Gate of God - ตอนที่ 543-544
ตอนที่ 543 เริ่มงานเลี้ยง
พวกเขาประกอบไปด้วยทหารเกือบห้าพันนายรวมถึงสัตว์ต่างๆจำนวนมาก เสียงร้องคำรามของพวกมันดังก้องไปทั่ว
สัตว์แต่ละตัวนั้นมีผ้าไหมสีแดงพันตกแต่งอยู่รอบๆตัว
มีสัตว์ตัวหนึ่งสูงกว่าสามเมตรยืนอยู่ตรงกลางกองทัพนี้มันมีเกล็ดสีขาวรอบๆตัวและมีงายาวสีขาวราวกับหิมะ มันเป็นผู้นำของเหล่าสัตว์ป่า
มีแคร่สีเงินอยู่บนหลังของมันมีหญิงสาวนางหนึ่งในชุดหนังสัตว์นั้งอยู่บนนั้น ผิวของนางขาวผ่อง ดวงตาสีดขลับผมดำยาวไปถึงกลางหลัง
มงกุฎนั้นประดับไปด้วยอัญมณีห้าเม็ดและขนนกสามสี
นางคือฉาน ยู่! ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้!
”นางงดงามมาก!”
”พวกเราโชคดีมากที่ได้เห็นความงดงามของนาง!”
”พวกเขาคุมสัตว์ร้ายเหล่านี้ได้ยังไงกัน?พวกเขาไม่กลัวมันอาละวาดหรอกหรือ?”
”เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?สัตว์พวกนี้ ล้วนถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี! ทำไมพวกมันจะไม่เชื่อฟังล่ะ?”
ผู้คนต่างอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง
พวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความอันตรายจากสัตว์ป่าเหล่านี้
”โฮก!”
เสียงคำรามดังสนั่นดังก้องไปในอากาศ
ผู้คนต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสัตว์ร้ายเหล่านี้
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนในชุดสีดำได้ก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าสัตว์ที่เป็นผู้นำฝูง
”ยินดีต้อนรับข้า ฉิน หยวน รัฐมนตรีกรมกฎหมาย!” ฉิน หยวน ก้มกัวและโบกมือให้ทหารด้านหลัง
ทันใดนั้นทหารก็ก้าวเดินไปข้างหน้า
ตามประเพณีแล้วองค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป จะรอต้อนรับนางที่ประตูพระราชวัง รวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ ดังนั้นหน้าที่ต้อนรับนางที่ประตูจึงกลายเป็นของ ฉิน หยวน
ฉินหยวนเดินนำพวกเขาผ่านประตูเมืองตะวันออกเข้าไป พวกเขามุ่งไปยังพระราชวัง
…
ที่ประตูบ้านของปิง หยาง …
เหวินเต๋าเปา อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขาแทบจะลอยไปมาแทนการเดินอยู่แล้ว
ในความเป็นจริงตอนที่เขาก้าวเท้าออกจากบ้าน มีคนจำนวนมากรอเขาอยู่ที่ประตูบ้างนำดอกไม้มาให้ บางชวนไปดื่ม และบางคนชวนเขาไปที่หอเจ็ดดวงดาว…
แต่
เหวินเต๋าเปา ปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด
นั่นเพราะพ่อของเขาสอนเสมอว่าควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
เหวินเต๋าเปา ไม่เข้าใจมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้ว สองวันที่ผ่านมามีคนมากมายมาหาเขาเพื่อมอบของมีค่ามากมายให้
ไม่ว่าจะเงินสมบัติ ของโบราณ…
”ปฏิเสธพวกเขา!ข้าจะได้รับอะไรที่มากกว่านี้ถ้าปฏิเสธพวกเขา!” เหวิน เต๋าเปา พยายามต่อต้านสิ่งล่อตาล่อใจเหล่านั้น เพื่อรอสิ่งที่ดีกว่า
แต่สุดท้ายกลับเป็นเขาเองที่ถูกปฏิเสธ
”นายน้อยเหวินข้าขอโทษ องค์หญิงได้พูดไว้ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ต้อนรับใครก็ตามในวันนี้!” ทหารยามหน้าประตูหยุด เหวิน เต๋าเปา ไว้ก่อนที่เขาจะเดินเข้าประตูไป
”พี่หลี่ท่านจำข้าไม่ได้งั้นหรือ? ข้า เหวิน เต๋าเปาไง! องค์หญิงไม่อยากพบข้างั้นหรือ?” เหวิน เต๋าเปา เคยใช้เวลาอยู่ที่นี่มากมาย
เขายัง’ให้รางวัล’ ทหารยามด้วยเงิน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถเข้าออกบ้านของปิง หยาง โดยไม่มีใครมาขัดขวาง
”คำสั่งขององค์หญิงไม่มีใครขัดได้!”
”โอ้… ” เหวิน เต๋าเปา ถอนหายใจด้วยความโกรธ เขารู้ว่าทหารยามไม่มีทางให้เขาเข้าไปด้วยแน่นอน
หรือนี่จะเป็นการลงโทษ?เขาปฏิเสธคนอื่นมากเกินไป…
แต่ว่า…
ทำไมปิง หยาง และ ฟาง เจิ้งจือ ถึงปฏิเสธที่จะพบเขา
ต้องมีบางอย่างผิดปกติ!
เขาสามารถเข้าได้ตอนที่พ่อของเขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่ตอนนี้พ่อของเขาเป็นรัฐมนตรีแล้วทำไมเขากลับถูกปฏิเสธ?
เหวินเต๋าเปา คิดไม่ออก แต่หอกอันแหลมคมที่ทหารถืออยู่ทำให้เขาไม่กล้าขัดขืน
เหวินเต๋าเปา ส่ายหัวและเริ่มเดินไปที่วัง
วันนี้องค์ราชินีจากแดนใต้ได้เดินทางมาถึง
มันคงน่าเสียดายท่าเขาไม่ได้ไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นสักหน่อย
บ้านของปิง หยาง อยู่ใกล้วัง เหวิน เต๋าเปา ต้องการหาจุดยืนดูดีๆ
แต่ตอนนี้…
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเบียดเสียดกับผู้คน
แม้ว่านี่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขาแต่เขาก็ยังคงต้องเร่งฝีเท้าและเดินเบียดเสียดกับผู้คนไปที่วัง
ไม่นานเขาก็อยู่ที่ปากทางเข้าวังคนเยอะมาก!ทหารองครักษ์เปิดทางออกเป็นสองแถวให้เหล่าคนจากแดนใต้เข้าไป องค์จักรพรรดิกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ในพระราชวัง มีเหล่าเจ้าหน้าที่ยืนขนาบข้างเขาอยู่
เหวินเต๋าเปา เห็น ปิง หยาง อย่างรวดเร็ว เขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นนางยืนอยู่ข้างองค์จักรพรรดิ
”นางมาเร็วจัง?”เหวิน เต๋าเปา รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าบ้านนาง อย่างไรก็ตาม เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทหารยามถึงไม่บอกว่านางอยู่ที่วัง
และ…
ฟางเจิ้งจือ และ เหยียน ซิว อยู่ที่ไหน
”แปร๋น!”
ในตอนนั้นเองเสียงร้องดังก้องผ่านอากาศ รบกวนความคิดของ เหวิน เต๋าเปา
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายและกลิ่นอายทำให้เหล่าผู้คนต่างก้าวถอย
”โอ๊ะ!ช้างหินหยก! มันเป็นสัตว์ร้ายที่ทรงพลังที่สุด! แล้วยังมีหมาป่าเขาเงินอีก! นั้นมันกองทัพแนวหน้าของดินแดนภูเขาทางใต้! “เหวิน เต๋าเปา หยุดสงสัย
ผู้คนเริ่มกระจายตัวออกไปด้านข้างจนเหลือพื้นที่พอให้พวกเขาเดินผ่าน
จักรพรรดิหลิน มู่ไป่ ดูเหมือนจะมีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย
ชุดคลุมสีทองของเขาพริ้วไหวไปตามสายลมคนรับใช้ทั้งสี่คนถือร่มให้เขา
องค์หญิงและองค์ชายต่างนั่งขนาบข้างองค์จักรพรรดิรวมทั้งองค์รัชทายาทและราชาต้วน
วันนี้องค์ชายเก้าเองก็อยู่ที่วังเช่นกันอย่างไรก็ตามเขายืนอยู่ไกลๆ
ซิงหยวนกัว หัวหน้ากองตรวจการความมั่นคง และ ฉือ เฮา หัวหน้ากองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ต่างก็นำคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่พวกเขาต่างยิ้มแย้มร่าเริง
”ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้มาถึงแล้ว!”เสียงของฉิน หยวนดังก้องไปทั่ว ทุกคนต่างได้ยินเสียงของเขาชัดเจน
เมื่อเสียงของเขาดังขึ้นขบวนแถวก็หยุดเคลื่อนไหว สัตว์ทุกตัวต่างส่งเสียงร้องด้วยโทนเสียงต่ำ
”เสียงเพลง!”
”…”
เสียงสะท้อนดังขึ้นไปในอากาศ
หญิงสาวกว่าร้อยคนเริงระบำตามเสียงเพลงจนในที่สุดมีคนเดินลงมาจากพรมแดงที่ด้านหน้าของพระราชวัง
แต่ละคนถือดาบอยู่ในมือ
”ฟุ้บฟุ้บ!”
อาณาจักรเซี่ยให้ความสำคัญกับประเพณีมาก
การเต้นรำเป็นส่วนหนึ่งของประเพณี
เมื่อจบการแสดงราชินีแดนใต้จะถูกเชิญเข้าพระราชวังจะมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
นี่อาจเป็นการเฉลิมฉลอง
อย่างไรก็ตาม
เทศกาลดำเนินไปไม่นานหญิงสาวต่างก็หยุดเต้น มีคนๆหนึ่ง ยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขา
เขาก้าวออกมาจากฝูงชน
เขาไม่ได้เดินเร็วมากความจริงแล้วเขาเดินอย่างละเมียดละไมแต่ทุกคนต่างหยุดทุกการกระทำและจ้องไปที่เขา
ไม่ใช่แค่พวกเขาเหล่าทหารองครักษ์เองก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น
เขาไม่ได้มองไปที่องค์จักรพรรดิหรือองค์รัชทายาทเขาไม่แม้แต่จะมองไปทางราชาต้วน ปิง หยาง หรือเหล่าเจ้าหน้าที่ เขาจ้องมองช้างหินหยกและหญิงสาวที่นั่งอยู่บนยอด
เสียงเพลงหยุดบรรเลง
ทุกคนต่างจ้องไปที่เด็กหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงินที่กำลังพริ้วไหวไปตามสายลมพวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ดวงตาของพวกเขาเกือบจะถลนออกจากเบ้า
”เขาจะทำอะไรกัน?”
”ทหารองครักษ์มัวทำอะไรอยู่?ทำไมไม่มีใครหยุดเขา!”
”เจ้าสวะนั่น!”
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อเห็นเด็กคนนี้
”บรู๋ว!”
หมาป่าเขาเงินต่างส่งเสียงร้องเมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มทุกคนยังคงจ้องไปที่เขา
พวกเขาจำได้ว่าคนนี้เป็นใคร
ทุกคนจ้องมองที่เด็กหนุ่มคนนี้ด้วยความตกใจ
เพราะ
เขาคือฟาง เจิ้งจือ
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาเป็นคนฆ่า ฉาน หลิง และล่วงเกิน ฉาน ยู่
เขากล้าเปิดเผยตัวออกมาต่อหน้าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ได้ยังไง!
”จับกุมเขาเร็วเข้า!”
”เขาจะขัดขวางงานฉลองและการเจรจา!จับเขา!”
”ทหารองครักษ์!”่
เจ้าหน้าที่เรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
ทหารองครักษ์ล้อมรอบตัวฟาง เจิ้งจือ ในทันทีและจ่อปลายหอกไปที่คอของเขา
”ยอมแพ้ซะ!”
”นายน้อยฟางได้โปรดอย่าทำให้พวกเราลำบากใจ”
ไป่ฉี จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และขมวดคิ้ว เขาสงสัยว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ต้องปรากฎตัวออกมาที่นี่ด้วย
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ คงไม่พ้นโทษประหารชีวิตเป็นแน่
ฟางเจิ้งจือ เพิกเฉยต่อ ไป่ ฉี อย่างสิ้นเชิง เขาไม่ได้มองไปในทิศทางนั้น เขายังคงยืนนิ่ง
เขาไม่ได้มองไปที่หญิงสาวบนหลังช้างหินหยกด้วยซ้ำ
ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้!
ฉานยู่!
ในตอนนั้นเองก็มีร่างๆหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน เขาสวมชุดคลุมสีขาวท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เขาไม่ได้เดินไปหาเหล่าหทารองครักษ์แต่เขาเดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ
ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดงอกมา
เหยียนซิว!
”นายน้อยเหยียนท่าน…” หอกของ ไป่ ฉี สั่นสะท้านเมื่อเห็น เหยียน ซิว เข้ามาใกล้
เขาตกใจเมื่อเห็นฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากจะเชื่อว่า เหยียน ซิว จะทำแบบนี้
เขารู้ว่าเหยียน ซิว รู้ว่าเหตุการณ์นี้สำคัญเพียงใด แต่ เหยียน เซียวเลือกที่จะอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ
น่าจะมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว…
เรื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น!
”ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้จะไม่ทำอะไรกับชายที่ฆ่าพี่ชายของท่านจริงๆงั้นหรือ?”เสียงที่สงบนิ่งดังสะท้อนออกมา
เสียงไม่ดังแต่ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงสามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจน
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 544 ความรู้สึก
ทุกคนต่างจ้องมองฟาง เจิ้งจือ พวกเขาตกใจกับสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดเป็นอย่างมาก
”เขาคิดจะทำอะไรกัน?”
”หรือเขาเบื่อกับการใช้ชีวิตแล้ว?”ไอรีนโนเวล
”เขาไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าองค์รัชทายาทของดินแดนภูเขาทางใต้งั้นหรือ?”
ไม่มีใครเข้าใจความคิดของฟาง เจิ้งจือ เขาอยู่รอดในเมืองได้เพราะชื่อ ฟาง เจิ้งเจิ้ง ทำไมเขาถึงปรากฎตัวออกมาตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นปริศนามาก
ท่าทีของหลิน เทียนหลง ดำมืดเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขารู้แน่ชัดว่า ฟาง เจิ้งจือ ต้องการทำอะไร
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่สามารถเชื่อได้
การมาถึงขององค์ราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้นั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก!ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงพูดเรื่องนี้ออกมาตอนนี้?
เขาจะจองหองเกินไปแล้ว?!
ใบหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็บิดเบี้ยวเช่นเดียวกันฟาง เจิ้งจือ นั้นถูกตัดสินว่าเป็นคนผิดไปแล้ว
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมีชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ทำไมเขาถึงเลือกเวลาตอนนี้เพื่อเปิดประเด็นนี้ออกมาอีกครั้ง?
ดวงตาของทุกคนแทบถลนออกมาจากเบ้าพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ดีเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ก้าวเท้าไปข้างหน้า
เขาคิดจะทำอะไรกัน?
จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เหวินเต๋าเปา อยากจะก้าวเท้าไปหยุด ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่ เหยียน ซิว และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ทำเช่นนั้นได้
องค์จักรพรรดิเหลือบตามองฟาง เจิ้งจือ ชุดคลุมสีทองของเขาพัดไปตามสายลม
เขาเป็นผู้นำของอาณาจักร…
เขาโกรธเพราะขณะที่เขากำลังทำการต้อนรับองค์ราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้กลับถูกขัดจังหวะขึ้นมาโดยคนผู้หนึ่งแต่เขาก็ระงับความโกรธของเขาเอาไว้
นั่นเพราะเขาเป็นผู้นำของอาณาจักร
การตัดสินใจของเขาทุกครั้งจะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เขาต้องรอ ไตร่ตรองและคิดให้ดี…
ซิงหยวนกัว, ฉือ เฮา และ ปิง หยาง เองก็รอเช่นกัน การแสดงออกของพวกเขาแตกต่างกันทั้งหมด
ราชาต้วนและหลินเทียนหลง เองก็รอเช่นกัน
เงียบทั่วบริเวณต่างเต็มไปด้วยความเงียบ
สายลมพัดไปทั่วบริเวณ
ฉานยู่ ไม่พูด
นางยังคงเงียบราวกับว่านางไม่เห็น ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามสายตาของนางจ้องมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ อย่างชัดเจน
นางจ้องมองไปที่เขาตั้งแต่ตอนที่เขาปรากฎตัวมาราวกับนางจ้องมองผ่านทะลุตัวเขาไป
เวลาไหลไปเรื่อยๆ…
กระนั้นก็ไมมีใครส่งเสียงอะไร
หลินเทียนหลง ยิ้มเมื่อเห็นองค์ราชินี ฉาน ยู่ ไม่เคลื่อนไหว ฟาง เจิ้งจือ อุกอาจ แต่ ฉาน ยู่ ไม่โง่
ดินแดนภูเขาทางใต้…
พวกเขาเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรเซี่ย…
หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ทรงพลังพวกเขาไม่มีทางกล้าทรยศกับอาณาจักรเซี่ยแน่นอน
เขาไม่คิดว่าฉาน ยู่ จะโง่พอที่จะทำเช่นนั้น
นางฉลาดและเลือกที่จะรักษาความสงบเอาไว้ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานอกจากนี้ถ้าพวกเขาต้องการรื้อคดีนี้ขึ้นมาทำใหม่…
พวกเขาก็ไม่น่าจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ฟาง เจิ้งจือ
หลินเทียนหลง หันไปมองเหล่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหลังเขา
”ทหารองครักษ์รออะไรอยู่จับกุมเขาเดี๋ยวนี้!”หลิน เทียนหลง ตะโกนขึ้นมา
”ข้าขอโทษนายน้อยฟาง!”ไป ฉี กัดฟัน ขณะที่เขาเตรียมจะโจมตีนั่นเอง ก็มีร่างหนึ่งปรากฎตัวอยู่ด้านหน้าเขา
ในเวลาเดียวกันแสงสีแดงก็ปรากฎขวางหน้าเขาเอาไว้
มันเป็นกำแพงคริสตัลทั้งเยือกเย็นและอันตรายรากัวผุดขึ้นมาจากขุมนรก
เต๋าแห่งอาชูร่า
”นายน้อยเหยียนวันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเซี่ยและดินแดนภูเขาทางใต้ ท่านไม่คิดว่าท่าน เหยียน เฉียนหลี่ จะว่าท่านงั้นรึที่ทำเช่นนี้?” แขนของ ไป่ ฉี สั่นสะท้าน
เขาไม่กล้าโจมตีถ้าไม่มีคำสั่งขององค์จักรพรรดิ
มีกองทหารเมฆาตั้งค่ายอยู่ที่บริเวณทะเลสาบสิบลี้
”ทหารองครักษ์ก็ควรทำตัวให้สมกับเป็นทหารองครักษ์!”ท่าทีของ เหยียน ซิว ยังคงเยือกเย็นเช่นเคย
ไป่ฉี ตกตะลึง แต่เขาได้สติอย่างรวดเร็ว
เขาต้องทำให้งานวันนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นความรับผิดชอบทุกอย่างเป็นของเขา…
ดังนั้น…
เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าเพื่อหยุดฟาง เจิ้งจือ
ไม่มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่เขาทำอย่างไรก็ตาม คำพูดของ เหยียน ซิว ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเขา ทั้งองค์จักรพรรดิและแม่ทัพยังไม่ได้ออกคำสั่ง
เขาปล่อยมือออกจากหอก
แม้ว่าหอกจะยังจ่อที่คอของฟาง เจิ้งจือ ไป่ ฉี ไม่พูดอะไรต่ออีก
”รองแม่ทัพท่านกำลังรออะไรหรือ?”เจ้าหน้าที่ออกปากถาม
อย่างไรก็ตามไป่ ฉี ไม่ได้สนใจ เขาหลับตาลงและยืนตัวแข็งราวกับรูปปั้น
ฝูงชนต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อและสับสน
ทำไมทหารองครักษ์ถึงไม่จับตัวฟาง เจิ้งจือ ?
ในตอนนั้นเองฟาง เจิ้งจือ ก็หัวเราะเบาๆ เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาหันไปมองทหารรอบๆ
จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปรวมกับฝูงชน
ทหารคุ้มกันมองไปที่ไป่ ฉี ส่วน ไป่ ฉี มองไปทางคนที่อยู่ตรงกำแพงของราชวัง
เขาคนนั้นสวมเกราะอย่างไรก็ตาม เกราะของเขาคนนั้นต่างไปจาก ไป่ ฉี
เพราะว่า…
มันเป็นเกราะของหญิงสาว
เป็นเกราะของหญิงสาวเพียงคนเดียวท่ามกลางทหารคุ้มกันที่แข็งแกร่งกว่า50,000 นาย
นางเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวทั้งยังเป็นผู้บัญชาการกองทัพอีกด้วย!
แววตาขององค์รัชทายาทหลินเทียนหลง ส่องประกาย เขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปแน่
”ท่านพ่อปล่อยเขาไปอย่างนั้นจะดีหรือ?”องค์รัชทายาทพูด
”ใช่แล้วฝ่ายาท ชายคนนี้ช่างจองหองยิ่งนัก! เราไม่สามารถปล่อยเขาไปได้!”
”ฝ่าบาทโปรดออกคำสั่งจับกุมเขาด้วย!”
”ฝ่าบาทโปรดออกคำสั่ง!”
เจ้าหน้าที่ต่างเสนอความคิดของพวกเขา
ราชาต้วนรูสึกขัดแย้งเล็กน้อยเขาบอกได้เลยว่า ฉือ เฮา กำลังมองดูเขาอยู่ แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ ปฏิเสธเขาเมื่อวันก่อนนั้น …
เขาตัดสินใจที่จะไม่ก้าวไปข้างหน้า
จักรพรรดิหลินมู่ไป่ หันหลังและมองไปที่เจ้าหน้าที่ที่กำลังคุกเข่าแต่ทันใดนั้นมีผู้หนึ่งก้าวเท้าออกมา
จักรพรรดิหลินมู่ ไป่ ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้ที่ก้าวเท้าออกมา
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกไม่ได้นานมากนักร่างสีแดงก็พุ่งมาหาเขา
”ท่านพ่อข้าหิวแล้ว! เรายืนรอที่นี่นานแล้ว เริ่มงานเลี้ยงได้แล้ว! ข้ามั่นใจว่าราชินีแดนใต้เองก็คงหิวแล้วเช่นกัน ด้วยการเดินทางที่มีระยะไกลเช่นนี้…” ปิง หยาง พูดขึ้น
”อืมปิง หยาง พูดถูกแล้ว ข้าเองก็เริ่มหิวแล้ว”องค์จักรพรรดิพูด
เมื่อขันทีเหว่ยได้ยินเช่นนั้นเขาเดินไปหาเหล่าเจ้าหน้าที่และออกคำสั่งทันที
”ถึงเวลาแล้วเริ่มงานได้!”เสียงดังก้องไปทั่ว
”เริ่มงานเลี้ยง!”
”เริ่มงานเลี้ยง!”
”…”
”หยุดอยู่ตรงนั้น!”
ทันใดนั้นเองเสียงก็ดังขึ้นมา มันเป็นเสียงจากบนหลังช้างเจ้าหน้าที่ต่างมองหน้ากัน
พวกเขาได้ยินเสียงนี้
ทุกคนตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อหันไปมอง
ทันใดนั้นเอง…
ร่างๆหนึ่งยืนขึ้นและก้าวเท้าออกมานางเดินไปข้างหน้าที่หัวช้างหินหยก
ผิวของนางเปล่งประกายใต้แสงอาทิตย์
แววตาของนางเงาดำเป็นดั่งอัญมณี
นางไม่ได้คุยกับขันทีเหว่ยหรือเจ้าหน้าที่นางกำลังมองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น
”เจ้าพร้อมหรือยัง?”ฉานยู่ เพิกเฉยทุกสิ่งและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
เมื่อนางพูดเรื่องนี้…
ท่าทีของหลิน เทียนหลง เปลี่ยนไปเมื่อเขามองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ กับแววตาที่เฉียบคมของนาง
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดต่างรู้สึกสับสนเมื่อได้ยินสิ่งที่องค์หญิง ฉาน ยู่ พูด
พวกเขาเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนภูเขาทางใต้
พวกเขาทั้งหมดต่างรู้ชัดอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถพูดออกมาได้
อย่างที่ว่าไปพวกเขาทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่องค์หญิง ฉาน ยู่ พูด
”ไม่อยากจะเชื่อ?”
”ทำไมฉาน ยู่ ถึงถาม ฟาง เจิ้งจือ ว่าเตรียมการมาพร้อมหรือยัง?”่
”เขาต้องเตรียมอะไร?”
เจ้าหน้าที่หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความคาดหวังและหวาดกลัว
อารมณ์ของพวกเขาต่างสับสนวุ่นวาย
ฟางเจิ้งจือ หยุดเคลื่อนไหว เสื้อคลุมของเขากำลังพริ้วไหวไปตามสายลม เขาส่ายหัวเบาๆโดยไม่หันกลับมอง
”ไม่”
”ถ้าเจ้าไม่ได้เตรียมการอะไรไว้แล้วเจ้ากล้ามาปรากฎตัวต่อหน้าข้าได้ยังไง?เจ้าไม่กลัวข้าจะฆ่าเจ้าหรือไง?” ในใจของ ฉาน ยู่ เต็มไปด้วยความโกรธ
ทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ตอบสนองทันทีพวกเขาเตรียมยกหอกขึ้นและพุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
”ตาย!”
”ฆ่าเขา”
เสียงของพวกเขาดังก้องไปในอากาศ
”หยุด!”เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมากลางคัน
จากนั้นก็มีร่างๆหนึ่งเดินออกมาจากแถวทัพเขาสวมชุดคลุมหนังสีแดงสด
เขาคือหัวหน้าหน่วยอีกาดำ!
ทหารแดนใต้กลับมาอยู่ในความสงบทันทีพวกเขาลดหอกลง
อย่างไรก็ตามฝูงชนต่างก้าวถอยด้วยสัญชาตญาณ
ดินแดนภูเขาทางใต้…
แม้ว่าฝูงชนจะหวาดกลัวแต่พวกเขาก็ตื่นเต้นเล็กน้อยคอยดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นพวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่หญิงสาวที่อยู่บนหลังช้างหินหยก
ราชินีแดนใต้ฉาน ยู่
ทุกคนรู้ถึงเรื่องนี้ดีแม้ว่าจะเป็นคำสั่งของหัวหน้าหน่วยอีกาดำ แต่เบื้องหลังของคำสั่งนั้นก็คือ ฉาน ยู่
อย่างที่ว่าไปพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงออกคำสั่งหยุดเหล่าทหาร ทั้งๆที่องค์หญิง ฉาน ยู่ แสดงความโกรธ หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะมีผลต่อการตัดสินใจของนาง?
นางมีความรู้สึกดีๆให้ฟาง เจิ้งจือ จริงงั้นหรือ?
ไม่ไม่ไม่มีทางเป็นไปได้!
ถ้าองค์หญิงฉาน ยู่ มีความรู้สึกให้ ฟาง เจิ้งจือ ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงฆ่าองค์รัชทายาท ฉาน หลิง?
ทุกคนต่างสับสน
เพราะองค์รัชทายาทก็รายงานว่าฟาง เจิ้งจือ ถูกพากลับไปยังเมืองหลวง
จากนั้นเขาก็ฆ่าฉาน หลิง แล้วหลบหนี
ถ้าเป็นแบบนั้นทำไม ฉาน ยู่ ถึงไม่ฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ทั้งๆที่เขายืนอยู่ตรงนี้แล้ว?
เพจหลัก: Gate of god TH