Gate of God - ตอนที่ 547 -548
ตอนที่ 547 ชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนา
ฉือเฮา ไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น แม้แต่ เหวิน เต๋าเปา หรือ ปิง หยาง และ เหยียน ซิว ก็คิดเช่นนั้น
ตอนนี้…
ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะร้องขอความเมตตางั้นหรือ?
ตาย!
เขากำลังรนหาที่ตายหรือไงกัน?
ฉือเฮา มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นบ้าไปแล้วจริงๆหรือไม่
หรือว่าฟาง เจิ้งจือ ยอมแพ้แล้ว?
ผู้คนก็ต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจและสับสน
”เขาบ้าไปแล้วเหรอ?”
”ข้าเคยได้ยินมาว่าผู้คนจะโง่ลงเมื่อต้องเจอกับความกดดัน!”
”ข้าเองก็เคยได้ยิน!”
ทุกคนจ้องมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังยิ้มอยู่
เจ้าหน้าที่หัวเราะเบาๆ เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้
ฟางเจิ้งจือ ได้พูดอะไรที่เป็นการปิดทางรอดของตัวเองออกมาแล้ว
สำหรับความคิดขององค์จักรพรรดินั้น..
ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนสามารถคาดเดาความคิดของเขาได้
ดูเหมือนว่าเขาต้องการไว้ชีวิตฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามต่อให้เป็นองค์จักรพรรดิตอนนี้ก็เป็นเรื่องยากแล้วที่จะทำแบบนั้น
”ดีมากฟาง เจิ้งจือ! เจ้าช่างกล้าหาญที่ยอมรับสิ่งที่เจ้าทำ! ถ้าเจ้ายอมจำนนข้าจะพิจารณาลดโทษให้!” หลิน เทียนหลง หัวเราะ
เขาจะได้ขจัดสิ่งที่คอยกวนใจเขามาตลอดหนึ่งปีทิ้งไปเสียทีเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ตาย จะไม่มีอะไรมาคุกคามอำนาจของเขาได้อีก
”ยอมจำนน?ทำไมข้าต้องทำแบบนั้น?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”เจ้าจะพยายามต่อต้าน?ฮ่าฮ่า … เจ้าเป็นแค่คนไร้พลัง ต่อให้เจ้ามีพลังเท่าหนึ่งปีที่แล้ว เจ้าก็ไม่สามารถหนีออกจากเมืองหลวงได้” หลิน เทียนหลง หัวเราะ
”ฝ่าบาทท่านพูดถูก ในเมื่อข้าไร้พลังข้าจะเป็นฆาตกรได้ยังไง?” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมา
”เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?”หลิน เทียนหลง ถามขึ้นมา
”ใช่ข้ามีเหตุผลและแรงจูงใจที่จะฆ่า ฉาน หลิง แต่ข้าไร้พลัง แล้วข้าจะสามารถฆ่าใครได้ยังไง?” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวเสริม
”เหอะเจ้าคิดจะใช้เหตุผลนี้เพื่อป้องกันตัวเองงั้นหรือ?” หลิน เทียนหลง หัวเราะด้วยความเย็นชา “ทุกคนในสนามรบเห็นเจ้าหยุดหอกของ ปิง หยาง ด้วยมือเปล่า ทุกคนเห็นกับตา เจ้าจะปฏิเสธงั้นหรอ?”
ดวงตาของหลิน เทียนหลง เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เจ้าหน้าที่ทุกคนยิ้มเมื่อได้ยินเรื่องนี้หลิน เทียนหลง ได้เตรียมทุกอย่างทั้งหลักฐานและรายละเอียดทุกอย่างไว้หมดแล้ว
พวกเขามีเหตุผลไว้ตอบโต้สิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ กล่าวทั้งหมดแล้ว
ท่าทีของปิง หยาง เปลี่ยนไป
นางเองก็เข้าร่วมสงครามฟาง เจิ้งจือ หยุด หอกของนางจริงๆ
”ข้าไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ตอนนั้น…”
”ฝ่าบาทท่านพูดถูก” ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า ปิง หยาง จะพูดอะไร แต่เขากลับพูดขัดขึ้นมาก่อน
ดวงตาของหลิน เทียนหลง เป็นประกายทันทีเมื่อได้ยิน
”ใช่แค่นี้ก็พิสูจน์ว่าเจ้าสามารถฆ่าฉาน หลิน ได้ แม้ว่ามิติพิเศษของเจ้าจะถูกทำลาย แต่ตอนนั้นเจ้ายังพอมีพลังหลงเหลืออยู่จากการต่อสู้!” หลิน เทียนหลง กล่าวเสริม
”ใช่องค์รัชทายาทพูดถูกต้อง!”
”เจ้าลบเหตุผลนี้ทิ้งไปได้เลย”
”ฟางเจิ้งจือ วันนี้เจ้าต้องตาย! เจ้าเป็นคนพูดเอง”
เจ้าหน้าที่ต่างพูดออกมา
”ข้าพูดว่าข้าฆ่าเขาไม่ได้เพราะไร้พลังงั้นรึ?ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับด้วยความดูถูก
”เจ้าหมายความว่าอะไร?่
”เจ้ายังมีเหตุผลอื่นอีกงั้นหรือ?”
”เขากำลังพยายามทำอะไรอยู่?”
ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะทำอะไร
”ที่ข้าหมายถึงคือข้านั้นไร้พลังที่จะฆ่าฉาน หลิง จริงๆ!” ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง หลิน เทียนหลง
”ไม่มีพลัง?เจ้าหมายถึงอะไร?”เจ้าหน้าที่ทุกคนตกตะลึง
พวกเขาเต็มไปด้วยความสับสนกับสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ พูด เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในสงครามตอนนั้น
แม้แต่ซิง หยวนกัว หรือ ปิง หยาง และ ฉือ กูเหยียน หลังจากจบสงครามพวกเขาก็กลับทันที ไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีก
หรือก็คือ…
คนเดียวที่เหลืออยู่คือหลิน เทียนหลง
ร่างกายของหลิน เทียนหลง กระตุกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาสามารถเดาได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังทำอะไร
อย่างไรก็ตามเขาสามารถสงบใจได้อย่างรวดเร็ว
นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพิสูจน์
”ฟางเจิ้งจือ วันนั้นเจ้าดื่มไปมาก! ต่อให้เจ้าจะเมา ก็ควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เจ้าทำลงไป!” หลิน เทียนหลง กำหมัดแน่น
เขาได้เตรียมการเป็นอย่างดีสำหรับการวางยาพิษ
การดื่มมากขนาดนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฟาง เจิ้งจือ ที่จะเมาและหมดสติ …
มันไม่แปลกเลยที่เขาจะปีนขึ้นไปบนเตียงของฉาน ยู่…
จากนั้น…
ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือให้ฉาน หลิง จับ ฟาง เจิ้งจือ
วันนั้นทุกคนต่างเห็นว่าฟาง เจิ้งจือ ดื่มไปมากแค่ไหน
สำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น…
ไม่มีใครรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ ได้สติตอนไหน
หลินเทียนหลง สงบลงเมื่อได้ยิน
มีคนไม่มากที่รู้เรื่องพิษฉาน หลิง ผู้ที่ว่างยาได้ตายไปแล้ว ขณะเดียวกัน ซู ฉิง ก็อยู่นอกเมือง
”ฝ่าบาทท่านหาว่าข้าเมารึ?”ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ
”ใช่!”องค์รัชทายาทพยักหน้า
”ข้าจำได้ว่าองค์รัชทายาทอยากลิ้มลองอาหารของราชินีแดนใต้องค์ปัจจุบัน ข้าพูดถูกไหม?”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและพูดเพิ่ม
”ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงแล้วยังไง?”เสียงของ หลิน เทียนหลงเย็นเยือก มีพยานหลายคนในวันนั้ร จึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ
นอกจากนี้เขาไม่คิดว่าความจริงข้อนี้จะช่วยอะไรฟาง เจิ้งจือ ได้
”ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้ท่านอยากลิ้มรสมันหน่อยหรือไม่?”ฟางเจิ้งจือ จ้องไปที่ หลิน เทียนหลง
”หมายความว่าอะไร?”ท่าทีขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป
”จะมีการปรุงรสแบบเดียวกันใช้ส่วนผสมเดียวกัน ท่านกล้าลิ้มรสมันหรือไม่?”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง ฉาน ยู่
”เจ้า…”หลิน เทียนหลง รู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทหารแดนใต้ก้าวออกมาด้านหน้า
ทหารสี่คนแบกเนื้อแกะออกมา
เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้…
องค์รัชทายาทเริ่มตื่นตระหนก
เขาสามารถเดาได้ว่าฟาง เจิ้งจือ พยายามทำอะไร เขาพยายามจำลองเหตุการณ์เดิมอีกครั้ง! แต่เป็นไปได้ยังไง?
ฉานหลิง วางยาพิษ
อย่างไรก็ตามมันเกิดขึ้นนานกว่าหนึ่งปีแล้วเขาวางยาพิษลงในเครื่องเทศ! มันจะมีอยู่ในเนื้อสัตว์ได้ยังไง?
จากนั้นดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ฉานยู่ เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าหนังออกมา
”ข้ายังจำคำขอเมื่อปีที่แล้วของท่านได้ข้ายังเก็บส่วนผสมนั่นเอาไว้ถ้าไม่รังเกียจข้าปรุงเนื้อให้ท่านได้!”ฉาน ยู่ เปิดถุงเครื่องเทศ
องค์รัชทายาทหลิน เทียนหลง หน้าซีดขาว
เขาเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าส่วนผสมพวกนั้นจะยังถูกเก็บไว้อยู่
”ฝ่าบาทนี่เป็นของที่มีค่าเกินไป ข้าไม่สามารถรับไว้ได้!”แววตาขององค์รัชทายาทเย็นเป็นน้ำแข็ง
”ไม่ต้องกังวลนี่เป็นสิ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านเป็นพิเศษ!”แววตาของ ฉาน ยู่ ร้อนรุ่มดั่งเปลวไฟ
”ท่านอยู่ในตำแหน่งที่ต่างไปจากที่ข้าเคยพบท่านเมื่อปีก่อนข้าไม่สามารถรับไว้ได้!”หลินเทียนหลง กัดฟันแน่น
”ไม่ว่าตำแหน่งของข้าจะเปลี่ยนยังไงข้าก็ยังคงเป็นชาวเมืองของอาณาจักรเซี่ย ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพกับข้าหรอก!”ฉาน ยู่ ยิ้ม
”ท่านต้องการเช่นนั้นจริงหรือ?!”
”แน่นอน!
”ถ้าข้าเลือกที่จะไม่กินล่ะ?”ตาของหลิน เทียนหลง จ้องเขม็ง
”นั่นจะเป็นการดูหมิ่นข้ารวมทั้งวัฒนธรรมของดินแดนภูเขาทางใต้ด้วยพวกเราคงไม่มีทางเลือกอื่น แต่จะกลับแดนใต้ในทันที!”ฉาน ยู่ ยืนกราน
”ฮ่าฮ่าฮ่า…ท่านกำลังพูดถึงอะไร? ทำไมข้าต้องดูถูกการทำอาหารของท่าน? โปรดลงมือทำต่อได้เลย!”หลิน เทียนหลง กำมือแน่นจนซีดขาว
”ขอบคุณ!”มือของฉาน ยู่ ขยับและเสื้อคลุมของนางพริ้วไหว
ในตอนนั้นเองมีดสั้นทั้งสองก็ปรากฎในมือของฉาน ยู่
ตอนนั้นเองลวดลายเมฆก็เริ่มปรากฎทั่วร่างของนาง
นี่เป็นภาพที่น่าเกรงขาม
ไม่มีใครเชื่อสายตาตัวเอง
”ราชินีแดนใต้ฝึกฝนสิ่งนี้ได้อย่างไร?”
”ข้าได้ยินว่าพวกเขาฝึกฝนผ่านสายเลือด?”
”ไม่นั่นไม่ใช่เลือดอย่างแน่นอน!”
ผู้คนเริ่มกระซิบถกเถียงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เจ้าหน้าที่ทุกคนตกตะลึง
พวกเขากำลังพูดถึงกรณีของฟาง เจิ้งจือ แต่มันกลับกลายเป็นของขวัญพิเศษสำหรับองค์รัชทายาทได้อย่างไร
เนื้อแกะนี้เกี่ยวข้องอะไรกัน?
ผู้คนต่างสงสัยสิ่งที่เกิดข้นพวกเขาหันมองเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่เหล่านี้หลายคนอยู่ในการทดสอบระดับสภาและสงคราม พวกเขาต่างส่ายหัว
…
มือของฉาน ยู่ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นนางก็เริ่มแล่เนื้อแกะ
จากนั้นก็ก่อไฟ
เจ้าหน้าที่และผู้คนไม่เข้าใจว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่พวกเขายังคงมองดูด้วยความประหลาดใจ
ทุกย่างก้าวของนางช่างร้อนรุ่ม
สง่างามและดุร้ายนางดูมีเสน่ห์มาก
องค์รัชทายาทหลิน เทียนหลง จ้องไปที่ ฉาน ยู่ แววตาของเขาเย็นชา
ฟางเจิ้งจือ กำลังดูอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาดูเหมือนผ่อนคลายมาก เขากำลังอธิบายรสชาติให้กับ เหยียน ซิว ได้ฟัง
”หนังของมันกรอบมาก!เนื้อนุ่มจนละลายในปากได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องเทศ ความสามารถในการทำอาหารของนางพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก!”่
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 548 ข้ารอมานานกว่าหนึ่งปี
”ถ้ามันดีขนาดนั้นข้าเองก็อยากลองเหมือนกัน!”ปิง หยาง พูดขัดขึ้นมา
”ฮ่าฮ่า…นี่เป็นของขวัญที่องค์ราชินี ฉาน ยู่ มอบให้ องค์รัชทายาท” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเมื่อเห็นใบหน้าอันคาดหวังของ ปิง หยาง
”หึเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นหรือ? แต่นางต้องใจกว้างมากแน่นอน!” ปิง หยาง พูดขึ้นมา
กลิ่นหอมของเนื้อแกะย่างลอยอยู่ในอากาศ
อย่างไรก็ตามท่าทีของหลิน เทียนหลง กลับดำมืด
”เป็นไปไม่ได้!นางไม่มีทางเก็บเครื่องปรุงรสเมื่อหนึ่งปีที่แล้วไว้แน่นอน!” หลิน เทียนหลง มองไปที่ ฉาน ยู่ ด้วยความไม่เชื่อ
ฉานยู่ ย่างเนื้อเสร็จแล้ว
ฝูงชนต่างกลืนน้ำลาย
”ข้าหวังว่าจะได้กินมันสักคำ”
”ใช่แค่ดูข้าก็รู้สึกอร่อยแล้ว”
”ข้าขอแคได้ชิมมันสักหน่อย…”
ฝูงคนดูเหมือนจะลืมเรื่องของฟาง เจิ้งจือ ไปแล้ว ทุกคนหันไปสนใจเนื้อแกะแทน
เจ้าหน้าที่สับสนเมื่อเห็นสิ่งนี้
พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมฉาน ยู่ ถึงย่างแกะในตอนนี้
แต่เมื่อเห็นท่าทีของหลิน เทียนหลง พวกเขาก็คิดได้ว่ามันอาจจะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้
ไม่นาน…
”ฝ่าบาทเชิญท่านก่อน!” ฉาน ยู่ มองไปที่ หลิน เทียนหลง
”ขอบคุณเจ้ามาก!”หลิน เทียนหลง พยักหน้าและมองดูลูกแกะ” มันดูอร่อยมาก! ข้าอยากกินมันเป็นการส่วนตัว! ข้าจะเอามันกลับไปที่บ้านของข้า…”
”ฝ่าบาทโปรดใจเย็น!” ฉาน ยู่ พูดขัด หลิน เทียนหลง
ทหารที่เตรียมจะเดินไปข้างหน้าก็หยุดทันที
”ฮ่าฮ่าหรือเจ้าจะมีของขวัญให้ข้าอีก?”หลิน เทียนหลง ไม่สบายใจแต่ก็ยิ้มออกมา
”ไม่ข้าแค่คิดว่าในฐานะผู้นำในอนาคตของอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ท่านดูเหมือนจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาหารที่ดี” ฉาน ยู่ พูดด้วยความดูถูก
”หมายความว่าอะไร?”ท่าทีขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไปเขาหันไปมององค์จักรพรรดิ เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิไม่มีท่าทีอะไร เขาจึงเลือกที่จะเงียบ
เจ้าหน้าที่คนอื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูดแม้นางจะเป็นราชินีแต่มันก็ไม่สุภาพที่จะพูดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามมันไม่เหมาะที่พวกเขาจะพูดอะไรออกมา
เพราะ…
มันเป็นเรื่องขององค์รัชทายาทและองค์ราชินีฉาน ยู่
ฉานยู่ รู้ดีว่ามันไม่เหมาะสม แต่นางไม่คิดจะถอย
หนึ่งปีที่ผ่านมานางไม่รู้ว่าเรื่องการวายาพิษนั้นเป็นความคิดของฉาน หลิง หรือ หลิน เทียนหลง
แต่เมื่อนางได้ยินว่าหลิน เทียนหลง ขอเอาเนื้อแกะกลับไปกินที่บ้าน นางรู้ทันทีว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น
หลินเทียนหลง ใช้ ฉาน หลิง วางยาพิษ
จากนั้นเขาก็ฆ่าฉาน หลิง และโยนความผิดมาให้ ฟาง เจิ้งจือ
ฉานยู่ ไม่คิดจะถอยอีกแล้ว ในฐานะราชินีแห่งแดนใต้นางไม่มีทางยอมแน่นอน
ฉานยู่ กำหมัดแน่น
”ข้าย่างแกะต่อหน้าทุกคนข้ารู้ว่าท่านอยากกินมันมาก แต่ท่านไม่คิดจะแบ่งให้คนอื่นหน่อยงั้นหรือ?” เสียงของ ฉาน ยู่ เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
”เจ้า…” การแสดงออกของ หลิน เทียนหลง เปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเขา
เขารู้ว่าฉาน ยู่ กำลังจะทำอะไร
แต่เขาจะแบ่งเนื้อแกะนี้ให้คนอื่นได้ยังไง?
”ฝ่าบาทข้าพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ? เนื้อนั้นอยู่ต่อหน้าทุกคน แต่ท่านปฏิเสธที่จะแบ่งให้คนอื่น ข้าผิดหวังกับตัวท่านจริงๆ!” ฉาน ยู่ กดดันต่อไป
”เจ้ากล้าดียังไง?!ฉาน ยู่ เจ้าอาจจะเป็นราชินี แต่…” หลิน เทียนหลง พูดออกมาด้วยความเย็นชา
ทันใดนั้นองค์จักรพรรดิได้ขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่เขาจะสูดหายใจเข้าไปลึกๆ
”อืมมันมีกลิ่นที่หอมมาก!” สายตาของเขามองไปที่เนื้อแกะที่กำลังถูกย่างอยู่
เจ้าหน้าที่ต่างคุกเข่าลง
”ฝ่าบาท!”
”อืมมโปรดลุกขึ้น”องค์จักรพรรดิหันไปมองขันทีเหว่ย “ใครเป็นคนย่างเนื้อนี้?”
”ฝ่าบาทเป็นองค์ราชินีแห่งแดรใต้พะยะค่ะ นางย่างมันให้แก่องค์รัชทายาท” ขันทีเหว่ยตอบคำถาม
”โอ้?่มันเยี่ยมยอดมาก มันเป็นของขวัญที่เยี่ยมยอดอย่างแท้จริง!” องค์จักรพรรดิหันไปมอง ฉาน ยู่
”อย่างไรก็ตาม… ” ขันทีเหว่ยพูดอย่างลังเล
”มีอะไรงั้นรึ?”องค์จักรพรรดิถาม
”องค์รัชทายาทต้องการนำมันกลับไปที่บ้านของเขาแต่องค์ราชินี ฉาน ยู่ ต้องการแบ่งมันให้กับทุกคน” มันเป็นเรื่องยากที่ขันทีเหว่ยจะอธิบายออกมาได้
”แบ่งมันให้เหล่าเจ้าหน้าที่?ดี องค์ราชินีช่างมีความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก!” องค์จักรพรรดิพูดขัด หลิน เทียนหลง “บุตรชายของข้าต้องใจกว้างอยู่แล้ว จงจำสิ่งที่องค์ราชินีแห่งแดนใต้พูดในวันนี้ให้ดี”
”รับทราบท่านพ่อ! ” หลิน เทียนหลง อยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ตัดสินใจไม่พูด
”ในเมื่อองค์ราชินีตัดสินใจจะแบ่งให้ทุกคนก็เชิญท่านตัดแบ่งให้ทุกๆคนได้เลย !” องค์จักรพรรดิพูดขึ้นมาอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ทุกคนตื่นเต้นมากที่ได้ยินเรื่องนี้
ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้วทุกคนหิวมาก ยิ่งไปกว่านั้นเนื้อลูกแกะชั้นดีถูกย่างต่อหน้าต่อตาพวกเขา
อย่างไรก็ตาม…
เนื่องจากนี่เป็นของขวัญมอบให้องค์รัชทายาทพวกเขาไม่กล้าขอ นอกจากนี้พวกเขาเริ่มคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่พวกเขาก็ลบความคิดนั้นไปเพราะที่นี่เป็นเมืองหลวง
ฉานยู่!
นางคงไม่กล้าวางยาพิษที่นี่แน่นอน
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนคุกเข่าลงเพื่อขอบคุณองค์จักรพรรดิ
”ขอบคุณฝ่าบาท!”
”ขอบคุณฝ่าบาท!”
”ขอบคุณฝ่าบาท!”
เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างกลืนน้ำลาย
โดยเฉพาะคนที่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเมื่อปีที่แล้ว
”ในที่สุดเราก็จะลองชิมมัน!”
”ข้ารอเวลานี้มาเกือบหนึ่งปีแล้ว!”
ทันใดนั้นเด็กรับใช้บางคนก็เริ่มเดินเข้าไปรับเนื้อแกะมา
หลินเทียนหลง กัดฟันแน่น ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียด
”ข้าต้องการชิมด้วยเช่นกัน!”ปิง หยาง ตื่นเต้น
”เจ้าเป็นองค์หญิงควรให้คนอื่นได้กินก่อนไหม? องค์จักรพรรดิบอกแล้วนี่ว่าเจ้าควรใจกว้าง!” ฟาง เจิ้งจือ ดูถูก
”ท่านพ่อพูดอย่างนั้นเหรอ?”ปิง หยาง ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ขันทีเหว่ยเกือบจะเอาจานมาจากเด็กรับใช้และส่งให้องค์จักรพรรดิ แต่เมื่อเขาหันไปมององค์จักรพรรดิ
องค์จักรพรรดิกลับพยักหน้า”อย่างที่ข้าพูด ให้เหล่าเจ้าหน้าที่ได้กินก่อน!”
”ขอบคุณฝ่าบาท!”่
เจ้าหน้าที่คุกเข่าลงและขอบคุณจักรพรรดิ
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มไปรับจานมาพวกเขาค่อยๆสำรวจเนื้อแกะ
”ช่างยอดเยี่ยมมาก!นางเป็นอัจฉริยะในการทำอาหารจริงๆ!”
”ใช่เนื้อนี้ถูกย่างมาเป็นอย่างดี!”
ในฐานะเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรพวกเขาต้องชื่นชมอาหารก่อนที่จะกินมัน
เจ้าหน้าบางคนพยายามอวดความรู้ความสามารถของตัวเอง
เมื่อชื่นชมเสร็จพวกเขาก็เริ่มหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก
ช่วงเวลาที่พวกเขาวางไว้ในปากของ่พวกเขา…
ใบหน้าของพวกเขาพลันแดงก่ำ
”เยี่ยมาก!เหลือเชื่อ!”
”รสชาติที่น่าเหลือเชื่อ!”
”ขอบคุณมากท่าน ฉาน ยู่!”
เจ้าหน้าที่เริ่มชื่นชมเนื้อที่พวกเขาได้กินและอีกหลายคนขอบคุณ ฉาน ยู่
แม้แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ที่ก่อนหน้านี้ไม่กล้ากินก็ละทิ้งความกลัวไปทันที
เนื้อสัตว์ละลายในปากพวกเขา
หลินเทียนหลง หน้าซีดเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาจ้องที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด
ปิงหยาง หงุดหงิดมาก นางเลียลิมฝีปากด้วยความหิวโหย
เหยียนซิว ยังคงนิ่งสงบ
เขาชอบกินอาหารดีๆเช่นกัน
แต่…
เขารู้วิธีในการควบคุมตัวเอง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่กว่าครึ่งทานเนื้อสัตว์หมดแล้วส่วนที่เหลือก็ยังคงเพลิดเพลินกับอาหารอันโอชะในมือของพวกเขา
พวกเขาบอกได้เลยว่ามันอร่อย
เหวินเต๋าเปา ก็ถูกล่อลวงด้วยอาหารเช่นกัน
แต่เขาทำได้แค่มองเหล่าเจ้าหน้าที่กินอย่างเอร็ดอร่อยเขารู้สึกขมขื่นมาก
อย่างไรก็ตามความขมขื่นนี้ใช้เวลาไม่นานเขาสังเกตุเห็นพ่อตัวเองยังไม่กินเนื้อไปแม้แต่น้อย
”เขาจะเก็บไว้ให้ข้างั้นหรือ?”เหวิน เต๋าเปา ถูมือด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้น…
ก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 549 ฝันร้าย
”เกิดอะไรขึ้น?”เหวิน เต๋าเปาหันไปมองรอบๆดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะ
มีใครบางคนเหมือนเป็นลมลงไป
ที่สำคัญเขาเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีทั้งหก
เขาเป็นคนแรกที่ได้รับเนื้อและเป็นคนแรกที่กินเสร็จ
แต่ตอนนี้เขากลับนอนคว่ำอยู่บนพื้นเท้าของเขากางออกและดวงตามีแต่สีขาว
”รัฐมนตรีเยว่เป็นลม!”เสียงของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งดังขึ้น
”เกิดอะไรขึ้นกับท่านเยว่?” เจ้าหน้าที่คนอื่นต่างสับสน
ท่าทีของหลิน เทียนหลงเปลี่ยนไป ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้าน
ขณะที่เขาจะพูดอะไรออกมานั้นเองก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
”ตึง!”
เจ้าหน้าที่อีกคนล้มลงกับพื้น
”เจ้าหน้าที่หลี่เจ้าหน้าที่หลี่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?!” เจ้าหน้าที่ทุกคนตกตะลึง
สองคนแล้ว…
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเริ่มตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตามมันยังอีกยาวไกลกว่าเรื่องนี้จะจบลง
”ตึง!”
”เจ้าหน้าที่หวัง!”
”ตึง!”
”เจ้าหน้าที่จาง…อา…ข้ารู้สึกหมดแรง”
”ตึง!”
”…”
ท่าทีของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงพวกเขานึกบางอย่างออกอย่างรวดเร็ว
”เป็นไปได้ไหมว่าเนื้อนั่นถูกวางยาพิษ!”
พวกเขาเริ่มหน้าซีดขาวเมื่อคิดได้เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับล้วงคอตัวเองเพื่อให้อวกออกมา
อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปเนื้อสัตว์มันอยู่ในท้องพวกเขาแล้ว
”ตึ้ง,ตึ้ง, ตึ้ง… ”
เจ้าหน้าที่เริ่มเป็นลมมากขึ้นเรื่อยๆราวกับพายุอันรุนแรงได้พัดพวกเขาจนล้มลง
เจ้าหน้าที่ที่กินเนื้อล้วนเป็นสีเขียวเมื่อเห็นคนอื่นเป็นลม
พวกเขาไม่คิดว่า…
ฉานยู่ จะกล้าวางยาพิษ ทำไมนางถึงทำมันตอนนี้?
ปิงหยาง ตกตะลึงเช่นกัน
”ว้าว!พวกเขาทั้งหมดตายแล้วงั้นหรือ?!” ปิง หยาง อุทาน
”ตาย?”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง ปิง หยาง นางยังปกติดีอยู่ไหม? นางเป็นองค์หญิงจริงๆงั้นรึ?
นางมีความสุขทั้งๆที่เหล่าเจ้าหน้าที่กำลังจะตาย?
เหยียนซิว ยังคงมีใบหน้าที่จริงจังเช่นเคย
ซิงหยวนกัว และ ฉือ เฮา ไม่ได้กินเนื้อ ในฐานะผู้นำของสิบสามกองตรวจการพวกเขาย่อมมีความคิดที่รอบคอบมากว่าผู้อื่น
เมื่อพวกเขาเห็นเจ้าหน้าที่ค่อยๆล้มลงพวกเขาก็ขมวดคิ้วและหันไปมอง ฉาน ยู่
พวกเขาทั้งสองกำหมัดแน่นและเตรียมจะโจมตี
ฝูงชนตกตะลึง
วางยาพิษเจ้าหน้าที่นับร้อยในตอนกลางวัน?!
”ยาพิษ?”่
”นางวางยาในเนื้อ?!”
”เป็นไปได้ยังไง?!”
”เป็นไปไม่ได้!นางเป็นราชินีแห่งแดนใต้!”
ทุกคนปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งที่เหล่าเจ้าหน้าที่พูด แต่มันก็เป็นความจริงเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเป็นลมไปแล้ว
ดวงตาของไป่ ฉี เบิกกว้าง ยาพิษ? นางวายาพิษจริงๆงั้นหรือ?
เขาไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น
ราชาต้วนก็ตกใจเช่นกัน
เขาไม่เข้าใจว่าฟาง เจิ้งจือ หมายความว่าอะไรที่บอกว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะฆ่าได้ แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้ว
เขาหันไปมองหลิน เทียนหลง เขายิ้มเยาะขึ้นมาทันทีที่เห็นสีหน้าของ หลิน เทียนหลง
ทันใดนั้น…
เสียงอันหน้าตกใจก็ดังขึ้น
”เกิดอะไรขึ้น?”เป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ฉาน ยู่ ตกใจกับสิ่งที่นางเห็น
ความหวาดกลัวทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้างเสียงของนางดังก้องไปในอากาศ
ทุกคนเห็นว่าฉาน ยู่ เองกตกใจขนาดไหน
ฟางเจิ้งจือ เองก็ตกใจเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาได้สติอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอนหายใจให้ตัวเอง