปีศาจมีตาปีศาจสีแดงอยู่บนหน้าผากของคนรับใช้ มันต่างจากตาสีเขียวในหมู่ปีศาจของเขา
”ท่านหัวหน้าดินแดนขอให้อิ่มเอมกับชารสเลิศ!”ชายคนนั้นมองที่ ไป่ ซิง อย่างใจเย็นขณะที่โค้งคำนับ แล้วรินชาให้ ไป่ ซิง
กลิ่นหอมของชาลอยอบอวล
ไป่ซิง มองที่ชายหนุ่มและถ้วยชาของเขา ริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย
นี่มันบ้าบอที่สุด!
ฟางเจิ้งจือ เดินเข้ามาในบ้านพักของเขาพร้อมกับดวงตาปีศาจสีม่วงและตอนนี้ใครก็ไม่รู้ที่มีดวงตาปีศาจสีแดงปลอมกำลังรินชาให้เขา!
ไป่ซิง อยากจะถามตรงๆ …
แต่ในความเป็นจริง…
พวกเมันแค่ล้อเลียนเขาตาปีศาจสีม่วง ตาปีศาจแดง มีอะไรบ้าบอไปกว่านี้อีกไหม?
ไป่ซิง กำหมัดของเขาแน่น
”ปัง!”
เสียงระเบิดของแสงสีเงินในมือของเขาดังขึ้นมันเป็นการแสดงออกถึงความโกรธที่เขารู้สึก อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็น ไป่ ซิง หลังจากลังเล เขาก็หยิบถ้วยชาขึ้นและเผยยิ้ม
”ชาที่ดี!”ไป่ซิง มองที่ชายคนนั้นและหันมองที่ ฟาง เจิ้งจือ
”หัวหน้าดินแดนไป่อยู่ระหว่างการฟื้นตัวข้าต้องขอบอกเลยว่าชาที่ท่านกำลังถืออยู่นั้น เป็นชาที่ยอดเยี่ยมแห่งปีข้าชงด้วยตัวเอง ถ้าท่านกล้าพูดว่าไม่อร่อย ต่อมรับรสของท่านคงพังไปแล้วแน่ๆ” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ
จากนั้นเขาก็โบกมือให้ชายหนุ่ม
ชายคนนั้นหันหลังกลับและเดินไปที่ฟาง เจิ้งจือ เขารินชาให้ ฟาง เจิ้งจือ จานั้นก็เดินออกไป
ริมฝีปากของไป่ ซิง กระตุกเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้
การมีคนอื่นมาให้การต้อนรับในบ้านของตัวเองมันเหมือนกับเขาถูกตบหน้าจังๆ
อย่างไรก็ตามไป่ ซิง ยอมรับมัน
”ข้าขอถามเจ้าตรงๆเจ้าคิดจริงๆหรือว่า ให้การต้อนรับในบ้านของข้าจะทำให้เจ้าออกจากเมืองเงาเลือดได้อย่างปลอดภัย?”ไป่ ซิง ถาม
”หัวหน้าดินแดนไป่เรามาดื่มชากันก่อนดีไหม?”ฟาง เจิ้งจือ เมินคำถามของ ไป่ ซิง ขณะที่ยกแก้วชาขึ้นมาจิบ
”ฮึ่ม!”ไป่ซิง เปล่งเสียง
เขาสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟาง เจิ้งจือ ในช่วงปีที่ผ่านมา
เขาสามารถอดกลั้นมันได้ครู่หนึ่ง…
แต่เขาไม่สามารถอดกลั้นมันได้ตลอดไป
สำหรับการดื่มชา…
ชาที่เสิร์ฟโดยคนของฟาง เจิ้งจือ เขาไม่โง่พอจะลิ้มรสของมัน
”ฮ่าฮ่าข้ารู้ว่าท่านหมดความอดทนแล้วนี่เป็นชารสเลิศที่สุด ท่านจะไม่ชิมมันจริงๆหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ พูดจากใจจริงโดยไม่สนถึงความเย็นชาบนใบหน้าของ ไป่ ซิง
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าโง่งั้นรึ? เจ้าไม่รู้งั้นรึว่าตัวเองอยู่ที่ไหน?” ไป่ ซิง ถามออกมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
”ให้ข้าเดาสักครู่อืม….น่าจะเป็นบ้านของไป่ ซิง อยู่ด้านในกำแพงชั้นที่สามของเมืองเงาเลือด ข้าพูดถูกไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างใสซื่อ
”เจ้าก็รู้ตัวนี่!”ไป่ ซิง เริ่มโกรธขึ้นมา เขาเขวี้ยงถ้วยชาลงพื้น
มันแตกทันที
”น่าเสียดาย… นั่นเป็นถ้วยที่ดี ข้าคิดว่าหัวหน้าดินแดนไป่ คงไม่ไล่ข้าออกไปใช่ไหม? ข้ายังสำรวจเมืองนี้ไม่เสร็จเลย! ทำไมท่านไม่ไปกับข้าล่ะ?” ฟาง เจิ้งจือ มองถ้วยชาด้วยความเสียใจ
”ไปเป็นเพื่อนเจ้า?ฮ่าฮ่าฮ่า … แน่นอนข้าจะไปกับเจ้า!”ไป่ ซิง หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ
”ขอบคุณมากที่สละเวลาอันมีค่าให้ข้า”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
”ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าอย่างไรก็ตามเจ้าอาจจะต้องสำรวจเมืองด้วยวิธีที่ต่างกันออกไปหน่อย!่
”ยังไงรึ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ข้าจะจับเจ้ามัดส่งตัวให้ทหาร!เจ้าสามารถให้พวกเขาลากพาเจ้าเที่ยวชมในเมืองได้” ไป่ ซิง หัวเราะเบาๆ
”นั่นจะไม่รบกวนมากเกินไปหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ไม่เลย!”
”จริงรึ?”
”ข้าสาบานได้เลย!”
”ง้้นเชิญท่านนำได้เลย!”ฟาง เจิ้งจือ ลังเลก่อนจะหยักหน้าและยืดแขนออก
”ฮ่าฮ่าฮ่าฟาง… หืมม?!” ไป่ ซิง หัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาเตรียมจะยืนขึ้น แต่รอยยิ้มของเขาแข็งค้างทันที
ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
”หัวหน้าดินแดนท่านรออะไรอยู่? ข้าพร้อมแล้ว” ฟาง เจิ้งจือ เตือน
”เจ้า…เจ้าทำอะไรกับข้า?”ท่าทีของ ไป่ ซิง เปลี่ยนไปเมื่อพบว่าตัวเองขยับไม่ได้
เขาตกใจมากเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เป็นไปได้ยังไง?!
ความสามารถของฟาง เจิ้งจือ เพิ่มขึ้นขนาดนี้ภายในหนึ่งปี?!
ไม่!
เป็นไปไม่ได้!
พลังของฟาง เจิ้งจือ ถูกทำลายไปแล้ว ต่อให้ไม่เป็นอย่างนั้นก็เป็นไปไม่ได้
เขาพึ่งเข้าสู่ระดับอภินิหารเมื่อปีที่แล้ว
เป็นไปไม่ได้!
หรือว่า…
เป็นชา!
มีอะไรผิดปกติในนั้น?
แต่เขาไม่ได้ดื่มชา!จะเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นได้ไง?
”เจ้าทำอะไรกับข้า?!”ไป่ ซิง พูดออกมาด้วยความกังวล เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก
”ทำไมท่านไม่ลองเดาดูล่ะ”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะ
”เจ้าวางยาข้า?”ไป่ ซิง ถาม
”ฉลาดจริงๆ!ข้าขอให้ท่านดื่มชา แต่ท่านไม่ดื่ม ตอนนี้ท่านกำลังมีปัญหา คนแก่มักสอนเสมอว่าอย่าทิ้งอาหาร!” ฟาง เจิ้งจือ เดินไปหา ไป่ ซิง
”เจ้าหมายความว่าอะไร?”ตาของไป่ ซิง ขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก
”จำเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อนได้ไหม?ท่านอารมณ์ไม่ดี และไม่ชอบทุกอย่างรอบตัว ท่านได้จ้างใครบางคนมาปรับเปลี่ยนบ้านของท่าน จำได้ไหม?”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างใจเย็น
”เจ้า…รู้เรื่องนั้นเหรอ? คนเหล่านั้น … ”
”ใช่ข้าเป็นคนส่งพวกนั้นมาเอง!”
”แต่…ข้าตรวจสอบทุกอย่างหลังจากปรับแต่งบ้านแล้ว ไม่มีอะไรแปลกๆแน่นอน นอกจากนี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เจ้าทำอะไรลงไป?” ไป่ ซิง พยายามนึก
”ดอกไม้!”ฟางเจิ้งจือ ตอบกลับ
”ดอกไม้?ดอกไม้อะไร”
”ดอกไม้ชนิดหนึ่งที่บานในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น”
”แล้วมันทำอะไรกับข้า?”ไป่ ซิง สับสน
”หัวหน้าดินแดนไป่ช่างฉลาดนัก ท่านรู้ว่าสามารถโดนพิษได้จากการได้กลิ่น!” ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างอดทน
”เจ้าปลูกดอกไม้พิษในสวนของข้างั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ที่นี่ และเจ้า…”
”พิษบางอย่างเมื่ออยู่เดี่ยวๆอาจจะไม่ส่งผลแต่ถ้าอยู่กับอย่างอื่นล่ะ?”
”ผสมกับกลิ่นอื่นๆ…ชา!”ไป่ ซิง เข้าใจทันที
ปัจจัยเดียวที่ทำให้พิษทำงานคือชา
”ใช่ข้าเป็นคนชงชานี้เอง ท่านคงจำได้” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”แต่เจ้าก็อยู่ที่นี่เช่นกันเจ้าก็ดื่มชา ทำไมเจ้าไม่เป็นอะไร?” ไป่ ซิง ไม่เข้าใจ
”ใช่ข้าอยู่ในสวนและดื่มชา ” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ
”ไม่ดื่มชา?เจ้าจะบอกว่า… ชาเป็นยาแก้พิษ?” ไป่ ซิง รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง…
นี่เป็นวิธีการที่เขาจินตนาการแทบไม่ถึง
กลิ่นหอมของชาจะผสมกับกลิ่นดอกไม้เพื่อสร้างสารพิษแต่ชาเองก็เป็นยาแก้พิษ
นอกจากนี้…
ใครจะถูกวางยาด้วยวิธีโง่ๆแบบนี้กัน?
ไป่ซิง อยากจะถามว่าใครเป็นคนคิดพิษบ้าๆเช่นนี้ แต่เขาเลือกที่จะหุบปาก
เพราะ…เขาเองก็ติดพิษอยู่!
”้ข้าได้เตือนให้ดื่มชา…น่าเสียดายที่ตอนนี้สายไปแล้ว ท่านปามันทิ้งไปแล้ว” ฟาง เจิ้งจือ ดูเสียใจมาก
”ฟางเจิ้งจือ เจ้ากล้าวางยาข้าได้ยังไง?! เจ้าได้แอบทำการวิจัยพิษในช่วงปีหนึ่งที่ผ่านมางั้นรึ?” ไป่ ซิง รู้สึกไม่พอใจมาก
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาโดนพิษโง่ๆแบบนี้เล่นงานเข้าให้
มันเป็นเพราะความถือดีของเขา?
หรือฟาง เจิ้งจือ อ่านเขาออกได้ง่ายๆ?!
ไป่ซิง โกรธมาก
เขาไม่ชอบที่รู้สึกว่าตัวเองถูกอ่านออกแบบทะลุปรุโปร่งมันเหมือนกับเขากำลังเผชิญหน้ากับ หยุน ชิงวู
ถูกต้อง!
หยุนชิงวู!
ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้กัน
หนึ่งปี!
มันเป็นเวลาสั้นๆ …
แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับกลายเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมและไม่สามารถคาดเดาได้ เป็นไปได้ไหมว่าตอนนี้เขาสามารถเทียบกับนายน้อยของเหล่าปีศาจแล้ว?
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 502 เขากลับมาแล้ว!
เขาไม่กลัวคนเก่ง
เพราะบนโลกนี้มีคนเก่งมากมายอย่างไรก็ตามคนเก่งที่สามารถวางแผนการเช่นนี้ได้
”ข้าไม่ได้ปิดบังอะไรท่านข้าใช้เวลาค้นคว้าเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว ตอนนี้รู้สึกขยับขาไม่ได้ใช่ไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ถามด้วยความสนใจ
”เจ้า..” ไป่ ซิง ต้องการตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถีงแม้มันจะน่าอับอายก็ตามที
อย่างไรก็ตาม
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีบางอย่างมากระแทกหัวอย่างรุนแรง
เมื่อเขาหันกลับมา…
เขาก็เห็นกระบองเหล็กงออยู่ด้านหลัง
”ช่างเป็นหัวที่แข็งแกร่งมาก!”ชายคนนั้นมองไปที่ ไป่ ซิง ก่อนจะหันมามองกระบองด้วยความตกใจ
”…” ไป่ ซิง หันไปมองคนที่มีดวงตาปีศาจสีแดงอยู่บนหน้าผาก เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครลอบโจมตีเขาจากด้านหลังได้
เป็นไปได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ ทำให้เขาเสียสมาธิ?
แต่ด้วยพลังของเขาก็ควรจะรับรู้ได้ถ้ามีคนเข้ามาใกล้
นอกจากนี้…
ทำไมเขาถึงถูกเอากระบองเหล็กฟาดหัว?
ชายคนั้นคิดว่าเขาจะสลบไปเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรือ?ไร้เดียงสาจริงๆ…
ไป่ซิง พบว่ามีบางอย่างแปลกไปเล็กน้อย ราวกับหัวของเขาถูกทิ่มด้วยเข็มเล็กๆไปทั่ว
มันรุนแรงมากจนเขาเริ่มหัวหมุน
”ตึง!”ก่อนที่จะเขาจะสลบลงไปกับพื้น
ไม่!
เขาไม่ได้วางยาพิษ…เขาไม่ได้ทำแค่วางยาพิษ…
ฮ่าฮ่านี้ต้องเป็นเรื่องที่ข้าเอาไปอวดได้ทั้งชีวิตแน่นอน!ข้าได้ฟาดหัวของหัวหน้าดินแดนปีศาจ!” ซู จิว ไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นของตัวเองได้
”งั้นการมาเที่ยวเล่นที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกใช่ไหม?”ฟางเจิ้งจือ ตอบอย่างใจเย็น
”เอ่อ… ” ซู จิว ตัวแข็งค้าง
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา…
ที่จุดสูงสุดของเมืองเงาเลือดมีชายเก้าคนสวยชุดเกราะยืนรออยู่ที่ทางเข้าวังทมิฬ
มันเก่าแก่อย่างเห็นได้ชัด
มีเสาที่คอยรองรับน้ำหนักของวังอยู่จำนวนมากแต่ละเสาถูกยืนล้อมรอบด้วยเหล่าทหารปีศาจ
ไม่นานทหารปีศาจกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมา
”นายน้อยเชิญท่านเข้าไป!่
”รับทราบ!”ชายทั้งเก้าคนพยักหน้าและเข้าไปในวัง
พวกเขาเดินไปถึงห้องห้องหนึ่งก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
มีหญิงสาวนางหนึ่งอยู่กลางห้องนางสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ผมของนางยาวจนถึงเอว
นางไม่เคลื่อนไหวนางมองออกไปข้างนอก มองดูดวงอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆขึ้นมา นางถือกระดาษสีเหลืองอยู่ในมือ
มันมีขนาดเล็กมาก
มีคำไม่กี่คำบนนั้น
มันเป็นเพียงประโยคเดียว
”กินอะไรมาแล้วหรือยัง?”
ไม่มีคำอื่นๆ บนกระดาษแผ่นนั้น ไม่มีจุดบ่งบอกว่าผู้เขียนเป็นใคร
หญิงสาวคนนี้คือหยุน ชิงวู
ในฐานะนายน้อยของเหล่าปีศาจนางมีเรื่องมากมายที่จะต้องทำกระดาษชิ้นนี้ไม่ควรมาอยู่ในมือของนาง
ถึงกระนั้นมันก็ถูกส่งต่อมาจากทหารจนถึงมือนาง
เหตุผลนั้นง่ายมาก
นี่คือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านของไป่ซิง
”ยินดีที่ได้พบนายน้อย!”ชายทั้งเก้าคนคุกเข่าลง
”อืม”หยุน ชิงวู พยักหน้าก่อนจะมองไปยังกระดาษชิ้นเล็กในมือ
”นายน้อยเกี่ยวกับเรื่องนั้น… ”
”นายน้อยท่านมีอะไรงั้นหรือ?”
”ไม่มีใครในดินแดนภูเขาทางใต้ที่สามารถลอบเข้ามาในเมืองเงาเลือดและลักพาตัวไป่ ซิง ไปได้ มีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรเซี่ย… ”
ชายทั้งเก้าคนรอให้หยุน ชิงวู ตัดสินใจ
ข่าวเรื่องที่หนึ่งในหัวหน้าดินแดนได้ถูกลักพาตัวไปจากเมืองเงาเลือดได้ทำให้ดินแดนปีศาจสั่นสะท้าน
ที่สำคัญที่สุดคือ…
สิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมากคือ..
คนที่ลงมือนั้นลงมือตอนกลางวันแสกๆโดยไม่มีสัญญานเตือนใดๆเมืองเงาเลือดนั้นไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด!
”เขากลับมาหลังจากหายไปกว่าปีหนึ่ง!”หยุน ชิงวู พึงพัมกับตัวเองเมินต่อคำถามของปีศาจทั้งเก้า
”เขา?”นายน้อยท่านหมายถึงใคร?” หนึ่งในนั้นถามขึ้นมาด้วยความสับสน
เพราะทุกคนได้เห็นข้อความแล้วมันไม่ได้ระบุไว้ว่าใครเขียน
ถ้าไม่ใช่เพราะมันอยู่ที่บ้านของไป่ซิง…
พวกเขาคงโยนมันทั้งไปทันที
”ใครบางคนที่หายตัวไปนานกว่าหนึ่งปี”หยุน ชิงวู ตอบออกมาอย่างใจเย็น
”หายไปนานกว่าหนึ่งปี!”
พวกเขายังคงมองหน้ากันด้วยความสับสน
”นายน้อยท่านพูดถึง ฟาง เจิ้งจือ?”
”ตลกมาก!ไมมีทางเป็นไปได้! ฟาง เจิ้งจือ อาจจะหายตัวไปนาน แต่เขาก็เป็นเพียงคนพิการ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งอาณาจักรเซี่ยและแดนใต้ต่างไล่ล่าตัวเขา เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้!”
”อืมบางที่อาณาจักรเซี่ยอาจจะประหาร ฟาง เจิ้งจือ ไปแล้วก็ได้ แต่ไม่ได้ประกาศข่าวออกมา!”
พวกเขาต่างเดาไปต่างๆนาๆ
อย่างไรก็ตาม
หยุนชิงวู ไม่ได้ตอบ นางรู้ว่าต่อให้นางพูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ
จึงไม่มีความหมายที่จะพูดออกไป
”หยิงเฟิง”
”ขอรับ!”ชายคนหนึ่งเก้าเท้าออกมา เขาทั้งผอมบางและดูถ่อมตน
อย่างไรก็ตามเมื่อชายคนนี้ก้าวไปข้างหน้าคนที่อยู่รอบข้างต่างถอยหลังไปอัตโนมัติทันที
เป็นเพราะว่า…
นี่คือหยิง เฟิง
เขาเป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของดินแดนปีศาจทมิฬเขาเป็นน้องชายของ หยิง ซาน ละถูกแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าหลังจากคุยกับ หยุน ชิงวู ไม่กี่ประโยค
เพียงหนึ่งปีต่อมาเขาเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าดินแดน
แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดคือดินแดนปีศาจทมิฬได้กลืนกินดินแดนปีศาจดวงดาวไปเป็นที่เรียบร้อยจากดินแดนที่อ่อนแอที่สุดจึงกลายเป็นแข็งแกร่งที่สุดไปในทันที
ไม่มีใครรู้ว่าหยิง เฟิง ทำได้ยังไง
แต่ความจริงก็คือ…
เขาทำไปโดยที่ไม่ได้ถามอะไรหยุน ชิงวู สักคำ
”ใช่ข้าต้องการเดินทางไปอาณาจักรเซี่ย เตรียมการให้ข้าเท่าที่จำเป็น” หยุน ชิงวู ตอบกลับอย่างใจเย็น
”นายน้อยต้องการไปอาณาจักรเซี่ยงั้นเหรอ?!”
”ไม่ได้จะไปไม่ได้นะ! นายน้อย อาณาจักรเซี่ยรู้แล้วว่าท่านเป็นใคร! ท่านรู้ไหมว่ามันเสี่ยงแค่ไหน?”
”ใช่แล้วเรื่องนั้นสำคัญมาก นายน้อย ท่านห้ามไปเด็ดขาด ข้าคิดว่าเราควรไปถามเรื่องนี้กับเจ้าปีศาจ… ”
พวกเขาตกใจกับคำสั่งของหยุน ชิงวู
”พวกเจ้าคิดว่าข้าหยิง เฟิง มีพลังไม่เพียงพอจะอารักขานายน้อยงั้นหรือ?”เสียงของ หยิง เฟิง ดังออกมา
ทันใดนั้น…
ท่าทีของชายทั้งแปดคนก็เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตามไม่มีใครก้าวไปข้างหน้าเพื่อโต้แย้งเขา
”ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ข้าขอสาบานว่านายน้อยจะปลอดภัย นายน้อย พวกเราจะไปกันเมื่อไร?”
”พรุ่งนี้”
”พรุ่งนี้?รับทราบ ข้าจะเตรียมการทันที!”่
…
…
ห้าวันต่อมา… ในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง …
สายลมยังคงพัดรุนแรงอย่างต่อเนื่องกลิ่นคาวเลือดของสงครามได้หายไปหมดแล้ว
ทุ่งหญ้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบถิ่นฐานวานรน้ำแข็งเมื่อดอกไม้เบ่งบาน กลิ่นหอมของมันกระจายไปทั่วบริเวณ
แน่นอนว่าไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เหลืออยู่…
มันอาจจะดูเกินจริง
แต่…
ยังมีดาบอยู่บนหน้าผามันปักลึกลงไปในพื้นดินและถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
แสงอาทิตย์สาดส่องบนผิวน้ำแข็งแต่ก็ไม่มีท่าทีจะละลาย
มันเป็นภาพที่แปลกมาก
มีคนแปลกหน้ายืนอยู่ข้างๆมันร่างที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงินชายเสื้อของเขาพริ้วไหวไปตามสายลม
สำหรับผู้คนแดนใต้…
พวกเขาเคยชินที่เห็นดาบบนหน้าผา
ในปีที่ผ่านมาทหารหลายคนมาหาดาบเล่มนี้ …
พวกเขาพยายามดึงมันขึ้นจากพื้น…
อย่างไรก็ตาม…
ดาบไม่มีท่าทีจะขยับแม้แต่น้อยมันยังคงปักลึกลงไปในผืนดิน และถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
ราวกับดาบกำลังพูดว่า”ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาแตะต้อง!”
แน่นอนว่านักรบดินแดนภูเขาทางใต้ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นพวกเขาแค่สงสัยว่าทำไมน้ำแข็งโดยรอบถึงไม่ยอมละลาย
ดาบชั้นเลิศ!
นั่นเป็นข้อสรุปเดียวที่พวกเขาคิด
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มลืมเรื่องดาบหนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้คนมากมายได้พยายาม และก็ล้มเลิกไป
แต่ตอนนี้…
มีชายคนหนึ่งบนหน้าผา
เขามาที่นี่เพื่อดาบเขายื่นมือไปจับดาบที่ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
จากนั้นมีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น
น้ำแข็งเริ่มละลายมันระเหยขึ้นเป็นหมอกควันสีขาว
จากนั้นมือของเขาก็จับไปที่ด้าม
เขาดึงดาบขึ้นจากพื้น!
ดาบเปลี่ยนเป็นแสงสีม่วงและมาอยู่ในมือของเขา
”ช่างเป็นเวลาที่ยาวนานนัก”ร่างนั้นกระซิบขณะที่เขาจับด้ามดาบด้วยมือข้างหนึ่งแล้วลูบดาบด้วยมืออีกข้าง
”ฮืมม!”ดาบส่งเสียง
รู้สึกเหมือนดาบมีความสุขที่ได้เห็นชายคนนี้อย่างแท้จริงราวกับมังกรจำศีลที่ตื่นขึ้นมาเห็นดวงอาทิตย์ มันตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
”ข้าจะพาเจ้าไปชมวิวต่างๆพวกเราจะขึ้นไปที่สูงกว่านี้”
”ฮืมม!”ดาบส่งเสียง
…
ดินแดนภูเขาทางใต้…เมืองภูเขาเซียน ณ พระราชวัง
วานรน้ำแข็งหัวหน้าถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง เขาเดินผ่านยามเข้าไปถึงห้องบัลลังก์
”ฝ่าบาท!”วานรน้ำแข็งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์นางสวมชุดหนังสีขาว ผิวของนางส่องสว่างภายใต้แสงไฟ
ผมสีดำเงางามพาดอยู่บนไหล่
มงกุฎทองคำบนหัวของนางช่างงดงามมงกุฎที่มีอัญมณีแตกต่างกัน
นางคือฉาน ยู่
ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้!
หลังจากได้ยินสิ่งที่วานรน้ำแข็งพูดนางก็คลี่สาส์นในมือออกและมองเขา
”ท่านลุงรีบร้อนอะไรหรือ?”
”ดาบดาบหายไปแล้ว!”วานรน้ำแข็งตอบอย่างกังวล
”ดาบ?ดาบอะไร?”ฉาน ยู่ สงสัยเล็กน้อย
”ดาบ… ที่ เฟิง ซู … มัน … มันหายไปแล้ว!ท่าทีของวานรน้ำแข็งดูกระวนกระวาย
”เจ้าพูดอะไรนะ?ดาบบนหน้าผา เฟิง ซู หายไปงั้นหรือ!”ท่าที่ของนางเปลี่ยนไป สาส์นในมือล่วงสู่พื้น
”ขอรับ!”วานรน้ำแข็งพยักหน้า
เขารู้ดีว่าทำไมองค์หญิงฉาน ยู่ ถึงตกใจ นอกจากนี้เขายังรู้อีกด้วยว่าดาบหายไปได้ยังไง
หนึ่งปีที่ผ่านมานักรบแดนใต้พยายามดึงดาบขึ้นหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่มีประโยชน์
ดาบนั้นกลายเป็นตราแห่งเกียรติยศ
ใครก็ตามที่สามารถนำมันออกมาจากพื้นได้ย่อมได้รับความเคารพจากคนรอบข้าง
อย่างไรก็ตาม
ดาบหายไปแล้ว
มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีนักรบคนไหนก้าวออกมาป่าวประกาศว่าเขาทำสำเร็จ
ดาบนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมายแห่งเกียรติยศอีกต่อไปมันบ่งบอกถึงเรื่องบางอย่างที่ได้เกิดขึ้น
เพจหลัก: Gate of god TH