Gate of God - ตอนที่ 594 ชายที่น่าหวาดกลัว
คำพูดของราชาหลี่ฉินนั้นราวกับเขารับรู้เรื่องราวมาตั้งแต่ต้น
ในเวลาเดียวกันรอยแตกสีดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขามันใหญ่พอๆกับขนาดของประตู
ราชาหลี่ฉินค่อยๆเดินเข้าไปก่อนที่รอยแตกจะค่อยๆจางลงและหายไปในที่สุด
…
ณประตูตะวันออกของเมืองหลวง
ประตูทองแดงที่ยังคงส่องประกายแสงสีเขียวมรกตยามค่ำคืน
ร่างสีดำยังคงฟาดฟันเหล่าขุนนางและชาวเมือง
ในตอนนั้นเองมีผู้คนจำนวนหนึ่งวิ่งมาจากที่ไกลๆพวกเขาสวมเกราะที่ส่องแสงสลัวๆออกมา
”นั่นกองทัพทลายภูผา ซิง เฮา มาถึงแล้ว!”
”ฉือเฮา ก็มาด้วย!”
”พวกเราปลอดภัยแล้ว!”
สีหน้าของเหล่าชาวเมืองราวกับได้พบแสงแห่งความหวัง
”พี่เฮานั่นมันกองทัพคนเถื่อน!” ฉือ เฮา สังเกตุชุดที่พวกเขาสวมใส่อยู่
ในฐานะกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในห้ากองตรวจการทางเหนือ ฉือ เฮา รู้เรื่องของจักรวรรดิคนเถื่อนเป็นอย่างดี
”คนเถื่อนทางเหนือ?”ซิงเฮา ขมวดคิ้ว แม้เขาจะไม่เคยประมือกับพวกคนเถื่อน แต่ก็รู้ถึงความโหดเหี้ยมของพวกมันดี “นั่นมันประตูชีวิตของพวกคนเถื่อนงั้นหรือ?”
”ไม่ประตูชีวิตเป็นสมบัติที่ยิ่งที่สุดของพวกคนเถื่อน และนั่นไม่ใช่ประตูชีวิต ถ้าข้าเดาถูก มันน่าจะเป็นค่ายกลทั้งสี่ที่ถูกสร้างขึ้นจากประตูชีวิตอาจจะเป็น สี่ค่ายกลโบราณ!”ฉือ เฮา จ้องไปที่ประตูเมืองสีทองแดงที่กำลังส่องแสงสีเขียวมรกต
”สี่ค่ายกลโบราณ!ไม่ใช่ว่าพวกมันเป็นแค่ตำนานงั้นหรือ…แย่แล้ว! ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตราย!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างของ ซิง เฮา ก็ชะงักอย่างรุนแรง สีหน้าของเขาซีดขาวในทันที
”พี่เฮาสี่ค่ายกลโบราณปกป้องประตูเมืองอยู่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หน่วยปีกสีชาดจะฝ่าเข้าเมืองมาได้เราจะทำยังไดี?”
”เจ้านำกองทัพทลายภูผาโจมตีศัตรูภายในปราสาทข้าจะไปที่พระราชวังเอง!”
”ไม่กองทัพทลายภูผาเชื่อฟังแต่พี่เฮา นอกจากนี้พวกเรายังไม่รู้สถานการณ์ในพระราชวัง พี่เป็นผู้นำของสิบสามกองตรวจการ และพวกเราอาจชนะได้ถ้าพี่อยู่ด้วย ข้าจะไปช่วยฝ่าบาทเอง พี่อยู่จัดการศัตรูที่นี่เถอะ!”ฉือ เฮา ส่ายหัวทันที
”ถ้าข้าตายเจ้าจะต้องขึ้นเป็นผู้นำของสิบสามกองตรวจการ … ”
”พี่เฮาข้าไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้พี่เตือนสติ ข้าคงจะทำพลาดครั้งใหญ่ตอนที่เดินทางเข้าเมืองหลวงมีแต่พี่เอาเท่านั้นที่เหมาะกับตำแหน่งผู้นำของสิบสามกองตรวจการ ข้าจะไปเอง!”ฉือ เฮา ดึงบังเหียนม้าและพกลับไปที่พระราชวังทันที
ซิงเฮา จ้องมอง ฉือ เฮา ที่ค่อยๆจากไป เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็กลืนมันกลับเข้าไป
”กองทัพทลายภูผา!”
”ขอรับ!”
”จัดทัพเตรียมโจมตี!”
”รับทราบ!”
…
ณห้องบัลลังก์ในพระราชวัง
ประตูชีวิตปิดลงอีกครั้งและที่ด้านหน้ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขาสวมชุดสีขาวราวกับนักปราชญ์ดวงตาของเขาราวกับปีศาจมันเรืองแสงสีเขียวแปลกๆ
สัตว์ร้ายทั้งสามตัวค่อยๆหมอบคลานเข้าไปหาชายคนนั้นพวกมันหลับตาลงพร้อมส่งเสียงร้องเบาๆ
”ทำไมพวกเจ้าไม่โจมตีต่อล่ะ?!”หลังจากที่เขาได้ยินเสียงของสัว์ร้ายทั้งสามตัวเขาก็จ้องไปที่จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ และ เฉิน เฟยฮัว
”ท่าไม่มีดีแล้วหน่วยเกราะมังกร ปกป้องฝ่าบาทและท่านหญิงเฟยฮัว”ฟาง ฉิง ก้าวไปข้างหน้าและสังเกตุเห็นสายตาที่น่ากลัวคนนั้น
ในฐานะฑูตมังกรคนแรกของหน่วยเกราะมังกรเขามีหน้าที่ปกป้องจักรพรรดิ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใครหรือแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สำคัญ
ด้วยคำสั่งของเขาหน่วยเกราะมังกรกว่าร้อยคนก้าวออกมาอย่างพร้อมเพรียง พวกเขายืนรายล้อมจักรพรรดิและท่านหญิงเฟยฮัว…Aileen-novel
”ฝ่าบาท?โอ้ะ ที่นี่ในพระราชวังงั้นหรือ?”ชายที่น่ากลัวคนนั้นมองไปรอบๆห้องและตระหนักถึงเหล่าทหารมากมาย ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
จากนั้นรอยยิ้มของเขาก็เลือนหายไป
”ฮ่าฮ่าฮ่า…”เขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงของเขาดังสั่นสะเทือนไปทั่วโถงบัลลังก์
”ปึ้ง!”
เศษซากหินค่อยๆร่วงลงมาจากรอยร้าวบนเพดาน
”ตูม!”
เสาจำนวนหนึ่งถล่นลงมาทันที
”โถงบัลลังก์กำลังถล่ม!”
”ปกป้องฝ่าบาทเร็วเข้า!”
”ฝ่าบาทออกไปจากที่นี่!”
เสียงดังขึ้นจากหน่วยเกราะมังกรและทหารองครักษ์
จากนั้นแสงสีเขียวก็ส่องสว่างขึ้นที่ร่างของชายคนนั้นมันเรืองรองปกคลุมทั่วทั้งห้อง
”ฉับ!”
ทหารของหน่วยเกราะมังกรถูกฟันขาดสองท่อน
”ป้องกันเร็วเข้า!”เมื่อเห็นเช่นนั้นขันทีเว่ยก็ไม่ลังเลที่จะออกคำสั่งในทันที
”ฉับ!ฉึก!”
”…”
ท่ามกลางความโกลาหลนั้นทหารนับสิบนายของหน่วยเกราะมังกรล้มตายอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรอย่างน้อยๆทุกคนก็มีพลังในระดับอภินิหารขึ้นไป อย่างไรก็ตามเพียงแค่แสงสีเขียวนั้น กลับฆ่าพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นแสงสีทองส่องสว่างขึ้น
แสงสีทองเข้าปะทะกับแสงสีเขียวในทันที
”ตูม!”
แสงสีทองถูกดันกลับมา
ในขณะเดียวกันแสงสีทองอีกอันก็ส่องสว่างขึ้นสู่ท้องฟ้ามังกรทองพุ่งเข้าใส่แสงสีเขียวเช่นกัน
”ตูม!”
แสงสีเขียวสั่นสะเทือนแต่ยังคงฟาดฟันเหล่าทหารของหน่วยเกราะมังกร
”ตูม!”
เพดานถล่มลงมาทั้งหมดก่อเกิดหลุมดำขนาดยักษ์บนพื้นดิน เหลือพื้นเพียงจุดทีชายคนนั้นยืนอยู่เท่านั้น
โถงบัลลังก์ที่ทรงเกียรติสัญลักษณ์ของอาณาจักรเซี่ยถูกทำลายลงจนหมดสิ้น
ทั้งหมดนั้นเกิดจากการโจมตีของชายคนนั้นเพียงครั้งเดียวนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
ร่างกายของเหล่าทหารต่างสั่นด้วยความหวาดกลัว
”อั้ก!”ร่างของหลิน มู่ไป่ ทรุดลงทันทีเมื่อเขากระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและอาการยิ่งแย่ลงลังจากใช้ดวงตามังกรมรกต
เฉินเฟยฮัว ยืนอยู่ข้างหลัง หลิน มู่ไป่ นางเขามันพยุงเขาไว้ในทันที แต่ตัวนางเองก็มีเหงื่อไหลมากเช่นเดียวกัน สีหน้าของนางเริ่มซีดขาว
”อั้ก!”เฉินเฟยฮัว เองก็กระอักเลือดออกมาเช่นกัน
การระเบิดพลังเพียงครั้งเดียวของชายคนนั้นทำให้ทั้งสองบาดเจ็บรรวมทั้งโถงบัลลังก์พังทลายลง
”ฝ่าบาท!”
”ท่านหญิเฟยฮัว!”
ทหารยามหลายคนจากหน่วยเกราะมังกรก้าวไปข้างหน้าทันทีแต่ละคนมีแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
องค์รัชทายาทหลิน เทียนหลง จ้องมองไปยังชายที่ยืนอยู่หน้าประตูชีวิต ร่างของเขานิ่งค้างไปอย่างสมบูรณ์
”ร…ราชาอสูร?!”ดวงตาของหลิน เทียนหลง เบิกกว้าง ปกติแล้ว สิ่งที่จะออกมาจากประตูชีวิตนั้นไม่ใช่มนุษย์
อย่างไรก็ตามศัตรูของเขาอยู่ในร่างมนุษย์! นั่นหมายความว่า …
เขาเป็นอสูร!
เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่แม้แต่บันทึกของอาณาจักรเซี่ยก็ไม่มีเขียนเอาไว้เผ่าพันธ์ุที่วิวัฒนาการจากสัตว์ร้ายและมีสติปัญญาเหมือนมนุษย์
พวกเขาอาศัยอยู่บนภูเขาและทะเลสาบหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติ ดูดซับแม้กระทั่งตะวันและจันทรา พวกเขามีความเป็นอยู่ที่แซงทุกประเภทของสัตว์{/0
และชายคนนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถและพลังที่ไร้ขีดจำกัดด้วยการทำลายโถงบัลลังก์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
พลังนั้น…
”ราชาอสูร!”
หลังจากที่ครุ่นคิดองค์รัชทายาทก็นิ่งงันโดยสมบูรณ์ เขาคิดว่า เฉียน วู่ คงจะทำบางอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าจะเรียกราชาอสูรออกมาจากประตูชีวิต
เฉียนวู่ ได้แลกเปลี่ยนอะไรกับราชาอสูรไว้กันแน่?
ข้อตกลง?
ความทรงจำที่เขาทำข้อตกลงกับเฉียน วู่ นั้นผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้หลิน เทียนหลง คิดว่า เฉียน วู่ ไม่รู้จักวิธีเจรจา
แต่ตอนนี้…ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
ไม่ใช่เพราะเฉียน วู่ ไม่รู้จักวิธีเจรจา แต่เขาไม่คิดจะเจรจาอยู่แล้ว นั่นเพราะว่าเขาไม่ต้องการข้อตกลงใดๆ เขาต้องการอาณาจักรเซี่ยทั้งหมด
”เกิดอะไรขึ้น?โถงบัลลังก์…นั่นมันอะไร?!”เสียงที่คุ้นหู ทำให้เขาเข่าอ่อนลงไปในทันที