Gate of God - ตอนที่ 525-526
ตอนที่ 525 ความจริงของหญิงสาว
”มันจเป็นไปตามรูปแบบงั้นหรือ?รูปแบบไหนกัน?”เหวิน เต๋าเปา สับสน
”แน่ว่าเป็นกฎของหญิงสาว”ฟาง เจิ้งจือ เผยรอยยิ้มและตอบกลับ เมื่อเขาเห็นท่าทีสับสนของ ปิง หยาง
”รูปแบบของหญิงสาว?”เหวินเต๋าเปา ตกตะลึง
”ใช่เจ้าไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างรางกายของชายและหญิงงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”นายน้อยฟางท่านช่างเป็นคนที่น่านับถือจริงๆ! ท่านต้องพูดถึงหน้าอกแน่นอน… ข้าพูดถูกไหม?”เหวิน เต๋าเปา ยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
”ไม่ใช่โว้ย!เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร?! ข้าหมายถึงรอบเดือนของพวกนาง!เจ้ารู้จักมันไหม?”ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจอย่างหมดหวังเมื่อมองดู เหวิน เต๋าเปา ชายคนนี้ไม่รู้จักอะไรอื่นเลยนอกจาก หน้าอกและบั้นท้ายของหญิงสาวงั้นหรือ?
”ข้า…ข้าไม่… “เหวิน เต๋าเปา สับสน
”มันคือตอนที่พวกผู้หญิงไม่พร้อมจะทำอะไรทั้งนั้น!มันจะเกิดขึ้นสองถึงสามวันของทุกเดือน! นั่นคือความแตกต่างที่ว่า!”ฟาง เจิ้งจือ อธิบายด้วยอารมณ์โกรธ
”ไร้ยางอาย!”หน้าของปิง หยาง เปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ขึ้นเสียง
เหยียนซิว หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของเขาแข็งค้างไปอย่างไรก็ตาม เขาดูลนลานเล็กน้อย ราวกับไม่รู้จะทำตัวยังไง
ส่วนเหวิน เต๋าเปา…
หลังจากได้สติแววตาเขาก็ส่องประกาย
”โอ้ข้ารู้แล้ว!ข้าเคยอ่านเรื่องนี้มา! แต่มันเกี่ยวข้องกับดวงดาวทั้งเจ็ดยังไงกัน?”เหวิน เต๋าเปา ถาม
ผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเขาต่างก็มองหน้ากันเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องการมีประจำเดือนในที่แจ้งมาก่อนมันไม่เหมาะสมแม้แต่น้อย!
”ชายคนนี้ช่างไร้ยางอายนัก!”
”ช่างน่าอายจริงๆ!มีคนไร้ยางอายขนาดนี้อยู่ได้ยังไง?!”
”เขากล้าคุยเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?เขา …เขาช่าง! เขาไม่รู้ตัวหรือว่าการกระทำของเขามันไม่เหมาะสม?”
ฟางเจิ้งจือ ไม่สนความเห็นของคนรอบข้าง ในโลกก่อนหน้าของเขานั้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกยอมรับและมีการหารือกันอย่างจริงจัง
นอกจากนี้นี่เป็นความรู้ทั่วไป! ทำไมพวกเขาถึงต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย?
”ถ้าเจ้าอยากรู้ว่าควรวางเดิมพันอย่างไรเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเคารพผู้หญิงเสียก่อน!”ฟาง เจิ้งจือ พูดเพิ่มโดยไม่สนคำถามของ เหวิน เต๋าเปา
”เขากล้าพูดเรื่องการเคารพผู้หญิงออกมาได้ยังไงในเมื่อพึ่งพูดเรื่องแบบนั้นออกมา?”่
”ไร้ยางอาย!”
ฝูงชนรอบๆมองดู ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความรังเกียจเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้
ไม่ใช่แค่พวกเขา
แม้แต่ปิง หยาง ก็มองเขาด้วยความรังเกียจ การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคารพในตัวผู้หญิงเลย
”เคารพผู้หญิง?”เหวินเต๋าเปา สับสน นั่นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่าใดนัก
เขามีหญิงสาวมากมายคอยรับใช้อยู่ที่บ้านเขาจะดุด่าหรือตบตีพวกนางเมื่อไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ
สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้หญิงถูกมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอในโลกนี้
แน่นอนว่า…
ยกเว้นคนอย่างฉือ กูเหยียน มีเพียงแค่นางคนเดียวในโลกนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้อธิบายต่อ เขาคุ้นเคยกับแนวคิดนี้ ในโลกนี้ ชายหนุ่มมากมายเห็นผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ
ในบางสังคมผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะแต่งงานกับใครด้วยซ้ำ บางตระกูลที่มีอำนาจ ใช้ทั้งชีวิตของพวกเขาอยู่แต่ในบ้าน ก่อนที่จะแต่งงานเพื่อผลประโยชน์
…
มีผู้หญิงนับไม่ถ้วนจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงซึ่งแต่งงานก่อนที่จะได้เห็นหน้าของสามีเสียอีกถ้าพวกนางถูกรังแก พวกนางก็ไม่กล้าบอกพ่อและแม่อยู่ดี
ฟางเจิ้งจือ ใช้ชิวิตอยู่ที่นี่มามากกว่าสิบปี อย่างไรก็ตามเขาเชื่อมั่นในหลักการเรื่องความเท่าเทียมของชายหญิง
”ผู้ชายคนใดที่เคารพผู้หญิงจะไม่มีวันให้พวกนางขึ้นแสดงในวันที่พวกนางมีประจำเดือน ในเวลารอบเดือน ผู้หญิงจะมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวและแปรปรวนนอกจากนี้พวกนางไม่สามารถดื่มน้ำเย็นหรือทำงานมากเกินไปได้อีก … “ฟาง เจิ้งจือ พยามนึกข้อมูลก่อนจะพูดออกมา
เสียงของเขาไม่ดังมากนักแต่ฝูงชนรอบตัวเขาเงียบไป พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไม่เชื่อ
เพราะว่า
พวกเขาต่างรู้ถึงสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังพูด อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย
”เจ้านี่ไร้ยางอายจริงๆ … ” ตาของ ปิง หยาง แทบจะถลนออกมาจากเบ้า ในฐานะที่นางเป็นผู้หญิง นางรู้ดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง
บางเรื่องเองนางก็ไม่รู้อย่างเรื่องที่ต้องเลี่ยงอาหารรสจัดและทำให้หน้าท้องอุ่น
รายละเอียดมากมายนั้นช่างละเอียดยิบ…
และแน่นอนสิ่งสำคัญที่สุดคือ ปิง หยาง ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครสังเกตสิ่งเหล่านี้ แม้แตท่านพ่อของนางก็ไม่
แต่ตอนนี้…
คำเหล่านี้กลับถูกกล่าวออกมาโดยฟาง เจิ้งจือ คนที่นางคิดว่าไร้ยางอายอย่างไม่น่าเชื่อ!ใครจะกล้าพูดเรื่องแบนี้ในที่สาธารณะกัน!
ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความเงียบ
แม้แต่หญิงสาวที่กำลังเรียกเร้าลูกค้าไปยังถนนเจ็ดดวงดาวก็ยังต้องหยุดการกระทำแววตาของพวกนางส่องประกาย
”นี่คือผู้ชาย!”
”นี่คือผู้ชายที่เข้าใจผู้หญิง!”
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าคำอธิบายของเขาทำให้ฝูงชนประทับใจหรือไม่ เพราะเขาได้พูดสิ่งที่เขาอยากพูดออกไปหมดแล้ว
”เอ่อ…มีอะไรอีกไหม?”เหวิน เต๋าเปา เหมือนยังไม่ได้สติจากอาการตกใจ
”ไม่”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”นี่มันเกี่ยวข้องกับถนนเจ็ดดวงดาว..โอ้!ข้าเข้าใจแล้ว! ทั้งเจ็ดคนเป็นผู้หญิงดังนั้นพวกเขาจะไม่ปรากฎตัวในวันที่พวกนางมีประจำเดือน! เหวิน เต๋าเปา หน้าขึ้นสีเมื่อรู้ถึงสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พด
”ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจ” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบา ๆ
”ขอบคุณที่ทำให้ข้าเข้าใจนายน้อยฟาง…เดี๋ยวก่อนนะ?ท่านหมายความว่าอะไร? ท่านจะบอกว่าก่อนหน้านี้ข้าโง่มาตลอดงั้นหรือ?”
”เจ้าก็รู้ตัวนี่!”
”เอ่อ… ” เหวิน เต๋าเปา พูดไม่ออก
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้รู้รูปแบบเขาไม่สนใจว่า ฟาง เจิ้งจือ จะคิดยังไง เขาเดินตรงไปยังโต๊ะพนันทันที อย่างไรก็ตามเขากลับหยุดทันที คำถามใหม่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
”ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าพวกนางจะมีประจำเดือนวันไหน?”
”นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องถาม”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้ม
”ถาม?ถามใคร?”
”คนที่มีปฏิสัมพันธ์กับพวกนางมากที่สุด”
”คนที่เกี่ยวข้องกับพวกนางมากที่สุด?อา… ข้ารู้แล้ว! คนรับใช้ของพวกเขา! พวกเขาดูแลเหล่าหญิงสาวทุกๆวัน! พวกเขาต้องรู้แน่นอน!”
”ถูกต้อง”
”ข้าจะลองไปถามดู!”เหวิน เต๋าเปา ไม่สนใจ ฟาง เจิ้งจือ อีกและวิ่งเข้าไปในถนนเจ็ดดวงดาวทันที
เหยียนซิว และ ปิง หยาง มองหน้ากัน ก่อนจะส่ายหัวออกมาทันที
”เจ้าไร้ยางอายทำไมเจ้าไม่บอกข้าล่ะว่ามีอะไรอีกที่เจ้าใช้ในการเดา?” ปิง หยาง ถามออกมา
”ความสมเหตุสมผล!”ฟางเจิ้งจือ ตอบกลับ
”?!”
”ก่อนอื่นเราตัดหญิงสาวที่มีประจำเดือนออกไปก่อนการจับคู่ของหญิงสาวในแต่ละวันต้องมีความน่าสนใจ” ฟาง เจิ้งจือ อธิบาย
”แต่เหวิน เต๋าเปา ไม่ฉลาดพอที่จะทำอย่างนั้น!”ปิง หยาง ยืนยัน ดวงตาของนางเปล่งประกาย
”ใช่มีปัจจัยบางอย่างที่เขาจะพลาดตัวอย่างเช่นเวลาที่มีประจำเดือนของผู้หญิงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ข้าคิดว่าเขาคงรู้ นอกจากนี้ผู้จัดยังต้องพิจรณาถึงความแปลกใหม่ และความคาดหวังของผู้ชมให้ออกด้วย”
”ดังนั้นเขาคงจะแพ้อีกละสิ?”
”อาจจะแต่เขาก็จะมีโอกาสที่จะชนะมากขึ้นเมื่อเขารู้รูปแบบ” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”ทำไมข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นเจ้าของของถนนเจ็ดดวงดาวเลย?”ปิง หยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
”้ข้าดูเป็นแบบนั้นงั้นรึ?่
”ฮ่าฮ่าฮ่า…แน่นอน! แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีเงินมากพอที่จะทำแบบนั้นได้”
”อย่างนั้นงั้นรึ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมา
ทันใดนั้นร่างหนึ่งได้วิ่งออกมาจากถนนเจ็ดดวงดาว เขาดูท่าทางเหมือนได้รับรางวัลใหญ่มา
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ข้าต้องชนะแน่! ครั้งนี้ข้าต้องได้ลาภก้อนโตแน่นอน! วู้ฮู้!” เหวิน เต๋า
”เจ้ามั่นใจงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”แน่นอนข้าเป็นใคร?ไม่เพียงแต่ข้าจะถามนรับใช้เท่านั้น ข้ายังถามเด็กรับส่งของในนั้นด้วย!” เหวิน เต๋าเปา ตอบด้วยความตื่นเต้น
”ไม่เลว”ฟางเจิ้งจือ พยักหน้า
”ข้าได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเดิมพันใคร!ครั้งนี้ข้าต้องถอนทุกนคืนให้หมด!”
”โอ้?่ขนาดนั้นเลยรึ?”
”แน่นอน!ข้าเดิมพันไปถึงหกคู่เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะชนะ นายน้อยฟาง ท่านจะเข้าไปเดิมพันหรือไม่?” เหวิน เต๋าเปา ถูมือไปมา
”ข้าต้องสังเกตอีกหน่อย”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เขาเห็นด้วยกับกลยุทธ์การเดิมพันของเหวิน เต๋าเปา
แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงสูงแม้มันจะมีความเสี่ยงอยู่บ้างก็ตาม
”งั้นข้าเข้าไปวางเดิมพันก่อนนะ!”เหวินเต๋าเปา ไม่สนใจ ฟาง เจิ้งจือ และวิ่งเข้าไปอีกครั้ง
ผู้คนต่างมองหน้ากันเมื่อได้ยินจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะวางเดิมพันทันที
”ข้าด้วย!ข้าเดิมพันหนึ่งพันเหรียณเงินด้วย!”
”ข้าสองพัน!ข้าตองชนะแน่นอน! ”
”ใช้แม้ว่าฟาง เจิ้งเจิ้ง จะเป็นคนไร้ยางอาย แต่สิ่งที่เขาพูดก็ฟังดูสมเหตุสมผล”่
”ยังไงก็ได้ตราบใดที่ข้าได้เงิน!”
ฝูงชนรีบวิ่งขึ้นไปด้านหน้าเพื่อวางเงินเดิมพันก่อนจะหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสดใส
ฝูงชนเริ่มรวมตัวกันรอบโต๊ะเดิมพัน!พวกเขาได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดคุยกันก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงรีบเดินทางมาวางเดิมพัน
โดยมีเหวิน เต๋าเปา วิ่งนำมา …
เดิมพันหกรายการที่เขาวางไว้กลายเป็นรายการยอดนิยมทันที ตั๋วเงินอัดแน่นอยู่ในกล่องรับเงิน
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มเมื่อเห็นสิ่งนี้
”เจ้าจะดูอยู่เฉยๆงั้นหรือ?ถ้าเจ้าไม่วางเงินเดิมพัน มันอาจจะช้าเกินไปก็ได้นะ” ปิง หยาง จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิท
”อืมเกือบจะถึงเวลาแล้ว”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและเดินไปที่โต๊ะ
ปิงหยาง และ เหยียน ซิว ตามหลังมา
ฝูงชนแยกทางออกให้อย่างไม่เต็มใจเท่าไรนักเมื่อเห็นปิง หยาง
เหวินเต๋าเปา กำลังยืนโม้ถึงรูปแบบที่เขารู้อยู่ เมื่อเขาเห็น ฟาง เจิ้งจือ เข้ามาเขาก็เดินหลบออกไปจากโต๊ะทันที
”ฮ่าฮ่านายน้อยฟาง ท่านจะเดิมพันใคร?”
”ตึง!”ฟาง เจิ้งจือ วางเงินสามหมื่นเหรียญเงินลงบนโต๊ะ
…
ฝูงชนทั้งหมดตกตะลึงพวกเขามองดูเงินจำนวนมากด้วยความไม่เชื่อ
ในฐานะที่เป็นผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในเมือง…
พวกเขาไม่ได้ตกใจกับจำนวนเงิน
มันค่อนข้างเป็นจำนวนที่ปกติสำหรับผู้มีอันจะกิน
แต่
เมื่อฟาง เจิ้งจือ วางมันลงตรงกลางโต๊ะ ความรู้สึกของพวกเขานั้นต่างออกไป
ตรงกลาง
ในตารางการเดิมพันอื่นๆ ตรงกลางคือที่ที่มีการเดิมพันมากที่สุด อย่างไรก็ตามที่ถนนเจ็ดดวงดาว ตรงกลางนั้นเป็นที่ที่คนหลีกเลี่ยงมากที่สุด
เดิมพันตรงกลางนั้นถือว่าพิเศษมาก…
”ทั้งเจ็ดคน!”
”เขาวางเดิมพันของเขาทั้งเจ็ดคน?ฮ่าฮ่าฮ่า…”
”เขาไม่รู้หรือว่ามันเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหนึ่งปี?”
”เขาคิดอะไรอยู่?เขาบอกทุกคนเกี่ยวกับรูปแบบและกฎ แต่ทำไมอยู่ดีๆเขาอยากโยนเงินทิ้งล่ะ?”
”เขาบ้าไปแล้วเหรอ?”
ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มอย่างสดใส
แต่
รอยยิ้มของเขากลับอยู่ได้ไม่นานเพราะ….
มีเสียงสองเสียงดังขึ้นด้านหลังเขา
”ข้าเดิมพันด้วย!ห้าหมื่นเหรียญเงิน!”
”ข้าเองก็เช่นกันห้าหมื่นเหรียญเงิน”
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 526 บ้านนก
ตั๋วเงินหนาๆสองปึกถูกวางลงไปบนโต๊ะ
ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่าใครเป็นเจ้าของ
แต่
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งคู่ต้องพนันด้วยต้องมีบางอย่างผิดปกติ!ปกติแล้วจะมีเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะพนัน
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่กองตั๋วเงินทั้งสองด้วยความพูดไม่ออก
ฟางเจิ้งจือ ไม่ใช่เพียงคนเดียว แม้แต่ฝูงชนที่พึ่งเยาะเย้ยเขา ตอนนี้กลับเบิกตากว้าง
”พวกเขาเดิมพัน…เจ็ดคน?”
”เกิดอะไรขึ้น?”่
”50,000เหรียญเงิน! สองกองรวมกันเป็นแสน!”
”พวกเขาบ้า… พวกเขาบ้าไปแล้ว!”
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขายอมรับในความบ้าของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ แต่ทำไม เหยียน ซิว และ ปิง หยาง ถึงร่วมด้วยล่ะ?
หรือว่าพวกเขาเองก็ติดนิสัยมาจากฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน?
”ฝ่าบาทนายน้อยฟาง นายน้อยเหยียน…พวกท่านจะพนันแบบนั้นจริงๆหรือ? มันแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ…” เหวิน เต๋าเปา พูดขึ้น
เขาพบว่าฟาง เจิ้งจือ พยายามควบคุมอาการสั่นของร่างกายอยู่
หรือว่า…
เขาวางมันผิดที่?
”เหยียนซิว เจ้าก็จะพนันด้วยงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจ เหวิน เต๋าเปา และหันไปยิ้มให้ เหยียน ซิว แต่รอยยิ้มของเขานั้นดูไม่ธรรมชาติเป็นอย่างมาก
”ใช่”เหยียน ซิว ตอบ
”ทำไม?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจ
”พวกเราเป็นเพื่อนกันข้าเชื่อใจเจ้า ฉันเชื่อคุณ ” เหยียน ซิว ตอบ
”โอ้… ” ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จะพูดยังไงเมื่อเห็นสีหน้าของ เหยียน ซิว จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและหันไปมอง ปิง หยาง “องค์หญิง ข้ามั่นใจว่าเต้าคงไม่พนันตามการตัดสินใจมั่วๆของข้าหรอกมั้ง?”
”ข้าก็มีความคิดเป็นของตัวเองแต่ข้าก็เป็นเพื่อเจ้าเช่นกัน มันเป็นเพียงแค่เงินน้อยนิด ไม่ต้องกังวลไป!” ปิง หยาง ตอบออกมาด้วยความหยิ่งยโส
”ที่จริงพวกเราก็ไมได้รู้จักกันมากขนาดนั้นเจ้าสามารถวางเดิมพันตรงอื่นได้” ฟาง เจิ้งจือ แนะนำ
”ไม่ต้องใส่ใจมันหรอกน่า!”ปิงหยาง เมินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด
”…” ฟาง เจิ้งจือ พูดไม่ออกเมื่อมองไปที่โต๊ะเดิมพัน จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “งั้นข้าเปลี่ยนละกัน!”
”แน่นอนข้าจะเปลี่ยนด้วย! เหยียน ซิว เจ้าก็จะเปลี่ยนด้วยใช่ไหม?” ปิง หยาง ถาม เหยียน ซิว
”ใช่”เหยียน ซิว พยักหน้า
”…” ฟาง เจิ้งจือ เหลือบมอง ปิง หยาง เขาไม่สามาถหาคำมาอธิบายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้ เขากัดฟัน “ลืมมันเถอะ… ข้าขี้เกียจเปลี่ยนแล้ว!”
”ข้าเองก็ขี้เกียจเหมือนกัน”ปิง หยาง ตอบ
”อืมข้าเองก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น” เหยียน ซิว พยักหน้า
”…”
ผู้คนต่างพูดไม่ออกเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมันดูบ้าบอมาก แม้พวกเขาจะรวยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดจะโยนเงินทิ้งเล่นขนาดนี้
”หนึ่งแสนเหรียญเงิน!”
พวกเขาเดิมพนในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!พวกเขาต้องบ้าแค่ไหนถึงทำแบบนี้ได้!
”ใกล้จะได้เวลาแล้ว!”่
”ครั้งนี้ฟาง เจิ้งจือ ต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ!”
”ฮ่าฮ่าฮ่า…แน่นอน! ทั้งเจ็ดคน? เขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของถนนเจ็ดดวงดาวหรือไงกัน? ”
ทุกคนเริ่มเดินเข้าไปในถนนเจ็ดดวงดาวพวกเขาเลิกสนใจ ฟาง เจิ้งจือ
…
หอเจ็ดดวงดาวตั้งอยู่ริมถนนเจ็ดดวงดาวมันถูกปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว มันงดงามและปราณีตมาก
เพดานเป็นลวดลายเมฆและท้องฟ้า
ที่ชั้นสองของหอมีเวทีอยู่เจ็ดเวทีตกแต่งพร้อมประดับไฟอยางสวยงาน
มันเป็นที่ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก…
”แสงสว่างของดวงดาวทั้งเจ็ด!
ทุกคนถูกพาไปที่นั่งโดยสาวใช้แต่ที่นั่งตรงกลางกลับถูกปล่อยว่างไว้
เพราะ
มันเป็นที่นั่งโปรดของปิง หยาง
ไม่มีใครโง่พอที่จะแย่งที่นั่งตรงนั้นไปจากนาง
แต่ตอนนี้ที่นั่งตรงนั้นกลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่เขาดูเหมือนชายหนุ่มที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวย
แต่ผิวของเขากลับดูซีดขาวบวกกับชุดสีขาวของเขาทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก
ทุกคนที่เดินเข้ามาต่างตกใจเมื่อเห็นชายคนนี้
”นั่นมัน?!”
”ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”
ผู้คนต่างรู้สึกประหลาดใจที่ชายคนนี้มาอยู่ที่นี่อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดจะเข้าไปคุยกับเขา ผู้คนต่างทำเพียงแค่หัวเราะเยาะและมองด้วยความดูถูกเท่านั้น
ทันใดนั้นเองปิง หยาง ก็เดินเข้ามา สายตาของนางไปหยุดอยู่ที่โต๊ะกลางหอ
”พี่เก้า?ท่านมาทำอะไรที่นี่?” ปิง หยาง ไม่คาดคิดว่า หลิน หยุน จะมาที่นี่และมาแย่งที่นั่งโปรดของนางไป
”โอ้เจ้าอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ?” หลิน หยุน ยิ้มด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
”อืมข้ามากับ เหยียน ซิว และก็เจ้าไร้ยางอาย” ปิง หยาง ชี้ไปที่ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ
แน่นอน…
เหวินเต๋าเปา ถูกเมิน
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเขาทำเพียงได้แต่ถอนหายใจ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นว่าเป็นองค์ชายเก้า หลิน หยุน เขาก็ดูเหมือนไม่ได้เสียใจมากนัก
หนึ่งปีที่ผ่านาองค์รัชทายาทได้รวบรวมอำนาจได้มากมายจนราชาต้วนเทียบไม่ติด
เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ๋ตอนนี้อยู่ข้างองค์รัชทายาท
พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นพวกเดียวกัน
ที่พักของราชาต้วนเงียบเชียบขึ้นเรื่อยๆก่อนหน้านี้องค์ชายเก้าก็ไม่ได้เป็นที่นิยมหรือโด่งดังอยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่อำนาจขององค์รัชทายาทเพิ่มขึ้น ชื่อเสียงของเขาก็น้อยลงเรื่อยๆ
อย่างน้อยที่สุดราชาต้วนก็ยังมีคนไปเยี่ยมเยียนบ้างแต่สำหรับองค์ชายเก้ามีเพียงแค่นกตัวน้อยเท่านั้นที่ต้อนรับเขาอยู่ที่ประตู
”นายน้อยฟางนายน้องเหยียน พวกเจ้าสบายดีไหม?” หลิน หยุน ทักทาย
คนอื่นๆส่ายหัวเมื่อเห็นเรื่องนี้
”ทำไมเขาถึงทักทายพวกนั้นก่อน?เขาเป็นองค์ชายนะ!”
”เหอะ…ลมไปเสียเถอะเป็นเรื่องดีที่เขาไม่ได้เข้าร่วมสงครามชิงบัลลังก์ เขายังอาจจะสามารถมีตำแหน่งดีๆได้ในอนาคต”
”ใช่!เขายังถือว่ามีสายเลือดขององค์จักรพรรดิอยู่ เขาจะใช้ชีวิตแบบขี้เกียจไปตลอดทั้งชีวิตยังได้”
ผู้คุยต่างพูดคุยกันอย่างเปิดเผยพวกเขาไม่พยายามแม้แต่จะลดเสียงลง แต่ หลิน หยุน ไม่คิดจะสนใจ
ต่อให้เขาจะเป็นสายเลือดขององค์จักรพรรดิ!
แล้วยังไงล่ะ?
เชื้อพระวงศ์มีมากกว่าร้อยคน
ว่ากันตรงๆเขาได้พบกับองค์จักรพรรดิน้อยกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสามระดับสี่ด้วยซ้ำ
”ยินดีที่ได้พบองค์ชายเก้า” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มและไม่สนความคิดของคนรอบข้าง
”ยินดีที่ได้พบ”เหยียน ซิว พยักหน้า
เหวินเต๋าเปา ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ และ เหยยน ซิว ตอบกลับอย่างไรก็ตาม เขาเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว และทักทายองค์ชายเก้ากลับไปเช่นกัน
จากนั้นพวกเขาก็นั่งลง
ในขณะนั้นเองเสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลงทุกๆคนต่างให้ความสนใจกับเวที
มันเป็นจุดประสงค์ที่พวกเขามาที่นี่
เสียงเพลงยังคงบรรเลงอย่างต่อเนื่องแสงสว่างไปทั่วหอเจ็ดดวงดาว ในที่สุดก็เหลือแสงสว่างเพียงแค่เจ็ดแห่ง
”มันกำลังจะเริ่มแล้ว!”
ไฟลุกโชดในดวงตาของผู้คนขณะที่รอคอยการแสดงอย่างตื่นเต้นพวกเขาต่างชื่นชอบในความเป็นปริศนานี้
ฟางเจิ้งจือ และ เหยียน ซิว เองก็รอการปรากฎตัวของเหล่าดาวทั้งเจ็ดเช่นกัน
เสียงเพลงดังขึ้นชัดเจน
จากนั้นแสงไฟสีเขียวก็เริ่มส่องสว่างไปทั่วเวที
จากนั้นก็มีร่างๆหนึ่งที่สวมชุดกระโปรงสีเขียวลอยลงมาพร้อมกับถือกู่เจิ้งคิ้วของนางช่างงดงาม ชุดของนางพริ้วไหวไปตามสายลม
”ติ้ง!”
เสียงของกู่เจิ้งดังสะท้อนอากาศเสียงดนตรีอื่นเองก็ถูกหยุดเช่นกัน
ทุกอย่างราวกับหยุดนิ่งเมื่อเสียงของกู่เจิ้งถูกบรรเลงขึ้น
”โอ้…นั่นมันเพลงณ ริมขอบ นี่นา! ไป่ฮัว ออกแสดงในคืนนี้! ช่างเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม!”
”ใช่ๆนางเลื่องชื่อมากในการคุมเวที!นางไม่ค่อยออกแสดง … ข้าไม่คิดเลยว่านางจะออกแสดงคืนนี้”
”ข้าพนันไว้ว่านางจะมาแสดงวันนี้!”
ผู้คนมากมายเริ่มตบมือและร้องเพลงให้กับสตรีในชุดกระโปรงเขียว
ในตอนนั้นเองเสียงของกู่เจิ้งก็เริ่มเงียบลง และในอีกเวทีหนึ่งก็มีแสงสว่างขึ้น มันเป็นแสงสีฟ้า
”โย่วเสวียขึ้นแสดง!”
”ไป่ฮั่วและ โย่วเสวีย ไม่เคยออกแสดงพร้อมกัน ไป่ฮั่วเด่นเรื่องคุมเวทีข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าโย่วเสวียจะแสดงอะไร”
”ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”
ฝูงชนมองดูสตรีสีฟ้าอย่างคาดหวังพวกเขามองดูซอสองสายในมือของนางอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่หญิงนางนั้นลงมาถึงก็โค้งคำนับให้ฝูงชนและเผยรอยยิ้มที่สดใส
ผู้คนต่างหลงใหลในรอยยิ้มของนางพวกเขาไม่สามารถนั่งอยู่เฉยได้
หลังจากโย่วเสวียเผยยิ้มนางก็เริ่มเล่นซอสองสายหูมันเป็นเพลงช้าที่สงบเงียบและทำให้ผู้คนเพลิดเพลิน
”นั่นมันเพลงจัทราแดงเหนือวัง!”
”มันเป็นการแสดงที่ให้ความรู้สึกเศร้ามาก’จันทราแดงเหนือวัน’ เป็นพทเพลงที่ช่วยทำให้ผู้คนที่ฟังปลดปล่อยอารมณ์ออกมา นี่เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยม!”
”ข้าคิดถูกที่มาในวันนี้!”
พวกเขาทั้งต่างตกอยู่ในอารมณ์เศร้าตามเสียงเพลงเมื่อพวกเขาได้ยิน จันทราแดงเหนือวัง มันราวกับพวกเขาได้พบหนทางในการปลดปล่อย
ผู้คนต่างพอใจเมื่อได้ชมการแสดงทั้งสอง
จากนั้น…
แสงอีกด้านหนึ่งก็ส่องสว่างขึ้นเป็นสีม่วงอ่อน
”ว้าว!นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงร่วมกันสามคน!”
”ช่างเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก!”
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ช้าต้องชนะในการพนันครั้งนี้แน่ๆ! ข้าพนันได้เลยว่า โย่วเสวีย, ไป่ฮัว และ อวี้จื้อ ต้องเป็นผู้แสดงหลักในค่ำคืนนี้!”
เพจหลัก: Gate of god TH