Gate of God - ตอนที่ 527-528
ตอนที่ 527 เป็นไปได้เพียงเท่านี้
เมื่อหญิงสาวในแสงสีม่วงปรากฎตัวขึ้นบรรยากาศภายในหอเจ็ดดวงดาวก็คึกครื้นมากยิ่งขึ้น
หญิงงามสามคนยามค่ำคืน!
ผู้คนต่างก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็น
เสียงเพลงจากซอสองสายเบาลงยวี่ฉือ โค้งตัวลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้คน
จากนั้นนางก็หยิบเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งขึ้นมา
ซุน!
นี่ไม่ใช่เครื่องดนตรีทั่วๆไปแต่มันมีประวัติอันยาวนานมันทำจากดินเหนียวและมีขนาดใหญ่เท่าไข่ห่าน
เสียงที่ไพเราะดังก้องไปทั่วมันเป็นเสียงที่มหัศจรรย์และทำให้ผู้ที่ฟังรู้สึกเหมือนลอยอยู่ในหมู่เมฆ
ผู้คนต่างเงียบลงเมื่อได้ยินเสียงนี้พวกเขาหลับตาลงและฟังเสียงบรรเลงอย่างตั้งใจ
แม้แต่ปิง หยาง เองก็หลับตาลง ริมฝีปากอ้าออกเล็กน้อย ราวกับว่านางกำลังฮัมเพลงอยู่
เหยียนซิว เองก็พยักหน้าไปตามจังหวะ
ส่วนเหวิน เต๋าเปา นั้นหลงอยู่ในมนต์สะกดเสียแล้ว เขาลืมไปแล้ว่าวันนี้ต้องได้หญิงงามกลับไปด้วย เขาอ้าปากน้ำลายไหลเยื้มเมื่อมองดู ยวี่ฉือ
ฟางเจิ้งจือ หันไปมอององค์ชายเก้าหลินหยุนเขาลืมตาอยู่
เขาไม่ชอบเสียงดนตรีงั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้
ท้ายที่สุดในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของราชวงศ์เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะชื่นชมดนตรีคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้คือมีบางอย่างอยู่ในใจของเขา
”องค์ชายเก้ามีอะไรกวนใจท่านอย่างนั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ เผยยิ้ม
”ไม่…ไม่มีอะไร”องค์ชายเก้าหลินหยุน ส่ายหัวเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ถาม เขาหันไปมองทางเวที “ข้าแค่รู้สึกว่าบรรยากาศในวันนี้มันแปลกออกไปเล็กน้อย”
”แปลก?ข้าคิดว่ามันเป็นปกติมาก”ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะ
”อย่างนั้นงั้นรึ?”องค์ชายเก้าผงะแล้วหัวเราะเบาๆ”ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะทำหม้อไฟ ข้าสงสัยว่าข้าจะได้ลองชิมมันหรือไม่?”่
”แน่นอน”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”งั้น… ตอนนี้เลยดีไหม?”องค์ชายเก้าหลินหยุนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินเช่นนั้น
”ตอนนี้?”
”ใช่ถ้าเจ้ามีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ ก็สามารถไปที่บ้านพักของ ปิง หยาง ได้ในตอนนี้เลย”องค์ชายเก้าตอบอย่างตื่นเต้น
”ฮ่าฮ่าไม่มีทาง ข้าวางเดินพันว่าหญิงทั้งเจ็ดจะปรากฎตัวพร้อมกันในวันนี้.” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
”ทั้งเจ็ดคน!”นี่มัน … เป็นไปได้งั้นหรือที่จะชนะ? เจ้าเดิมพันไปเท่าไร? ถ้าเจ้าเดิมพันไปไม่ไม่มากข้าจะช่วยซื้อตั๋วพนันของเจ้าต่อให้”
”สามหมื่นเหรียญเงิน!”
”แค่นั้นเองหรอ?!ได้…งั้นนาน้อยฟาง เจ้าเอาตั๋วพนันมาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งเงินไปที่บ้านของ ปิง หยาง พรุ่งนี้!”
”ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่านข้าวางแผนที่จะชนะในครั้งนี้…” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มก่อนจะปฏิเสธออกไป
”เจ้าวางแผนที่จะชนะเดิมพัน?”ปากของ หลิน หยุน อ้าค้างเมื่อได้ยิน เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่ได้พูด
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม และไม่ได้สนใจองค์ชายเก้าหลิน หยุน อีก เขาหันไปมองที่เวทีและเพลิดเพลินกับเสียงดนตรี
ไม่นานเสียงดนตรีก็เงียบลง
แต่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดนตรีอีกชนิดดังขึ้นเวทีที่สี่สว่างขึ้น!
เวทีนี้แตกต่างจากเวทีอื่นมันมีกลองสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง
”นั่นมันหลันยี่!”
”ข้าไม่ได้เห็นนางมาห้าวันแล้ว”
”นี่มัน…ดาวดวงที่สี่”
”ใช่มันมีโอกาสขึ้นแค่ครั้งเดียวต่อสองเดือนเท่านั้นใครที่ไม่มาวันนี้ต้องโทษตัวเองไปจนตายแน่นอน ฮ่าฮ่า !”
ผู้คนต่างพูดคุยกันเมื่อเห็นร่างที่ค่อยๆปรากฎขึ้นมาการที่พวกนางปรากฎตัวออกมาพร้อมกันสี่นางเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
การที่จะรอพบพวกนางแต่ละคนต้องใช้เวลาหลายวันเป็นอย่างมากแม้อย่างนั้น ผู้คนก็พอใจกับเรื่องนั้น
มันเป็นเรื่องยากมากที่พวกนางจะออกมาแสดงพร้อมกันถึงสี่คน
แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นทุกๆสองเดือนแต่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมาที่นี่ได้ทุกวันเพื่อรอให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
เพราะ…
ค่าใช้จ่ายในการเข้ามาในหอเจ็ดดวงดาวแต่ละครั้งแพงมาก
ใครก็ตามที่สามารถมาที่นี่ได้ทุกวันครอบครัวต้องร่ำรวยเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นกันมาก
การเห็นดาวทั้งสี่ดวงเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถเอาไปคุยโวโอ้อวดได้สำหรับผู้ที่มาจากต่างแดน นี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก
วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม
เสียงกลองดังก้องไปทั่วบริเวณ
มันเป็นเสียงที่หนักแน่นและดังสนั่นมันเป็นเสียงก้องราวกับฟ้าร้อง ความสามารถของนางเป็นที่ประจักษ์สายตามาก
ผู้คนต่างหลงใหล
จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้างปากของพวกเขาอ้าแข็งค้างในขณะนั้นเองแสงดวงที่ห้าก็ส่องสว่างขึ้น
เสียงกลองยังไม่หายไปแต่แสงดวงใหม่กลับส่องสว่างขึ้นแล้ว
ในตอนนั้นเองร่างๆหนึ่งก็ถือเครื่องดนตรีขนาดใหญ่เท่ากู่เจิ้งลงมา
จะเข้!
นี่เป็นการบรรเลงคู่ระหว่างกลองกับจะเข้!
ดาวดวงที่ห้าคือเยว่ฉิง นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
การที่นางออกมาแสดงว่าคืนนี้พวกนางออกมาถึงห้าคน
”ห้าดวงดาว!”
”ในคืนเดียว!”
”เหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไง?”
ผู้คนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นเมื่อ เยว่ ฉิง ค่อยๆร่อนลงมาถึงเวทีสีขาว ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตกใจ
นี่…
มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่น้อย
แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรไม่นางนางก็เริ่มตีกลอง
ผู้คนต่างยืนนิ่งเหมือนถูกต้องมนต์
ผู้คนต่างหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงแม้แต่ ปิง หยาง เองก็ตาม
ดวงตาของเหยียน ซิว เองก็ปิดลงเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่องค์ชายเก้า หลิน หยุน
ตอนนี้การแสดงออกของหลิน หยุน ดูเยือกเย็นกว่าแต่ก่อนมาก ตอนนี้เขากำลังนั่งฟังเพลงอย่างเคลิบเคลิ้ม
ฟางเจิ้งจือ มองไปรอบๆ เขาสำรวจทุกคนที่อยู่ที่นี่
ทุกคนต่างเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลง
บทเพลงนั้นไพเราะเกินไป
แต่
ทันใดนั้นดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างมีเสียงคล้ายระฆังดังขึ้น
มันคือระฆังเหล็ก!
เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นกันในวังหลวงของจีนโบราณ
มันเป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยระฆังหลายชนิดไม่มีใครสามารถแบกมันได้ด้วยตัวเอง มันจึงถูกวางเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนการการแสดงจะเริ่ม
”หก…คนที่หกแล้ว!่
”ดาวดวงที่หก!่
”หกคนงั้นเหรอ?!”
ผู้คนต่างมองไปที่หญิงสาวที่กำลังเครื่องดนตรีชนิดนี้อยู่ด้วยความตกใจและหวาดกลัว
นางพึ่งขึ้นแสดงเมื่อวาน
การที่พวกนางนั้นขึ้นแสดงพร้อมกันหกคนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามของปี!
นี่มันโอกาสพิเศษอะไรกัน?!
ผู้คนต่างตกใจแต่พวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เห็นพวกนางทั้งหกคนร่วมแสดงด้วยกัน นอกจากนี้พวกเขายังตกตะลึงเพราะว่า…
พวกเขาแพ้พนันทั้งหมด!
ไม่มีใครเดิมพันว่าพวกนางจะปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันทั้งหกคนโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นต่ำเกินไป
”นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครจะคาดเดาได้”
”ใช่มันเป็นเรื่องจริงจริงๆแล้วต่อให้จะแพ้พนันก็ไม่เป็นไร การที่ได้เห็นพวกนางพร้อมกันทั้งหกคนก็ถือว่าเป็นบุญตาแล้ว”
”ข้าคิดว่าทุกคนก็คงเสียเงินเหมือนกันหมด”
”ไม่มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้…”
ผู้คนต่างส่ายหัวและถอนหายใจออกาจากนั้นพวกเขาก็คิดถึงความเป็นไปได้อื่น ๆ มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ ที่มีคนสามคนพนันเอาไว้
ทั้งเจ็ดคน!
แต่พวกนางจะปรากฎตัวพร้อมกันจริงๆ?
มันเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของหอเจ็ดดวงดาว
พวกฟาง เจิ้งจือ จะเดาถูกจริงๆหรือ?
ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแต่พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
ถ้าฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง และ เหยียน ซิว ไม่ได้เดิมพันเอาไว้ ก็ไม่มีใครคิดถึงความเป็นไปได้
แต่
เมื่อมีคนพนันไว้เมื่อมีคนที่หกออกมา พวกเขาก็เริ่มคิดถึงคนที่เจ็ด…
”เขาจะโชคดีขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?”
”มันเป็นไปไม่ได้!”่
”ถ้าเขาชนะข้าจะยอมแก้ผ้าเลยเดี๋ยวนี!”
”โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อยเกินไป!”
ผู้คนต่างหันไปมองฟาง เจิ้งจือ, ปิง หยาง และ เหยียน ซิว
”เฮ้เจ้าไร้ยางอาย เจ้าคิดว่าพวกนางจะปรากฎตัวขึ้นมาเจ็ดคนจริงๆงั้นหรือ?” ดวงตาของ ปิง หยาง เป็นประกายขณะมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
”เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ข้าคิดว่าหกคนเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่พวกเราจะได้เห็นในวันนี้แล้วข้าคิดว่าคงมีอะไรเกิดขึ้นถ้าพวกนางปรากฎตัวออกมาเจ็ดคนพร้อมกัน” ปิง หยาง ยิ้ม
”ทำไมล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ เองก็ยิ้มเช่นกัน
”ฮ่าฮ่า… แค่คิดดู เดิมพันหญิงสาวเจ็ดคนของพวกเรานั้นเป็น แสนสามหมื่นเหรียญเงิน ถ้าพวกเราชนะจะได้หนึ่งล้านสามแสนเหรียญเงิน! เจ้าของที่นี่ต้องรู้เรื่องนี้ดี ข้าคิดว่าเขาคงไม่ใจกว้างขนาดนั้น” ปิง หยาง ตอบด้วยความมั่นใจ
”อืมเจ้าพูดถูก ไอ้หยา ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง? ข้าบอกแล้วว่าเจ้าอย่ามาพนันตามข้า! บางที่พวกนางอาจจะออกมาพร้อมกันเจ็ดคนก็ได้” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและเหลือบมอง ปิง หยาง
”เจ้าจะโทษข้างั้นหรือ?”ปิง หยาง กรอกตา
”ข้าเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน…” สีหน้าของ เหยียน ซิว เยือกเย็น แต่เสียงของเขาราวกับรู้สึกผิดเล็กน้อย
ผู้คนเริ่มตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของทั้งสามก่อนที่พวกเขาจะหัวเราะเยาะ
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ทั้งเจ็ดคนเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
”แน่นอนว่าเจ้าของหอเจ็ดดวงดาวต้องไม่โง่แน่นอน! พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้พวกนั้นชนะพนันหรอก!”
”คืนนี้ทุกคนต้องแพ้พนันแน่นอน”
ทุกคนมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเยาะเย้ย แม้พวกเขาจะแพ้ แต่ก็รู้สึกยินดีที่ ฟาง เจิ้งจือ แพ้ไปกับพวกเขา
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 528 ยกเว้นคนเดียว
เหวินเต๋าเปา หน้าซีดขาว เขาไม่ปฎิเสธว่าดีใจที่ได้พบกับดวงดาวทั้งหก อย่างไรก็ตาม เขาสูญเสียเงินทั้งหมดไปกับมัน
ความรู้สึกของเขาตอนนี้ยากที่จะอธิบาย
ดวงดาวทั้งเจ็ด?
เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นแต่ ปิง หยาง ก็พูดถูกหัวหน้าของหอเจ็ดดวงดาวไม่ใช่คนโง่
ตารางการวางเดิมพันอยู่ด้านนอกของหอนี้ถ้าเขาไม่รู้ว่ามีการเดิมพันถึง 130,000 เหรียญสำหรับการปรากฎตัวของดาวทั้งเจ็ด เขสก็คงไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าของที่นี่แล้ว
ไม่ว่ายังไง…
ไม่มีทางที่ดาวดวงที่เจ็ดจะปรากฎตัวขึ้นวันนี้
เสียงของระฆังเหล็กเงียบลงจากนั้นนางก็โค้งให้กับผู้ชม
ในขณะนั้นทุกคนลุกขึ้นยืนปรบมือ!
”นั่นช่างยอดเยี่ยม!”
”ใช่แล้ว!เมื่อไหร่ ซื่อซือ จะขึ้นแสดงอีกกันนะ?”
”มันช่างเป็นโชคดีของพวกเราที่ได้พบกับดาวทั้งหกดวงในวันนี้”
ในขณะที่พวกเขาลุกขึ้นปรบมือพวกเขาหันมองไปทางเวทีที่เจ็ด และเผยยิ้ม
เวทีที่เจ็ดไม่ได้มีแสงสว่างขึ้น
”แค่หก!”
”ฮ่าฮ่าฮ่าดาวทั้งเจ็ด? นั่นช่างน่าขัน!”
”ฮ่าฮ่าฮ่าเขาคิดจริงหรือว่าตัวเองนั้นโชคดี? แม้ว่าจะเป็นเขา ก็ควรวางเดิมพันให้สมเหตุสมผลกว่านี้!”
ฝูงชนเริ่มหัวเราะเมื่อเห็นว่าเวทีที่เจ็ดยังไม่มีแสงสว่างขึ้น
ผลการเดิมพันได้ออกมาแล้ว…
130,000เหรียญ…
หัวหน้าของหอเต็ดดวงดาวไม่ใช่คนโง่
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิดพวกเขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเยาะเย้ย
…
แต่การเยาะเย้ยของพวกเขากลายเป็นความสงสัยและความสับสนพวกเขาเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ยืนขึ้น และจ้องไปที่เวทีที่เจ็ด
”ออกมา!”
คำพูดนั้นเรียบง่ายและพูดอย่างใจเย็นอย่างไรก็ตามทุกคนที่อยู่ในหอต่างเงียบสนิท
ในขณะนั้นเครื่องดนตรีต่างๆหยุดบรรเลงไม่มีแม้แต่เสียงเดียว แม้แต่เหล่าสาวใช้เองก็หยุดทุดอย่างที่กำลังทำอยู่
สิ่งนี้มันทำให้ผู้คนต่างตกใจและจ้องไปยังร่างที่ยืนอยู่กลางหอ
อย่างไรก็ตามความเงียบสงบถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วมันถูกแทนที่ด้วยเสียงหัวเราะที่ดังกระหึ่ม พวกเขาไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ข้าเพิ่งได้ยินอะไรไป? “เขาบอกว่าออกมา!”
”ออกมา!เขาคิดว่าเขาเป็นใคร”
”นี่เป็นเรื่องที่น่าขันที่สุดตั้งแต่ที่ข้าเคยมาที่นี่!มีคนต้องการให้ดวงดาวออกมา?ฮ่าฮ่าฮ่า …นี่กำลังล้อข้าเล่นใช่ไหม!”่
”เขาคิดจริงๆหรือว่าหัวหน้าหอเจ็ดดวงดาวจะฟังเขา?”
ฝูงชนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนพวกเขาลืมไปว่า เหยียน ซิว และ ปิง หยาง เองก็ยืนอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ นี่มันไร้สาระมาก
สำหรับพวกเขา…
มันช่างน่าขันเป็นเรื่องที่น่าขันที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมา
ปิงหยาง เองก็ตกใจเช่นกัน นางไม่รู้เลยว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังทำอะไรอยู่
เหยียนซิว เองก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ แววตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย แต่ก็เห็นได้ถึงความคิดบางอย่าง
เหวินเต๋าเปา เองก็อยากหัวเราะเช่นกัน แต่ต้องอดกลั้นเอาไว้ เขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาหัวเราะออกมา เขาจึงต้องอดกลั้นเอาไว้ให้ได้
มันทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองมีเลือดไหลออกมาจากใบหน้าของเขาเป็นผลจากอาการตกใจและหวาดกลัวจากสิ่งที่เขาเห็น
ตามจริงแล้วดวงตาของเหวิน เต๋าเปา นั้นเล็กมากๆแต่ตอนนี้ …
พวกมันกำลังถลนออกมาจากเบ้า
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเขาไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้จริงๆ
นั่นเพราะว่า
แสงจากเวทีที่เจ็ดส่องสว่างขึ้น
มันเป็นแสงสีทองย้อมไปทั่วเพดาน
”ไฟ…ไฟสว่างขึ้น!” ตัวของ เหวิน เต๋าเปา สั่นสะท้านขณะที่เขาพูดออกมา
ทุกคนต่างตกใจกับเรื่องที่เกดขึ้นไม่มีใครเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อแสงสีทองส่องออกมา ทุกคนต่างพูดไม่ออก
เสียงหัวเราะเงียบหายไปในทันที
ทุกคนไม่มีใครตอบสนองได้ทันเวลาร่างกายของพวกเขาแข็งค้าง หัวสมองว่างเปล่า
ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเวทีทั้งเจ็ดถึงสว่างพร้อมกัน
…
มีร่างร่างหนึ่งปรากฎขึ้นมา
เป็นหญิงสาวในชุดสีทองผมยาวไปถึงเอว ในมือของนางมีพิณหยกอยู่ในมือ
”นาง…ลั่วฉิง!”
”นั่นเป็นนางจริงๆ!”
”ข้าละเมออยู่งั้นหรือ?ลั่วฉิง กำลังจะบรรเลงเพลง”
ไม่มีใครสามารถเชื่อสายตาตัวเองได้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก
คืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ดาวทั้งเจ็ดดวง!
มันเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาแต่คืนนี้กลับเกิดขึ้นอีกครั้ง!
”ไม่มีทาง?!”
”เกิดอะไรขึ้น?”
”ต้อบ้าไปแล้วแน่ๆงั้นหรือเจ้าของหอเจ็ดดวงดาวเสียสติไปแล้วงั้นหรือไง? ทำไมเขาถึงปล่อย ลั่วฉิงออกมา? นั่นมันเงินล้านเลยนะ!”
”ไม่มีทาง?!ข้าต้องละเมอ…ละเมอแน่นอน…”
พวกเขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก
มันราวกับเป็นปาฎิหาริย์ที่ไม่มีใครคาดคิดไม่มีใครอธิบายความตกใจนี้ออกมาเป็นคำพูดได้
”ติ้ง!”
เสียงเพลงจากพิณหยกดังไปทั่วอากาศ
มันฟังดูเบาบางราวกับสายน้ำในทะเลสาบจากนั้นก็เหมือนมีหยาดฝนเล็กๆตกลงมากระทบผิวน้ำ
ทุกคนต่างนิ่งสงบเมื่อได้ยินเพลงนี้มันช่วยปลอบประโลมจิตใจของพวกเขา
ทุกคนต่างสงบและผ่อนคลาย
ในที่สุดเพลงก็หยุดลง
ทุกคนเลิกมองไปที่ลั่วฉิง แต่หัวไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ที่นั่งอยู่กลางห้อง
”เขาเดาถูก!”
”เขารู้ได้ยังไง?เขายังเป็นมนุษย์หรือเปล่า?”
”เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไงกัน?ต่อให้เป็นจริงเขาก็ไม่มีทางเดาได้แม่นยำขนาดนี้ หรือเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับหอเจ็ดดวงดาว…”
”ไม่มีทาง!ถนนเจ็ดดวงดาวแห่งนี้นั่นยิ่งใหญ่ขนาดไหน เขาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ! เขาจะไปเกี่ยวข้องได้ยังไง?”
”ที่สำคัญที่สุดนี่คือเมืองหลวง!มีผู้คนมากมายเข้าออกทุกวัน เขาคงไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ตลอดหนึ่งปี!”
”ใช่เหตุผลที่เขาสามารถเข้ามาเมืองหลวงได้ในครั้งนี้เพราะฉือ เฮา และ เหยียน ซิว มากับเขา นอกจากนี้เขายังได้รับการช่วยเหลือจาก ปิง หยาง…”
ตอนแรกผู้คนต่างนิ่งสงบแต่เมื่อมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขากลับเริ่มถกเถียงกัน
พวกเขาไม่เข้าใจ…
ทำไมลั่วฉิง ถึงปรากฎตัวขึ้นเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ พูดว่า ‘ออกมา’?
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?
ผู้คนต่างมองหน้ากันพวกเขาไม่สามารถนึกถึงความเป็นไปได้อื่นๆอีก
เบื้องหลังของฟาง เจิ้งจือ ไม่มีความลับอะไร
เขาเป็นชาวนา
เขามีเพื่อนเพียงคนเดียวคือเหยียน ซิว แม้ว่า เหยียน ซิว จะมีอิทธิพล แต่ตระกูลเขาไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับกิจการหอเจ็ดดวงดาว
โดยไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่น…
เหยียนเฉียนหลี่ ไม่มีทางยอมแน่นอน!
สำหรับปิง หยาง…
นั่นเป็นไปไม่ได้เช่นกัน! ทำไมองค์หญิงต้องเปิดสถานที่แบบนี้ในเมืองหลวง? นางไม่ได้ต้องการเงิน
ดังนั้นฟาง เจิ้งจือ ทำได้ยังไงกัน?
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะรู้จักเจ้าของที่นี่ แต่เขาถึงกับต้องยอมเสียเงินล้านสามแสนเหรียญเงินเชียวหรือ?
ความสัมพันธ์แบบไหนที่คุ้มค่ากับเงินมากมายขนาดนี้
แม้แต่ภาษีที่เก็บมาจากสักมณฑลเล็กๆอาจจะเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ดังนั้น…
สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!
เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือนี่เป็นเรื่องบังเอิญ!แต่เจ้าของที่นี่คิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมของถึงเปลี่ยนแผนทั้งๆที่มันจะทำให้ตัวเองเสียเงิน?
เขายอมจริงๆงั้นหรือ?
ไม่มีใครที่นี่สามารถเข้าใจได้ทันใดนั้นมีร่างร่างหนึ่งคุกเข่าลง น้ำตสไหลอาบแก้ม
”นายน้อยฟางข้า เหวินเต๋าเปา ช่างโง่เง่ายิ่งนัก… ข้าไม่ควรสงสัยในตัวท่าน ข้าควรพนันตามท่าน! ข้าไม่ควรหัวเราะเยาะท่าน ครั้งหน้าข้าจะพนันตามท่าน ไม่ว่าท่านจะเลือกพนันแบบไหนก็ตาม นายน้อยฟาง เนื่องจากท่านได้เงินถึงสามแสน ได้โปรดอย่าถือ!”
เหวินเต๋าเปา พุ่งเข้าไปเกาะขาของ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมร้องอ้อนวอน
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นข้างเขา
”สวะ!”
จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงที่มาปะทะใบหน้าเขาก่อนที่ตัวเขาจะกลิ้งไปด้านหลัง
จนชนกับที่นั่งของผู้อื่น
”ตึง!”
ก่อนที่ชายคนนั้นจะตั้งตัวทันร่างกายของ เหวิน เต๋าเปา ก็พุ่งเข้าชนแล้ว เขาล้มลงกับพื้นจนฟันหักไปซี่หนึ่ง
ขณะที่เขากำลังจะด่านั้นเองเขาก็เห็นร่างสีแดงยืนขึ้น
…
ทั้งเหวิน เต๋าเปา และผู้คนต่างเงียบปากทันที
ถ้าเป็นปกติพวกเขาคงพูดออกมาอย่างไม่ลังเลอย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับ ปิง หยาง…ไม่มีใครอยากรนหาที่ตาย
”ไม่เลวคนที่นี่ค่อนข้างใจกว้างนะ!”ปิง หยาง หัวเราะเยาะก่อนจะยิ้มให้ ฟาง เจิ้งจือ
”ช่างเถอะอย่างน้อยมันก็ทำให้ข้ารู้ว่าเชื่อใจใครได้บ้าง”
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มและมองไปที่ ปิง หยาง เขารู้ว่านางคิดอะไรอยู่
บางครั้งการตัดสินใจบางอย่างอาจจะดูโง่
แต่มันก็ไม่สำคัญ
ในโลกก่อนหน้าของเขามีคำพูดว่า’ข้ายินดีที่จะทรยศทุกคนดีกว่าให้ใครสักคนมาทรยศข้า’
สำหรับฟาง เจิ้งจือ แล้วนั้นเขาจะไม่ทรยศคนคนหนึ่งเด็ดขาด คนที่รีบมาที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือจากดินแดนเหลียงตะวันตกภายในสามวัน
ชื่อของชายคนนั้น…
เหยียนซิว!
เขาตัดสินใจได้ตั้งแต่ที่เหยียน ซิว พนันตามเขาโดยไม่สงสัยอะไรแม้แต่น้อย
เพจหลัก: Gate of god TH